เช้ามาถ่ายรูปหน้าหาดที่พักเตรียมออกเดินทางกันต่อ
บรรยากาศดีจริงๆ
สามหนุ่มสามมุม
หมู่หน่อย มีความคุมโทนเบาๆโดยมิได้นัดหมาย
ออกจากที่พักก็กินข้าวเช้าตรงข้ามเลยมีทั้งก๋วยเตี๋ยวตามสั่งคนละ 4-50บาท
ขับย้อนมาไม่ไกลก็มาถึงหาดทุ่งวัวแล่น บรรยากาศคล้ายๆกันแต่ต้นสนจะสวยกว่าที่นี้
ต้นนี้ทรงสวยงามขอถ่ายหน่อย
ชุมพรนี้เงียบสงบดีมากเลยครับ รถก็ไม่ค่อยมี
ไปต่อครับ ทุกๆทริปต้องมีการขึ้นยอดเขาหรือจุดชมวิวสวยๆ555 หาความลำบากให้ตัวเองตลอด ทริปนี้ก็เช่นกันจัดไปเบาๆ เขาดินสอ
ที่นี้เป็นที่อพยพของเหยี่ยวกว่าแสนตัวเลย แต่จะปกติจะมาช่วง กันยายน-พฤศจิกายน ครับ ช่วงนี้ไม่มีให้ดูแต่ไม่เป็นไรเราจะขึ้นไปชมวิวกัน
ทางเดินก็ไกลพอสมควรแล้วแต่ร่างกายแต่ละคนครับแต่ทางไม่ยาก แต่ร้อนมาก ร้อนแห้งๆเพราะมีลมทะเล
พวกเราใช้เวลาเดินกันประมาณ 35 นาทีก็มาถึงยอดจุดชมวิวครับ
สามารถชมวิวได้ 360 องศา แต่วันนี้ยังมีหมอกปกคลุมแต่เบาบางกว่าเมื่อวานครับ
และแล้วก็พบมหัศจรรย์ธรรมชาติเหมือนที่ป้ายบอกไว้เลย อยู่ดีๆก็เจอฝูงนกอะไรไม่รู้เยอะมาก เป็นพันตัวบินมา
นึกว่าเหยี่ยวตอนแรก
แต่พอมาใกล้ๆคือเจ้าฝูงนกปากห่างนี่เอง เยอะมากๆ
ซูมเข้าไป300 มม เอาให้สุดกระบอก
พึ่งเคยเห็นเจ้านกปากห่างเยอะขนาดนี้ครับ
จังหวะพอเหมาะมากครับ แปบเดียวมันก็บินผ่านไปไกลลิปไปไหนก็ไม่รู้
ชมวิวกันต่อ
อีกฝั่งก็มองเห็นทะเล คาดว่าจะเป็นหาดสะพลีกับทุ่งวัวแล่นที่เรามาเมื่อกี้แน่ๆ
ธรรมชาตินี้มีอะไรให้ตื่นเต้นตลอดเวลาจริงๆครับ
ได้เวลาไปต่อ
หรือจะนอนก่อนก็ได้ ข้างล่างมีลานลมเย็นน่าหน้านอนมาก
จุดหมายต่อไป สะพานไม้เคี่ยม
สะพานไม้เคี่ยม คือสะพานไม้ที่ทอดยาวสู่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทำจากไม้เคี่ยม อยู่ในโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามแนวพระราชดำริ จัดแบ่งส่วนเป็นพื้นที่พัฒนา และทดลองงานด้านต่างๆ อีกราว 600 ไร่
ลมเย็นบรรยากาศดี
แต่สะพานขาดครับ กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุง
สะพานไม้ทอดยาวชิคๆเก๋ๆ
อยู่จนพอใจ ก็ใกล้บ่ายแล้ว จุดหมายต่อไปตามที่จริงจะต้องไปกางเต็นที่หาดนวกรเพื่อดำน้ำเกาะจานตอนเช้า แต่เช็คแล้วเขาออกดำน้ำไมไ่ด้ช่วงนนี้เพราะซ่อมเรืออยู่ เลยอดเปลี่ยนแผนคืนนี้จะไปนอนที่บ้านญาติพี่สาวในทีมที่หัวหิน ตอนนี้เลยจะเปลี่ยนแผนไปดูช้างป่ากุยบุรี
มาแวะกินข้าวบ่ายกันที่ร้านคุณต้น
ร้านใหญ่โตมโหราฬมากๆๆ ใหม่สอาด อาหารรสชาติกลางๆ
แต่ชอบมากคือห้องน้ำ อลังการใหญ่เยอะมาก
จากนั้นก็ไปต่อรีบไปให้ทันดูช่างป่า แต่ทว่าทำการบ้านน้อยไป ที่กุยบุรีมีหลายจุดถ้าจะดูช่างป้าต้องไปอีกจุดนึงไม่ใช่วิ่งมาตาม GPS ที่พาไปตัวอุทยาน จะไม่ใช้จุดที่ไปดูช้าง ห่างกันเยอะพอสมควร เรามาถึง อุทยานเกือบ 5 โมงแล้วครับ สรุปว่าดูช้างไม่ทันจ้า ถึงไปถูกทางก็คงจะไม่ทันเพราะว่าต้องต่อรถของเจ้าหน้าที่เหมาเข้าไป ควรมาถึงแต่บ่าย2 พอต้องวิ่งเข้าไปอีกลึกเลยครับ
เอาแผนที่จากgoogle มาให้ดูครับ นี้ ดูจากรูป
จุดที่ผมมาผิดคือที่ทำการอุทยานต้นไม้เขียวด้านล่าง แต่ที่ไปดูช้างนั้นต้องต้นไม้เขียวจุดบนสุดนี้เอง
เจ้าหน้าที่เลยแนะนำว่าให้ขับรถไปหน่วยสำโหรง ต้นไม้อันกลางตามรูป เป็นจุดที่กางเต็นได้และเป็นจุดชมวิวให้เข้าไปดู พวกเราก็เลย ไปตามแผนที่ที่เจ้าหน้าที่ให้มา
ระหว่างทางก็ประมาณ 20นาทีได้ ผ่านป่าไมสวยงามวิวข้างทาง
พร้อมแสงอาทิตย์ที่ใกล้จะลับขอบฟ้า
ทางเข้าหน่วยสำโหรงนั้นเป็นอุโมงค์ต้นไม้สวยงาม
เส้นทางวิบากนิดหน่อยรถเก๋งก็ค่อยๆเลื่อยมาได้
แล้วก็มาถึงข้างบน กลุ่มที่มากางเต็นก็จะมาดูช้างเหมือนกันและก้เข้าไปผิดเหมือนเราเลยครับ 555 แต่เขามานอนเลย
ไกลๆนั้นอ่างเก็บน้ำยางชุม
ถ่ายรูปสักแปบก็ขับออกครับ
ต้นไม้ตรงนนี้มองๆไปเหมือนหนังฝรั่งเลยดูใหญ่ๆไกลๆชนบท
เจอทุ่งหญ้ากว้างๆๆมากๆ เขากำลังตัดหญ้ากันด้วยขอจอดถ่ายรูปหน่อย
เอาพี่บิ็กวีโก้เป็นพรีเซนเตอร์นี้แหละ
มากระบะก็ดีอย่างจะเสียบจะแหยะตรงไหนก็ไม่ต้องกลัว ได้มองเห็นอะไรแปลกใหม่อีกเยอะครับ
ปิดท้ายวันนี้ที่อ่างเก็บน้ำยางชุม ทางผ่านตอนเข้ามาอุทยาน แสงกำลังจะหมดพอดี
แล้วก็ยิงยาวเข้าหัวหินถึงบ้านญาติ2ทุ่มหน่อยๆ อาบน้ำเสร็จแล้วก็ปาร์ตี้กันต่อได้ที่พักฟรีแล้ว555 คืนนั้นกว่าจะได้นอนก็หนักเอาการ
เช้าวันที่สามเลยไม่มีอะไรมากกว่าจะออกก็เกือบเที่ยง เลยแวะเขาหินเหล็กไฟ ใกล้ที่นอน
ชมวิวเมืองหัวหินกันหน่อย
จากนั้นก็ไปต่ออีกที่ น้ำตกป่าละอู แผนนี้ก็คิดสดๆเลยไม่รู้จะไปไหนดี ไปนี้ละกัน
ขาเข้าไปเจอหมู เดี่ยวมาดูขาออกจะเจออะไร
ทางเข้าไปทางวัดห้วยมงคลแต่เข้าไปอีก40กว่าโล ลึกมาก
แต่บรรยากาศสองข้างทางเป็นธรรมชาติสวยงาม
แล้วก็มาถึง
เสียงอื้อฉาวเป็นอย่างไรใครทราบบ้าง 555
ที่นี้มีน้ำตกหลายชั้นมากเกือบ 20 ชั้น แต่ชั้นที่สามารถเดินชมได้เองเจ้าหน้าที่ให้เดินแค่ชั้น 5 ถ้าจะเข้าลึกกว่านี้ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง
น้ำตกชั้นที่ 1-3 เป็นน้ำตกชั้นเล็กๆครับ
มีชั้น 4 ครับที่ใหญ่ สวย แต่หน้านี้น้ำน่าจะน้อยหน่อย
และน้ำตกชั้น 5 ครับ
อยู่ในน้ำตกกันจน4โมงกว่า ก็เลยได้เวลาเดินทางกลับ
ขากลับออกมา เจอพี่ใหญ่ของแท้
ช้างหนุ่มรูปงาม นี้ไม่ใช่ช้างเผือกแต่อย่างไดแต่เป็นช้างซนผู้หนึ่งแน่ๆ
ไม่รู้ไปคลุกดินโคลนอะไรมาเลอะเทอะไปหมด แต่ตัวใหญ่ดูสง่างามหล่อมาก
และปิดท้ายวันนี้ ที่จริงวันที่ 7 มกราคือวันคล้ายวันเกิดของเหลี่ยมเอง ก็เลยขอแวะไหว้พระทำบุญที่วัดห้วยมงคลก่อนกลับครับ
ไหว้พระเสร็จก็ใกล้มืดพอดีแวะกินข้าวอีกรอบข้างทาง จากนั้นก็ยิงยาวเข้า กทม. ถึงบ้าน 3ทุ่ม ทริปนี้ถึงบ้านไว้มากเที่ยวแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ขยับๆมาเรื่อยๆที่สุดท้ายไม่ไกลจากกทมเท่าไหร่ ถึงบ้านไม่เพลีย 555
จบอีกทริปอย่างสวยงามทริปแรกประเดิมปี 2561 ชุมพรเป็นอีกจังหวัดที่น่าหลงไหลมาก โดยหลายๆคนผมว่าคงจะเลยผ่านกันไปเหมือนผมที่ว่าจะลงใต้ดำน้ำก็ลงไปทางกระบี่ภูเก็ตนู่นเลย ผ่านทุกครั้งกว่าจะได้มาเที่ยวจริงๆ ต้องมีครั้งหน้าอีกแน่มีเกาะร้านเป็ดร้านไก่ที่น่าสนใจไว้จะมาใหม่นะจ๊ะ
สรุปค่าใช้จ่าย
น้ำมัน 1200 โล 3400/7 บาท
ค่าเรือดำน้ำ คนละ1200
ที่พักเสียคืนเดียว ห้องละ 450
ที่เหลือค่ากิน มีหนักเบากับเครื่องดื่มบ้างบางมื้อ สรุปทริปนนี้หมดกันไปคนละประมาณ 2500-2800 บาท 3วัน2คืน ครับ
แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าจะพาไปเที่ยวไหนสวัสดีคร้าบ