:)
ขอบคุณที่เปิดเข้ามา ขอบคุณล่วงหน้าที่อ่านนะคะ ^^ ถ้าไม่ชอบหรือคำมันไม่ค่อยโอเคก็ขอโทษด้วย เขียนจากความรู้สึกจริงๆ มันเป็นเหมือนบันทึกของเรา ที่อยากชวนทุกคนไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง อยากลองชวนให้ไปพักที่อุทยาน มันสนุกจริงๆค่ะ ทุกการเดินทางมักจะมีพรหมลิขิต และมักจะมีเรื่องไม่คาดคิดอยู่เสมอ(เหมือนแบงค์พันที่หายไป..สงสัยลอยทะเล ) ต้องมีหลายรสชาติหลายรูปแบบมันถึงจะติดอยู่ในใจ
Day1 กับ day 2อาจจะคำต่างกัน พิมพ์เรื่องซ้ำบ้าง พวกเราแบ่งกันพิมพ์ตอนอยู่บนเกาะ อยากให้มันเป็นความรู้สึกตอนที่อยู่ที่นั่นจริงๆ อย่าถือสาเลย ^^
→DAY 1 by น้องทราย
ถึงแล้วสมุย วันแห่งการผจญภัย ถึงเกาะปุ๊บก็เหมือนพายุก็ตั้งเค้า แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่... พี่นพร เจ้าถิ่นสมุย เจ้าถิ่นในแง่ของความเก๋า เก๋าทั้งน้ำใจ ทั้งนิสัยใจคอ พี่แกคงเห็นอิสองตัวหน้าตาปะหลาดๆ ยืนงึกๆงักๆ เถียงกันอยู่นาน เลยเข้ามาถามด้วยความสงสารปนลำคาญเสียงแว้ดๆ "น้องจะไปไหนอ่ะ" ดั่งเสียงสวรรค์ ... พี่นพรได้พาเราไปหาเอเจ้นที่ไปหมู่เกาะอ่างทองที่เก๋าที่สุดในเกาะเช่นกัน นั่นก็คือ Samui Island Tour พี่แกบอกว่านี่อ่ะเป็นเจ้าแรกๆของเกาะ วางใจได้ ไม่มีชาร์จแน่นอน ซึ่งก็จริงเพราะเราได้ตั๋ว one day trip* ไปกลับหมู่เกาะอ่างทอง + อาหารกลางวัน ในราคา 900 บาท!!! อื้อหือออ คือมันดีอ่ะค่ะเป่าเปาา (*รายละเอียดโปรแกรม ไม่ใช่สำหรับดำน้ำดูปะการังใดๆ แต่เป็นทริปชมธรรมชาติทะเลใน ที่เกาะแม่เกาะ และจบที่เกาะวัวตาหลับแห่งหมู่เกาะอ่างทอง ส่วนถ้าใครจะพายเรือคายักจะจ่ายเพิ่มในราคา 1200 บาท ) เนื่องจากเราต้องการนอนพักที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งไม่มีเรือโดยตรง สมุย-อ่างทอง ทำให้เราต้องซื้อ One day trip ไปยังหมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งขาไปก็ไปกับทัวร์ ขากลับก็กลับกับทัวร์เช่นเดิมในวันถัดมา ทุกอย่างดูเหมือนจะงดงามลงตัว แต่เรือมีเพียงรอบเดียว คือ 8.30 น. แต่เราไปถึงสมุยตอนนั้นก็12.45 น. แต่ไม่เป็นไร สองสาวผู้ไม่เคยวางแผน ก็ชินและชิวอยู่สมุยไปละกันล่ะคืนนี้ อิอิ 7.15 น. รถตู้ของบริษัททัวร์มารับตรงเวลาเป๊ะ รอบนี้เราทำเวลาได้ดี ไม่ตกรถค้า และได้ไปต่อค้า รถตู้ก็แวะรับนักท่องเที่ยวอีก 2-3 ที่ เต็มรถแล้วจึงมุ่งหน้าสู่ท่าเรือหน้าทอน เรือของบริษัทเป็นเรือใหญ่ค่ะ (ชาวต่างชาติบนเรือก็ so big เช่นกัน 55555) ถึงจะช้าหน่อยแต่ปลอดภัยชัวร์ อิอิ บนเรือมีกล้วย ครัวซองน้ำร้อนชากาแฟให้เบาๆ ตอนเช้าค่ะ ตามเคยค่ะ พอเรามาถึงนั่งปุ๊บยังไม่ทันที่ขุยผ้ากางเกงจะสัมผัสกับม้านั่ง เรือก็ติดเร่งเครื่องบรื้นทันที ถือว่าเรายังชนะในแคมเปญ เลทตลอดกาล อยู่ค่าา 55555 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง มาถึงเกาะแม่เกาะ มีจุดชมวิวคือทะเลใน 1ใน3 ของประเทศเชียวนะเออ แต่ไม่ใช่สาระของเราไปต่อโล้ดด ในที่สุดเราก็มาถึงแล้ววว เกาะวัวตาหลับ ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่เกาะอ่างทอง เป็นที่ตั้งของอุทยานซึ่งเราจะพักกันเกาะนี้นั่นเองง พอมาถึงเราก็ไม่รีรอรีบไปติดต่อที่พัก เพราะว่าเมื่อวานเราเบี้ยวไม่ได้มา ซึ่งภาวนาเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีบ้านว่างให้พิงพักตระหนักรู้ซักหลัง พอไปที่สำนักงานของอุทยาน ซึ่งพี่ที่นั่นบอกว่าบ้านทุกหลังถูกจองหมดแล้ว! โอ้แม่เจ้า ท่าจะได้นอนเตนท์จริงๆ ทั้งฝนตกทั้งลม แง พี่เค้าน่าจะสงสารเราสองคน ทั้งที่ทุกหลังถูกจองไว้หมด แต่มีบ้านหลังนึงที่ยังไม่เชคอิน พี่เค้าก็พยายามติดต่อกับบนฝั่งให้ว่า มีเรือกำลังจะออกมารึป่าว เพราะตอนนั้นฝนตกหนักมากกกก ถ้านอนเต้นคงได้นอนเป็นคนขายแตง เย้ย คนแข็งตายแน่ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีอยู่จริงๆค่ะ เหมือนนักท่องเที่ยวจะออกมาไม่ทันเนื่องจากพายุ บ้านหลังนั่นก็เลยตกเป็นของเราค้าา ดีใจสุดฤทธิ์ อยากจะกระโดดม้วนหน้าตีลังกาหกกบ กราบเบญจางคประดิษฐ์งามๆ 3 ที ขอบคุณมากค่าา ส่วนใครที่ห่วงว่ากินอยู่ยังไง ที่อุทยานจะเปิดปิดไฟเป็นเวลาค่ะ แต่น้ำจะใช้ตลอดเลย ส่วนเรื่องการกินนี้แทบไม่ต้องขนอะไรมาเลยค่ะ มีโรงอาหารบนเกาะเลย ซึ่งก็จะเปิดเป็นเวลาเช่นกัน ราคาก็ไม่ได้ถูก แต่ก็ไม่ได้แพงมาก รสชาติอร่อยโอเคเลยค่ะ ใครที่อยากจะขนอาหารไปทำกินกันบนเกาะก็ได้เช่นกันค่ะ แต่ว่าก็ไม่อยากให้เอาไปเยอะ เพราะตอนเช้าพี่ๆทหารต้องเก็บขยะไปทิ้งที่ฝั่งทุกวัน ใช้น้อยๆ ลดภาระของพี่ทหาร เพิ่มความสวยงามของธรรมชาติดีกว่าเนอะ
→DAY2 by น้ำรถเมล์
จากแพลนการดูพระอาทิตย์ขึ้น ก็เป็นไปตามระเบียบคือไม่ทัน หกโมงครึ่งทุกคนต่างสะดุ้งจากเตียง แปลงร่างหาข้าวเช้า เมนูวันนี้เป็นเบรคฟาสเบาๆ แต่ด้วยความใจดีของพี่ๆและความโชคดีของเรา ก็ได้ทานข้าวเหนียวทุเรียนสมใจถ้วยแรกของปีนี้ฟินเวอร์ จากนั้นก็คิดหากิจกรรมสำหรับวันนี้ แต่ด้วยความชะนีอย่างเราๆแต่งหน้าถือกล้องถ่ายวนมันอยู่นั่นแหระค่ะหน้าหาด ส่วนถ้ำ หาดที่อยู่ด้านหลังเกาะนี่ลืมไปเลย สงสัยอยากให้กลับมาอีกรอบ. ระหว่างที่ถ่ายรูปพี่ใจดีของเกาะ(นี่ก็แงดไม่ถามชื่อพี่แกเลย กลัวไม่ประสงค์ออกนามขอเรียกพี่ไอติมละกัน)ก็ชวนเราไปทะเลใน ด้วยความขี้เกียจ(ก็แบบเมื่อวานก็ไปละป๊ะว๊า)ก็ปฏิเสธพี่แกไป แต่คิดไปคิดมาอึ๊ยไปค่ะพี่ (ดีนะเปลี่ยนใจทัน ) ความดีงามมันอยู่ที่เราได้นั่งเรือหางยาวไปค่ะ (โหวมันหายากนะเหวยมันไม่ได้มีเรือเกลื่อนกลาดวิ่งสวนไปมาเหมือนบางที่) แบบเหมือนทั้งทะเลเป็นของฉัน. รัวกล้องสิคะ พอถึงเกาะแม่เกาะ (ที่มีทะเลในนี่แหระ) เหมือนแบบมาเกาะส่วนตัวเวอร์เพราะพวกทัวร์กว่าจะมาถึงก็10โมงได้. เราก็ปีนไปจุดชมวิวอีกสักรอบ แต่รอบนี้ไม่มีเสียงรบกวน ไม่ต้องแย่งชิง โดนกดดัน การถ่ายรูปล้านแปดของพวกเรา. ถ่ายเสร็จก็ลงมาพักซักหน่อยพี่ไอติมแกก็เอาน้ำ เอาลิปตันมาให้. สักพักก็เอาไอศกรีมมาให้เพราะเห็นว่าเราไม่ได้เล่นน้ำ คือฟินอ่ะ พี่ๆเจ้าหน้าที่ก็น่าร๊ากชวนคุยด้วย ขากลับเราอยากกลับเร็วอ่ะแหระ (เพราะรอกลับพร้อมทัวร์จะช้ากว่า แถมอยากกินแกงเลียงที่อุทยานมากกว่า ) ก็มีพี่เจ้าหน้าที่มารับโหวเป็นสปีทโบ๊ทนะเหวย ดีเวอร์. หลังจากกลับมาถึงที่เกาะวัวตาหลับที่พักของเรา ต้องรีบกลับมาเก็บของอาบน้ำแล้วค่ะเดี๋ยวไม่ทันเรือกลับสมุย(แล้วก็ต้องรีบเชคเอาท์ด้วยค่ะเดี๋ยวโดนดุ อิอิ) ช่วงนี้ไฟจะยังใช้ไม่ได้นะคะ ก็เลยต้องเอากล้องมาชาร์จที่อุทยาน (พี่แกพูดดีมากๆจะจับกระเป๋ายังขออนุญาติเลยทั้งๆที่เราไปขอชาร์จ น่ารักเวอร์) เก็บของทุกอย่างเสร็จก็ออกมาทานข้าว ระหว่างนั้นสงสัยจะอยากให้อยู่ต่อ(นี่จะเปลี่ยนใจอยู่หลายรอบมาก) ลมพัดแรงมาก ฝนก็ตกลงมาแต่ไม่ได้แรงอะไรมาก .......ฝนหยุดเราก็ได้กลับสมุยอย่างปลอดภัย (ขอบคุณพี่ไอติมที่มาส่งกระทั่งขึ้นเรือ ขอบคุณพี่ๆเจ้าหน้าที่ทุกคนนะคะ หวังว่าปีหน้าพวกหนูจะได้กลับมาอีก อย่าลืมพาไปเกาะที่เหลือตามสัญญานะคะ )
ปล.บ้านพักอุทยานเดี๋ยวนี้จองง่ายมากผ่านเว็บโอนกรุงไทย ราคาสบายกระเป๋า ปริ้นท์ใบไปยื่นแค่นี้พี่เจ้าหน้าที่ก็พาไปบ้านเลยคร๊า แต่อย่าลืมจองล่วงหน้านะคะ เผื่อไม่โชคดีแบบเราได้นอนเต็นท์น๊า
ส่วนเรื่องของกินขนม เครื่องดื่ม ร้านที่อุทยานก็มีหมดน๊า ไม่ได้อัพราคาเวอร์วังอะไร นักศึกษาแบบเรายังไหวคร๊าไม่ต้องบ้าหอบฟางหอบไป จะได้เที่ยวสบายๆ
เจอกันปีหน้าน๊าสุราษ ไปแล้วลันตารอหนูอยู่