Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
แก่งตะนะ มหัศจรรย์หินนิลดำกลางลำน้ำมูล อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ (Kaeng Tana National Park) จ.อุบลราชธานี
    • Posts-1
    theTripPacker •  September 13 , 2013

    "อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ” สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทย ตั้งอยู่ในเขตอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี แก่งตะนะแห่งนี้มีพื้นที่โดยรอบประมาณ 50,000 ไร่หรือ 80 ตารางกิโลเมตร และมีสภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงสลับกับเนินเขาเตี้ย ๆ แก่งตะนะแห่งนี้ยังถือได้อีกว่า เป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุดและมีความสวยงามที่สุดอีกแห่งหนึ่งใน ประเทศไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนในเขตอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานีจะพลาดชมไม่ได้เลย


    • Posts-2
    theTripPacker •  September 13 , 2013

    สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเข้าชมบริเวณอุทยานฯ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเข้าชมพื้นที่ 20 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และเด็ก 10 บาท ซึ่งจุดเด่นของแก่งตะนะที่นักท่องเที่ยวนิยมไปชมกันก็ คือ โขดหินทรายขนาดน้อย - ใหญ่ สีนิลดำ ที่โผล่ขึ้นมาเป็นเกาะกลางลำน้ำมูล และมี โบก หลุม ซอก หลืบ ที่เกิดจากกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากของลำน้ำมูล ไหลกัดเซาะลงไปตามร่องหิน กระจายให้เห็นอยู่เต็มพื้นที่ ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านจะเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “แก่งมรณะ” อันเนื่องมาจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากจนมักจะทำให้เกิดอุบัติเหตุเรือล่ม อยู่บ่อยครั้ง ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “แก่งตะนะ” ที่มาจากภาษาเขมร ซึ่งหมายถึงเครื่องดักจับสัตว์นั่นเอง

    • Posts-3
    theTripPacker •  September 13, 2013
    • Khumsuwan  วาจะแวะ แตเวลาไม่พอ ต้องไปอีกแน่ 02 March 2016 22:28:51
    • Posts-4
    theTripPacker •  September 13 , 2013

    สำหรับการเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะแห่งนี้ นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเลือกเดินทางได้ทั้งทางรถยนต์และทางเรือ โดยทางรถยนต์สามารถเลือกได้ 2 เส้นทางคือ

         1. เส้นทางแก่งตะนะฝั่งขวา โดยเมื่อมาถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร ให้แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2173 ที่ไปช่องเม็ก เมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 73 บ้านคำเขื่อนแก้ว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2296 จนสุดทางก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะหรือแก่งตะนะฝั่งขวา ที่มีระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร

         2. เส้นทางแก่งตะนะฝั่งซ้าย โดยเมื่อมาถึงอำเภอพิบูลมังสาหารให้เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานพิบูลมังสาหาร 200 ปี ไปตามเส้นทางโขงเจียม และก่อนถึงโขงเจียมประมาณ 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวขวาที่สามารถเข้าไปยังอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะฝั่ง ซ้ายได้ โดยเส้นทางนี้จะมีระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตรเช่นกัน แต่นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นแก่งตะนะ ได้อย่างชัดเจนและสวยงาม โดยหินต่าง ๆ จะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาทางด้านนี้ มากกว่าเส้นทางแรก

    นอกจากนี้ หากนักท่องเที่ยวท่านใดที่เลือกการเดินทางโดยวิธีล่องเรือ ท่านก็จะได้ชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านสองฝากฝั่งแม่น้ำโขงและแม่น้ำ มูล รวมถึงร่องรอยของอารยธรรมขอมยุคเจนละ ซึ่งมีให้เห็นกันอยู่ตลอดริมฝั่งแม่น้ำมูลระหว่างทางไปแก่งตะนะได้อีกด้วย และสำหรับเรือที่คอยให้บริการนักท่องเที่ยวนั้น สามารถติดต่อได้ที่ท่าเทียบเรืออำเภอโขงเจียม โดยเรือที่มีให้บริการจะเป็นเรือหางยาวแบบเช่าเหมาลำมีหลังคา ซึ่งให้ความสะดวกสบายในการเดินทางแก่นักท่องเที่ยวได้พอสมควร ส่วนสนนราคาก็คิดแบบเหมาจ่ายลำละ 1,000 บาท ซึ่งสามารถนั่งได้ถึง 12 คนเลยทีเดียว

    • Posts-5
    theTripPacker •  September 13, 2013
    • Posts-6
    theTripPacker •  September 13 , 2013

    อ้อ... ทิ้งท้ายไว้สักนิดสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนแก่งตะนะแห่ง นี้ว่า นักท่องเที่ยวควรเลือกมาเที่ยวในช่วงฤดูน้ำลดคือ ประมาณปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการมาดูแก่งตะนะที่โผล่ขึ้นกลางลำน้ำมูล เพราะหากมาในฤดูน้ำหลาก แก่งหินเหล่านี้จะจมอยู่ใต้น้ำจนทำให้นักท่องเที่ยวอดเห็นความงามที่ ธรรมชาติรังสรรค์ไว้ก็ได้นะเออ...

    • Posts-7
    theTripPacker •  September 13, 2013
    • Strong point:
    • หินทรายขนาดน้อย - ใหญ่ สีนิลดำ ที่โผล่ขึ้นมาเป็นเกาะกลางลำน้ำมูล และมี โบก หลุม ซอก หลืบ ที่เกิดจากกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากของลำน้ำมูล ไหลกัดเซาะลงไปตามร่องหิน กระจายให้เห็นอยู่เต็มพื้นที่
    • Weak point:
    • การเดินเที่ยวชมแก่งตะนะในเวลากลางวันจะมีอากาศร้อนมาก เนื่องจากหินได้สะสมความร้อนจากแสงแดดเอาไว้ ดังนั้นควรเตรียมอุปกรณ์กันแดดติดด้วยไว้ด้วย หรืออาจเลือกมาเที่ยวในช่วงเย็นแทนก็จะดีกว่า
    • Conclusion:
    • แก่งตะนะเป็นแก่งหินสีนิลดำ ที่มีความงดงามมากอีกแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเส้นทางการเที่ยวชมแก่งหินได้ทั้งทางบก และทางน้ำ ซึ่งแต่ละเส้นทางก็จะได้เห็นความงดงามที่ต่างกันออกไป
    Score
    • Posts-8
    theTripPacker •  September 13 , 2013

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

    เบอร์ติดต่อ : 045 406 887-8

    แฟกซ์ : 045 406 888

    อีเมลล์ : reserve@dnp.go.th

    Website : อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

    ค่าธรรมเนียม : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท / ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก

    ช่วงเวลาแนะนำ : ช่วงที่น้ำลด ประมาณเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์

    ไฮไลท์ : หินนิลดำขนาดใหญ่กลางลำน้ำที่จะได้เห็นก็ต่อเมื่อถึงเวลาหน้าแล้งที่น้ำในแม่น้ำมูลเหือดแห้ง

    กิจกรรม : ล่องเรือชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมแม่น้ำ

    • Posts-9
    theTripPacker •  September 13 , 2013

    วิธีการเดินทาง

    ทางรถยนต์สามารถเลือกได้ 2 เส้นทางคือ

         1. เส้นทางแก่งตะนะฝั่งขวา โดยเมื่อมาถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร ให้แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2173 ที่ไปช่องเม็ก เมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 73 บ้านคำเขื่อนแก้ว ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2296 จนสุดทางก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะหรือแก่งตะนะฝั่งขวา ที่มีระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร

         2. เส้นทางแก่งตะนะฝั่งซ้าย โดยเมื่อมาถึงอำเภอพิบูลมังสาหารให้เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานพิบูลมังสาหาร 200 ปี ไปตามเส้นทางโขงเจียม และก่อนถึงโขงเจียมประมาณ 4 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวขวาที่สามารถเข้าไปยังอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะฝั่งซ้ายได้ โดยเส้นทางนี้จะมีระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตรเช่นกัน แต่นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นแก่งตะนะ ได้อย่างชัดเจนและสวยงาม โดยหินต่าง ๆ จะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาทางด้านนี้ มากกว่าเส้นทางแรก

    หรือสามารถเลือกการเดินทางโดยวิธีล่องเรือ สามารถติดต่อได้ที่ท่าเทียบเรืออำเภอโขงเจียม โดยเรือที่มีให้บริการจะเป็นเรือหางยาวแบบเช่าเหมาลำมีหลังคา ซึ่งให้ความสะดวกสบายในการเดินทางแก่นักท่องเที่ยวได้พอสมควร ส่วนสนนราคาก็คิดแบบเหมาจ่ายลำละ 1,000 บาท ซึ่งสามารถนั่งได้ถึง 12 คน

    • Posts-10
    theTripPacker •  September 13, 2013
  1. View more