ตอนแรกเราตั้งใจจะออกเดินทางตอนสี่ทุ่มของวันที่ 27 แต่หลับเพลินไปหน่อย ตื่นมาอีกที่เกือบตีหนึ่ง รีบขนของไปที่รถอย่างเร็ว แวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท. วิภาวดี ลืมบอกไป เราไปกับแฟน ขับรถไปเองจากกรุงเทพ

เราไปเริ่มสว่างที่กำแพงเพชรหรือที่ตากเนี่ยแหละ 555 จำไม่ค่อยได้ หมอกบนภูเขาระหว่างทางสวยมาก

 

จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ จอดปั๊มแถวๆกำแพงเพชร นอนไปครี่งชั่วโมง เลยไปถึงเชียงใหม่เกือบๆเที่ยง

แฟนอยากกินอาหารเหนือ เลยตามรอยรีวิวไปร้าน "ถึงเชียงใหม่" อยู่ใกล้ๆวัดอุโมงค์ อาหารอร่อยดี ราคาไม่แรง เรากินข้าวเสร็จก็เกือบๆจะสองโมงแล้ว วันนี้เราวางแผนไว้ว่างจะไปนอนที่ห้วยน้ำดัง ระยะเวลาใน GPS บอกว่า 2 ชั่วโมงจากตัวเมืองเชียงใหม่

พอเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 1095 ขับไปสักพัก ทางเริ่มโค้งชัน ขนาดเราไปหลายรอบแล้ว ยังหวั่นๆ เริ่มชันมากขึ้น หมอกเริ่มหนา ต้องเปิดไฟหน้ารถขับ

และแล้วเราก็มาถึง อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เสียค่าเข้า 2 คน รถยนต์ 1 คัน รวมแล้ว 130 บาท

พอเข้ามาจะมีทางแยกถ้าตรงไปจะไปลานกางเต็นท์ เลี้ยวขวาจะเป็นจุดชมวิว เราตรงไปเพราะจะไปกางเต็นท์ เสียค่ากางเต็นท์อีกคนล่ะ 30 บาท ไปถึงเรารีบกางเต็นท์เลย เพราะจะมืดแล้ว หมอกหนามาก และหนาวมากๆเช่นกัน

ตรงนี้เราจอดรถเพื่อลงไปเสียค่ากางเต็นท์ เวลาน่าจะประมาณ ห้าถึงหกโมงเย็น ไม่มีแสงแดดแม้แต่น้อย หมอกหนามากๆ คืนนี้เราจะกางเต็นท์ที่ลาน D เราพกเตาแก๊สปิคนิคมาด้วย ตอนกลางคืนเลยต้มน้ำกินโจ๊กกระป๋องกัน ยิ่งดึก ยิ่งลมแรง พัดหมอกมาด้วย หนาวสุดๆ

บรรยากาศประมาณแปดโมงเช้า หมอกยังหนา ที่จอดรถอยู่ด้านบน ด้านขวาจะเป็นร้านขายของ ตอนเช้าเท่าที่เดินไปดูจะมีขนมปังปิ้ง ซาลาเปา กาแฟ ไข่ลวก

จุดชมวิวมองไม่เห็นอะไรเลย หมอกหนาสุดๆ อากาศไม่หนาวเท่าไหร่ ยังพอมีดอกไม้สวยๆให้ถ่ายรูปอยู่บ้าง

เราออกเดินทางการต่อไปที่ปาย ใช้เวลาเกือบๆ1ชั่วโมง ก็ถึงแล้ว คืนนี้เราจะไปกางเต็นท์นอนกันที่ ลานกางเต็นท์ "คุ้งน้ำปาย"

ลานกางเต็นท์ที่นี่ถ้าต้องการติดริมแม่น้ำ ต้องโทรจองล่วงหน้าก่อน ตอนเราไปที่ริมแม่น้ำเต็มหมดแล้ว เราเลยเลือกที่ตรงกลาง เพราะใกล้ห้องน้ำ

ห้องน้ำที่นี่มีน้ำอุ่น ซึ่งห้องน้ำแยกชายหญิงกัน ห้องอาบน้ำ 2 ห้องส้วม 2 มีทางเดินปูนไปห้องน้ำ มองเห็นทางสะดวกดีตอนกลางคืน ลืมบอกไปอีกอย่าง เราเอามอไซต์ขึ้นกระบะไปด้วย เอาไว้เผื่อขี่ไปเที่ยว

กางเต็นท์เสร็จ เราขี่มอไซต์ไปเที่ยวน้ำพุร้อนท่าปายกัน  ไม่ต้องเสียค่าเข้าด้วย เพราะเรามีตั๋วอุทยานจากห้วยน้ำดังมาด้วย ตอนเราไปเจ้าหน้าที่แจ้งว่าห้วยน้ำดัง โป่งเดือด ใช้ตั๋วร่วมกันได้  งานนี้เข้าฟรี 5555

แต่ล่ะบ่อ อุณหภูมิจะแตกต่างกัน บ่อล่ะ 1 องศา สูงสุดน่าจะ 36 องศานะ

เราแวะสะพานประวัติศาสตร์ปายก่อน เสร็จแล้วขับมาเรื่อยๆ เจอป้ายเขียน กองแลน อยู่ทางซ้าย เลยแวะเข้าไปดู ที่นี่ไม่เสียค่าเข้า มีทางให้เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ สำหรับเราก็เหนื่อยพอสมควร ถึงข้างบนแทบเป็นลม เราไม่ได้เดินไปไกลมาก แค่ดูอยู่ห่างๆ เพราะสูงมาก 555+

ออกจากกองแลนมา ขับไปก็เจอป้ายน้ำตกแพมบกทางซ้าย เลยเลี้ยวเข้าไปดู เข้าไปตามทางเจอป้าย Land Spit เลยแวะดูสักหน่อย ที่นี่น่าจะเป็นของชาวบ้านท้องถิ่น เป็นรอยแยกแผ่นดินบนเนินเขา ค่าเข้าแล้วแต่จะให้ มีน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆบริการนักท่องเที่ยว เริ่มมืดแล้ว เราเลยตกลงกันว่าไม่ไปน้ำตกแล้ว จะไปกินข้าวแทน

มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองปาย ไปกินข้าวที่ร้าน “สันติชล.  ร้านนี้เป็นร้านประจำ เรามากี่ครั้งก็มากินร้านนี้ แล้วเราก็ไปเดินถนนคนเดินต่อ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ อากาศก็ไม่เย็นมาก แล้วก็กลับมานอน

ตอนเช้า เราทำอาหารเช้ากินกัน ประหยัดไปอีก 1 มื้อ 555+ วันนี้เราตั้งใจว่าจะไปสะพานบุญ หลังจากเมื่อวานจะไปแต่ท้องฟ้ามืดแล้ว

ทางไปจะค่อยข้างขรุขระนิดหน่อย มีโค้งเดียวที่ชัน ที่นี่มีร้านกาแฟด้วย ตอนเราเลยฤดูเก็บเกี่ยวไปแล้ว เลยเห็นแต่ต้นข้าวแห้งๆ

แล้วเราก็รีบกลับมาเก็บของ วันนี้เราจะไปนอนอินทนนท์กัน

ออกจากปายมาก็เกือบบ่ายโมงล่ะ เปิด Google ดูเส้นทาง เจอเส้นทางที่ตัดเข้าอินทนนท์ได้เลย เราเลยเลือกทางนั้น ปาย-กัลยาณิวัฒนา-สะเมิง-อินทนนท์ ถนนช่วงกัลยาณิวัฒนาทำเสร็จแล้ว ตอนเรามาเมื่อพฤษภา ยังเป็นดินแดงอยู่เลย 

ทางที่เรามาทั้งชัน ทั้งลื่น ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่มาทางนี้ เส้นทางที่เราใช้จะไปสิ้นสุดตรงแยกสถานีอนามัยพอดี

คืนนี้เรานอนที่นี่ เป็นที่ประจำที่ทุกครั้งที่มาต้องมากางเต็นท์ที่นี่ ถือว่าคนไม่เยอะมาก มีลำธารไหลผ่าน อยู่ก่อนถึงชลธารนิดนึง

ตอนเช้าเราตั้งใจจะขึ้นยอดดอยตอนตีห้า แต่ฝนดันตกตอนตีสี่ กว่าจะหยุดก็ปาไปเกือบๆหกโมง เราเลยได้ขึ้นมาตอนเจ็ดโมงกว่าๆ รถเยอะมากๆ เหม็นกลิ่นเบรก กลิ่นคลัช ตลอดทาง

วันนี้โชคไม่ดี ฟ้าไม่เปิด หมอกหนาจนมองไม่เห็นวิว เราไปต่อแถวเข้าคิวเดินกิ่วมาปาน ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงคิวเราแล้ว

เริ่มออกเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติตอนแปดโมงครึ่ง หมอกที่ปกคลุมต้นไม้ มีเพียงแสงอ่อนๆไปส่องลงมา สวยงามเหมือนอยู่ในฝันเลย เราเดินมาจนถึงจุดชมวิว จุดที่ 9 คนเยอะมาก และมองไม่เห็นวิวเช่นกัน บางคนมาแค่จุดที่ 9 ก็เดินกลับทางเดิม แต่เราจะเดินจนครบ 21 จุด ทางเดินจะวนกลับไปทางออก

จุดนี้กว่าจะถึงทางออกอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ทางเดินราบยังไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ แต่พอชันขึ้นเริ่มไม่ไหว ไกด์ให้พักตลอดทางเลย 555+ จนเดินมาถึงทางออก เราก็จ่ายค่าไกด์ กลุ่มล่ะ 200 บาท จากนั้นก็ลงมาตลาดม้งหาข้าวกิน แล้วเราจะไปพระตำหนักดอยผาตั้งต่อ ทางไปจะเป็นแยกตรงตลาดม้งให้ไปทางซ้าย ไปเรื่อยๆก็จะเจอพระตำหนัก

ตอนเราไปฝนตก หลบในศาลา เจอแกะกำลังเดินกลับพอดี เราติดฝนอยู่ข้างบนนี้สักพัก พอฝนหยุดเลยรีบลงมาเก็บของ คืนนี้เราจะไปนอนที่กำแพงเพชร เพราะกลัวขากลับกรุงเทพรถติด เลยจะไปให้ได้ไกลที่สุด

เราออกจากอินทนนท์ประมาณสี่โมงกว่าๆ เปิด Google ดูเส้นทางที่ใกล้ที่สุด เลยได้เส้นทาง จอมทอง-บ้านโฮ่ง-ลี้-เถิน เราถึงช่วงเส้นทางลี้-เถิน เริ่มมืดล่ะ ตอนแรกถนนยังเป็นทางปกติ พอเริ่มใกล้เข้าเถิน จากถนนตรงๆ กลายเป็นโค้งแคบๆ กว่าจะผ่านเส้นทางช่วงนั้นใช้เวลาไปเกือบๆ1ชั่วโมง เราไปถึงกำแพงเพชรก็สี่ทุ่มล่ะ คืนนี้เรานอนที่พักชื่อ บ้านดิน บารมีรีสอร์ท คืนล่ะ 400 บาท มีกาแฟตอนเช้าให้ ทั้งเหนื่อยทั้งง่วงมากลืมถ่ายรูปห้องพักให้ดูเลย

เราออกจากกำแพงเพชรตอน 11 โมง รถยังไม่ติด แต่เริ่มเยอะ แวะซื้อของฝากแม่กุหลาบ พอสุดทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ เราดูในแผนที่แล้ว รถเริ่มติดล่ะ เลยหาเส้นทางอื่น  เดาๆเส้นทางไปเข้าอุทัยธานี ผ่านวัดปากคลองมะขามเฒ่า เข้าสิงห์บุรี ผ่านโรงเรียนอินทร์บุรี เข้าสุพรรณบุรี ออกบางเลนนครปฐมแวะเอาของให้พี่แล้วกลับ กทม. ถึงกทม.ประมาณสองทุ่ม เส้นทางนี้รถไม่ติดเลย อาจมีชะลอบ้างช่วงที่มีชุมชน ทริปนี้ระยะทางประมาณ 1800 กิโลเมตร ค่าน้ำมันทั้งหมด 3700 บาท จบทริปลัดเลาะแหลกอย่างสมบูรณ์