ความสุขทะลักบน เ กา ะ ท ะ ลุ Trip

ถ้าพูดถึง summer มีใครบ้างที่จะไม่นึกถึงทะเล^^ ทะเลที่ใครหลายๆคนมักจะมาหาความสุขหรือใช้เป็นสถานที่พักผ่อนเมื่อมีเวลา ว่างโดยเฉพาะทะเลที่เมืองไทยแน่นอนว่ามันต้องงมีตัวเลือกให้พวกเราได้ไปผ่อน คลาย คลายร้อนกันจนกระเป๋าสตังค์ฉีกแน่ๆ55555 เราเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยชอบทะเล แต่ทริปนี้ทำให้เราเปลี่ยนใจอย่างไม่ลังเล งั้นเราขอชอบทะเลแบบพวกเธอด้วยก็ได้5555

ทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆมาทิ้งท้ายซัมเมอร์กันที่เกาะทะลุ จ.ระยอง ที่เลือกที่นี่เป็นทริปส่งท้ายซัมเมอร์เพราะเราไปที่อื่นมาหมดแล้ว555555 แล้วเราก็เพิ่งค้นพบว่าเกาะทะลุนอกจากจะมีที่บางสะพาน จ.ประจวบฯแล้วยังมีที่ จ.ระยองอีก เราก็เลยยิงลูกดอกจัดการขอตารางลางาน2วันเพื่อจะมาพิสูจน์ว่าเกาะทะลุที่เขา ว่ากันว่าเป็นเกาะที่น้ำทะเลใสแจ๋วจนสามารถมองเห็นปลาโดยไม่ต้องพึ่งสน็อคเกิ้ลกันเลยทีเดียวอยากรู้มั้ยว่ามันฟินขนาดไหน งั้นตามเรามาสิเราจะพาไปหาสุขจนล้นทะลักบนเกาะทะลุกันไปเลย^^

การเดินทาง มาเกาะทะลุเราสามารถมาได้หลายวิธีซึ่งรอบนี้เราไม่ได้เดินทางกันแค่2คนกับแฟนเรา นอกจากเราจะชวนแฟนเที่ยวแล้วรอบนี้เรายังชวนเพื่อนเที่ยวอีกต่างหาก5555ดังนั้นการเดินทางครั้งนี้พวกเราทั้ง3เลยนำรถส่วนตัวขับกันไปเองซึ่งตลอดทางมีคนขับเพียงคนเดียวเท่านั้นก็คือคนที่มากับเราอีกคนนั่นแหละค่ะ55555 เราเลือกออกเดินทางกันตอนเที่ยงคืนนิดๆของวันที่2เพื่อที่จะได้ไปถึงระยองเช้ามืดพอดีแต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราแพลนกันเสมอไปหรอกค่ะ..... เรา3คนมาถึงท่าเรือบ้านเพกันตอนตี3กว่าๆซึ่งยังไม่มีวี่แววว่าจะตี4สักที......................... เราเลยตัดสินใจดับเครื่องแล้วนอนกันบนรถจนเช้านั้นแหละค่ะ555555 (ใครจะไปรู้ว่าจะขับรถเร็วแล้วมาถึงก่อนเวลาเยอะขนาดนี้) -__- แถมท่าเรือที่ไปจอดนอนก็ไม่ใช่ท่าเรือที่พวกเราจะต้องขึ้นเรือซะด้วย555555นี่ยังไม่ครึ่งทริปเลยป่วงได้ขนาดนี้แล้ว

เราจัดการนำรถไปฝากไว้ที่สถานีตำรวจแถวนั้นคืออย่าเรียกว่าฝากเลยค่ะเรียกว่าไปจอดทิ้งไว้จะเหมาะกว่า5555 (ขอแนะนำเรื่องสถานที่จอดรถสำหรับเพื่อนๆที่นำรถส่วนตัวมานะคะเราสามารถไปฝากไว้ตามท่าเรือได้เลยนะคะจะมีบริการรับฝากอยู่แถวนั้นค่ะ) นำรถจอดไว้เรียบร้อยก็ได้เวลามาซื้อตั๋วเรือเพื่อที่จะข้ามไปฝั่งเกาะเสม็ดกันแล้วนะคะ สำหรับทริปนี้เราได้คำแนะนำมาว่าให้ขึ้นกับท่าเรือนวลทิพย์เราก็เลยเลือกซื้อตั๋วจากทางท่าเรือนวลทิพย์ในครั้งนี้ค่ะราคาขาไปก็จะอยู่ที่70บาท/คน แต่เราเลือกซื้อทั้งรอบขาไปและขากลับก็เลยได้มาในราคา100บาทเท่านั้นค่ะ^^ เราแนะนำว่าให้เพื่อนๆซื้อแบบเรานะคะก็จะตกแค่50เองค่ะประหยัดไปตั้ง20แหนะ เอาล่ะในเมื่อได้ตั๋วมาแล้วเข้าไปรอขึ้นเรือข้างในกันดีกว่าค่ะ

สาบานว่ากำลังจะไปขึ้นเรือไม่ใช่เครื่องบิน55555555

พูดถึงเสม็ดทีไรทำไมต้องมีคำว่าเสร็จลงท้ายประโยคด้วยเนอะ แปลกจัง555555

เข้ามาด้านในเราก็จะได้เจอกับภาพวิวตรงหน้าที่เป็นพวกเรือของชาวประมงแถวนั้นค่ะ ส่วนเรือที่จะไปส่งเรารอบนี้ก็เป็นเรือเหมือนเรือพวกที่ไปเกาะล้าน,เกาะสีชัง,เกาะแสมสารทั่วไปแหละค่ะไม่ค่อยแตกต่างกันสักเท่าไหร่

ขึ้นมาบนเรือก็อย่าลืมเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็กๆน้องๆบนเรือด้วยการใส่เสื้อชูชีพด้วยนะคะไม่ว่าระยะทางจะใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ต้องใส่ไว้นะคะเพื่อความปลอดภัยและความสบายใจค่ะ^^

รอบนี้เรานั่งหัวเรือเลยค่ะ5555ไม่ได้กลัวเมาเรือแต่อย่างใดแต่คืออากาศที่นี่ร้อนมากกกกกกกกกกแดดแรงอีกต่างหากครีมกันแดดก็เอาไม่อยู่แล้วค่ะชั่วโมงนี้ -_- เรือรอบนี้ผู้โดยสารยังไม่เต็มเรือดีก็แล้วค่ะอาจเป็นเพราะรอบที่เรามายังเช้าอยู่ด้วยค่ะผู้โดยสารเลยดูบางตาไม่เต็มลำเรือ ระหว่างทางก็จะเจอเรือลำต่างๆแล่นสวนกันไปมาเต็มท้องทะเลเลยค่ะ^^

เรือรอบที่เรานั่งมาออกตอน9โมงนิดๆระยะเวลาการนั่งเรือจากฝั่งท่าเรือหน้าบ้านมาถึงเกาะเสม็ดก็ประมาณ40นาทีได้ค่ะ ไกลเอาเรื่องเหมือนกัน สัญลักษ์ที่บ่งบอกว่าเรามาถึงเกาะเสม็ดแล้วก็คือรูปปั้นนางผีเสื้อสมุทรตัวละครจากวรรณคดีเรื่องสุดสาครนั่นเองค่ะตัวใหญ่มากๆสามารถมองเห็นได้ตั้งแต่เรือเราอยู่กลางทะเลเลยค่ะ5555

มาถึงเกาะเสม็ดแล้วทุกคนก็จะต้องมาซื้อตั๋วอีกด่านนึงซึ่งจะตั้งอยู่ตรงด้านหน้าทางเข้าเลยค่ะเรียกง่ายๆก็คือเราจะต้องมาเสียค่าเหยีบเกาะอีกคนล่ะ20บาทก่อนเข้าไปด้านในค่ะ แหะแหะ

ส่วนเรื่องที่พัก เราเลือกใช้วิธี walk in เอาค่ะเพราะเราคิดว่าการ walk in หาห้องพักมันไม่เสี่ยงต่อการเจอห้องพักที่ทรุดโทรมดีค่ะอีกอย่างที่เราเลือกวิธีนี้เพราะเราต้องการหาที่พักที่ใกล้ท่าเรือที่สุดเวลาเดินทางไปไหนมาไหนจะได้ไม่ลำบากด้วย แล้วสำหรัปทริปนี้เราได้ที่พักไม่ใกล้ไม่ไกลจากท่าเรือเกาะเสม็ดเท่าไหร่นักค่ะสามารถเดินได้โดยไม่ต้องอาศัยเช่ารถ

Samed Tree House ที่หากใครไม่ได้ใช้วิธี walk in แบบเราจะไม่มีทางหาเจอแน่นอนค่ะ5555เพราะคุณป้าเจ้าของที่พักบอกเราว่าคุณป้าไม่ได้ลงประกาศในเพจหรือฝากไว้ในเว็ปต่างๆแต่อย่างใดคนส่วนมากจะไม่ค่อยเห็นที่พักของคุณป้าอาจเป็นเพราะมันอยู่ในตรอกซอกซอยด้วยเลยทำให้หายากนิดนึง แต่ไม่ยากสำหรับเราแน่นอนค่าาา555

ด้านในที่พักก็จะเป็นแบบในรูปนี้เป๊ะๆเลยค่ะ ราคาก็จะอยู่ที่800บาท/คืน แต่ถ้าหากเพื่อนๆต้องการจะเสริมเตียงก็ได้นะคะคุณป้าจะขอค่าเพิ่มอีก300บาทค่ะ^^ สิ่งอำนวยความสะดวกก็จะมีให้ครบเลยค่ะทั้งแอร์,เครื่องทำน้ำอุ่น,free wifi,รวมไปถึงอาหารเช้าอย่างกาแฟโอวัลตินที่เราสามารถชงได้ตลอดทั้งคืนเลยค่ะ55555 ส่วนรายละเอียดอื่นๆเราทิ้งไว้ให้ในรูปแล้วนะคะติดต่อคุณป้าได้โดยตรงเลยค่าาา ที่พักพร้อม ร่างกายพร้อม กันแดดพร้อม พร้อมขนาดนี้จะรอช้าอยู่ใยไปดำน้ำเกาะทะลุกัยโล้ดดดดดดด

ในส่วนของเรื่องทริปดำน้ำวันนี้เราใช้บริการกับแชร์บ๊วยทัวน์ค่ะอันนี้เพื่อนเราที่เคยไปแนะนำมาเราก็เลยเลือกไปกับกรุ๊ปนี้ค่ะ สำหรับแพคเกจดำน้ำมีหลายแพคเกจนะคะส่วนเราเลือกแพคเกจดำน้ำ4เกาะพร้อมอาหารบนเกาะอีก1มื้อก็จะอยู่ที่ราคา600บาท/คนเดินทางโดยสปี๊ดโบ๊ทค่ะ อันนี้เพื่อนๆต้องตามเข้าไปดูในเพจของแชร์บ๊วยทัวน์เอาเองนะคะเพราะเขาจะขายแพคเกจแค่ในเพจเท่านั้นค่ะแล้วก็จะให้เราโอนเงินมัดจำ50%ก่อนแล้วมาจ่ายที่หน้าเรืออีก50%ค่ะ^^

ถึงเวลาตามนัดที่เราได้นัดกับทางแชร์บ๊วยไว้เพื่อที่จะไปดำน้ำก็จะมารอรับเราที่ท่าเรือเกาะเสม็ดอย่างที่เราได้แจงรายละเอียดไปว่าเราจะต้องเดินทางกันด้วยเรือสปีดโบ๊ทซึ่งเป็นครั้งแรกของพวกเราทั้ง3คนจะรอดมั้ยเนี่ย55555

ทริปนี้เราได้เด็กเรือคนเก่งมาเป็นไกด์คอยบอกรายละเอียดเกี่ยวกับแต่ล่ะเกาะให้เราฟัง เราขอชื่นชมน้องค่ะน้องเขาเก่งมากกกพูดจาฉะฉานมีหางเสียงตลอดน้องชื่อย๊องค่ะใครไปแล้วเจอน้องฝากบอกเขาทีว่าพวกเราทั้ง3คนชอบเขา555555ถ้าน้องมีโอกาศได้เห็นรีวิวนี้เราคิดว่าน้องต้องจำพวกเราได้แน่ๆเพราะเรา3คนสร้างวีระกรรมหมวกปลิวจนต้องให้น้องดริฟสปีดโบ๊ทไปเก็บให้เราจนทำให้เรือลำเราล่าช้าไปนิดหน่อย555555

ผ่านไปได้ด้วยดีกับการนั่งสปีดโบ๊ทครั้งแรกของเราและคิดว่าต่อไปนี้จะนั่งแต่สปีดโบ๊ทค่ะ เอาจริงๆคือเราอยากได้กลับบ้านมากสนุกกว่าเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกก็สปีดโบ๊ทนี่แหละ555555

ระยะทางจากท่าเรือเกาเสม็ดไปยังเกาะแรกคือเกาะทะลุใช้เวลาร่วมชั่วโมงเลยค่ะแอบกระซิบนิดนึงว่าเกาะทะลุไกลมากกกกกกกเกาะนี่อยู่ไกลจนเราไม่สามารถมองเห็นได้ทั้งๆที่เราอยู่กลางทะเลเลยล่ะค่ะ แบบไกลโฮกโอกกกก

แต่พวกเราทั้ง3และเพื่อนๆบนเรือก็มาถึงเกาะทะลุกันอย่างปลอดภัย ร่าเริงและแจ่มใส555555555555555

มาถึงเกาะก็ต้องเสียค่าเหยียบเกาะให้พวกเขาอีกเช่นเคยนั่นแหละค่ะ (ปาดเหงื่อ) แลกกับการที่เราได้ตั๋วของอุทยานมาเก็บสะสมไว้ หลักจากได้ตั๋วนี้แล้วพี่ๆที่ดูแลพวกเราจากแชร์บ๊วยก็จะทำการแจกสน๊อกเกิ้ลให้คนล่ะตัวเพื่อใช้ในการดำน้ำค่ะ แต่ก่อนดำน้ำตามพวกเราทั้ง3มาค่ะพวกเราจะพาไปสำรวจเกาะ^^

#รูปทุกรูปที่เรานำมาลงเราไม่ได้แต่งนะคะเพราะเราต้องการให้รีวิวของเราเหมือนจริงที่สุดและไม่จกตาใครค่ะ

เกาะทะลุก็มีหอยนะ มีเยอะด้วย55555

 

เกาะทะลุ ระยอง ที่ตั้งไปทางทิศตะวันออกห่างจากเกาะเสม็ดประมาณ 6 กิโลเมตร เกาะทะลุมีพื้นที่ 69 ไร่ มีพื้นที่ใหญ่กว่า เกาะกุฎีเพียงเล็กน้อย อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า - หมู่เกาะเสม็ด ทำให้ธรรมชาติยังได้รับการดูแลรักษาให้สวยงามเช่นในอดีต พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะจะเป็นป่าทึบ ทางทิศตะวันตกของเกาะเป็นแนวหน้าผาสูงชัน ในขณะทางทิศตะวันออกและทิศใต้เป็นหาดทรายขาดสะอาด จุดเด่นของเกาะอยู่ที่ชายหาดสวย ๆ จุดชมวิวและจุดดำน้ำ รอบ ๆ เกาะซึ่งนับว่าเป็นแนวปะการังที่สวยที่สุดของทะเลระยอง เกาะทะลุนับเป็นเกาะโดดเดี่ยวในกลุ่มเกาะบริวารของเกาะเสม็ด หาดทราย ของเกาะทะลุึขาวสะอาดมาก น้ำทะเลใสลงเล่นน้ำได้เป็นอย่างดี และบังมีความสำคัญในฐานะ แหล่งวางไข่ของเต่าทะเลด้วย ส่วนรูทะลุใหญ่นั้นอยู่ทางหัวเกาะสามารถมองเห็นได้จากบนเรือ แม้เกาะทะลุจะมีหน่วยพิทักษ์อุทยาน ฯ ตั้งอยู่และสามารถกางเต้นท์พักแรมได้ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมเพราะสามารถเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้เวลาไม่มากนักในการท่องเที่ยวบนเกาะ นี่เป็นประวัติเพียงคร่าวๆของเกาะทะลุที่เรามีโอกาศได้มาวันนี้ เอาล่ะถึงเวลาพวกเราจะได้ไปดำน้ำกันแล้ววววน้ำจะใสตาจะเยอะขนาดไหนตามพวกเรามาเลยค่ะ

ใสขนาดไหนก็ดูจากภาพเอาแล้วกันค่ะ5555555 คือมันใสมากกกกกก ก.ไก่ล้านตัวนี่ยังไม่พอเลยค่ะน้ำใสมากจริงๆ เกาะทะลุจะเป็นเกาะเดียวที่นักท่องเที่ยวที่ว่ายน้ำไม่เป็นหรือเด็กๆสามารถลงดำน้ำได้เลยนะคะเพราะระดับน้ำแค่เข่าของพวกเราเองค่ะ หรือใครไม่อยากดำน้ำก็สามารถยืนกลางทะเลแล้วเล่นกับน้องปลาได้เลยค่ะเพราะน้ำบนเกาะทะลุใสจนพวกเราสามารถมองเห็นปลาได้โดยที่ไม่ต้องดำลงไปกันเลยค่าาาาา เป็นการมาทะเลที่วิเศษสุดๆไปเลย^^

เกือบลืมเรื่องอาหารบนเกาะไปเลย สำหรับเรื่องอาหารการกินบนเกาะพวกเราไม่ต้องเสียเงินซื้อนะคะเพราะไม่มีร้านค้าสวัสดิการให้ซื้อค่ะ555555 ไม่ใช่ๆเพราะอาหารจะแถมมากับแพคเกจที่พวกเราได้ซื้อไปค่ะ มีอะไรกินบ้างไปดูกัน

อาหารเที่ยงที่ทางแชร์บ๊วยได้เตรียมไว้ให้พวกเรามื้อนี้ก็จะเป็นข้าวผัดกับบาร์บีคิวไก่ค่ะ^^

โดยส่วนตัวเราชอบอันนี้มากๆเลยค่ะเนื้อไก่ปรุงได้อร่อยเว่อออออร์555555

ส่วนผลไม้ก็จะเป็นแตงโมงกับสัปปะรดไว้แก้กระหายน้ำกันค่ะ

อร่อยไม่อร่อยก็ดูจากภาพเอาเองเถอะค่ะ -__- อ๋ออาหารที่พวกเราทานอยู่มื้อนี้เป็นบุพเฟ่ด้วยนะคะหารกเพื่่อนๆคนไหนไม่อิ่มสามารถยกมือขึ้นขอเพิ่มได้จนกว่าจะอิ่มเลยล่ะค่ะ^^

เอาล่ะทานข้าวอิ่มเรียบร้อยออกเดินทางไปเกาะอื่นกันต่อเลยดีกว่าาาาา และเกาะที่2ที่เราจะไปก็สามารถลงไปดำน้ำได้เหมือนกันค่ะจะไปเกาะอะไร ตามมาค่ะ

เกาะที่2ที่น้องย๊องพาเรามาก็คือเกาะค้างคาวนั่นเองงงงง เกาะนี้เหมาะสำหรับคนที่ว่ายน้ำเป็นนะคะใครว่ายน้ำไม่เป็นเราไม่แนะนำให้ลงไปน๊า ด้านล่างก็จะมีพวกแนวปะการังแล้วก็หอยเม่นเต็มไปหมดเลยค่ะ^^

 

ผู้ใจกล้าของเรา5555นางไม่รอช้าค่ะเรือทิ้งสมอปุ๊บนางโดดลงไปโดยไม่ปรึกษาใครเลย555555555

เราใช้เวลาอยู่บนเกาะค้างคาวได้แค่20นาทีเองค่ะเพราะเราต้องเฉลี่ยเวลาไปอีก3เกาะ เกาะที่3ที่เราจะไปคือเกาะสากค่ะ^^

เกาะสาก หากน้ำทะเลลดลงเราจะสามารถมองเห็นทะเลแหวกได้ถือว่าเป็นจุดขายของเกาะนี้ได้เลยค่ะ เกาะนี้ไม่แนะนำให้ลงเล่นน้ำนะคะเพราะใต้น้ำจะมีเศษหอยและเศษแก้วเยอะมากๆเลยค่ะ

อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าไม่แนะนำให้ลงเล่นน้ำก็เพราะหาดทรายมันมีแต่เศษหอยและเศษแก้วอย่างที่เห็นดังรูปนี่แหละค่ะ เก็บรูปสวยๆอย่างเดียวก็พอแล้วเนอะ

เอาล่ะมาถึงเกาะสุดท้ายที่เราจะไปกันวันนี้ก็คือเกาะกุฎีค่ะ ^^

เกาะกุฎี เป็นอีกเกาะที่สวยไม่แพ้เกาะทะลุเลยค่ะมาถึงบนเกาะต้องเดินระมัดระวังกันหน่อยนะคะเพราะเศษน้องหอยบนเกาะนี้เยอะมากกกก ส่วนเพื่อนๆท่านใดประสงค์จะลงเล่นน้ำก็สามารถเล่นได้ตามอัธยาศัยได้เลยนะคะแต่เกาะนี้ดำน้ำไม่ได้น๊า

เกาะนี้คนจะเยอะหน่อย อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นเกาะสุดท้ายที่หลายๆทัวน์แวะมาแถมเป็นเกาะเดียวที่มีร้านค้าสวัสดิการให้เราได้ซื้อของประทังชีวิตระหว่างทริปด้วยค่ะ555555

17:00นาที ถึงเวลาที่พวกเราต้องกลับเกาะเสม็ดกันแล้ววว มาสปีดโบ๊ทตัวไหนก็ต้องขึ้นสปีดโบ๊ทตัวนั้นกลับให้ถูกคันนะคะโตแล้วห้ามหลงกันนะคะนะ55555 การนั่งสปีดโบ๊ทขากลับขอบอกว่าโคตรรรรรรรมันส์เลยค่ะ ลมทะเลเย็นๆปะทะหน้าแรงๆกับสปีดโบ๊ทตัวเก่งที่แข่งกันโต้คลื่นยามเย็นพร้อมกับแสงอาทิตย์ลางๆเป็นอะไรที่ฟินสุดๆไปเลยค่ะ มีความสุขโพดโพดดดดด

ถึงฝั่งเกาะเสม็ดกันอย่างปลอดภัย เป้าหมายต่อไปของพวกเราคือ7-11เหมือนร่างกายจะขาดน้ำจากการหัวเราะบนเรือเมื่อครู่5555555 พวกเราทั้ง3คนเลยเข้าไปหาอะไรเย็นๆกันใน7-11ก่อนจะกลับเข้าที่พักอาบน้ำล้างตัวแล้วออกมาหาของกินสำหรับปาร์ตี้คืนนี้....

ทะเลยามเย็นนี่ก็สวยเหมือนกันเนอะ อากาสเย็นๆบวกกับเสียงคลื่นทะเลเบาๆที่มากับกลิ่นน้ำทะเลจางๆ เจอแบบนี้จะไม่ให้ฟินได้ยังไง

ราคาอาหารทะเลและของกินบนเกาะเสม็ด จะแพงกว่าบนฝั่งบวกไปอีกเท่าตัวเราขอยกตัวอย่าง อย่างเช่นกุ้งบนฝั่งจะขายอยู่ที่300-400บาท แต่บนนี้จะขายอยู่ที่ 700 บาทขึ้นไป -______- แต่ไหนๆก็มาถึงที่แล้วไม่กินก็จะยังไงอยู่เนอะ ว่ามั้ย

การเลือกซื้ออาหารทะเลก็ควรจะเลือกดีๆนะคะเจอร้านที่ดีก็ดีไป แต่ถ้าเจอร้านไม่ดีก็จะไม่คุ้มเอาเนอะ ส่วนเรา3คนก็อาศัยเอาแค่มันสดก็เป็นอันใช้ได้แล้วค่ะเพราะพวกเราเน้นกินซะเป็นส่วนใหญ่555555 ตลอดทางก็จะมีร้านขายอาหารทะเลเช่นกุ้ง หอย ปู ปลา เต็ม2ข้างทางเลยค่ะไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีนะคะที่นี่มีค่ะแต่อาจจะแพงงงงงงงงไปหน่อย -_-

ย่างให้เห็นกันสดๆไปเลย นี่ถ้าไลฟ์สดได้เราคิดว่าเขาคงทำแหละค่ะ555555

และนี่คือโแมหน้าอาหารมื้อเย็นสำหรับปาร์ตี้ของพวกเราทั้ง3คน555555555555 จริงๆดูแล้วเหมือนโหยมาก เหมือนไม่มีกินข้าวมาสัก3เดือนก็ยังได้ค่ะ -_- เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปซื้อมาตอนไหนรู้ตัวอีกที อ้าวถึงห้องแล้วนินา55555 เรา3คนพากันปาร์ตี้อาหารทะเลอยู่พักใหญ่จนเริ่มรู้สึกว่าจะเพลียจากสปีดโบ๊ท(รู้สึกตัวช้าจังเนอะ)เลยพากันสลบไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็เช้าของอีกวันซะแล้วววววว

เริ่มต้นเช้าวันใหม่กับอาหารเช้ากันที่ร้าน Jump at Sea Cafe วันนี้เราแพลนกันไว้ว่าจะมาหาอะไรลองท้องกันตอนเช้าแล้วค่อยเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก อากาศตอนเช้าของที่นี่ไม่ได้ดีมากออกไปทางแดดแรงด้วยซ้ำ

ส่วนอาหารเช้าจากร้าน Jump at sea ก็จะเป็นพวกขนมปังไข่ทานคู่กับกาแฟดำอุ่นสักแก้ว หรือจะเป็นออมเล็ทที่เสิร์ฟพร้อมกับเนยและขนมปังปิ้งไฟอ่อนๆ ราคาอาหารก็จะอยู่ที่ราคา100บาทขึ้นไปก็ถือว่าไม่ได้แพงมากจนเกินไป เอาง่านๆว่าพวกเราสามารถจับต้องได้555555

นอกจากกาแฟกับอาหารเช้าแล้ว ด้านหน้าของcafeก็ยังมีซุ้มโปสการ์ดเล็กๆไว้ให้ลูกค้านักท่องเที่ยวเลือกซื้อส่งกลับบ้านอีกด้วยนะคะ ใครมาเกาะเสม็ดก็อย่าลืมแวะมาลองชิมกาแฟอร่อยๆจากทางร้านดูนะคะ^^

เอาล่ะได้เวลาพวกเราทั้ง3ต้องกลับกันแล้ว เราจัดการเข้าไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวแล้วเช็คเอ้าท์ลาคุณป้าเจ้าของที่พักแต่ก่อนกลับเราก็ไม่ลืมที่จะแวะแชะภาพคู่กับสัญลักษณ์บนเกาะสมุทรอย่างนางยักษ์ผีเสื้อสมุทรที่ตั้งอยู่ทางท่าเรือเกาะเสม็ด

นายแบบประจำตัวทุกๆทริปของเราเองค่ะ55555  ขากลับนี่โชคดีตรงที่เราไม่ต้องไปรอเรือเพราะตอนเราถ่ายรูปเสร็จเรือที่จะพาเรากลับไปฝั่งระยองก็มาพอดีเลยค่ะ5555 ขากลับเลยใช้เวลาไม่นานก็มาถึงที่ฝั่งท่าเรือนวลทิพย์กันค่ะ ทีนี้ก็ถึงคราวที่เราต้องตามทหาของฝากกันแล้ว แนะนำเพื่อนๆท่านใดที่ยังไม่ได้กดเงินเราแนะนำว่าให้รีบไปกดก่อนที่จะซื้อของฝากนะคะ5555555

ของฝากของที่นี่ก็จะเป็นพวกอาหารทะเลที่ตากแห้งมาไม่ก็เป็นพวกปลาหวานปลาเส้นปรุงรสประมาณนี้ค่ะ

หมดกันเงินที่สะสมมา5555555555มาหมดเอาตรงของฝากนี่แหละค่ะ ใครมีเพื่อนเยอะก็รีบๆเลิกคบเพื่อนซะนะคะ 555555 หยอกเล่นน๊าาาา ส่วนมากแม่ค้าที่นี่ใจดีค่ะยิ่งซื้อเยอะยิ่งลดเยอะแถมให้ชิมกันฟรีๆกันไปแบบไม่กลัวขาดทุนเลยด้วยค่ะแล้วมีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลยยยยยเราก็เลยได้ติดไม้ติดมือกลับมาซะเยอะเลย5555555

ซื้อของฝากกันเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วววววทริปเกาะทะลุเป็นอีกหนึ่งทริปที่เราสนุกและมีความสุขมากๆถือว่าคุ้มมากๆที่เราเลือกให้เกาะนี้เป็นทริปส่งท้ายซัมเมอร์ของเรา ไปเที่ยวเกาะรอบนี้เรารู้สึกว่าเราโชคดีที่ได้มีเวลาออกเดินทางตามหาแรงบันดาลใจในที่ต่างๆที่เราอยากจะไป ได้ไปสูดอากาศที่ดี และอุดมสมบูรณ์ ไว้มีโอกาศเราจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง

                                                                                                  ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้า บ๊ายบายค่า ^^