นอนฟังเสียงคลื่นซัดหาดทรายตลอดทั้งคืนจนหลับไป.. ตื่นมากับเช้าวันใหม่ ก็ยังคงได้ยินเสียงคลื่นอยู่ แม้จะดูเบาบางลงไปบ้าง บรรยากาศยามเช้าก็ยังคงเงียบสงบเหมือนเดิม บริเวณใกล้เคียงคล้ายจะไร้ซึ่งเสียงของผู้คน เดินเมาขี้ตา ลุกจากเตียง มานั่งโง่ๆ มองทะเลที่ริมระเบียง เป็นเช้าที่ดูอากาศสดชื่นแจ่มใสมาก!
มองไปที่ชายหาดด้านล่าง แอบมองเห็น ฝรั่งหนุ่มนายหนึ่ง เดินเล่นอยู่ชายหาด เตรียมจะลงไปเล่นน้ำทะเล ซึ่งก็อยากลงไปเล่นบ้าง ท่าทางคงจะเย็นสบายดี แต่ไม่รู้ทำไม.. ตอนนี้ ความขี้เกียจ มันดันสิงร่างอยู่ ขี้เกียจแม้กระทั่งไม่ลงไปทานอาหารเช้า ขอนั่งเล่นอยู่ตรงนี้ไปสักพักดีกว่า ทริปนี้เน้นพักผ่อน ไม่ต้องออกแรงมากก็ได้ 55+
เมื่อสลัดความขี้เกียจออกจากร่างกายแล้ว.. ก็ถึงเวลาที่ต้องออกไปเที่ยว ดูอะไรรอบเกาะ กันสักหน่อย วิธีที่สะดวกที่สุดก็คือ การเช่ามอเตอร์ไซค์ ราคาเช่าต่อวันอยู่ที่ 250-300 บาท มีร้านบริการให้เช่าบนเกาะ หรือ จะติดต่อกับทางที่พักก็ได้ ซึ่งหลังจากติดต่อเช่ากับพี่เกษมที่ดูแลที่พักแล้ว เห็นว่าผมใช้รถแค่ไม่กี่ชั่วโมง เลยให้รถมาไว้ใช้ฟรีๆ ดีจัง! แต่ต้องเติมน้ำมันเองเท่านั้น..
จากที่พัก.. ผ่านทางลูกรัง เข้ามาในหมู่บ้าน จะเห็นปั๊มน้ำมันเล็กๆ ทั้งปั๊มหลอด ปั๊มขวด อยู่หลายจุดเหมือนกัน
เติมน้ำมันเรียบร้อยแล้ว.. ก็ได้เวลาแว๊นซ์ไปเที่ยวรอบเกาะ โดยเริ่มจาก หาดติงไหร นี้ก่อน ซึ่งก็เป็นชายหาดที่ทอดตัวยาวมากเป็นกิโล สนใจตรงไหนก็แวะจอด ลงเดินเล่นชมบรรยากาศไป.. จึงได้เห็นกิจกรรมริมหาดต่างๆ อย่าง เดินเล่น ตกปลา หรือ พายคายัค
ชายหาดที่นี่อาจไม่ขาวเนียน แต่ก็ ดิบ และ เป็นธรรมชาติดี ในบางจุดก็อาจจะได้เห็นชีวิตของสัตว์ต่างๆ
จากนั้น.. ลงไปถึงหมู่บ้านใต้สุดของเกาะ ที่ บ้านเกาะจำ ผ่าน โรงเรียนบ้านเกาะจำ
ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวประมงที่นี่ ซึ่งกำลังเตรียมตัวจะไปทำการวางลอบหมึก
ชาวประมงกำลังซ่อมแซมเครื่องมือหาเลี้ยงชีพ
เจอตลาดขายของสด พวกผัก และผลไม้ ซึ่งบางส่วนไม่ได้มีปลูกบนเกาะ ต้องรับมาจากตลาดเหนือคลอง เพื่อนำมาขายต่ออีกที
เริ่มเข้าช่วงสาย.. รู้สึกชักจะหิว อาหารเช้าของที่พักก็ไม่ได้กิน ก็เลยต้องหาอะไรใส่ท้องสักหน่อย ซึ่งอันที่จริง.. บนเกาะจำมีร้านอาหารแนะนำ ที่ต้องไปกิน อย่าง ร้านเกาะจำซีฟู๊ด แต่พอดีอยากจะประหยัดงบ ประกอบกับ อยากหาอะไรกินแบบชาวบ้านๆ สักหน่อย ก็เลยวนๆ รถหาดู ซึ่งร้านส่วนใหญ่ ร้านขายอาหารเช้าเขาก็เปิดขายเฉพาะช่วงเช้า จนจะเก็บของกันหมดแล้ว พอดีมาเจอร้านนึงยังเปิดอยู่ก็เลยได้จอดรถ แวะลงมานั่งกิน โดยกะว่าจะรีบกิน แล้วรีบไปต่อ แต่.. คุยกับ มะ เจ้าของร้านเพลินไปหน่อย ก็เลยได้นั่งยาวเลย.. มะ บอกว่า.. เมื่อก่อนสักสิบปีที่แล้ว เกาะจำ ยังไม่ได้เจริญขนาดนี้ ถนนหนทางดีๆ ไฟฟ้าต่างๆ ก็เพิ่งมีมาไม่นาน ช่วงหลัง..มานี้ นักท่องเที่ยว มีเยอะขึ้น แต่ก็ยังน้อย เมื่อเทียบกับ สถานที่อื่นๆ เมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มมีมากขึ้น ชาวบ้านบางส่วนก็หันมาทำที่พัก หรือ โฮมสเตย์ ไว้รองรับ
สรุป มื้อนี้หมดไป 35 บาท เท่านั้นเอง! (ข้าวหมกไก่ 20 บาท, ขนม – เรียกไม่ถูกเหมือนกันครับ เป็นข้าวเหนียวหน้ามะพร้าว 5 บาท, กาแฟ 10 บาท)
อิ่มแล้วก็ไปกันต่อ.. แว๊นซ์ไป หมู่บ้านเหนือสุดของเกาะกันบ้างที่ บ้านเกาะปู ซึ่ง เกาะจำ กับ เกาะปู ก็อยู่บนเกาะเดียวกันนี่แหละครับ แต่แยกตามชื่อหมู่บ้านเท่านั้น ถนนหนทางจากทางคอนกรีตอย่างดี พอเข้าเขต บ้านเกาะปู ทางจะเป็นถนนลูกรัง ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร สองข้างทาง ผ่านทั้งป่า และ สวนยางฯ ยิ่งเข้าไปลึก บรรยากาศก็ยิ่งเงียบได้ใจจริงๆ
แล้วถนนเส้นนี้ ก็มาสิ้นสุด อยู่ที่ หาดลูโบ๊ะ บ้านเกาะปู พอดี!
หาดลูโบ๊ะ เป็นหาดขนาดเล็ก อยู่ในเขตบ้านเกาะปู มีแนวชายหาดโค้งเว้าค่อนข้างสั้น และหาดทรายไม่ได้ขาวเนียน แต่โดยรวมก็น่ามาพักผ่อน เพราะดูเงียบสงบดีมากๆ
สบายดีบาร์ ที่ หาดลูโบ๊ะ ในช่วงเวลาค่ำคืนน่าจะนั่งชิลดีเหมือนกัน ก่อกองไฟริมหาด จิบเบียร์ นั่งดูดาว ซึ่งที่จริงว่าจะลองแวะมาตั้งแต่เมื่อคืน แต่ทางเข้าไกลไปหน่อย และค่อนข้างมืด ก็เลยอดซะงั้น ไว้โอกาสหน้าค่อยกลับมาอีกที..
ใช้เวลาไม่นานที่ หาดลูโบ๊ะ ก็ขอแว๊นซ์มอเตอร์ไซค์ วกกลับลงทางใต้ มาแถว หาดติงไหร เหมือนเดิม ซึ่งหาดบริเวณนี้ต้องเข้าซอยเล็กๆ ที่เป็นทางลูกรังแยกมาจากถนนเส้นหลักพอสมควร ก็เลยค่อนข้างที่จะดูสงบเงียบหน่อย..
จากนั้น.. แว๊นซ์มอเตอร์ไซค์ ลงไปทางใต้อีกนิด เป็นส่วนของ หาดติงไหร เช่นกันครับ ตรงนี้หาดจะติดกับถนนเส้นหลักเลย เอารถไปจอดใต้ต้นมะพร้าว แล้วลงไปเดินเล่นที่ชายหาดได้
บริเวณนี้บรรยากาศค่อนข้างจะคึกคักหน่อย เพราะมีรีสอร์ท ที่พัก อยู่เยอะ ประกอบกับ อยู่ติดกับถนน ก็เลยมีทั้งนักท่องเที่ยว มาลงเล่นน้ำ รวมไปถึง เด็กๆ ในพื้นที่ก็มาลงเล่นน้ำคลายร้อนเช่นกัน
น้ำทะเลใสแจ๋ว.. ชวนให้โดดลงไปเล่นกับ เด็กๆ ซะจริงๆ ..เห็นเด็กๆ เล่นกันอย่างสนุกสนานแล้ว คล้ายจะอดใจไม่อยู่ 55+