สวนดอกไม้ใต้ทะเล @ ชุมพร เมืองนี้มีของดีต้องห้ามพลาด
ชุมพร หนึ่งใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด ของแคมเปญกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวเมืองรอง นำเสนอโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประจำปี 2558 ผมเองมีความคิดอยากเที่ยวทะเลชุมพรมานานแล้วล่ะ ว่ากันว่าที่นี่หาดทรายสวย ใต้ทะเลสมบูรณ์เกินกว่าจะถูกมองให้เป็นแค่เมืองผ่าน แต่ยังไม่เคยสบโอกาสเหมาะสักที กระทั่งได้รับคำเชิญจาก กลุ่มสารสนเทศการตลาด ททท. ให้ร่วมเดินทางไปกับโครงการ Chill Out Thailand เมื่อปลายเดือนสิงหาคม เลยสมใจโดนทะเลชุมพรกับเขาบ้าง ขอบอกเลยว่าเล่นเอาตะลึงตึงตึง!
ทริปนี้ความจริง ททท. เขาพาเที่ยว เพชรบุรี-ประจวบ-ชุมพร แต่ผมขอแยกภาครีวิวมาเล่าสู่กันฟังเป็นตอนๆ จะได้รวมสถานที่น่าสนใจเป็นกลุ่มเดียวกันเหมาะสำหรับเวลาเราเที่ยวเองนะครับ เริ่มกันที่ชุมพรนี่แหละ เพราะเป็นอะไรซึ่งต้องบอกว่าประทับใจจนน้ำตาแทบไหล (ฮา...) บ้านเรายังมีทะเลสมบูรณ์ขนาดนี้อยู่อีกนะตัวเธอ
จุดดำน้ำตื้นหมู่เกาะชุมพรแบ่งออกเป็นสองโซนใหญ่ กลุ่มแรกคือ เกาะง่ามน้อย ง่ามใหญ่ กะโหลก และ ทะลุ อีกกลุ่มคือ เกาะมัตรา หลักแรด ละวะ และ เกาะลังกาจิว การไปเที่ยวไม่ยากเลย มีบริษัทนำเที่ยวเอกชนให้บริการอยู่พอสมควร เป็นเรือยนต์ลำใหญ่ทันสมัย ราคาก็แน่นอนว่าคิดกันเป็นรายหัว คนละ 1,250 บาท หรือไม่เช่นนั้นสามารถติดต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร มีเรือชาวบ้านให้บริการเหมาลำ ราคากลุ่มเกาะง่าม 3,900 บาท กลุ่มเกาะมัตรา 2,800 บาท นั่งได้ลำละสิบคน ชอบแบบไหนเลือกตามสะดวก ราคานี้อัพเดตในเดือนกันยายน ’58 นะครับ
ฤดูท่องเที่ยวทะเลชุมพรเหมาะสมที่สุดคือมกราคมถึงเมษายน เหมือนกับทะเลโซนอื่นของประเทศ ส่วนฤดูมรสุมใหญ่ฝั่งภาคใต้อ่าวไทยปกติอยู่ระหว่างตุลาคมกับพฤศจิกายน เดือนที่เหลือจากที่ว่ามาให้ดูตามสภาพอากาศเวลานั้นอีกทีแล้วกัน อาจจะมีฝนตกบ้าง เว้นช่วงบ้างว่ากันไป
งานนี้ด้วยการประสานงานจาก ททท. สำนักงานชุมพร เราเลยได้เรือเก๋กู๊ดไฮโซทีเดียว ของบริษัท สยาม คาตามารัน สภาพอากาศไม่สดใสแต่ไม่เป็นอุปสรรคใดๆ โดยปกติทริปดำน้ำของบริษัทแบ่งเป็นสองทริปสลับกันคือวันคู่กับวันคี่ หนึ่งวันไปกลุ่มเกาะง่าม อีกวันไปกลุ่มเกาะมัตรา เกาะลังกาจิว แต่เพราะสภาพอากาศช่วงนี้ไม่แน่นอน เขาเลยจัดทริปคัดเฉพาะจุดเน้นๆ คือ เกาะมัตรา เกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ กลายเป็นดำน้ำทั้งหมดสามเกาะครับ มีสน็อคเกิ้ลกับผ้าเช็ดตัวให้ยืมฟรี แต่ฟินต้องเช่าเอานะ
เรามาขึ้นเรือกันบริเวณท่ายาง แถวนี้มีท่าเรือหลากหลายบริษัทอยู่นะ แล้วค่อยแล่นไปตามคลองท่าตะเภา ผ่านชุมชนประมงขนาดใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงถึงปากอ่าวเพราะว่าแล่นเร็วมากไม่ได้ แต่พอสู่ออกทะเลกว้างเท่านั้นแหละก็ติดเครื่องเต็มกำลัง สภาพท้องฟ้ามัวหมองตามฤดู ตอนนี้อย่าว่าแต่แดดเลย ขอพียงภาวนาให้ฝนไม่ตกนับว่าบุญโขสักไม่เกินครึ่งชั่วโมงหลังออกปากอ่าวก็มาถึงจุดหมายแรกคือเกาะมัตรา หรือ มาตรา บนเกาะมีบังกะโลให้บริการด้วยนะชื่อว่าบ้านลุงขาว แกปักหลักอยู่บนเกาะนี้มานานหลายทศวรรษ ภายหลังแม้จะมีการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ แต่ต้องให้แกอยู่ในบ้านของแกต่อไปใช่ไหมล่ะ ยกหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์เกาะให้ไปด้วยเลย
แม้จะไม่มีแดดแต่เห็นอยู่ว่าน้ำใส และปะการังข้างล่างคงอลังการน่าดู
เพราะไม่อยากเป็นคนตามหลัง ดังนั้นผมขอเป็นหน่วยแรกในการใส่สน็อคเกิ้ลแล้วกระโดดตูมลงไปดูดีกว่าว่าข้างล่างมีอะไร ไม่ต้องดำลึกเลยแต่ก้มหน้าลงน้ำก็แทบสำลัก พูดมากเดี๋ยวหาว่าโม้ เอาภาพไปชมเป็นหลักฐาน (ฮา...) แม้เรื่องความหลากหลายของชนิดพันธุ์ปลาและปะการังจะไม่ละลานตาเหมือนฝั่งอันดามัน ทว่าเรื่องความสมบูรณ์ต้องยกนิ้วให้เต็มร้อยครับดำผุดดำว่ายถ่ายรูปด้วยกล้องกันน้ำตัวน้อยนานกว่าครึ่งชั่วโมงค่อยขึ้นมานั่งพัก เด็กเรือบอกว่าใจเย็นๆ ต่อไปสวยกว่านี้อีก!
หลังฟินกับจุดแรกกันพอสมควรก็ติดเครื่องเรือเดินทางต่อ เป็นเวลาพักชมวิว (ที่หม่นหมอง) แบบสบายๆ พร้อมปลอบใจตัวเองว่าการไม่มีแดดช่างเป็นลาภอันประเสริฐสำหรับผิวหนังอันบอบบาง ไม่นานมากก็มาถึงที่หมายถัดไปคือเกาะง่ามน้อย ผมเคยเห็นในวิดีโอมาว่าที่นี่คือสวนดอกไม้ทะเลชัดๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องรอช้าครับ คว้าสน็อคเกิ้ลแล้วลงน้ำพิสูจน์ให้เป็นกับตาตัวเองเลยดีกว่า ณ นาทีนี้ภาพคนดำน้ำจากบนเรือไม่สนใจจะถ่าย ขอช็อตสองช็อตพอ
โอ้ มาย ลอร์ด บุ๊ดด้า (พยายามอุทานแบบฝรั่งให้เป็นวัฒนธรรมไทย ฮา...) ดูกันเอาเองเถิดว่าผมเห็นอะไร สุดยอดจนไม่รู้จะหาอะไรมาบรรยาย อยากจะกรี๊ดใต้น้ำแต่กลัวกุ้ง หอย ปู ปลา จะตกใจเสียหมดดำอยู่นานหลายเพลาจึงถึงคราวกลับขึ้นเรือ เด็กเรือถาม “สวยสมใจไหมพี่” ผมพยักหน้าหงึกๆ ยกนิ้วโป้ง “สุดยอดเลย” เขาหัวเราะแล้วพูดเสียงดังฟังชัด “เกาะหน้าสวยกว่านี้อีกพี่” ผมคิดในใจแว่บขึ้นมา “เฮ้ย มันยังมียิ่งกว่านี้อีกเหรอวะ!”
แต่ก่อนไปยลอะไรที่สวยยิ่งกว่าต้องอดใจรอสักครู่ เพราะเรือพักเบรกจอดนิ่งๆ กินข้าวกลางวัน อาหารง่ายๆ ไก่ทอด ผัดวุ้นเส้น ผัดผัก สามสี่อย่างแบบบุฟเฟ่ต์กับผลไม้ต่างๆ ถือว่าโอเคนะกับทริปของบริษัทนี้ พนักงานยิ้มแย้มเฮฮาดูแลดีทั้งบนเรือและในน้ำ พูดคุยกันสนุกสนาน พอกินอิ่มสักพักจึงมุ่งหน้าต่อสู่เกาะง่ามใหญ่
ง่ามใหญ่เป็นเกาะกลุ่มเดียวกับง่ามน้อยนั่นแหละ ที่นี่ไม่ได้มีทีเด็ดเฉพาะใต้น้ำแต่ยังโดดเด่นด้วยหน้าผาหินทรงแปลกตามองคล้ายฝ่ามือคนข้างขวา ชาวบ้านเลยเรียกกันว่าฝ่ามือพระพุทธเจ้า ผมนี่ยกมือไหวเลยครับ อุทานถึงพระองค์ พระองค์ก็มา (ฮา…)
เกาะแห่งนี้เป็นอีกเกาะซึ่งได้รับสัมปทานเก็บรังนก เห็นภาพชีวิตที่ใครเที่ยวดำน้ำบ่อยๆ ย่อมคุ้นตา จุดเรือจอดช่วงแรกเป็นโซนที่มีปะการังค่อนข้างเยอะ ยังแซมด้วยดอกไม้ทะเลแค่บางจุด แต่พอว่ายไปว่ายมาสักพัก สังเกตเห็นแล้วว่าดอกไม้ทะเลเพิ่มขึ้นทีละนิด และในที่สุดผมก็กลับมาอยู่กลางดงสวนดอกไม้ทะเลอีกครั้ง (ต่อจากที่ง่ามน้อย) เป็นความรู้สึกยากจะบรรยาย ขอใช้คำว่าชีวิตนี้แสนบรรเจิดจริงๆผมกดชัตเตอร์เก็บภาพดอกไม้ทะเลภาพสุดท้ายตอนประมาณบ่ายสองโมงสิบห้านาที รวมเวลาดำน้ำตรงนี้เกือบสี่สิบห้านาที เหนื่อยมากแต่สนุกมากเช่นกัน และถึงจะดำน้ำนานขนาดนั้นขอบอกตรงๆ ว่ายังไม่อยากขึ้นเลยครับ เป็นความรู้สึกอาลัยอาวรณ์เหลือเกิน อยากบอกให้เรือไปก่อนเลยเดี๋ยวผมว่ายกลับฝั่งเองก็เกรงใจ (ฮา...)
ขาเรือแล่นกลับฝั่ง ผ่านเกาะกะโหลก เห็นแว้บเดียวก็เข้าใจที่มาของชื่อแล้วล่ะ
บทสรุปทริปดำน้ำชุมพรครั้งแรกของผมขอใช้คำว่าประทับใจจับจิตที่สุด ขนาดว่าแทบไม่มีแสงแดดยังเห็นโลกใต้น้ำงดงามเหลือเกิน ถ้ามาช่วงไฮซีซั่นต้นปีคงอลังการกว่านี้อีกหลายเท่า รับประกันว่าผมต้องกลับมาซ้ำแน่นอน และจะไม่มาคนเดียว ขอพาครอบครัว พ่อแม่ มายลกับตาด้วยว่าผมไม่ได้โม้โอเว่อร์ในสิ่งที่เห็นหรอกนะ
ชุมพร เมืองต้องห้ามพลาด รู้กันแล้วนะว่าห้ามพลาดอะไร
ทริปนี้นอกจากการดำน้ำ ททท. ยังพาตะลอนชุมพรอีกหลายจุดพอสมควร อาทิ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชุมพร มีวีดิทัศน์ย้อนอดีตพายุใต้ฝุ่นเกย์ให้ชม หรือชายหาดยอดนิยมอย่าง หาดทุ่งวัวแล่น หาดภราดรภาพ หาดทรายรี รวมทั้งพระตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ แต่ด้วยอากาศขมุกขมัวมาก หากนำภาพมาลงเกรงว่าจะเป็นการทำร้ายกันเสียเปล่าๆ เอาเป็นว่านอกจากการดำน้ำ ชุมพรมีอีกหลายสถานที่ให้เราได้เที่ยวเพลินๆ ด้วยนะ
ยังมีอีกหนึ่งจุดซึ่งแม้ท้องฟ้าไม่เป็นใจ แต่ผมประทับใจมากคือการชมวิวบนเขามัทรี ทางจังหวัดกำลังโปรโมตให้เป็นจุดขายว่ามาชุมพรต้องขึ้นมาที่นี่ ถนนหนทางอย่างดี รถยนต์ขึ้นถึงยอดเขาเลยครับ ด้านบนเป็นจุดชมวิวหลายทิศทาง มีร้านกาแฟ ร้านรังนก ให้เรานั่งกินพร้อมอาบลมชมทิวทัศน์สบายๆ เหมาะทั้งชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก รวมทั้งมากราบสักการะเจ้าแม่กวนอิม ในภาคพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
จากมุมพระอาทิตย์ตกฝั่งนี้เราจะเห็นคลองท่าตะเภา และชุมชนประมง เป็นทางนั่งเรือออกมาดำน้ำ แม้จะเป็นชุมพรเพียงทริปสั้นๆ แต่นับว่าเด็ดสะระตี่เชียวล่ะ มาครั้งนี้ผมได้ข้อมูลพอสมควร สักวันจะเดินทางกลับมาเที่ยวชุมพรตามแบบที่ตัวเองต้องการ จับรถไฟจากกรุงเทพลงมาไล่เที่ยวทีละอำเภอให้สะใจ มีใครสนใจร่วมทริปกันหรือเปล่าครับ ?----------------------------------------------------------------------------------
สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติม
ททท. สำนักงานชุมพร : 0-7750-2775-6
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร : 0-7755-8144-5
สยาม คาตามารัน ทัวร์ : 0-7755-3123, 08-8758-3279, 09-5029-7614
----------------------------------------------------------------------------------
อยากคุยเรื่อยเปื่อยเรื่องท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล (ถ้าผมมีให้นะ) หรือชวนเที่ยว ยินดียิ่งนะครับ
www.facebook.com/alifeatraveller
หรือ
----------------------------------------------------------------------------------
ยังมีต่อวิดีโอคลิป ด้านล่างนะครับ
↓
↓
↓
↓