สถานีประจวบคีรีขันธ์
EP.2 มาต่อกันค่ะเมื่อคืนไปถนนคนเดินหัวหิน ตลาดฉัตรศิลา และก็ไปจิบนมร้อนในซอยหัวหิน สักซอยนี่แหละ ส่วนใหญ่ก็ขับชมเมืองกลางคืนเรื่อยๆค่ะ แล้วก็กลับมาพักผ่อนเอาแรง
ส่งโปสการ์ดถึงคนที่บ้าน สรุปโปสการ์ดถึงก่อนคน แล้วก็แวะกินนมร้อน ก่อนกลับที่พัก พอตอนเช้า เราก็กะว่าจะขับมอไซค์ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ที่ไหนได้ไม่มีใครตื่น ก็เลยเปลี่ยนแผนเป็นขับรถชมเมือง ไปหาอะไรกินเป็นอาหารเช้าในตลาด แต่พอดีที่พักมี โอวัลติน ขนมปังปิ้งก็เลยจัดไปหลายแผ่น ลืมบอกไปเมื่อรีวิวที่แล้วค่ะ ว่าที่พักใกล้กับคิวรถตู้กลับกรุงเทพ เดินออกไปเลี้ยวขวา เดินสองสามก้าวถึงเลย ท้องอื่มแล้วก็ออกเดินทางขับมอไซค์ออกจากที่พัก สำรวจชุมชนหลังสถานีอีกฝั่งและพบว่ามันเป็นทางออกนอกเมือง และดันไปสะดุดกับป้ายบอกทาง เขาหินเหล็กไฟ ใจหนึ่งก็กลัวจะไม่ทันรถไฟ แต่ใจหนึ่งก็ไหนๆก็มาล่ะยังไม่เคยขึ้นไปเลย ลองสักครั้งทางไปเขาหินเหล็กไฟบอกได้เลยว่า ชันและสูงขึ้นเรื่อยๆ เอาจริงๆซ้อนสามนี่ลำบากเอาเรื่องอยู่ พวกเราก็เกือบไปไม่ถึงเหมือนกันเพราะล้อหน้าลอย 555555 น้ำหนักเยอะนั่นเอง พอลงจอดปุ๊ป ก็เจอเจ้าถิ่นเลยจ๊ะ ลิง นั่นเองแนะนำว่าไม่ควรเอาอะไรแขวนไว้ที่รถ เพราะมันเอาหมดทุกอย่าง โอเคเมื่อมาถึงก็ถ่ายรูปกันซะหน่อย
ทางเดินไปจุดชมวิวแต่ละจุดนี่ ป่าทั้งนั้น แถมรกอีกด้วย ลมพัดแต่ละทีนี่ระแวงหนัก
แล้วก็พบจุดชมวิวที่ 1 มีระเบียงยื่นออกไปค่ะ สามารถเดินออกไปได้
เดินออกมา ไปต่อค่ะจุดชมวิวที่ 2 โคตรจะป่า ไม่มีระเบียงออกไป ป่าจริงๆ มีแต่หิน
ข้อดีก็คือจะเห็นวิวโดยไม่มีอะไรบดบังแต่ก็มีความเสี่ยงที่เราจะหล่นลงไปด้วยแรงโน้มถ่วง ถ้าไม่ระมัดระวัง มันสูงนะเธอ ภาพอาจจะไม่ค่อยชัดนะ ถ่ายจากมือถือ ไม่ได้เอากล้องไปไม่อยากไปเสี่ยงกับลิง จริงๆมีภาพพาโรนามา แต่ไฟล์มันใหญ่อ่ะอัพโหลดไม่ได้ ขอโทษด้วยนะค่ะ โอเคได้เวลาลงจากเขาแล้วจ่ะ ขาลงนี่แบบชิวๆ ไม่ต้องสตาร์ทเครื่อง ปล่อยไหลลงสบายๆ บรรยากาศข้างทางอากาศดี เงียบมาก แทบไม่มีรถสวนทางเลย เนื่องจากยังพอเหลือเวลาอยู่ก็เลยไปแวะ ชายหาดหัวหินก่อนกลับที่พักเสร็จจากไปทะเลก็รีบกลับที่พัก ไปเก็บของเพื่อให้ทันรถไฟเที่ยว 11.26 โอเคเนื่องจากทั้งน้ำหนักคนและสัมภาระรวมกันอาจทำให้ยางแตกได้ เราเลยต้องแบ่งเที่ยวเป็น 2 รอบ ความจริงแล้วเราต้องเอามอไซต์มาคืนที่พักแต่ว่า เจ้าของรถบอกว่าให้จอดไว้ที่สถานีเลยเดี๋ยวไปเอาเอง เห็นพวกเราสัมภาระเยอะ ต้องขอขอบคุณมากๆค่ะ ถึงสถานีรถไฟก็รีบซื้อตั๋วแล้วหาอะไรรองท้อง ได้แซนวิซเซเว่นมา แล้วรถไฟก็มาพอดี กินยังไม่ทันหมด เดินทางต่อกัน
วิวด้านหลังเป็นวิวเขาสามร้อยยอด ระหว่างทางเราก็นั่งคุยกับคนพื้นที่ คุณป้าแนะนำให้เราไปขึ้นเขาช่องกระจก ไปดูดาวที่อำเภอหว้ากอ กินอาหารทะเล บลาๆ ก่อนลงจากรถเขาก็ย้ำให้ไปขึ้นให้ได้ นี่ไงเขาช่องกระจกเห็นตั้งแต่นั่งรถไฟผ่าน เมืองสามอ่าว ตัวใหญ่มาแต่ไกล เข้าตัวเมืองประจวบแล้วจ้าประจวบคีรีขันธ์ Day 1
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าวันนี้เราไม่ได้จองที่พักไว้ ตอนแรกตั้งใจจะไปกุยบุรีไปส่องช้างป่ากัน แต่ระยะทางจากสถานีรถไฟไปอุทยานค่อนข้างไกล ต้องให้ชาวบ้านที่อุทยานมารับซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า มันไม่คุ้มเท่าไหร่ ที่พักถูกก็จริงแต่จะหมดเงินไปกับการเดินทางทริปนี้เลยถูกยกเลิกไป พอลงจากรถไฟเราก็ตั้งสติ คือตื่นเต้นไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนนี่ครั้งแรกที่ Walk in หลังจากขอแผนที่จากสถานีรถไฟเราก็เดินมาเรื่อยๆและไปสะดุดกับกลิ่นขนมจีบ ไม่รอช้าเวลานี้ขอกินก่อนเพราะเริ่มหิวล่ะ
ระหว่างซื้อก็ชวนป้าแกคุย แกก็ถามาจากไหนกัน มากี่วัน แวะไหนบ้าง คุยถูกคอเลยได้แถมมา 2 ลูกแล้วป้าแกก็แนะนำที่พักซึ่งเดินตรงไปอีกนิดเดียว บอกว่าราคาถูก ฝรั่งพักเยอะ ได้ยินว่าถูกก็ก้าวฉับๆๆไปเลยเจ้าค่ะ
- โรงแรมยุติชัย เป็น Hostel ราคาถูกคุณภาพดีเยี่ยม เจ้าของที่พักอบอุ่นและผู้ร่วมอาศัยเป็นกันเองกับเราทุกคน รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน คือทุกคนจะช่วยกันดูแลความสะอาดที่พัก คอยเป็นหูเป็นตา ที่สำคัญถูกมาก 350/คืน นี่คือราคา 3 คนแล้วนะก็ตกคนละประมาณ100นิดๆ แต่ห้องพวกเราเป็นพัดลม ห้องน้ำรวม แต่ไม่ร้อนและไม่สกปรกเลยสักนิดเดียว
หลังจากเก็บสัมภาระเสร็จ ก็ตามหาที่เช่าจักรยาน เดินไปหน้าหาดมีให้เช่าเยอะแยะเลย ก่อนออกจากที่พักก็ถามที่เที่ยวพี่เค้ามาบ้าง พี่เค้าบอกวันนี้มีงานกาชาดวันสุดท้ายแล้ว แล้วก็มีวิ่งขึ้นเขาช่องกระจก เขาเพิ่งมาบอกเมื่อกี้นี้เอง
- เขาช่องกระจก เป็นบันไดประมาณ 3,000 กว่าขั้นซึ่งวิวด้านบนก็คือป้ายเมืองสามอ่าวที่เราเห็นตอนนั่งรถไฟนั่นเอง ที่ว่าเมืองสามอ่าวนั่นก็คือ อ่าวน้อย อ่าวประจวบและอ่าวมะนาว โดยถ้าเรามองไปทางอ่าวมะนาวเราก็จะเห็นเขาล้อมหมวกซึ่งเป็นที่เราตั้งใจจะไปขึ้นในวันพรุ่งนี้
ตอนแรกพวกเราก็ลังเลที่จะเข้าร่วมงานนี้ ทั้งลิง ทั้งบันไดสูงอยู่นะจ๊ะ เป็นคนซุ่มซ่ามไง แต่ไหนๆก็มาล่ะอยากมีส่วนร่วมเถียงกันไปเถียงกันมา สุดท้ายก็ขึ้นอยู่ดี ดีจะได้ไปโม้ให้แม่ฟัง
มาครึ่งทางล่ะ มองเห็นงานด้านล่างด้วย แล้วอุปสรรคเขาเรานั่นคือลิง ลิงดุมาก บางตัวก็มีเลือดออกสงสัยคนไปทำร้ายมัน มันเลยดุ ยิ่งถ้าเราไปสบตามันล่ะก็ มันแยกเขี้ยวใส่แน่ หลังจากที่เราเวียนเทียนหนีลิงกันอยู่นาน ทำให้เพื่อนร่วมทางเขาเราตัดสินใจทิ้งภารกิจแล้วลงไปกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆก่อนเจอลิง
หลังเจอลิง มันนอนขวางทางไม่ยอมให้เราขึ้นไปต่อ โชคดีหน่อยมีพี่ผู้หญิงคนนึงเดินผ่านมา ก็เลยขอไปด้วย และแล้วเราก็ถึงที่หมายมองไปนั่นคือ อ่าวมะนาวและที่เห็นคือ เขาล้อมหมวก
อ่าวประจวบอ่าวน้อย
นี่คือพี่ที่ช่วยให้เรามาถึงจุดนี้ได้ค่ะ ขออนุญาตลงรูปนะคะ และขอบคุณมากจริงๆค่ะ อันนี้วิวตอนขาลง ได้เกียรติบัตรมาครอบครอง มองจากด้านบนลงมา แสดงว่า หลังเขาช่องกระจกจะต้องมีถนนเราก็เลยแวะไปถ่ายรูปกันก่อนไปหาอะไรกินในงานกาชาดแล้วก็ปั่นเลียบหาดเข้างานหาอะไรกินกันจ่ะ
ประจวบคีรีขันธ์ Day 2
วันนี้ตามแผนเราตั้งใจจะไปปีนเขาล้อมหมวกกันซึ่งเราจองที่พักไว้ที่ อ่าวมะนาวแต่ก่อนเราจะไปจากอ่าวประจวบ มาปั่นจักรยานยามเช้าสำรวจเมือง แล้วนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้ถ่ายรูปที่สะพานยาวๆนั้นเลย แดดแรงมาก
และที่มาของรูปก่อนกลับที่พักเราเจอรถเข็นคุณยาย เลยแวะอุดหนุนซะหน่อย ใครไปเที่ยวประจวบเจอคุณยายก็ช่วยกันอุดหนุนหน่อยนะคะ น้ำจิ้มกล้วยปิ้งหอมน้ำตาลมาก
และต่อด้วยข้าวมันไก่ และต่อด้วยจิบชาใต้ hostel แล้วต่อด้วย ติดตาม EP.3 สุดท้ายแล้ว