8.00 น. เรามาถึงที่หมาย จุดลงทะเบียนตรงที่ทำการ แล้วทางอุทยานจะขับรถไปส่งเราตรงทางขึ้น ด้วยรถที่คล้ายๆ รถอีแต๋น
เสียค่าเข้าคนละ 40 บาท ค่ามัดจำขยะคณะละ 200 บาท ถ้าเอาเต๊นท์ไปเองจะเสียแค่ค่ากางเต๊นท์คนละ 30 บาท ต่อคนต่อคืน
ถ้าจะไปเช่าอะไรต้องบอกทางเจ้าหน้าที่เค้าเลย เช่น เต๊นท์ ที่รองนอน ถุงนอน หมอน ผ้าห่ม เตาแก๊ส เตาถ่าน ถัง ขัน เค้ามีให้เช่าหมดครับ หรือเช่าเพิ่มเติมด้านบนเค้าก็มีเจ้าหน้าที่อยู่ แต่แนะนำแจ้งเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ด้านล่างไปดีกว่า เพราะถ้าไปช่วงคนเยอะมีสิทธิ์ของหมดได้
ค่าลูกหาบเค้าคิดเป็นกิโลกรัม กิโลกรัมนะครับไม่ใช่กิโลเมตร - -" โลละ 30 บาท ขั้นต่ำ 20 โล (แต่ก็เห็นบางคนไม่ถึง 20 โล เค้าก็ไปให้นะ)
เก็บไว้ให้ดีนะครับ บัตรนี้ต้องเอาไปใช้ข้างบนด้วย แล้วตอนลงมาก็ต้องคืนบัตร
รถอีแต๊นจากที่จุดลงทะเบียนไปยังจุดเริ่มต้นเดิน
9.00 น. เริ่มเดิน!! ลุยยยย!!!
ภูสอยดาวถ้านับจากระดับน้ำทะเลถึงยอดเขาสูงสุดเลยจะอยู่ที่ความสูง 2,102 เมตร แต่ลานกางเต๊นท์ ลานสน จะอยู่ที่ความสูง 1,633 เมตร ระยะทางเดินเท้าประมาน 6.5 กิโลเมตร
เนินที่ต้องผ่านทั้งหมดมี 5 เนิน คือ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ เป็นเนินสุดท้ายก่อนจะถึงลานสน
เดินมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ต้องพักกันแล้ว เหนื่อยกว่าที่คิดไว้(มากกกกกกก) ละดันห้าวไม่จ้างลูกหาบกันด้วย แต่ละใบหนักๆ ทั้งนั้น ประมาณ 9.45 น. พวกเราก็เริ่มพักกินอาหารเช้ากัน น่าจะก่อนถึงเนินส่งญาติอีก 555
จะรีบบอกทำไม? อีกตั้งไกล -*-
ในที่สุดก็มาถึงป้ายเนินส่งญาติ คือ...แบบ...กางเต๊นท์ตรงนี้เลยได้ไหมวะ 555 แค่เนินแรกก็เหนื่อยขนาดนี้แล้ว
ทางเดินชันใช้ได้ 8/10
แต่พี่ลูกหาบไม่มีท่าทีเหนื่อยเลยนะฮะ เดินกันเหมือนเดินเล่นสนามหญ้าหลังบ้าน....
ระหว่างทางได้เพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันมากมายฮะ เดินกันไปบ่นกันไป พักกันไป เรื่อยๆ ชิวๆ ครับ เห็นบ่นกันทุกกลุ่ม 555
จุดพักครับก่อนเนินปราบเซียน นั่งพักกันเป็นร้อย ถอดใจกันเป็นล้าน
กว่าจะถึงเนินปราบเซียน หลายคนรอบตัวบ่นจะเป็นลม แต่ระหว่างทางก็เจอทั้งทางชันและทางลาดสลับกันไป
ป่า ป่า ป่า เดิน เดิน เดิน
เดินไปพักไป ไม่รีบครับ คือถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ลังเลที่จะจ้างลูกหาบ คุ้มค่ากว่าจริงๆ -*-
ประมาณ 13.45 น. เราเดินมาได้ประมาณครึ่งทาง!! ครึ่งทางครับ 4 ชั่วโมงกว่า T-T ทำเวลาได้ดีจริงๆ แล้วเราก็พักกันที่เนินพักใหญ่อีกครั้ง เนื่องจากสมาชิกเกือบทุกคนเป็นตะคริว (ยกเว้นผมนะ เพราะผมขาแข็งแรงมาก555)
คือ...เพื่อนๆ เห็นยอดเขาสูงๆ ลิบๆ นั่นไหมครับ นั่นละครับ เนินมรณะ แต่กว่าจะไปถึงเนินมรณะ เราต้องผ่านเนินป่าก่อ เนินเสือโคร่งก่อน แล้วจะถึงเนินมรณะ
แต่อย่าเพิ่งคิดว่านั่นคือจุดหมายปลายทางของเรา เพราะลานสนต้องเลยเนินมรณะไปอีก 1 โล
...พูดได้คำเดียวว่า สุดยอด ไปเลยเลยฮะ!
ผ่านเนินป่าก่อไปแล้ว อีกนิด
เนินเสือโคร่ง ส่วนตัวคิดว่าเนินนี้โหดที่สุดละนะ ถ้ามาแบบแบกเป้มาเองไม่จ้างลูกหาบ ต้องใช้มือปีนเกือบตลอด
และสุดท้ายเนินมรณะ มรณะจริงๆ เกือบตายกว่าจะผ่านมาได้
แต่วิวตรงเนินนี้ต้องยอมรับว่ามันสุดๆ สุดยอดจริงๆ
ธรรมชาติช่างสวยงาม ยิ่งตอนนี้พระอาทิตย์เริ่มไปอยู่ตำแหน่งใกล้ตกแล้วด้วย
17.00 น. ในที่สุดเราก็มาถึงลานสน ใช้เวลาในการเดิน 8 ชั่วโมงเต็ม! ลานสนเป็นลานกว้างๆ เป็นทุ่งดอกไม้ รู้สึกจะเป็น ดอกหงอนนาค (สีชมพูๆ ม่วงๆ) เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายรูปดอกไม้ แมลง
ดอกหงอนนาค
มาถึงเราก็เดินไปติดต่อทางเจ้าหน้าที่ด้านบน ละเค้าก็บอกให้เราหาที่กางเองได้เลย วันนี้คนเยอะ เกือบจะเต็มเลยทีเดียว
ผู้คนมหาศาลล้านแปด!
และเราก็เริ่มกางเต๊นท์ หาฝืน ก่อเตาทำกับข้าว
ถ้าจะอาบน้ำเค้ามีให้เช่าถังกับขันนะครับ ไปเสียค่าใช้จ่ายวันลง คือต้องตักน้ำจากลำธารข้างๆ ลานกางเต๊นท์ และไปอาบในห้องน้ำแบบเซอร์ๆ
ลำธารที่ใช้ตักน้ำอาบ
ห้องน้ำก็ประมาณนี้ แยกชายหญิง
และก็กลับมาเริ่มทำอาหารเย็นกัน มื้อแรกที่ทำกินกันเองคือ ไข่เจียว ข้าวต้มหมู และก็ปลากระป๋อง ง่ายๆครับ แต่รู้สึกอร่อยเป็นพิเศษ
อาหารหลักสิบ บรรยากาศหลักล้าน
นั่งล้อมวงกินกับเพื่อนๆ ที่เหนื่อยด้วยกันมาทั้งวัน อากาศหนาวๆ จิบเบียร์ที่อุส่าแบกกันขึ้นมา ชิวๆ
สุดด่ะ!
แต่ด้วยความเหนื่อยพอดึกหน่อยก็เดินออกไปดูดาว แล้วก็รีบนอนกันเลยครับ เพลียจัด