คนหลงทาง #2 : บุกป่า ฝ่าหมอก ณ ภูสอยดาว #เหนื่อยก็จะไป #ไกลก็จะเดิน

 

บุกป่า ฝ่าหมอก ณ ภูสอยดาว : #เหนื่อยก็จะไป #ไกลก็จะเดิน

เคยมั้ย ? 
อยากไปไหน ทั้งที่รู้ว่าไปแล้วจะลำบาก

เคยมั้ย ?
อยากไปไหน ทั้งที่รู้ว่ามันจะต้องเหนื่อย

#อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว คือหนึ่งสถานที่ ที่เรียกว่าวัดใจนักเดินทาง...เป็นการท่องเที่ยวที่ไม่ได้สุขสบายเลยสักนิด ด้วยระยะทางกว่า 6.5 กิโลเมตร ที่เป็นเส้นทางที่เดินไปหาหมอกและป่าเขียวขจีที่รออยู่

'ถ้าคุณชอบขาวๆ' และ 'มีความแข็ง(แรง)' ก็คงต้องลองออกไปสัมผัส #ความขาวและ #เสียน้ำ ในร่างกายที่จะออกมาทางหยาดเหงื่อ ในสถานที่แห่งนี้กันดูสักครั้ง...

 

การเดินทางของผมและพวกพ้อง ต้องเรียกว่ายาวนาน ใช้เวลาถึง 7 ชั่วโมงทีเดียว กว่าจะไปถึงยอดเขาด้านบน ล้มลุกคลุกคลานกันมานับไม่ถ้วน

เป็นการเที่ยวที่อาจจะบอกไม่ถูกว่ามาทำไมให้ทรมาณร่างกาย ? 55555+ 

ถึงแม้ว่าร่างกายคุณอาจจะมีเหนื่อย มีล้า ปวดเมื่อยว่ากันไปตามสังขารของแต่ละคน แต่เชื่อเถอะครับว่า...ลองถ้าได้มาแล้ว คุณจะรู้สึกชนะใจตัวเองได้อย่างบอกไม่ถูก 

'เหนื่อยวะเห้ย แต่กูทำได้!' 
แล้วคุณจะยิ้มอ่อนให้ตัวเองอยู่ในใจอย่างมีความสุข

ความฟินระดับสิบ หลังจากที่คุณโคตรจะเหนื่อยและสูญเสียน้ำในร่างกายไปเยอะมาก แต่คุณจะเจอกับหมอก ที่รายล้อมรอบตัว ประนึงเหมือนได้เดินอยู่ในสวรรค์บนดิน...
 

ค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาทนะครับ

ว่าเเล้วเราก็ออกเดินทางไปหาความขาวในแบบที่เราต้องการกันเถอะ

 

ระหว่างทางก็จะมีน้ำตกให้แวะพักผ่อน เล่นน้ำกันให้ชุ่มฉ่ำใจ

ก่อนจะเดินทางไกล และใช้อีกแรงอีกมากโข

 

ก่อนจะมายืนตรงนี้ ถามว่าผมต้องผ่านอะไรมาบ้าง เล่าแล้วจะอายยันบ้านเกิด

ลื่นน่ะสิครับ!?!
ผมนี่ตายน้ำตื้นตลอด 5555+

ตอนล้มไม่ได้มีภาพมาให้ดูหรอกนะครับ อายเค้า อย่าไปถ่ายให้เป็นความอับอายของชีวิต ลุยไปไหนต่อไหนมาทั่วไม่เคยเป็นอะไร มาลื่นเอาง่ายๆตรงนี้ละครับ

ทำเป็นยืนนิ่ง แต่จิงๆข้างในเลือดซิป 5555+
 

ได้เวลาออกเดินทางกันต่อไป หนทางยังอีกยาวไกล ใจต้องสู้!

 

มิตรภาพที่เกิดขึ้น กับการเดินทางไกล ที่ไม่ใช่แค่วัดใจเรา แต่มันยังวัดใจคนที่เดินไปข้างๆเราเหมือนกัน 

 

กับความงามระหว่างทางที่เราก็ไม่ควรมองข้าม จุดหมายไม่ใช่ทุกอย่างของการเดินทาง เก็บเกี่ยวทุกสิ่งให้มันอยู่ในความทรงจำของเรา และมีความสุขทุกครั้งที่ได้นึกถึง

หลังจากภาพนี้เป็นต้นไป ผมจะปล่อยให้ทุกคน อิ่มใจไปกับความขาวที่อยู่ตรงหน้ากันให้เต็มที่ 

ผมจะปล่อยให้ภาพมันเล่าบรรยากาศ และส่งผ่านความเย็นอุณหภูมิจากยอดเขามายังใจคุณเอง...

 

จุดนี้ ณ เนินมรณะ 

แต่ผมกลับรู้สึกว่า มันช่างเหมือนเนินแห่งสรวงสวรรค์มากกว่า...สิ่งที่อยู่ตรงหน้า

มันบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ

 

มาที่นี่ ต้องได้เจอกับเจ้าดอกหงอนนาคนี่แหละครับ 

เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับภูสอยดาวไปแล้ว

 

เริ่มจะใกล้ถึงยอดกันแล้ว เริ่มจะมีหมอกที่ปกคลุมรอเราอยู่ข้างหน้า เห็นแล้วฮึดมั้ยครับ ? 
พลังเริ่มมา...อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้วววว

 

เอาล่ะครับ! เรามาถึงกันแล้ว กว่า 7 ชม. ที่เดินกันมาทั้งวัน ในที่สุดเราก็ถึงจุดเป้าหมาย

ว่าแล้วก็ติดต่อเจ้าหน้าที่กันให้เรียบร้อยครับผม 

 

กางเต๊นท์กันให้เรียบร้อย แล้วเราจะไปเดินเล่นเก็บภาพกัน จับจองพื้นที่กันให้พอใจเลยครับ โลกนี้เป็นของเรา วันที่มานี่ ไม่มีชาวบ้านชาวช่องที่ไหนเลยครับ นอกจากพวกเรา 5555+

รอบๆเต๊นท์ที่พัก ต้องบอกว่าขาวโพลนไปหมด เต็มไปด้วยหมอกจนต้องหาผ้าใบมาคลุมเต๊นท์ไว้อีกทีครับ เพราะทั้งน้ำค้าง ทั้งฝน เยอะจริงๆ ชื้นแฉะสมใจอยากเลยแหม 

 

 

 

 

ตรงนี้จะเป็นบริเวณห้องน้ำนะครับ แต่อากาศแบบนี้ไม่รู้จะได้อาบน้ำมั้ย ซักแห้งรึป่าวไม่รุ้นะครับ 5555+
ก็มันหนาวววววว

 

 

เสบียงที่เตรียมมา และทุกๆมื้ออาหารของเรา

เห็นอย่างนี้อาจจะยังดูไม่รู้ว่า เอ๊ะ!! ทำอาหารกันตรงไหน ?

 

 

งั้นถอยออกมาหน่อยมั้ยครับ ? 

ใช่ครับ...ห้องน้ำเลยครับ ทั้งทำอาหาร ทั้งกิน โซโล่มันตรงนี้แหละครับอร่อยดี 

กินขรี้ เอ๊ย! กินข้าวววว หน้าห้องน้ำก็ได้ความดิบและห่ามไปในตัว

 

 

 

 

 

กับข้าวหน้าห้องน้ำ โดยฝีมือเชฟประจำทริปของผมไม่ธรรมดาเลยนะครับบบบ

นี่ผัดกระเพราบนยอดเขาภูสอยดาวเลยนะเนี่ย ทำเสร็จร้อนๆแล้วทาน อร่อยมากกกกจริงๆ

 

 

เมื่ออิ่มท้องกันแล้ว วันนี้เราก็เหนื่อยกันมามากแล้ว ได้เวลาพักผ่อนอยู่ในเต๊นท์อุ่นๆ และเตรียมพร้อมกับการตื่นมารับความสดชื่นในเช้าวันต่อไปในสถานที่แห่งนี้

 

 

กับการเดินทางด้วยสองเท้าของเรา ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะพาเราเดินข้ามป่า ข้ามเขา บุกป่า ฝ่าหมอกมาจนถึงบนนี้ได้เป็นความเหนื่อยที่คุ้มค่า 

เหงื่อทุกหยดที่ไหลมาระหว่างทาง มันเป็นสิ่งที่จะบอกให้เรารู้ว่า ถ้าร่างกายยังไหว ก็แค่เดินต่อไป ไปเรื่อยๆช้าๆ ไม่ต้องรีบ... อุปสรรคไม่ได้อยู่ที่ระยะทาง แต่มันอยู่ที่ใจของเราเอง

ก่อนจะวางแพลนเดินทางมาที่นี่ผมเชื่อว่า #ทุกคนเลือกแล้วครับ #ว่าอยากมาเหนื่อย #อยากมาลำบาก ถ้าคุณเดินมาได้จนครึ่งทางแล้ว คุณจะกลับลำไปจุดเริ่มต้นใหม่ก็คงไม่ได้แล้วนะ 5555+ 

เพราะชีวิต 'ต้ อ ง เ ดิ น ห น้ า ต่ อ ไ ป' ครับ
การหันหลังกลับและหยุดเดิน เป็นสัญญานอันตรายที่จะบอกว่าคุณกำลังแพ้...เดินต่อครับ เดินต่อไป

คนข้างๆที่ไปด้วยกัน เค้าพร้อมจะลำบากไปกับคุณ ขอแค่คุณเอาชนะใจตัวเองให้ได้ก็พอ

-------------
#คนหลงทาง คงต้องบอกลา #GreenSeason ในปีนี้กันไปด้วยทริปนี้ 
หลังจากนี้ผมจะพาไปหลงทางกันที่ไหนแล้วเจอกันทริปหน้าครับ.

 

พูดคุยการเดินทางเพิ่มเติมกันได้ที่ : https://www.facebook.com/Lost.Somewhere.Together