หลังจากที่ผมได้เห็นรูปสวยๆของน้ำตกเอราวัณผ่านหน้าจอจากสื่อโซเชี่ยลมากมาย มันทำให้ผมรู้สึกสะดุดตาเป็นอย่างมากกับความสวยงามของน้ำตกเอราวัณ ซึ่งมีสีของน้ำตกที่สวยงามมากเหมือนกับในนวนิยาย และนั่นทำให้นักเดินทางอย่างผมต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง ว่าของจริงจะสวยเหมือนในรูปหรือเปล่า?

การเดินทาง

- ผมขึ้นรถทัวร์จากขนส่งสายใต้ เพื่อไปลงยัง บขส.กาญจนบุรี ในราคา 100 บาท เวลาประมาณ 7.00 น ที่สายใต้สามารถเลือกได้ว่าจะนั่งรถตู้ หรือ รถทัวร์ก็ได้ เวลารถออกมีหลายรอบ แนะนำให้ไปรอบเช้าๆคัพ จะได้ไปถึงที่น้ำตกเร็วๆ ใช้เวลาในการเดินทางจากสายใต้ไปยัง บขส.กาญจนบุรี ประมาณ 2 ชั่วโมง

- เมื่อถึง บขส.กาญจนบุรี ผมก็ต่อรถทัวร์เพื่อไปยังน้ำตกเอราวัณได้เลย ราคาคนละ 50 บาท โดยด้านข้างตัวรถจะเขียน กาญจนบุรี-น้ำตกเอราวัณ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ รถจะเข้ามาส่งถึงข้างในอุทยานแห่งชาติเอราวัณเลย

- ค่าเข้าอุทยานคนละ 100 บาท ถ้ามีบัตรนักศึกษาคนละ 50 บาท

- สำหรับใครที่จะนอนเต็นท์ที่อุทยาน ก็สามารถติดต่อได้ตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้เลย จ่ายเงินวันกลับคัพ

- จากทางเข้าน้ำตกต้องเดินเข้าไประยะทางประมาณ 500 เมตร เพื่อไปน้ำตกชั้นที่ 1 หรือจะใช้บริการรถกอฟล์ของทางอุทยานก็ได้คนละ 30 บาทต่อเที่ยว

น้ำตกเอราวัณแบ่งออกได้ 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป

• ชั้นที่ 1 ชื่อว่า "ไหลคืนรัง"
• ชั้นที่ 2 ชื่อว่า "วังมัจฉา"
• ชั้นที่ 3 ชื่อว่า "ผาน้ำตก"
• ชั้นที่ 4 ชื่อว่า "อกผีเสื้อ"
• ชั้นที่ 5 ชื่อว่า "เบื่อไม่ลง"
• ชั้นที่ 6 ชื่อว่า "ดงพฤกษา"
• ชั้นที่ 7 ชื่อว่า "ภูผาเอราวัณ"

ปากทางเข้าน้ำตก ที่ใครๆต้องแวะถ่ายรูปก่อนคัพ

หลังจากติดต่อขอนอนเต็นท์เรียบร้อยผมก็เอาสัมภาระมาเก็บที่เต้นท์ก่อน จากจุดบริการนักท่องเที่ยวมายังลานกางเต็นท์ก็ไกลพอสมควรประมาณ 400-500 เมตร ผมใช้วิธีเดินเอาคัพ ไม่ไกลเกินกำลังสำหรับนักเดินทางอย่างผม และแล้วก็ถึงลานกางเต็นท์ที่จะนอนกันวันนี้ โอ้!!!!ว้าววววว บรรยากาศดีมากๆคัพ ชอบสุดๆ หายเหนื่อยเลยคัพ ส่วนเต็นท์ที่เช่าราคา 150 บาทต่อหลัง ยังไม่รวมเครื่องนอน ถ้ารวมๆแล้วก็ สองร้อยกว่าบาทคัพ นอนได้หลังนึง 3 คนคัพ ไม่แพงเลยคัพ สำหรับทริปประหยัดของผม ถ้าเป็นช่วงเทศกาลต้องโทรมาจองก่อนน่ะคัพ ถ้าวันธรรมดา หรือไม่ใช่เทศกาลก็ว็อกอินเข้ามาได้เลยคัพ เต็นท์เยอะคัพ

อันนี้เต็นท์ของผมคัพ

ผมมาถึงน้ำตกช่วงเกือบๆ4 โมงเย็นแล้ว เนื่องจากแวะเที่ยวในตัวเมืองกาญจนบุรีก่อน วันแรกเลยยังเดินเล่นแถวเต็นท์ยังไม่ไปน้ำตกก่อน เนื่องจากผมเช็คมาว่า ถ้าให้ดีไปน้ำตกช่วงเช้าๆนักท่องเที่ยวไม่เยอะจะได้รูปสวยๆไม่ติดคน หรือได้รูปน้ำสีสวยๆของน้ำตกคัพ กิจกรรมต่อไปของผมคือปั่นจักรยานคัพ โดยสามารถเช่าจักรยานของอุทยานได้ราคาคันละ 20 บาทต่อชั่วโมงคัพ ที่เช่าจักรยานก็อยู่ใกล้ๆที่กางเต็นท์เลยคัพ ที่นี่มีห้องน้ำ มีไฟให้ชารต์ตลอด 24 ชั่วโมงคัพ ถือว่าสะดวกมาก ผมปั่นจักรยานไปซื้อของกินตรงด้านหน้าอุทยานมีร้านค้าเยอะคัพ ไม่อดแน่นอน

วันแรกก็ไม่มีอะไรมากคัพ นั่งๆนอนๆแถวที่กางเต็นท์คัพ เอาเท้าแช่น้ำเย็นๆเม้าส์ๆกันไปคัพ บรรยากาศฟินสุดๆคัพ ใครจะทำอาหาร ปิ้งย่างก็ได้คัพ ทางอุทยานมีอุปกรณ์ให้เช่าคัพ
เท้

เช้าวันรุ่งขึ้นก็ออกเดินทางไปน้ำตกคัพ น้ำไม่อาบ ค่อยลงมาอาบตอนเล่นน้ำเสร็จคัพ แปรงฟันอย่างเดียวคัพ จะได้คุยกับเพื่อนรู้เรื่อง ก่อนเข้าน้ำตกชั้นที่1 แวะถ่ายรูปกับป้ายก่อนคัพ พร้อมกับถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆ

จากป้ายเดินมานิดเดียวก็ถึงชั้นที่ 1 คัพ "ไหลคืนรัง" แค่ชั้นที่ 1 ก็สวยแล้วคัพ ปลาเยอะด้วยคัพ

จากชั้นที่ 1 ไปชั้นที่ 2 ไม่ไกลกันมาก เดินขึ้นไปนิดเดียวคัพ ชั้นที่2 ชื่อ"วังมัจฉา"  ชั้นนี้สวยมากๆคัพ ปลาเยอะสมชื่อชั้นเลยคัพ  ปลาที่นี่จะเป็นปลาพวงคัพ

ไปต่อกันชั้นที่ 3 คัพ ก็ไม่ไกลจากชั้น 2 มาก แต่เส้นทางเริ่มชันขึ้นคัพ ที่สำคัญผมมีไกค์ส่วนตัวคัพ เจ้าหมาตัวนี้นี่เอง เราหยุดมันก็หยุด เราเดินมันก็เดิน เป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีจริงๆคัพ

แวะถ่ายรุประหว่างทางก่อนถึงชั้นที่ 3 คัพ น้ำใสและสวยคัพ

และแล้วก็ถึงชั้นที่ 3 คัพ "ผาน้ำตก" สวยมากๆคัพ เป็นอีกชั้นที่น่าเล่นน้ำมากๆคัพ และเป็นจุดที่ถ่ายละครเรื่อง "นาคี"ด้วยคัพ