ช่วงที่ผ่านมาคนรอบข้างหลายคนพูดให้ได้ยินกันถี่ยิบว่า ชื่นชอบเดือนนี้กันเป็นพิเศษ เราก็ไม่ค่อยจะแปลกใจและสงสัยซักเท่าไหร่ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะเดือนนี้มีวันซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย รวมไปถึงยังเป็นเดือนที่คนส่วนใหญ่ทั่วทุกมุมของโลกจะได้เฉลิมฉลองกับช่วง เวลาอันเป็นรอยต่อระหว่างปีเก่าเพื่อก้าวสู่ศักราชใหม่กันอีกครั้ง ที่สำคัญช่วงเดียวกันนี้ยังเหมาะจะจัดการกับความฝันซึ่งวางกันได้ตั้งแต่ต้น ปี ด้วยการออกไปสัมผัสแสงแรกของปีที่กำลังจะมาถึงท่ามกลางบรรยากาศหนาวเย็นทว่า อบอุ่นด้วยเหล่ามวลมิตรและอาภรณ์ที่สวมใส่ซึ่งหนากว่าปกติ และจุดหมายของเราครั้งนี้เป็นที่ไหนไปไม่ได้ นั่นก็คือจังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ที่กำลังจะมีงานระดับโลกอย่าง งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554

ซึ่งครั้งนี้ประเทศไทยได้มีโอกาสจัดงานอันยิ่งใหญ่แบบนี้เป็นครั้งที่ 2 ถือเป็นการตอกย้ำความประทับใจให้กับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติกันอีกครั้ง พร้อมกับความงดงามของพืชพรรณนานาชนิด รวมไปถึงกิจกรรมหลากหลายประเภทให้คุณได้ตื่นตากันอีกเช่นเคย ประกอบกับงานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติฯ ใน 3 วโรกาสสำคัญของคนไทย นั่นคือ วโรกาสที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี พ.ศ. 2554 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปี พ.ศ. 2555 และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา ในปี พ.ศ. 2555 ฉะนั้นให้มั่นใจได้เลยว่างานพืชสวนโลกในครั้งนี้ที่จะยิ่งใหญ่และสามารถ สร้างความตรึงใจให้คุณได้ไม่น้อยไปกว่างานในครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2549 อย่างแน่นอน 

โดยไฮไลต์ของงานในครั้งนี้มีเพิ่มเข้ามาด้วยกัน 3 กิจกรรมหลัก อย่างแรกคือ สวนแสงแห่งจินตนาการ (Imagination Light Garden) เป็น การเนรมิตดวงไฟนับล้านดวงกับผีเสื้อและใบไม้เรืองแสงที่กระพริบเต้นไปตาม จังหวะของเสียงดนตรีบรรเลง ซึ่งความรู้สึกเมื่อได้เข้าไปยืนยังจุดนั้นบอกได้คำเดียวว่าน่าตระการตาเป็น ที่สุด ถัดไปเป็นไฮไลต์ที่ 2 ก็คือ กระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้า (Giant Flora Wheel) ที่มีความสูงถึง 40 เมตร คุณจึงสามารถสัมผัสความสวยงามของบริเวณจัดแสดงในมุมสูงจากบนกระเช้า ซึ่งมีความสวยงามทั้งช่วงกลางวันและยามค่ำคืน และไฮไลต์สุดท้ายเป็นในส่วนของ สวนเยาวชนรักษ์โลก (Kids’ Eco Park) เพื่อ กระตุ้นให้เยาวชนตื่นตัวในเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการให้ความรู้ ผ่านสื่อสมัยใหม่ ซึ่งแน่นอนว่านอกจากความรู้ที่จะได้รับแล้วยังจะได้ความสนุกควบคู่ไปด้วย 

ขณะเดียวกันสวนนานาชาติที่เข้าร่วมจัดแสดงครั้งนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ถึงแม้ว่าหลายสวนจะเป็นของเดิมก็ตามทีแต่ก็มีการปรับปรุงตกแต่งสวนและเพิ่ม ไฮไลต์ใหม่ๆ เข้าไปให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น เริ่มกันด้วย สวนจากประเทศภูฎาน ที่นำของเด่นของดังมาอวดโฉมให้ได้ชมกัน เช่น ดอก Blue Poppy ดอกไม้ประจำชาติภูฎาน รวมไปถึงรูปแบบเฉพาะตัวของสถาปัตยกรรมที่ให้รายละเอียดได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้คนไทยยังจะได้สักการะ พระศรีศากยมุนี เสริมมงคลเพื่อต้อนรับรับปีใหม่กันได้ที่สวยภูฎานแห่งนี้ ถัดไปก็เป็นสวนของบ้านพี่เมืองน้องอย่างประเทศลาว ซึ่งได้จำลองวัดเชียงทองที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดแห่งหลวงพระบางมาไว้ยังสวน นี้เช่นกัน หรือจะเป็นสวนจากประเทศทางฝั่งยุโรปเป็นต้นว่า ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของดอกทิวลิปและกังหันลม หรือจะเป็นสวนจากประเทศสเปน เบลเยี่ยม ก็มีเช่นกัน ทั้งยังรวมไปถึงสวนจากประเทศทางฝั่งทวีปแอฟริกา เช่น เคนยา ซูดาน เป็นต้น ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสวนนานาชาติ ซึ่งยังไม่หมดไม่เพียงเท่านั้นยังมีสวนองค์กรชั้นนำของเมืองไทยที่ต่างก็ พร้อมใจมาร่วมงานอันยิ่งใหญ่ด้วยการตกแต่งสวนตามรูปแบบซึ่งแตกต่างกันออกไป ทั้งสวนจากมูลนิธิโครงการหลวง สวนของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล สวนจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย สวนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ สวนจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ฯลฯ

ทั้งนี้ในส่วนของ หอคำหลวง สัญลักษณ์แห่งอุทยานหลวงราชพฤกษ์ภายใต้ความสวยงามในรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา ซึ่งชั้นล่างได้ถูกตกแต่งเพื่อใช้จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในจะจัดแสดงพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ และพระราชกรณียกิจของพระองค์ ซึ่งนอกจากนิทรรศการในบริเวณหอคำหลวงแล้ว ยังมีนิทรรศการอื่นๆ ที่กระจายตัวอยู่โดยรอบพื้นที่ เป็นต้นว่า นิทรรศการบัว ซึ่งมีบัวหาดูยากหลากสายพันธุ์ เช่นกันกับ นิทรรศการกล้วยไม้ นิทรรศการโลกแมลง รวมถึงนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียนในอาคารต่างๆ ที่จัดแสดงขึ้นไม่ซ้ำกันทุกวันตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 92 วัน ส่วนในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในพื้นที่จัดงานนั้นก็เรียกว่าครบครัน ไม่ว่าจะเป็นรถรางรับ-ส่งสำหรับเที่ยวชมยังพื้นที่ต่างๆ ร้านค้าร้านอาหาร ห้องสุขา ทางลาดสำหรับรถเข็น จุดจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ฯลฯ และทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระ เกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ที่จังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น ซึ่งส่วนต่างๆ ที่เหลือและภาพความงดงามที่ยังคงติดตรึงอยู่ในใจเรานั้นไม่สามารถบรรยายออก มาได้หมด และถ้าคุณอยากรู้ว่างานในครั้งนี้จะยิ่งใหญ่เพียงใดนั้น ก็คงไม่มีอะไรดีเท่ากับการออกไปเยือนเพื่อยลโฉมความยิ่งใหญ่ของงานพืชสวน ระดับโลกในครั้งนี้ที่หวนกลับมาเยือนพร้อมกับลมหนาว สายหมอก และดอกไม้ เรียกว่าเป็นการส่งท้ายปีพร้อมความสุขซึ่งจะตรึงใจกันไปอีก

- งานราชพฤกษ์เฉลิมพระเกียรติจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2554 ไปจนถึง14มีนาคม 2555    

- ราคาขึ้นกระเช้าลอยฟ้าราชพฤกษ์ คนละ 120 บาท/รอบ

- ราคารถรางรับ-ส่งภายในพื้นที่งาน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

- รายละเอียดกิจกรรมต่างๆ และข่าวสารของงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ราชพฤกษ์ 2554 สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.royalflora2011.com/2011/

ที่อยู่ : อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

GPS : 18.744450, 98.928283

เบอร์ติดต่อ : Call Center 02 610 2011, 053 820 7735 แฟกซ์ : 02 539 7790

E-mail : info@royalflora2011.com

Website : http://www.royalflora2011.com

Facebook : http://www.facebook.com/royalflora2011

Twitter : http://twitter.com/royalflora2011

เวลาทำการ : เริ่มตั้งแต่ 14 ธ.ค. 54 – 14 มี.ค. 55 เวลา 09.00 น.- 21.00 น. วันหยุดนักขัตฤกษ์เปิดบริการถึง 22.00 น.

ช่วงเวลาแนะนำ : ทุกช่วงเวลาที่เปิดบริการ เพราะมีสิ่งที่น่าสนใจหลากหลายให้ได้ชมทั้งวัน

ไฮไลท์ : หอคำหลวง, สวนแสงแห่งจินตนาการ, กระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้า, สวนเยาวชนรักษ์โลกและสวนนานาชาติ

กิจกรรม : เที่ยวชมความสวยงามของพืชพรรณและร่วมกิจกรรมต่างๆ ตลอดการจัดงาน