ขอพื้นที่เล่าประสบการณ์การเดินทางในครั้งนี้ ที่ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์ ครับ "ทริปพิชิตยอดภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ 23-25 ต.ค. 2558" ด้วยเงินเพียงคนละ 1,200 บาท โดยเป็นค่าน้ำมันรถ ลูกหาบ น้ำ อาหาร ค่าเช่าถุงนอน เตา หม้อ ถังและขันน้ำ ค่าธรรมเนียม และอื่นๆ มีเพื่อนร่วมทริปด้วยกัน 5 คน เดินป่าทั้งหมด 6.5 กิโลเมตร มีชื่อเรียกว่าเนินต่างๆ 5 เนินหรือภูเขาทั้ง 5 ลูกนั่นเอง พวกผมใช้เวลาเดินขึ้นกว่า 7 ชั่วโมง มีสัมภาระทุกคนๆ ใจสู้สุดๆ ครับ

การเตรียมตัวและของที่ต้องเตรียม โดยให้สมาชิกทุกคนออกกำลังกาย วิ่งวันละ 20 นาที ก่อนที่จะถึงกำหนดออกทริบ สัก 1 สัปดาห์ หรือถ้าเป็นนักกีฬาอยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวลครับ ของที่เตรียมก็มีเป้ดีๆสัก 1 ใบๆที่ไม่ใหญ่มาก ของใช้ส่วนตัว ยารักษาโรคประจำตัว (ถ้ามี) ไฟฉาย เสื้อกันหนาว (ขางบนลานสนอากาศค่อนข้างหนาว) หมวกสวยๆสักใบ

ออกเดินทางจากจังหวัดกำแพงเพชร เวลา 13.00 น. เติมน้ำมันให้เต็มถัง ด้วยเงิน 790 บาท มุ่งหน้าสู่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมงกว่าๆ ครับ ถึงจุดหมาย 16.30 โดยประมาณ ก็พักกันที่ในตัวอำเภอครั้บ เพราะว่าอีกกว่า 40 โล จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว และคงจะอันตราย เพราะเป็นทางขึ้นเขา พวกเราพักกันที่วิวัฒน์รีสอร์ท ราคา 500 บาท เป็นห้องรวม นอนได้ 5 คน มีแอร์ ตู้เย็น ครับ

วันที่ 2 เริ่มเดินทางจากที่พักในตัวอำเภอน้ำปาด เวลา 06.00 น. แวะซื้อข้าวเหนียวไว้กินตอนเที่ยงบนเขา คนละ 1 ห่อ ในตลาดสด อร่อยมากครับ และมุ่งสู่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว 45 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ จุดแรกที่เห็นเป็นจุดสตาร์ทการเดินป่าครับ แต่เราต้องขับรถเลยเข้าไปยังตัวอุทยานแห่งชาติก่อน เพื่อไปลงทะเบียน แจ้งเช่าของ(เตา หม้อ ถังน้ำ ขัน) จ้างลูกหาบ และจอดรถของเราไว้ที่นั้น จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ขับรถกะบะมาส่งที่จุดสตาร์ทเดินป่าด้านล่าง ค่าจ้างลูกหาบ กิโลละ 35 บาท ถุงนอน 450/1 ค่ากางเต็นท์ 30/1 มัดจำ 200 เพื่อให้นำขยะลงมาเพื่อแลกค่าประกันคืนครับ

นั่งรถกะบะของพี่เจ้าหน้าที่มายังจุดทางขึ้น นำใบลงทะเบียนมายื่นที่เจ้าหน้าที่ บริเวณป้อมทางเข้า จากนั้นก็เริ่มลุยกันเลย พวกเราใช้เวลาเดินไป 7 ชั่วโมง 09.00 น - 16.30 น. มีทั้งหมด 5 เนิน คือ 1.เนินส่งญาติ 2.เนินปราบเซียน 3.เนินป่าก่อ 4.เนินเสือโคร่ง 5.เนินมรณะ เดินไปเรื่องๆ เหนื่อยก็พัก ไม่ต้องรีบมากครับ เมื่อถึงแล้วลานสนแล้ว ก็ไปที่จุดบริการนักท่องเที่ยว เพื่อติดต่อรับของที่ต้องการเช่า เช่น เตา หม้อ ถังน้ำ ขัน ถุงนอน จากนั้นก็หาจุดกางเต็นท์เหมาะๆสักที่ ได้แล้วก็เดินสำรวจลานสน เช่น ทุ่งดอกไม้ เสาหลักเขตแดนไทย-ลาว ดูพระอาทิตย์ตก แล้วก็เก็บฟืนไปพลางๆ เพื่อมาก่อไฟ ไว้ทำกิจกรรมที่พวกเราคิดไว้  *จากนี้ขอโพสต์ภาพบรรยากาศตลอดการเดินทาง 6.5 กิโลเมตร ให้ดูเยอะหน่อยนะครับ ประทับใจมากๆครับ เป็นทางเดินที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

สัมผัสพระอาทิตย์ขึ้น ส่องแสงผ่าน ต้นสน ผมว่ามันสวยมากๆ เลยครับ