:+: LIFE is BETTER with DOGS :+:
รีวิวที่พักครั้งนี้ ขอเอาใจพลพรรครักน้องหมากันสักหน่อย กับที่พักเปิดใหม่บริเวณแม่ริม จ.เชียงใหม่ (เริ่มเปิดให้บริการเมื่อมีนาคม 2560) ที่มีแนวคิดต่าง เพราะเขายินดีต้อนรับและเอาใจครอบครัวคนรักน้องหมา นั่นเพราะว่าโรงแรมแห่งนี้ ไม่ได้นำเสนอแค่เพียงห้องพัก แต่ยังมีทั้ง Café ที่ต้อนรับน้องหมา, พื้นที่กิจกรรมสำหรับน้องหมา อย่างสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ มีการแยกสัดส่วนที่พักสำหรับคนและน้องหมาโดยเฉพาะ
ตามมาชมกันเลยดีกว่าค่ะ ว่า “PAWTEL : Dog Hotel Club” ที่พักเล็กๆบนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ครึ่งแห่งนี้ มีบริการพิเศษอะไรให้กับครอบครัวที่เดินทางพร้อมกับน้องหมาบ้าง
** Pawtel : Dog Hotel Club **
https://www.facebook.com/pawtelchiangmai/
///////////////////////////////
ที่พักแห่งนี้ อยู่บริเวณแม่ริม จ.เชียงใหม่ค่ะ (ห่างจากถนนนิมมานเหมินท์ ประมาณ 21 กม.) ... ถ้ามาจากตัวเมืองเชียงใหม่ จะไม่ใช่ทางแยกซ้ายที่เป็นเส้นทางท่องเที่ยวหลัก (ไปยังสวนพฤกษศาสตร์, ม่อนแจ่ม หรือปางช้างแม่สา ฯลฯ)นะคะ แต่ให้เลยมานิดนึงแล้วเลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางไปวัดเจดีย์สถาน ... ง่ายๆเลยกด google maps ค่ะ แล้วพิมพ์ชื่อโรงแรม Pawtel หมุดพิกัดเขาแม่นยำ ไม่มีคลาดเคลื่อน จากถนนหลักเข้าไปตามทางประมาณ 3.1 กม.ก็จะเห็นตัวโรงแรมอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
มาถึงที่พักแล้ว แวะมาเช็คอินกันก่อน ตัวล๊อบบี้จะเน้นเพดานสูงโปร่ง ดูโล่งๆไม่อึดอัด
ที่พักจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โรงแรมน้องหมาและโรงแรมทั่วไป ซึ่งตัวห้องพักจะแบ่งเป็นห้องพักที่อนุญาตและไม่อนุญาตให้น้องหมาเข้าพักค่ะ และบริเวณด้านหลังล๊อบบี้นี้จะเป็นโซนสำหรับน้องหมาโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมรับฝากเลี้ยง, grooming และสระว่ายน้ำน้องหมา สำหรับรายละเอียดต่างๆขอกล่าวถึงในช่วงหลังนะคะ ขอพาไปชมในส่วนโรงแรมทั่วไปกันก่อน
++ ลานนี้สามารถตั้งโต๊ะจัดกิจกรรมหรือจะ BBQ Party ก็ยังไหว ++
โซนที่พักจะแยกไปอีกทางหนึ่งค่ะ ตอนกลางคืนไม่ต้องห่วงว่าจะมีเสียงดังรบกวน เพราะระยะห่างกับที่พักน้องหมาพอสมควร ตัวที่พักเป็นอาคาร 3 ชั้น (ไม่มีลิฟต์) แบ่งห้องพักออกเป็น 6 ประเภทรวมทั้งหมด 14 ห้อง ซึ่งห้องหัวมุมจะมีพื้นที่ห้องมากกว่าห้องอื่นๆ (Super Room) ผนังรอบๆตกแต่งด้วยภาพน้องหมาในอิริยาบถต่างๆ
++ Layout และตำแหน่งห้องพัก ตามภาพนี้ค่ะ ++
ห้องพักทุกห้องเป็น pool view (สระว่ายน้ำโซนนี้ ไม่อนุญาตให้น้องหมาลงเล่นนะคะ)
☆ Dip Room - ชั้นล่างสุดเป็นห้องพักแบบ Pool Access (ชั้นนี้ไม่อนุญาตให้น้องหมาเข้าพัก) และพิเศษสำหรับห้อง Super Dip Room จะมีมุมครัวเล็กๆพร้อมไมโครเวฟเพิ่มเข้ามา
☆ Dog Room - ชั้น 2 เป็นห้องพักแบบเจ้าของเข้าพักพร้อมน้องหมา มีมุมที่นอนไว้ให้น้องหมาแยกเป็นสัดส่วนเฉพาะ ซึ่งอนุญาตให้พักได้ห้องละ 2 ตัว น้ำหนักตัวไม่เกิน 10 กก.ต่อตัว
☆ Deck Room - ชั้น 3 ไม่อนุญาตให้น้องหมาพักในห้อง เพิ่มความพิเศษด้วยอ่างน้ำบนระเบียง และสำหรับห้อง Super Deck Room จะมีชั้นลอยเหนือที่นอน
** สำหรับการเข้าพักครั้งนี้ เราพักห้องแบบ Super Deck Room ค่ะ **
ในห้องพักไม่มีตู้เสื้อผ้านะคะ เป็นราวแขวน
วิวจากระเบียงห้องพัก
ภายในห้องน้ำ
จุดแตกต่างของห้องพักประเภทนี้ คือ มีชั้นลอยอยู่เหนือเตียงนอน (เฉพาะห้อง Super Deck Room) และมีอ่างน้ำที่ระเบียง
กระจกบานใหญ่ที่ปลายเตียง ตอนบ่ายนี่จะร้อนนิดนึงเพราะแดดเข้าทางนี้ แต่แสงช่วงก่อนค่ำนี่สวยเลยค่ะ
สถานที่ตกแต่งแบบมีเอกลักษณ์ด้วยสไตล์โรงนาแถบยุโรปตะวันตก มีการนำไม้เก่ามาประดับตกแต่ง ได้อย่างทันสมัยและลงตัว จนแอบทึ่งว่าเขาไปหาไม้เก่าสวยๆแบบนี้มาจากไหนหนอ? แถมยังมีไอเดียดีๆในการนำเศษไม้มามัดรวมกันทำเป็นโต๊ะหัวเตียงบ้าง
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักได้มาตรฐานตามที่พักทั่วไปค่ะ อาทิเช่น ไดร์เป่าผม, กาต้มน้ำร้อน, โทรทัศน์, ตู้เย็น ฯลฯ ... โดยเฉพาะโทรทัศน์ในห้องพักจะมีช่องพิเศษ เหมือนภาพจากกล้องวงจรปิดสำหรับดูน้องหมาที่เข้าพักในอีกโซน กรณีที่เจ้าของฝากน้องหมานอนแยกอีกโซนหนึ่ง
สนนราคาห้องพักช่วง Green Season (ฤดูฝน)ถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้แบบไม่รวมอาหารเช้า เริ่มต้นที่ 1,300 บาทเท่านั้นสำหรับห้อง Dog Room และ 1,700 บาทสำหรับห้องพักแบบ Super Dog Room ซึ่งสามารถนำน้องหมาเข้าพักได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แถมมีที่นอนน้องหมาให้บริการด้วย นับว่าคุ้มค่าและเป็นจุดขายของที่นี่เลยค่ะ
++ ห้องพักแบบ Dog Room ซึ่งอนุญาตให้น้องหมาพักในห้องได้ ++
++ มุมที่นอนน้องหมา ในห้องพักแบบ Dog Room ++
สำหรับห้องพักแบบ Deck Room และ Dip Room ราคาจะสูงกว่า แต่ทั้งนี้ห้องพักแบบไม่รวมอาหารเช้าก็ไม่เกิน 2,000 บาทค่ะ
++ มุมครัวพร้อมไมโครเวฟ ในห้องพักแบบ Super Dip Room ++