วันหยุดยาวนี้ไปเที่ยวไหนกันดี??? >> สาวเท่ห์ฯ ถามสมาชิกมาทางไลน์ เหนือม่ะ?? ++ แต่เรามีโปรแกรมจะไปตอนปีใหม่นะ... งั้น..ใต้หละ >> ช้านจะกลับบ้านปีใหม่เหมือนกัน ตะวันออก หรือตะวันตก ??? ไม่ไม่ พายุเข้าอยู่ >> สาวสวยเรื่องเยอะ ขอเสนอ ไปอีสาน >>> อึมมมมม ดีดี ไปทัวร์อีสานกัน แต่ไปไหนดี ??? ง้านนนนนน ไป อุ บ ล ฯ กัน >> โก โก โก 

>>> แล้วเราจะไปกันยังไง?? << ... ไปกะน้องมังคุด รถคันเล็กๆของเดอะแก๊งฯ เดินทางคืนวันพฤหัสบดีหลังเลิกงาน

>>> แล้วเราจะไปที่ไหนกัน?? << .... ไปเมืองอุบลฯ แล้วค่อยดูว่าแหล่งเที่ยวใกล้ๆ ที่ไหนบ้าง????

>>> แล้วเราจะนอนที่ไหนกัน?? << ... ง่วงตรงไหน นอนตรงนั้น จะปั๊มน้ำมัน หรือ รีสอร์ทข้างทาง??? หรือกางเต็นท์ และค่อยหาเมื่อใกล้จะมืด 555

>>> แล้วใครจะไปบ้าง??<< ... มีสาวเท่ห์ฯ สาวคิกขุฯ สาวสวยฯ สาวห้าวฯ และสมาชิกใหม่ เจ้าแมวลูกครึ่งจอมซน "ตุรกีกี้" แมวรักสันโดษ ...เอาใจยาก .... จอมดื้อและเจ้าคิดเจ้าแค้น 555555 

เมื่อรู้แผนการที่ไม่มีแผน จุดหมายของเราคือตัวเมืองอุบล กับระยะเวลา 3 คืน 3 วัน ทริปทัวร์อุบล ราด ฉะ ทา นี๊ นี๊ นี๊ จึงบังเกิด ^^

ออกเดินทางเวลาประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง เพราะกว่าจะหลุดจากสภาพการจราจรที่แน่นขนัด เพื่อนร่วมทางเยอะแยะมากมาย ตั้งเข็มทิศขึ้นทางด่วนออกทางบางปะอิน มุ่งหน้าตรงไปสระบุรี (ถึง สระบุรี แล้วเลี้ยวขวา เลี้ยวขวา) ตรงไปทาง บุรีรัมย์ - อุบลราชธานี กะว่าเหนื่อยตรงไหนก็หาที่พัก แต่แล้วก็ไม่รอด แค่เลยออกมาจากสระบุรียังไม่ถึงมวกเหล็ก สาวสวยฯ ก็เริ่มหนังตาหย่อนแล้ว เดอะแก๊งฯ จึงรีบกวาดสายตาหาที่พักที่ใกล้ที่สุดเพราะเวลาในขณะนั้นเที่ยงคืนกว่านิดๆ โชคดีที่มาเจอ "ลีลาวดีรีสอร์ท" ขอแนะนำเลยว่า ยอดเยี่ยม >>> ห้องกว้างขวาง สะอาด ที่สำคัญ เขายังต้อนรับเดอะแก๊งฯ ที่บอกขอพัก 4 คน และ 1 ตัว ในราคาแค่คืนละ 600 บาท ไม่มีบวกเพิ่ม เดอะแก๊งฯ จึงมีที่พักที่จัดได้ว่าสบายมากไป 1 คืน ทีแรกทำใจว่าจะต้องหาจุดกางเต็นท์ที่ไหนดี แต่พวกเราก็ไม่หวั่น เพราะเตรียมพร้อมมากกกก กะถุงนอน เสื้อขนเป็ด ถุงเท้าและผ้าห่ม ของเจ้าโตร่า (ชื่อเล่นของตุรกีกี้) และกระบะทรายสำหรับการถ่ายหนักถ่ายเบาของนาง

หายห่วง!!! นางเป็นแมวตัวผู้ที่น่ารักกกก รักความสะอาดมาก ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง และไม่ก่อกวนร้องเสียงดังให้รำคาญเพราะเดอะแก๊งฯ ทำทัณฑ์บนนางไว้แล้ว ว่าหากซนหรือดื้อจะทิ้งไว้ข้างทางเอาแบบไม่ให้กลับบ้านถูกกันเลย เพราะเราขนเสื้อผ้า อุปกรณ์และอาหารมาให้นางพร้อม ขอบอก สัมภาระเจ้าโตร่า ท้ายรถเกิน 60% เป็นของนาง แต่ทุกครั้งที่เดอะแก๊งฯ จอดรถ นางจะพยายามเอาตัวไปซุกใต้เบาะ และทำตัวเรียบร้อยไม่ส่งเสียงร้องเลย อืมมมม ทำตัวดีมากกกก 5555

ซา - หวัด - ดี - คับ - โผ้ม   ผมชื่อ "เด็กชายตุรกีกี้" ชื่อเล่น "โตร่า" เป็นแมวนักล่าที่กลางวันนอน ... กลางคืนจะออกเดินก่อกวนชาวบ้านและสำรวจทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัว จอมดื้อจอมซน ถ้าเริ่มสนิทกะใคร...พิสูจน์ได้จากการอึและฉี่ใส่ 555555

เดอะแก๊งฯ ตื่นมาพร้อมกับการโดนเจ้าโตร่าเหยียบย่ำและดอมดมทุกซอกทุกมุมกันทุกคน นางคงคิดในใจว่า "อย่าเผลอนะ" 5555 โดยเฉพาะสาวสวยฯ ที่สั่งห้ามไม่ให้นางเข้าใกล้ แต่พอดึกดื่น นางกลับมานอนใกล้ๆ ดมหัวและเดินข้ามตัวไปมาเหมือนจะซุกในผ้าห่มผืนเดียวกันเพราะสาวสวยฯ หลับเหมือนสลบไม่ได้รู้สึกตัวใดๆ 55555

รีบออกเดินทางกันเพราะตื่นสายแล้ว หลังจากดู Google Maps จะใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง โธ่!!!! สาวสวยเรื่องเยอะ สามารถอยู่แล้ว แต่... ตอนนี้ก็จะ 9 โมงแล้ว กองทัพต้องเดินด้วยท้อง สาวเท่ห์บอก เลยโรงปูนขาเข้าตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง ไปนิดนึงจะมีร้านอาหารปักษ์ใต้ที่อาหร่อยอยู่ร้านหนึ่งตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ มีป้ายบอกก่อนถึงประมาณ 2 กิโลเมตร ขอบอก!!!! ร้านนี้รสเด็ดจริงไรจริง แถมน้ำพริกผักสดก็ขึ้นชื่อ ผ่านแล้วต้องแวะ

เสียดายเพราะความหิวบวกรสชาติอร่อย ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตากินจนลืมถ่ายรูป พอนึกขึ้นได้ก็เหลือเฉพาะจาน ก้านของผักและรอยน้ำพริกติดอยู่ขอบถ้วยเท่านั้น ส่วนเจ้าโตร่าหรา !!! นอนนิ่งอยู่ในรถหลับปุ๋ยไปแล้ว เหอะเหอะ

เราขับรถผ่านทางด่วนที่ถือได้ว่าสวยงามที่สุดในประเทศ (ณ เวลานี้) คือ มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน - โคราช ถนนสายมิตรภาพตรงเขื่อนลำตะคอง เสียดายที่เราไม่ได้ขึ้นไปวิ่งด้านบน เพราะไม่รู้จะขึ้นไปยังไง หาทางขึ้นไม่เจอ 5555 แต่รอบหลังจะต้องขึ้นไปลองดู 

รถไม่เยอะเท่าไรแล้ว สาวสวยฯ ขับเรื่อยๆ เลี้ยวขวาไปทางจังหวัดบุรีรัมย์ - สุรินทร์ - ศรีสะเกษ - อุุบลราชธานี ถนนหนทางถือว่าดี แม้จะมีการปรับปรุงพื้นผิวเป็นช่วงๆ แต่ก็ยังสามารถทำเวลาได้ เราวางโปรแกรมกันในรถ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ว่าคืนนี้เราจะไปนอนไหน ระหว่างเขื่อน หรืออุทยาน แต่จุดหมายของเราคือร้านตำกระเทย (อุบลราชธานี) จะตั้งอยู่ในเมืองอุบลฯ เป็นร้านที่น้องที่ทำงานแนะนำว่าพี่มาอุบลต้องแวะนะ เดอะแก๊งฯ เลยจัดเลยจ้า ถ้าหาใน Maps ต้องเลือกร้านตำกระเทยอุบลราชธานี เน้น อุบลราชธานีด้วยนะ เพราะร้านนี้มีสาขาหลายจังหวัด เดี๋ยวจะกลายเป็นไปกินที่สาขาขอนแก่น และต้องวนรถกลับมาอุบลฯ อีก  55555

มาถึงที่ร้านประมาณ 4 โมงครึ่ง ร้านจะเปิดตั้งแต่ 10.30 น. ถึง 21.00 น. ไม่ขอพูดพร่ำแล้ว จัดมาอย่างไว เดอะแก๊งฯ มาถึงปุ๊บ สั่งปั๊บ และอาหารก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะอย่างเร็ว อืมมมม ก็ถือได้ว่า...แซบ คุ้ม ไม่แพง 

อิ่มท้องหละ ต่อไปคือหาที่พัก ส่วนเรื่องเที่ยวที่ไหนค่อยว่ากันต่อ เพราะขณะนี้ท้องฟ้าเริ่มมืด เข้าฤดูหนาวแล้ว เวลา 6 โมงเย็น บรรยากาศและท้องฟ้ามืดสนิทเหมือนเวลา 2 - 3 ทุ่ม นั่นสิ++++ จะพักที่ไหน??? สาวสวยฯ ทำหน้าที่หารายชื่อที่พักและเบอร์โทร สาวคิกขุฯ ทำหน้าที่โทรคุยและต่อรองราคา สาวห้าวฯ ทำหน้าที่ให้กำลังใจและเออออด้วย สาวเท่ห์ทำหน้าที่อนุมัติ ส่วนเจ้าโตร่า ทำหน้าที่นอน และก็นอน 55555

หลังจากต่อรองกันไป 2 - 3 ที่ ตกลงปลงใจที่ "โรงแรมบ้านริมโขงรีสอร์ท" ในทีแรก เราตั้งเป้าว่าจะเข้ามาชมที่พักก่อนแล้วจะไปวัดภูพร้าว กับระยะทางเกือบ 80 กิโลเมตร เพราะอยู่ที่อำเภอโขงเจียม แต่เพราะมืดเร็วจึงเปลี่ยนแผนเป็นจองที่พักไปก่อน (ปกติเดอะแก๊งฯ จะขอชมที่พักก่อนเข้าอยู่) ไปวัดแล้วจึงเข้าที่พัก เพราะระยะทางไม่ไกลกันแค่ 10 กว่ากิโลเอ๊งงงง

ใช้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปชมแม่น้ำสองสีที่วัดโขงเจียมประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ต้องไปกันต่อ เพราะเรายังมีนัดไปถ่ายรูปที่วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว มีชื่อที่ชาวบ้านเรียกสั้นๆ คือ "วัดภูพร้าว" จะอยู่ใกล้เขื่อนสิรินธร อยู่ห่างจากวัดโขงเจียมประมาณ 25 กิโลเมตร 

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือวัดภูพร้าว อยู่ในอำเภอสิรินธร ใกล้กับเขื่อนสิรินธร มีความมหัศจรรย์ทางด้านปะติมากรรมผนังอุโบสถและพื้นตกแต่งอย่างสวยงาม หรือที่ชาวบ้านเรียกกัน คือ "วัดเรืองแสง" เนื่องจากบริเวณอุโบสถจะมีการตกแต่งที่เคลือบด้วยสารฟลูออเรสเซนต์ เพราะสารฟลูออเรสเซนต์จะรับแสงจากพระอาทิตย์ในตอนกลางวันและจะปล่อยพลังงานออกมาในตอนกลางคืน เดอะแก๊งฯ ได้สัมผัสทั้งกลางวันกลางคืน และทดสอบด้วยการใช้ "ไฟฉาย"  ของโทรศัพท์มือถือจ่อใกล้ๆ เพื่อให้เกิดความร้อน และค่อยๆ เขียนเป็นตัวอักษร สวยบ้างไม่สวยบ้าง ก็โปรดให้อภัย เพราะมือสั่นเล็กน้อยด้วยอุณหภูมิที่ลดต่ำลง 5555 

เดอะแก๊งฯ ไปทั้งกลางวันและกลางคืน จึงได้ชมความสวยงามที่แตกต่างกัน ทีแรกนัดแนะกันว่าจะถ่ายรูปในตอนกลางวันไม่เกินครึ่งชั่วโมงนะ เพราะมีโปรแกรมจะไปต่อ แต่จนแล้วจนรอด ใช้เวลากันไปคนละครึ่งชั่วโมงจริงๆ 4 คน ก็ 2 ชั่วโมงพอดิบพอดี ก็เป็นซะอย่างนี้ไง เดอะแก๊งฯ ไม่เคยรีบร้อนอะไร 55555 

เวลาล่วงเลยเที่ยงวันมาแล้ว เดอะแก๊งฯ ท้องเริ่มร้องแข่งกัน สาวสวยฯ ขับรถไปเรื่อยๆ มาเรียงๆ พลันสายตาของสาวเท่ห์ก็ประสบพบกับร้านขายก๋วยจั๊บญวน จอดเลยยยย จอด เพราะหมูยอเมืองอุบลฯ ขึ้นชื่อว่าเป็นของดีของเด็ด งานนี้เลยต้องแวะชิม เราแวะร้านข้างทาง ต่างคนลงจากรถ ตั้งหน้าสั่งกันเต็มที่ เงียบสนิทเมื่ออาหารมาถึง แถมตาลายนิดๆ เพราะเห็นทีแรกเหมือนถ้วยจะเล็ก เกือบจะเป็นกล่องข้าวน้อยฆ่าแม่ซะแล้ว ที่ไหนได้ ถ้วยเบ่อเร่อ 5555 ฟาดเรียบในไม่กี่วินาที ขอบอก หมูยอและก๋วยจั๊บญวน อ า ห ร่ อ ย สมคำเล่าลือจริงจริง

ไปกันต่อ เป้าหมายต่อไป คือ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม กับระยะทาง 40 กิโลเมตร เพียงเพราะความต้องการของสาวคิกขุฯ ที่จะมาแสตมป์พาสปอร์ตของอุทยานฯ เดอะแก๊งฯ จึงวางโปรแกรมระยะสั้นๆ ในรถ

>> เราจะไปเที่ยวและแวะตามเส้นทางที่จะไปอุทยานฯ และกลับไปนอนในเมืองอุบลฯ แล้วจะกลับกรุงเทพในเช้าวันถัดไป<< 

ระหว่างทางผ่าน "เสาเฉลียง" แวะสิคะ รออะไร???  ถือได้ว่าเป็นอีกจุดที่มีความสวยงาม ไม่ได้อยู่ในแผน แต่เป็นจุดที่ต้องผ่าน และเป็นอีกจุดที่ประทับใจ เพราะจริงๆ ถ้าเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินเท้าหลายสิบกิโลเมตร แต่เดอะแก๊งฯ ขอไปทางลัด คือเริ่มจากจุดเริ่มต้นตรงป้ายเสาเฉลียง ลัดเลาะเส้นทางขึ้นเขาไม่ถึง 2 กิโลเมตร ก็ถึงจุดสิ้นสุด คือลานหินแตก 

ระหว่างทางกว่าจะถึงลานหินแตก ระยะทางประมาณ 700 เมตร แต่เดอะแก๊งฯ ใช้เวลาในการเดินชมนกชมไม้ ถ่ายรูปเกือบ 30 นาที อิอิ มีเวลาได้เก็บภาพดอกไม้ป่ามาฝาก 

ระหว่างเดอะแก๊งฯ กำลังหนุกหนานกะการถ่ายรูป ดอกไม้ป่า ลานหินแตก และโพสท่าประจำตัว ลืมเจ้าโตร่าไปสนิท เพราะอยู่ในกระเป๋าเป้อย่างเดียวคงหลับสบาย แต่สักพักได้ยินเสียงฟืดฟาด เลียจมูกจนเป็นคราบ และหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ในเป้ ทำให้สาวห้าวฯ ต้องเหลือบมองไม่สามารถถ่ายรูปได้ เพราะเจ้าโตร่าดื้นเหลือเกิน พอเห็นสภาพ โธ่!!!!! น้องคงร้อนมาก รีบผงกหัวออกมาจากเป้ เดอะแก๊งฯ ตกใจระคนขำ รีบเข้าที่ร่มใต้เงาไม้และพัดวีลมแรงๆ เพื่อให้เย็นกายสบายใจ ก่อนที่จะตัดสินใจไปต่อกันเหอะ เพราะเดอะแก๊งฯ กลายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสุดท้าย อีกแล้ว 5555

หลังจากถ่ายรูปกันจนอิ่มเอมที่เสาเฉลียง เดอะแก๊งฯ วางแผนกันต่อเพื่อให้ทันเวลาที่จะถึงตัวเมืองอุบลฯ ที่ยังไม่ทันมืดมากนัก จึงออกเดินทางต่อเพื่อเข้าไปให้ถึงอุทยานแห่งชาติผาแต้มเพื่อแสตมป์พาสปอร์ตตามวัตถุประสงค์หลัก ^^ และแล้วระหว่างยืนมองแผนที่ท่องเที่ยว มีน้ำตกตาดโตน น้ำตกแสงจันทร์ น้ำตกสร้อยสวรรค์ และ ทุ่งดอกหญ้า รีบออกเดินทางกันดีกว่า เพราะแต่ละที่ไม่ได้ห่างกันมาก ประมาณ 10 - 20 กิโลเมตร ยังพอทันพระอาทิตย์ตกซิน่า+++

เดอะแก๊งฯ ถึงอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ท่ามกลางอากาศที่มีแดดค่อนข้างแรง สาวเท่ห์ฯ + สาวสวยฯ และเจ้าโตร่า ขอรอในรถละกัน หุหุหุ

จึงเป็นหน้าที่ของสาวคิกขุฯ กะสาวห้าวฯ ที่ต้องวิ่งฝ่าแดดแรงไปถ่ายรูปป้ายเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเรามาถึงแล้วจริงๆ แต่ถึงแค่ป้าย 5555 นับวันยิ่งเข้าใจอารมณ์ของผู้สูงอายุที่ชอบถ่ายรูปโพสท่ากับป้ายชื่อของแต่ละสถานที่ จิง จิ๊งงง 

เส้นทางที่จะไปถึงตัวสำนักงานอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ผ่าน >>> ....น้ำตกตาดโตน....>>> เดินทางสะดวกเพราะรถสามารถนำเข้าไปจอดใกล้ๆกับน้ำตก และที่น้ำตกตาดโตนจะมีร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มรองรับนักท่องเที่ยว แม้ในช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะเบาบางมากก็ตาม เดอะแก๊งฯ นัดแนะว่าให้เวลาตรงจุดนี้ประมาณ 30 นาที แต่เชื่อสิ!!!! เดอะแก๊งฯ สายถ่ายรูป เวลาเท่านี้ไม่เคยพอต้องขอต่อเวลาอีกหน่อยละกัน 

สงสารก็แต่เจ้าโตร่า ที่ไม่อยากลงจากรถ เพราะยังเข็ดกับอากาศร้อนที่ลานหินแตก 5555 สาวเท่ห์ฯ จึงต้องลากตัวออกจากซอกที่ซุกอยู่ใต้เบาะ เอาซี้++++ ใครแข็งแรงกว่ากัน 5555

เพลิดเพลินไปกับน้ำตกลงรูแล้ว เดอะแก๊งฯ ยังไม่พอใจ เพราะเห็นป้ายแหล่งท่องเที่ยวตลอดข้างทาง แวะสิคะ!!!! ยังมีเวลา ไม่มืดเราจะไม่หาที่นอน 5555

ใจจริงอยากไปทุ่งดอกหญ้า เพราะอยู่ในละแวกเดียวกับน้ำตกสร้อยสวรรค์ เลยไปต่อไป >>>

ระยะทางไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ย้อนกลับเส้นทางหลักที่จะเข้าเมืองอุบลฯ เพราะเดอะแก๊งฯ ไปแบบตามอำเภอใจของเราเอง อยากแวะ อยากพัก อยากหยุดที่ไหน ก็จัดไปปปปป 

ถึงแล้ว น้ำตกสร้อยสวรรค์ แต่มีทางแยกไปทุ่งดอกหญ้า เดอะแก๊งฯ จึงขอเลี้ยวขวาไปทุ่งดอกหญ้าก่อนละกัน สาวสวยฯ  ที่มักจะมีความจำสั้น ชอบเปลี่ยนชื่อสถานที่และแม้แต่ชื่อเพื่อนๆ เป็นประจำ รอบนี้จึงตั้งชื่อใหม่ว่าทุ่งดอกไม้ป่าซะงั้น เหอะเหอะ ความจำสั้นแต่รักฉันยาวจริงๆ 55555

เมือถึงบริเวณทุ่งดอกหญ้า พื้นดินยังคงชุ่มไปด้วยน้ำที่ไหลลงมาเป็นทางจากธารน้ำใกล้ๆ แม้ดอกไม้ป่าจะยังไม่อวดโฉมให้เห็น แต่ดอกหญ้าก็เต็มพื้นที่ มีหรือจะหลุดเฟรมกล้องของบรรดาสาวๆ เดอะแก๊งฯ ไม่เคยหวั่นแม้จะไม่มีอะไร แต่ในสายตาของเดอะแก๊งฯ ธรรมชาติย่อมสวยงามสดสวยที่สุด จึงได้กันไปคนละหลายสิบรูป 5555 จะเรียกได้ว่าเป็นแก๊งฯ ที่บ้าถ่ายรูปต้นไม่ใบหญ้ามั๊กกกมากกกก 5555

หนุกหนานกันจนเหนื่อย เลยต้องพักแป๊บ ก่อนลุยต่อน้ำตกสร้อยสวรรค์ >>>>

เดอะแก๊งฯ มาทริปรอบนี้ ไม่ได้หอบหื้วกล้องถ่ายรูปมา ทำให้สาวเท่ห์ฯ และสาวห้าวฯ บ่นอุบ คิดถึง >>> ก ล ้ อ ง ตั ว ใ ห ญ่<<< แต่แค่มือถือรูปก็เต็มอัลบั้ม เป็นพันๆ รูป แล้ว เหอะเหอะ ^^

เดอะแก๊งฯ ตื่นตั้งแต่เช้า แต่กว่าจะได้ออกจากที่พักก็เกือบ 8 โมง ก่อนกลับจึงขอแวะไหว้พระธาตุ ที่วัดพระธาตุหนองบัวเพื่อเป็นศิริมงคลก่อนกลับกรุงเทพ เส้นทางอยู่ไม่ไกล อีกอย่างยังมีร้านขายของฝากอยู่ในเส้นทางอีกด้วย เดอะแก๊งฯ ไม่เคยหวั่น แม้จะใช้เวลาประมาณ 7 - 8 ชั่วโมงในการเดินทาง และต้องฝ่าสภาพการจราจรที่รถต้องติดอย่างหนัก เรื่องเที่ยว เรื่องแวะ ขอให้บอก!!! ถ้าตะวันไม่ตกดิน เดอะแก๊งฯ กลับบ้านไม่ถูก 5555

เอกลักษณ์ของเมืองอุบลฯ คือเทียนพรรษาที่งดงาม เห็นแล้วต้องอึ้ง ทึ่ง แต่ไม่เสียว 5555 ถือได้คุ้มค่ามากก 

บริเวณรอบวัดก็วิจิตร เกินคำบรรยาย โดยเฉพาะตรงจุดพญานาคทั้ง 2 ตัว ยิ่งได้เข้าไปชมใกล้ๆ สวยงามมาก 

กลับบ้าน จริงๆ แล้ว สงสาร!!! เจ้าโตร่า ที่เหมือนจะพามาทรมาน แต่จุดประสงค์หลัก คือ ต้องการพามาเปิดโลก ในเมื่อมาเป็นแมวของเดอะแก๊งฯ แล้ว ต้องมีความ อึด ถึก และทน ต่อทุกสภาวะการณ์ 5555 แต่ก่อนกลับ เจ้าโตร่า คงเก็บความแค้นไว้มานาน พอได้จังหวะที่เดอะแก๊งฯ บอก ไ ป ก ลั บ บ้ า น กั น >>> เจ้าโตร่าเลยฝากรัก ทั้งกลิ่นและภาพ ไว้ให้กับสาวห้าวฯ ที่หันไปเห็นจังหวะกำลังขยับก้นในกระบะทราย พอดิบพอดี เห้ยยยยย!!! สาวห้าวฯ ร้องเสียงหลง >>> ไม่ถึง 1 วินาที กลิ่นอุจจิของเจ้าโตร่า ก็โชยยยย เต็มคันรถ หึมมมมม!!!! งานนี้ตัวใครตัวมัน เสียงหัวเราะบวกกับเสียงอ้วก ก่อนนี้น้องนางเจ้าโตร่าจะเขินซุกหน้าหนีบใต้ท้องแขนสาวเท่ห์ฯ แต่ยังหันก้นงอนๆ มาเย้ย งานนี้แก้แค้นกันแบบนี้ใช่ไหมมมมม อึมมมมม!!! เจ็บนี้อีกนาน เจ็บนี้ไม่ลืม เจ็บลึกกว่าเคย เจ็บช้ำกว่าใคร เกินกว่าใคร