เด็กกะโปลกจากอโศกไปเชียงใหม่ พักใจแต่เหมือนจะไม่พักกาย

ทริปนี้เกิดจากความอยากเที่ยวของกลุ่มเด็กดอกทั้ง7 เพราะเทอมที่ผ่านมาถือว่าเจอมรสุมเยอะแยะเลยต้องการพักใจไปหาธรรมชาติ ค่าใช้จ่ายจะรวมตอนท้ายนะ 5วัน4พันก็เอาอยู่สบายๆ

DAY1 : 04/06/17

เริ่มเดินทางจากหัวลำโพง โดยการนั่งนอนตีลังกา รถไฟใหม่เอี่ยมด่วนพิเศษ กรุงเทพ-เชียงใหม่ (เตียงบน 791 ส่วนเตียงล่าง 881) โดยรถออกเวลา18.10 ซึ่งตรงเวลา อย่ามาสายหล่ะไม่งั้นตกรถ... ถ้าคิดว่าตกแน่ๆไปขึ้นสถานีอื่นได้เลยเช่น บางซื่อ ดอนเมือง รังสิต ซึ่งในตั๋วได้บอกว่าถึงเชียงใหม่เวลา 07.25 ซึ่งก็ตรงเวลาเป๊ะ จะว่ารถไฟช้าไม่ได้ละนะทำเวลาสุด 

 

บรรยากาศระหว่างทาง

ตู้เสบียงมีwifi

ถึงเชียงใหม่แล้ววววว....

DAY 2 : 05/06/17

หลังจากลงรถไฟก็ต่อรถแดงไปสถานีขนส่งช้างเผือก โดนลุงหลอกลุงบอกคนละ40ปกติ50 และดูจากประชาสัมพันธุ์เขาบอกว่าก็ไกลอยู่  จริงๆก็ไม่ไกลมาก ยังไงก็ลองต่อราคาดูถ้าคิดว่าแพงก็ไปคันอื่นเลย รถแดงมีเยอะแยะ

หลังจากลงรถแดง ก็ไปซื้อตั๋วรถส้มเพื่อไปอ.เชียงดาว ขึ้นรถเชียงใหม่-ท่าตอน ราคาคนละ40บาท ซึ่งระยะทางไกลมากไม่รู้กี่กิโล แต่นั่งไปก็เกือบ2ช.ม. 

ที่ซื้อตั๋ว

พึ่งรู้ว่ามีเลขที่นั่งข้างหลังตั๋ว

ลงที่โลตัสเชียงดาวตามที่หลายๆคนรีวิวไว้ ซึ่งโลตัสเชียงดาวเป็นโลตัสเอ็กเพรสเล็กๆจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ บอกคนเก็บตังก็ได้ถ้าไม่มั่นใจ และต่อรถขึ้นไปบ้านพักของเรา คือบ้านระเบียงดาว และเราได้ผู้ร่วมเดินทางมา 3 คน ลุงรถเหลืองคิดคนละ 50บาท ตอนแรกก็รู้สึกแพง แต่พอขึ้นไปนั้น อือหือ ทางโค้งหักศอกเอย ทางชันเอย โอเคเลยลุง 50บาท จากที่อ่านรีวิวมาเขาบอกว่าถ้า 70บาทขึ้นไปแพงเกิน ก็พวกรถลองๆต่อราคาเอา ถ้าอู่กำเมืองได้อาจจะมีลดอีกนะ 5555 ส่วนใครเมารถแนะนำให้เตรียมยามาด้วยไม่งั้นมีอ้วกแน่ๆ

เหล่าเด็กกะโปลกทั้ง6+คนถ่ายเป็น7

หลังจากมาถึงที่พักก็แยกย้ายเช็คอินซึ่ง บ้านพักที่เชียงดาว ส่วนมากจะราคา 500บาท/คน ซึ่งรวมอาหารเช้าและอาหารเย็น...

อาหารมื้อเช้า + กลางวัน และมื้อแรกในเชียงใหม่5555

ที่พักเราก็เป็นบ้านไม้ พื้นแบบไม้ไผ่ มีที่นอน หมอน และมุ้ง แค่นี้เท่านั้น ไม่มีทีวี ตู้เย็นหรือแม้แต่ปลั๊กไฟ แต่มีไฟให้อยู่นะ ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกข้างที่พัก ซึ่งเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ใครสายชิว สายธรรมชาติน่าจะชอบกัน...

ระหว่างที่เก็บของถ่ายรูป ดื่มด่ำกับธรรมชาติ

ขบวนการเด็กดอกอยากจะ7สีแต่ซ้ำมา1สี

นี่คืออาหารเย็นของเรา อลังการก็รู้สึกเฉยๆกัน...หรอ 5555 บอกเลยว่าอร่อยหรือเพราะหิวไม่รู้ หมด เด็ดสุดก็น้ำพริก เผ็ดได้ใจ 

รู้สึกงั้นๆ....เกลี้ยง 55555

กิจกรรมบริหารสมอง...(ไม่ใช่การพนันนะจ๊ะไม่มีกินตัง555) อีกฟิวนึงท่ามกลางธรรมชาติ

 

ตอนกลางคืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอากาศดี ถือว่ามาฟอกปอดได้ดี หนีจากเมืองกรุงที่วุ่นวายมาอยู่กับธรรมชาติสงบๆมันก็ดีเหมือนกันนะเหมือนได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองสักพัก เพราะสัญญาณมือถือไม่ค่อยมี(ดีแทคไม่มีเลยจ้า) ระหว่างที่นั่งดูดาวก็ได้ยินเสียงกีตาร์เพราะๆจากผู้ร่วมเดินทางที่ขึ้นมากะเรา ถือว่าได้บรรยากาศที่ดีเลยทีเดียว

 

DAY03: 06/06/17

มาถึงตอนเช้า ไก่ขันปลุกตั้งแต่ตี2บอกเลย 5555 ตอนตื่นก็ตี5 ฟ้าสว่างแล้ว หมอกก็เริ่มมาแล้ว ถึงเวลาถ่ายรูป ดื่มด่ำบรรยากาศ พร้อมกาแฟ โอวันตินสักแก้ว ข้าวเช้าเป็นข้าวต้มเติมไม่อั้น

ตี 5 ฟ้าสว่างมาก

ตัวนี้แน่ๆ ขันตั้งแต่ตี2

บรรยากาศรอบๆที่พัก  ตอนเช้าเดินดูหมอกรอบๆหมู่บ้าน หมอกน้อยกว่าที่คิดไว้ แต่มันก็คุ้มอยู่นะ

 

หน้าก็สดหน่อยๆ

ขาลง เราขึ้นรถกระบะ รถชาวบ้านลงไปซื้อของ ลุงคิดคนละ60บาทแพงกว่าตอนขึ้นอีก...แต่ไม่มีรถลงแล้วจึงยอม555 รถกระบะมันเปิดเลยรู้สึกไม่เมารถรู้สึกชอบมากกว่าขึ้นรถเหลืองขึ้นมาเพราะว่ามันเปิดโล้งสัมผัสลมได้อย่างเต็มๆ มองธรรมชาติได้รอบตัว จนลุงขับมาส่งถึงสถานีขึ้นรถแถวนั้นมีตลาดใครอยากแวะเดินเล่นก็เดินเล่นได้เลย ขากลับก็ขึ้นรถส้มเหมือนเดิม ราคาเดิม 40 บาทมาลงที่สถานีขนส่งช้างเผือก และต่อรถแดงเข้าที่พักที่นิมมาน รอบนี้ลุงรถแดงคิดคนละ 20บาท 

บรรยากาศตอนลง

ผู้ร่วมเดินทางแม้จะสั้นๆ พี่เขาก็เหมือนสแตมป์อยู่นะ 5555

ที่พักที่เราจองนั้นคือ lifestyle อยู่นิมมานซอย8 ทางเข้าข้างหน้าเป็นร้านsubway เป็น hostel น่ารักสไตล์ญี่ปุ่นเล็กๆ ห้องที่เราจองเป็นแบบห้องครอบครัว 8 คน เตียง2ชั้น ถือว่าโอเคเลยนะ ในราคา2คืน 3000 ถ้ามากัน8คน ก็ตกคนละ 375บาท ซึ่งในนิมมานที่พักก็จะมีหลายแบบหลายราคา  ที่พักที่นี้เจ้าของเป็นกันเองมาก ความปลอดภัยดีมาก และที่สำคัญห้องครัวใช้ได้มีให้ทั้งไข่ ผัก เครื่องปรุง มาม่า ดีตรงนี้

หลังจากเก็บของก็หิวไปกินข้าว มีหลายร้านเลยในนิมมาน

ชุดแกงฮังเล 55 บาท ถ้วยแกงคือถ้วยน้ำจิ้ม

ท้องอิ่มก็ลุยต่อที่ดอยสุเทพ ซึ่งเราได้เหมารถลุงที่มาส่งที่นิมมาน ลุงคิดคนละ100บาทซึ่งถือว่าดีคุ้ม เพราะว่า ถ้าขึ้นรถที่ขึ้นไปดอยสุเทพ ขึ้นลงก็คนละ80แล้วและต้องรอให้ครบ 10 คนอีกด้วย ลุงมารับที่นิมมานเลย ก็รถแดงลองๆถามราคาเอามาเปรียบเทียบดู 

สภาพตอนขึ้นก็ดีๆอยู่ 

หลังจากนั้นก็ลงมาที่อ่างแก้วมช แวะคาเฟ่อ่างแก้ว ซึงตอนแรกที่เชียงใหม่ ต้นปีนี้เอง ราคายังแก้วละ25อยู่เลย..ตอนนี้ก็...


หลังจากกินลมชมวิวรอเวลา...ก็ไปต่อที่กาดหน้ามอ ก็มีเสื้อผ้าของกิน ปิดมื้อเย็นด้วยบุฟเฟ่ต์ชาบูหมูกะทะ มี159 ไม่รวมน้ำ 189 รวมน้ำรีฟิว ข้างๆมีบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลี ราคาก็เท่าๆกัน บอกเลยว่าเลือกไม่ถูกมีหลายร้าน และกลับเข้าที่พัก

 

DAY4:07/06/17

ถือว่าเป็นวันฟรีๆชิวๆ ตอนเช้า ไปซื้อของฝากที่กาดวโรรสและไปต่อที่ร้านโกเหน่ง ร้านปาท่องโก๋ชื่อดัง ก็ลองแวะไปกิน....

ก็โจ๊กหมู ธรรมดาปกติ แต่ชอบซาลาเปาทอดนะ อร่อยดี

บรรยากาศตอนเช้าของกาดวโรรส

ราคาปาท่องโก๋เท่าที่จำได้ พวกปาท่องโก๋สัตว์ต่างๆ จระเข้ ช้าง ไดโนเสาร์จะราคา 20บาท ส่วนมังกรน่าจะยากตรงหัวเลยตัวละ 30บาท ส่วนแบบธรรมดาก็ตัวละ 2 บาท ส่วนโจ๊กหมูราคา 30บาท ใส่ไข่เป็น 35บาท มีน้ำเต้าหู้ร้อน เย็นแต่จำราคาไม่ได้ว่าเท่าไหร่

และกลับมาที่พักเพราะไม่รู้จะไปไหนและฝนตก มื้อกลางวันก็พึ่งมาม่าที่พัก ทำอาหารกันก็สนุกดีนะไปกับเพื่อนเยอะๆก็ได้อีกฟิวนึง 

  หลังจากกินอิ่มนอนกลิ้งกันสักพักก็อยากไปเดินย่อยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ก็ไปกันเลย โดยนั่งรถแดงไปตอนนี้เริ่มกล้าหาญที่จะต่อราคา ก็เลยต่อจาก20เป็น15บาท ลุงก็พาไปส่งถึงที่ขายตั๋วเลย ค่าเข้ามีบัตรนิสิตก็คนละ50บาท ค่ารถที่วิ่งก็คนละ30บาท แต่เราจะเดินเพราะเรางก เอ้ย ไม่ใช่ อยากชมสัตว์ให้ทั่วถึง ก็เดินตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะไกลกันมาก สรุป เดินขึ้นเขาประมาณ5-6กิโลเลยก็ว่าได้ รู้สึกถึงกล้ามขา 555 จากแผนที่บอกเลยว่าเราเดินหมดเพราะหลง 5555 เดินจนรู้ทุกซอกทุกมุมเลยก็ว่าได้ สวนสัตว์เชียงใหม่ให้พูดตรงๆไม่ค่อยประทับใจนะ เพราะ สัตว์ไม่ค่อยมีน้อยมาก และก็อาจเพราะแต่ละที่มันอยู่ไกลกันเลยดูแลไม่ทั่วถึง อย่างจุดดูเพนกวินเหมือนร้างเลยตอนแรกไม่กล้าเข้าคิดว่าปิด แต่ก็ไหนๆมาถึงเลยเดินสรุปว่าก็เปิดอยู่ แต่อยากให้ทางสวนสัตว์ดูแลให้มากกว่านี้จะทำให้น่ามาเที่ยว

หลังจากนั้นก็กลับที่พักหาไรกิน แถวนั้นมี ร้านสุดยอดบะหมี่ซุปกระดูก อร่อยนะ กระดูกหมูถือให้เยอะคุ้มอยู่ 40บาท แต่ไม่ได้ถ่ายรูป 

DAY 5:08/06/17

ถึงเวลากลับ รถไฟออก08.50 ขากลับลองนั่งกลับดูเป็นแบบนั่งแอร์เบาะคล้ายรถทัวร์อยู่นะ(ราคา641)แค่เป็นแบบเบาะหนัง ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ชอบตรงที่มีพี่พนักงานเหมือนแอร์มาคอยบริการเสริฟน้ำ อาหารเรียกได้ว่าแถบครบ3มื้อเลย

   ซึ่งก็ถึงกรุงเทพประมาณ 19.25 ยาวนาน ปิดทริปแยกย้ายกลับบ้าน

--------------------------------------------------------

สรุปค่าใช้จ่าย

แบบรวมๆที่สำคัญ

เชียงดาว ค่ารถไฟไปกลับ791+641 รถแดงไปช้างเผือก40(แล้วแต่บุญกรรมที่ทำมาอาจจะได้ถูกกว่านี้)+รถส้ม40+ รถขึ้นเชียงดาว 50 +ที่พัก 500 +รถลง60 +รถส้มกลับมาช้างเผือก40 = 2162

ต่อที่นิมมาน ที่พัก3000หาร7 คนละ 429 +รถไปดอยสุเทพ 100 = 529

ไปสวนสัตว์ 15+ค่าเข้า50 + รถกลับ15 = 80

2162+529+80=2771 โดยประมาณ

ถ้าเอาแบบละเอียด

เชียงดาว ค่ารถไฟไปกลับ791+641 รถแดงไปช้างเผือก40+รถส้ม40+ รถขึ้นเชียงดาว 50 +ที่พัก 500 +รถลง60 +รถส้มกลับมาช้างเผือก40 = 2162

ต่อที่นิมมานค่ารถ20 ที่พัก3000หาร7 คนละ 429 +ค่าอาหารกลางวัน 55 +รถไปดอยสุเทพ 100 +บุฟเฟ่ต์180 =784

ไปกาดวโรรส 20+ โจ๊ก 35+ปาท่องโก๋+ซาลาเอา14บาท+สวนสัตว์ 15+ค่าเข้า50+ รถกลับ15+ บะหมี่กระดูกหมู40+ ข้าวเช้า 20+รถมาสถานี 30 = 239

2162+784+239 = 3185 โดยประมาณ