สุขทุกสัมผัสที่ Touch Star Resort ที่พักใกล้ดอยอินทนนท์ น้ำตก และนาขั้นบันได
หน้าฝนกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เราพาตัวเองไปเที่ยวไกลถึงเชียงใหม่ Low season แบบนี้ที่พักลดราคาแถมนักท่องเที่ยวก็น้อย ทริปนี้เราจะไปนั่ง Chill ที่ร้านกาแฟบนสันเขื่อน พักผ่อนนอนสบายที่รีสอร์ทน้ำแร่หนึ่งเดียวในอำเภอจอมทอง แวะเที่ยวน้ำตกและเสพความเขียวในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยนาขั้นบันได จะชุ่มฉ่ำหัวใจแค่ไหนไปชมกันเลยค่ะ
หมายเหตุ: เดินทางเข้าไปในพื้นที่ วันที่ 08-09 กันยายน 2561 (ออกจาก กรุงเทพฯ คืนวันศุกร์ที่ 7 ก.ย. ถึงกรุงเทพฯ เช้าวันจันทร์ที่ 10 ก.ย.) ส่วนค่าใช้จ่ายคร่าวๆ จะใส่ไว้ให้ท้ายรีวิวนะคะ
การเดินทางรถทัวร์
เราใช้บริการรถทัวร์ของ บขส. รอบที่ออกจากหมอชิต 19.50 น. มารับเราที่สถานีขนส่งผู้โดยสารรังสิต 21.05 น. (เวลาขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในแต่ละวัน) ถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ (อาเขต) เวลาประมาณ 07.45 น.
รถมอเตอร์ไซค์เช่า
มาเชียงใหม่กี่ครั้งเราก็ใช้บริการเช่ารถมอเตอร์ไซค์จาก Bikkychiangmai เพราะว่ามีสาขาใกล้สถานีขนส่งฯ ลงจากรถทัวร์เดินไปรับรถมอเตอร์ไซค์ได้เลย สามารถจองล่วงหน้าผ่านทางไลน์ได้ ใช้เพียงบัตรประชาชนตัวจริงที่สำคัญไม่มีค่ามัดจำ Grand Filano คันนี้อยู่ที่ 300 บาทต่อวัน
เปิดให้บริการทุกวัน 06.00 - 20.00 น
Tel: 084-6878809, 094-2299599
Line ID: bikkychiangmai
Facebook: Bikkychiangmai
รถสองแถวไปจอมทอง
ถ้าใครไม่อยากขี่มอเตอร์ไซค์จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปจอมทอง ให้โบกรถแดงไปที่สถานีขนส่งช้างเผือก มีรถสองแถวสีเหลืองไปจอมทอง รอบแรก 05.00 น. รอบสุดท้าย 18.00 น. ค่ารถ 35 บาท ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง ลงที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารฝั่งตรงข้ามมีร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ แต่ถ้าขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นหรือไปกันหลายคนสามารถเหมารถสองแถวเที่ยวดอยอินทนนท์ได้ค่ะ
ส่วนเราตัดสินใจเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากตัวเมืองขี่ไปจอมทอง อยากเที่ยวอย่างสบายใจไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาในการเดินทางโดยรถประจำทางที่ยากจะคาดเดา และมีจุดประสงค์หลักอีกอย่างคือไปกินเนื้อสะเต๊ะแต่วันนี้คุณป้าไม่มาเราจึงเติมพลังกันที่ร้านอาหารแถวสถานีขนส่งช้างเผือก
ร้านหนุ่มข้าวมันไก่ นครศรีธรรมราชมาเชียงใหม่แต่แวะกินข้าวหมกไก่นครศรีฯ ถึงไม่ได้กินในสิ่งที่ตั้งใจไว้และไม่ได้กินอาหารท้องถิ่น การมากินข้าวที่ร้านนี้เป็นมื้อแรกถือว่าดีงาม เป็นเมนูเร็วๆ ที่ใช้เวลาไม่เยอะ เห็นเมนูต้องรสชาติต้องสงสัยคือ "บะหมี่เบตอง" ไม่เคยได้ยินหรือลองชิมที่ไหนมาก่อน จัดไป! รสชาติเหมือนบะหมี่หมูแดงแต่เส้นหนานุ่มกว่าบีบมะนาวหน่อย หรอย! จ้า ส่วนข้าวหมกไก่สั่งมาแบบพิเศษได้ไก่สองน่องมาพร้อมน้ำซุปที่มีกลิ่นเครื่องเทศติดมานิดๆ ชอบตรงที่ผักโรยหน้าพวกต้นหอมผักชีถูกกองไว้ข้างจาน ใครไม่กินจะได้ไม่เสียเวลาเขี่ย คุณป้าเจ้าของร้านน่ารักคุยสนุกแนะนำที่เที่ยวเยอะมาก
กาแฟสันเขื่อนแม่จอกหลวงกินอิ่มแล้วต้องไปเอาออก เราไปที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ห่างจากสถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ 11 กิโลเมตร ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปบนสันเขื่อน มีร้านกาแฟตั้งอยู่ข้างบน บรรยากาศดีวิวเขื่อน ฉากหลังเป็นภูเขา คนน้อย ถึงจะสายแล้วแต่อากาศไม่ร้อนน่าวิ่งมากแดดไม่มี เพราะฝนกำลังจะตก เลยจัด Jogging ไปกลับบนสันเขื่อนได้ 10k เสร็จแล้วเข้าไปนั่งดื่มน้ำปั่นเย็นๆ รอฝนหยุดตก เป็นการออกกำลังกายที่มีความสุขมาก
เสร็จสิ้นภารกิจเที่ยวในเมืองเชียงใหม่แบบ Chill chill เพื่อรอเวลา Check in จากนั้นมุ่งสู่อำเภอจอมทองเพื่อไปยังที่พัก ระยะทางประมาณ 64 กิโลเมตรค่ะ เส้นทางดีขี่มอเตอร์ไซค์สบายๆ
ทัชสตาร์รีสอร์ท (Touch Star Resort)"ทัชสตาร์รีสอร์ท" เป็นที่พักที่อยู่ใกล้ดอยอินทนนท์มาก ห่างจากด่านทางเข้าอุทยานฯ แค่ 1 กิโลเมตร และห่างจากยอดดอยจุดที่สูงที่สุด 39 กิโลเมตร ช่วง Low Season ที่พักลดราคาเหลือ 990 บาทไม่รวมอาหารเช้า เดือนตุลาคมเริ่มเข้าหน้า High season ราคาห้องพักสำหรับ 2 คนพร้อมอาหารเช้าคืนละ 1,500 บาท ความพิเศษของที่นี่คือในรีสอร์ทมีตาน้ำแร่ผุดขึ้นมา ดังนั้นทุกท่านที่เข้าพักในรีสอร์ทแห่งนี้จะมีน้ำแร่ที่ผ่านการกรองแล้วส่งตรงให้อาบกันแบบส่วนตัวถึงในห้องพักเลยค่ะ
Welcome Drink เป็นน้ำลิ้นจี่ในขันเงินน่ารัก หอมหวานชื่นใจ มาพร้อมคูปองอาหารเช้าและรหัส WiFi ในส่วนของ Reception มีพื้นที่เล็กๆ เป็นร้านขายขนมและเครื่องดื่ม ตอนค่ำไม่อยากออกไปไหนไกลมาใช้บริการกันได้
ประเภทห้องพักห้องพักมีหลายประเภทแต่ราคาเท่ากัน ยกเว้นบ้านพักสำหรับครอบครัว ห้องแต่ละประเภทมีเตียงให้เลือก 2 แบบ คือห้องเตียงคู่สำหรับมากับเพื่อนและห้องเตียงเดี่ยวสำหรับคู่รัก มีบ้านพักเป็นหลังสำหรับการเข้าพักแบบครอบครัวหรือหมู่คณะ
บ้านเคียงเดือน (Swiss Cottage)
บ้านพักสีครีมน่ารักล้อมรอบไปด้วยวิวสวน แต่ละหลังอยู่ห่างกันในระยะที่พอเหมาะไม่แออัดจนเกินไป ห้องขนาด 26 ตร.ม. เข้าพักได้ 2 คน บ้านแต่ละหลังสีไม่เหมือนกัน ลายไม่เหมือนกัน บางห้องเป็นลายปลาคาร์ป ส่วนห้องที่เราพักเป็นห้องสีฟ้าอ่อน ลายเพ้นท์บนกำแพงกับลายดอกไม้ที่ปักบนผ้าม่านทำให้ห้องนี้หวานน่ารัก
บ้านริมน้ำ (Single Cottage)
เป็นห้องที่ขายดีที่สุดและมีเพียง 8 ห้องเท่านั้น ขนาดห้อง 24 ตร. ม. เข้าพักได้ 2 ท่านอยู่ริมลำธาร มีระเบียงหน้าบ้าน โซนนี้จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าโซนบ้านเคียงเดือน
เรือนเคียงฟ้า เรือนเคียงดาว (Deluxe Room)อาคารสองชั้นขนาดห้องพัก 28 ตร. ม. สำหรับ 2 ท่าน Style ล้านนาสำหรับผู้ที่ชอบความเรียบหรู เป็นห้องสำหรับ 2 ท่านที่ห้องกว้างกว่าประเภทอื่น ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้
บ้านชมดาว (Swiss Chalet)
บ้านไม้สำหรับครอบครัวหรือการเข้าพักเป็นหมู่คณะ สามารถเข้าพักได้ 8 ท่าน มี 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องรับแขก มุมนั่งเล่น และระเบียงชมวิว มีระเบียงเกือบรอบบ้าน ในช่วง Low season ราคาอยู่ที่คืนละ 6,000 บาท High season คืนละ 10,000 - 12,000 บาท บ้านหลังนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของรีสอร์ท มาถ่ายรูปเอาไป Check in ใน Facebook สวยๆ ค่ะ
มองจากระเบียงเห็นวิวแบบนี้เลยค่ะ บางช่วงเวลาจะเห็นหมอกลอยขึ้นมา
ในจำนวน 4 ห้องมีห้องใต้หลังคา 1 ห้อง เราชอบมากเพราะตอนเด็กเห็นในทีวี ห้องใต้หลังคากับห้องเตียง 2 ชั้นคือห้องในฝันเลยค่ะ วันที่เราเข้าไปชมบ้านไม่มีคนเข้าพัก แม่บ้านเอาผ้าคลุมเตียงกันฝุ่นไว้เลยถ่ายมาแต่ห้องรับแขกและมุมส่วนตัว ของตกแต่งในบ้านเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้หมดทั้งหลัง
การกางเต็นท์
เปิดให้กางเต็นท์เฉพาะช่วงปลายปี มีห้องน้ำรวม (รูปด้านล่าง) ไว้รองรับสำหรับผู้ที่มากางเต็นท์
กิจกรรมภายในที่พักที่นี่เน้นการพักผ่อน เที่ยวดอย ส่วนกิจกรรมเพิ่มเติมหากสนใจคอร์สเพื่อสุขภาพ นวด โยคะ หรือทำอาหารสำหรับผู้เข้าพักที่มาเป็นกลุ่มต้องติดต่อมาล่วงหน้าทางรีสอร์ทสามารถจัดให้ได้ อยากเล่นแคมป์ไฟ ร้องคาราโอเกะ หรือปิ้งย่างก็มีเตาให้เช่าเป็นเตาขนาดใหญ่สำหรับหลายคน หากใครไม่มีรถส่วนตัวแต่อยากไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ บนดอยอินทนนท์ ทางรีสอร์ทจะติดต่อรถเช่าให้ ช่วง High season มีผู้เข้าพักเยอะอาจจะรวมนักท่องเที่ยวแล้ว Join กันไปเป็นกลุ่ม นอกจากน้ำแร่ที่ส่งตรงถึงทุกห้องพัก ยังมีสระน้ำแร่กลางแจ้งไว้ให้บริการด้วยลงไปแช่ได้เลย
ห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยงบริการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง งานเลี้ยงสังสรรค์ มีห้องประชุมสัมมนารองรับได้ถึง 200 คน เครื่องเสียง Projector คาราโอเกะพร้อมบริการอาหารเครื่องดื่ม
บรรยากาศโดยรอบจากข้างบนเห็นได้ว่ามีบ้านพักเยอะ แต่ไม่รู้สึกแออัดเพราะทางรีสอร์ทจัดการพื้นที่ค่อนข้างดีและเจ้าของไม่สร้างบ้านพักเพิ่ม เพราะอยากให้มีพื้นที่กว้างๆ มีพื้นที่สวนเพื่อบรรยากาศธรรมชาติ
ถ้าคืนที่ท้องฟ้าเปิดและตรงกับช่วงทางช้างเผือกขึ้น ตรงนี้จะเป็นชุดถ่ายรูปและดูดาวได้ชัดมาก เนื่องจากไม่มีต้นไม้ใหญ่ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศวันที่เราไปเมฆเยอะอดดูดาวไปตามระเบียบ
ห้องอาหาร
เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 07.00 - 21.00 น. เราทานมื้อเย็นกันที่นี่ไม่อยากออกไปไหนแล้วเพราะเดินทางมาเกือบทั้งวัน เวลาต่อจากนี้คือกินและนอน ยุงเยอะไปหน่อยแต่น้องพนักงานก็เอายากันยุงมาวางให้
อาหารรสชาติดีจานที่เราชอบมากเลยคือหมูแดดเดียว เนื้อหมูหั่นมาชิ้นใหญ่แต่ไม่เหนียว นุ่มมาก รสชาติเค็มกำลังดี อร่อยจนต้องถามว่าใช้ส่วนไหนของหมูอยากลองไปทำกินที่บ้านบ้าง แม่ครัวก็บอกนะคะไม่ได้หวงอะไร แต่พอกลับมาเราลืมไปแล้ว ฮ่าๆ แวะไปทานอาหารที่นี่ลองชิมจานนี้ดูนะคะ แนะนำเลย
จานต่อมาหน้าตาเรียบร้อย แต่เป็นจานที่เรากดไลค์รัวๆ คือผัดถั่ว... อ่ะ ลืมอีกล่ะ เมนูนี้ก็ถามมาว่าใช้ถั่วอะไร ได้คำตอบแต่ก็ลืม ใครรู้บอกหน่อย คล้ายถั่วลันเตาแต่กรอบกว่า เราเลิฟมาก
พะแนงรสชาติเข้มข้นเผ็ดนำ
แหนมตะกร้าต้องกินพร้อมเครื่องเคียงรสชาติจะพอดีกัน
ต้มจืดยังอร่อย ซดน้ำร้อนๆ คล่องคอมาก
บรรยากาศยามค่ำคืนในรีสอร์ทตามทางเดินมีแสงสว่างเดินได้สะดวก
เราเข้านอน 22.00 น. เป็นการนอนเร็วในรอบหลายเดือน ทำให้เราตื่นเช้ามาก แต่เราจะไม่ฝืนร่างกายเพื่อลุกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เพราะเป็นหน้าฝนเราไม่คาดหวัง นอนเล่นมือถือกลิ้งไปกลิ้งมาจนร่างกายนอนต่อไม่ไหว เพราะว่า...หิว อาหารเช้าเริ่มตั้งแต่ 07.00-10.00 น. นำคูปองที่ได้รับมาตอน Check in ไปให้พนักงานแล้วตักอาหารได้เลย ไลน์อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีขนมปังปิ้งพร้อมแยม ไข่ดาว ไข่ต้ม ไส้กรอก แฮม ข้าวผัด ข้าวสวย ต้มจืด ข้าวต้ม ผลไม้ตามฤดูกาล คอนเฟลก นม น้ำส้มและชากาแฟ
เมื่อก่อนการไปเที่ยวของเราต้องตื่นแต่เช้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูทะเลหมอก ออกไปเที่ยวตามสถานที่ที่แพลนมาแบบแน่นเอี้ยด กลับมาที่พักอีกทีคือพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ทริปนี้เรา Check out 11.00 น. ใช้เวลากับที่นี่อย่างเต็มที่และคุ้มค่า "ทัชสตาร์รีสอร์ท" เป็นความสุขที่สัมผัสจับต้องได้ ทั้งในเรื่องของราคาที่พัก ความสะดวกสบาย บรรยากาศความเป็นธรรมชาติไม่ต้องปรุงเเต่งเยอะ ตื่นมาได้สูดอากาศดีๆ ได้อาบน้ำแร่ กินอาหารอร่อย พนักงานน่ารักพูดจาดี เราประทับใจน้องพนักงานเสิร์ฟที่ดูแลเราตอนทานอาหารเย็นมาก ขอขอบคุณ "ทัชสตาร์รีสอร์ท" ที่ทำให้เรามีความสุขในการพักผ่อน
ที่อยู่: 130/1 ถนนจอมทอง-อินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง เชียงใหม่ 50160
โทรศัพท์: 092-419-4142, 080-589-9168, 053-033-594
Facebook: Touch Star Resort รีสอร์ทใกล้ดอยอินทนนท์
Website: https://www.touchstarresort.com/
ID LINE: touchstar
แนะนำร้านอาหารและที่เที่ยวใกล้เคียง พิซซ่าต้นไม้ (Lake Side Pizza)ร้านพิซซ่า Homemade เล็กๆ อยู่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำหลังวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ทางเข้าดูลึกลับแต่ Googele map พามาถึงนะคะ บรรยากาศร้านร่มรื่นและเป็นกันเอง
เราสั่งเมนูแนะนำที่เป็นสูตรของทางร้านเอง Stefano & Stefany Pizza สองหน้าในถาดเดียว ได้ยินคำว่า "เป็นสูตรของทางร้าน" ไม่ได้จริงๆ ความอยากกินเพิ่มมาอีกเท่าตัว พออาหารมาก็ลงมือกินทันทีไม่ได้ถามเลยว่าส่วนไหนคืออะไร พิซซ่าขนาด 8 ชิ้นแป้งบางกรอบมีความไหม้นิดๆ ตามแบบของพิซซ่า Homemade ยิ่งกินตอนร้อนๆ แป้งกับตัวซอสดีงามมาก ค่าเปิดประสบการณ์สูตรของทางร้าน ถาดนี้ราคา 500 บาท
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ดอยอินทนนท์เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาว โดยเฉพาะช่วงปีใหม่นักท่องเที่ยวเยอะมาก ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย เรามาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วยังเที่ยวไม่หมดเลยค่ะ วางแพลนแบบหลวมๆ เที่ยวใกล้ที่พัก เน้นพักผ่อนเก็บบรรยากาศมากกว่าไล่ Check in เก็บที่เที่ยว ไปดูกันดีกว่าว่าดอยอินทนนท์ในหน้าฝนมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง
น้ำตกแม่กลาง (Mae Klong Waterfall)
น้ำตกแม่กลางอยู่ห่างจากทัชสตาร์รีสอร์ทเพียง 2 กิโลเมตร หากต้องการเข้าไปชื่นชมความงดงามของน้ำตกต้องซื้อตั๋วก่อน เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท ใครที่นำ Passport ของอุทยานแห่งชาติมาสามารถให้เจ้าหน้าที่ปั้มตราประทับของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้ค่ะ
ช่วงที่เราไปเป็นหน้าฝน ให้ดูป้ายบอกสถานการณ์น้ำและต้องปฏิบัติตามด้วย อย่างตอนนั้นป้ายบอกว่าสถานการณ์น้ำอยู่ในระดับอันตราย มีป้ายห้ามลงเล่นน้ำบอกอย่างชัดเจน พอฝนลงเม็ดเราก็รีบออกจากบริเวณนั้นทันที เที่ยวป่าเที่ยวเขาต้องระมัดระวังไว้เสมอ
บริเวณด้านล่างเป็นลำธาร มีร้านอาหารและที่นั่งริมลำธาร เราสั่งข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว น้ำอัดลม และน้ำแข็งหนึ่งถัง ราคาอาหารทั้งหมด 190 บาท
น้ำตกวชิรธาร (Wachirathan Waterfall)
ห่างจากน้ำตกแม่กลางประมาณ 14 กิโลเมตร จากที่จอดรถเดินขึ้นเนินไปนิดเดียวก็ถึงน้ำตกแล้วค่ะ ละอองน้ำแรงเพราะจุดชมวิวอยู่ใกล้น้ำตกมาก ใครที่อยากมาถ่ายรูปนานๆ เตรียมเสื้อกันฝนและอุปกรณ์กันน้ำของกล้องถ่ายรูป มือถือมาด้วยนะคะ หากวันไหนแสงแดดมีองศาที่พอเหมาะกับละอองน้ำจะเกิดเป็นสายรุ้งที่สวยงาม คนมากับฝนอย่างเราเลยอดชมไปโดยปริยาย มีร้านกาแฟอยู่ใกล้บันไดทางสามารถจิบกาแฟพร้อมชมวิวน้ำตกได้เลย ห้องน้ำสะอาด ไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ
บ้านแม่กลางหลวง (Baan Mae Klang Luang)
มาเที่ยวดอยอินทนน์ช่วงนี้ห้ามพลาดไปชมทุ่งนาขั้นบันไดเขียวๆ ที่บ้านแม่กลางหลวง ช่วงเวลาประมาณเดือนกันยายน - ตุลาคม นาขั้นบันไดจะเป็นสีเขียวไปทั้งหมู่บ้าน และจะกลายเป็นทุ่งนาสีเหลืองทองในช่วงกลางเดือนตุลาคม - ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน หากพลาดสองช่วงนี้ไปช่วงดำนาก็สวยไปอีกแบบมาเที่ยวได้หลายช่วงเวลาเลยค่ะ ใครชอบเดินป่าสามารถติดต่อไกด์นำเที่ยวที่หมู่บ้านพาเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยวหรือรักจังได้
ร้านกาแฟ "มึกะคี" เป็นร้านกาแฟที่อยู่หน้าหมู่บ้าน ขายทั้งเครื่องดื่มและอาหารตามสั่ง เราแวะพักดื่มชาและกาแฟกันก่อนจะเข้าไปเก็บภาพนาขั้นบันไดในหมู่บ้าน มีเวลาเดินเก็บภาพไม่มากเพราะต้องขี่มอเตอร์ไซค์กลับเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเตรียมตัวขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ
ออกจากเชียงใหม่ด้วยรถทัวร์ของสมบัติทัวร์รอบ 18.30 น. ขากลับเราเลือกรถทัวร์แบบ VIP เนื่องจากเช้าวันจันทร์เราต้องไปทำงานต่อ ขอนั่งแบบสบายหน่อยน้าาา
การนั่งรถทัวร์ไปเที่ยวเชียงใหม่ 2 วัน 1 คืน ไม่เหนื่อยอย่างที่คิด เพียงแค่รู้จักวางแผนเลือกสถานที่ท่องเที่ยวสบายๆ ให้เวลาในแต่ละสถานที่ รู้จักเผื่อเวลา ถึงเราจะเที่ยวไม่ครบทุกที่ เก็บไม่ครบทุกจุด แค่เลือกที่พักที่ทำให้เราพักผ่อนได้เต็มที่อย่าง "ทัชสตาร์รีสอร์ท" ขากลับเลือกรถแบบที่นั่งสบาย กลับมาทำงานต่อได้สบายเลยค่ะ หน้าฝนก็เที่ยวดอยอินทนนท์สนุก เพราะฝนไม่ใช่อุปสรรคในการเที่ยว แต่เป็นเงินในกระเป๋าต่างหาก...แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้านะคะ...
...ค่าใช้จ่ายในทริป... สอบถามข้อมูลที่พักเพิ่มเติม: Touch Star Resort ติดตามการเดินทางของเราได้ที่: KeepGoing Thailand