ทริปนี้เป็นทริปของเศษชั่วโมงที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นวันที่ต้องเดินทางกลับกรุงในเที่ยวบินช่วงเย็น

เวลา 17:30 น. แต่แล้ว... เมื่อเพื่อนต้องเดินทางกลับกรุงไปก่อนล่วงหน้าในเที่ยวบินแรก

เพราะติดประชุมด่วน สิ่งที่เหลือไว้คือกาลเวลา...

นั่งคิดแล้วคิดอีกจนข้ามวันว่าจะกลับด้วย ไม่กลับด้วย โอ้ยย! เอานะในเมื่อลาพักร้อนมาแล้วใช้

เวลาที่ยังมีเหลืออีก หลายชั่งโมงเที่ยวให้คุ้มก่อนกลับ ลองเที่ยวคนเดียวดู

"ทริปเที่ยวในตัวเมือง และย่านนอกเมืองจึงบังเกิด"

หาที่เที่ยวที่คิดว่าไม่ไกลมาก สามารถกลับมาทันขึ้นเครื่อง หา Landmark แถวในเมือง

เชียงใหม่และย่านนอกเมือง  "ดอยสุเทพ" ก็ลอยมาซึ่งเป็นสถานที่แรกที่คิดถึง โอเคขึ้นดอย และอีกหนึ่งสถานที่

เอาไว้นั่งพักชิลๆ หลังหลงจากดอยต้อง ย่านนี้เลย "นิมมานเหมินท์" กับร้านกาแฟชื่อดัง 

"Doppio Ristr8to" (เด็กเชียงใหม่แนะนำมา ส่งรีวิวแถวย่านนี้มาให้เปิดดูกันเลยทีเดียว)

อย่าได้รอช้าาาา ไปโลดดดด

ออกเดินทาง

เขาบอกว่าเที่ยวเชียงใหม่ หากขึ้นรถแดงต้องอู่กำเมืองถึงจะได้ราคา 20 บาท (แต่ขึ้นอยู่กับเป้า

หมายที่จะไปด้วยต้องต่อรองเอา) อู่บ่เป็นเจ้าา โบกรถขึ้นที ลุ้นยิ่งกว่าตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล 

เด็กเชียงใหม่บอกมาหากถามราคาแพงกว่าราคานี้ๆ ไม่ต้องขึ้นรอคันอื่น รถแดงมีเยอะ คล้ายๆ 

กะสลากกินแบ่งเลยอะ โชคดีก็เจอแจ๊คพอต โชคร้ายก็โดนรับประทาน

มาเริ่มออกเดินทางกัน เดินทางมาถึงตีนดอย ประมาณ 10.00 โมง โชคดีมากๆ รถแดงกำลังจะออกพอดี โดยที่รถคนนั้นถูกต่างชาติเหมาไปแล้ว เราเป็นเหมือนเศษติ่งของเขาที่ให้ติดรถขึ้นไปด้วย เพราะขอลงแค่ดอยสุเทพ จึงได้มาในราคา 40 บาท (ตามที่เด็กเชียงใหม่บอกไว้) ก็โอเค

ถึง Landmark จุดที่หนึ่ง "ดอยสุเทพ" เวลา 10.45 น.  

มุ่งหน้าสู่ยอดดอย ก็เดินชมนก ชมไม้  ขึ้นไปไห้วพระขอพรก่อนกลับกรุง

ดูวิวบรรยากาศมุมสูงในย่านตัวเมือง (เชียงใหม่ช่วงเดือนนี้ร้อนแท้หน่อ...) ถ่ายรูปบนดอยให้

หนำใจ เมื่อภาระกิจชมดอยสิ้นสุดลง ก็กลับไปชิลๆ ต่อในย่านตัวเมือง

ไปขึ้นรถแดงที่คิว  เพื่อลงดอย สอบถามราคาไปย่านนิมนาม เท่าไรเจ้าาาา 60 บาท ก็ไม่รู้นะว่าแพงเปล่า แต่เพิ่มมาแค่ 20 บาท เพื่อต่อไปนิมมาณ ก็ได้อยู่ๆ นั่งรอจนกว่ารถจะเต็มอะยาววไปครัชๆ ได้ลงดอยเวลาประมาณ 12.50 น.

เพื่อไปสู่ Landmark จุดที่สอง ย่าน "นิมมานเหมินท์"

ถึงย่าน "นิมมานเหมินท์" ก็เดิน หา Landmark จุดที่สองเหมือนรถพึ่งผ่านมารู้แค่ว่า

อยู่ติดถนม ซอย 3

พิกัด : ปากซอย นิมมานเหมินท์ 3 ข้างร้าน โรตีกู
เวลาเปิด-ปิด : 07.00-18.00 น.
ฉุกเฉินโทร : 053-215278

ถึงร้านกาแฟ "Doppio Ristr8to" ประมาณเกือบ 13.30 น. ขอนั่งชิลๆ จิบกาแฟ ลาเต้อาร์ทชื่อ

ดังของร้านสักหน่อย เพื่อพักกายพักใจให้สบายกายา ร้านถือว่าชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ คนเดินเข้า

เดินออกตลอดเวลาที่นั่งอยู่

สั่งไป 2 เมนู กับเมนู Caffe Latte Art & Waffle snack รสชาติสมคำร่ำลือ ระดับดีกรี Latte Art

หมดไป 172 บาท ก็นั่งยาวไปประมาณบ่าย 2 กว่าๆ 

ฟินกันเลยทีเดียว แห๋มพึ่งรู้ว่าเที่ยวคนเดียวมันก็ไม่ได้เหงาอย่างที่คิด (รูปนี้ได้มาเพราะวานหนุ่มญี่ปุ่นถ่ายให้ คริๆ เห็นนั่งจิบกาแฟอยู่ตรงหน้าใช้ซะเลย ฮะ)

แถมได้รู้มาว่าซอย 5 ซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากร้านนี้มีร้านไอศกรีมกดกริ่ง อย่าได้รอช้ารีบเดินหน้าไป

ต่อ แต่แล้วก็ฝันสลายร้านปิดปรับปรุง แต่ว่าเอาพิกัดมาฝากเพื่อใครอยากแวะมากิน

ไอศกรีมกดกริ่ง
ร้านไอศกรีมกดกริ่งหรือร้านโฮมเฟรช ที่เปิดมากกว่า 40 ปี จุดเด่นอยู่ตรงที่เราต้องกดกริ่งเรียก ทำจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ เข้มข้น หอมหวาน 

พิกัด : นิมมานเหมินทร์ ซอย 5
เวลาเปิด-ปิด : 08.00–17.30 น.
ฉุกเฉินโทร : 053-210491
ค่าใช้จ่าย : ราคาไม่แพงมาก

และแล้วก็ได้เวลาไปสนามบิน ยืนโบกรถแดงอยู่แถวปากทางซอย 5 ต่อรองราคาจาก นิมมาน ไปสนามบิน ได้ราคามา 100 บาท (คิดในใจมันแพงไปใช่มะ เด็กเชียงใหม่บอกมาว่าถ้าแพงกว่า 60 บาท อย่าขึ้น) ทำไงได้อะกลัวไปไม่ทัน แถมร้อนมากกกก ขึ้นเถอะ ลุงแกก็นะ พาเที่ยวรอบเมืองเชียงใหม่เลย ขับรถสบายใจมากเลยนะลุง ถึงสนามบินประมาณบ่าย 3 โมงกว่า ต่อรองราคาอีกรอบจ่ายไป 80 บาท 555++

ปล. จริงๆ ย่านนี้ของกินเยอะมากๆ ร้านอาหารก็เก๋ไก๋มีสไตล์ ถ้าเหล่านักกิน นักชิมชอบละก็ ขอแนะนำให้รีวิวร้านต่างๆ และพิกัดในย่านนี้มาก่อนเลยจิได้ไม่เสียเวลาหากมีเวลาจำกัดในการเที่ยว แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง

บายบ๊ายยยย เชียงใหม่ ไปขอนั่งตากแอร์ในสนามบินให้สบายใจ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะจ๊ะ

By Namee Be Bear

ขอฝากเพจน้องใหม่ของเจ้าของรีวิวด้วยนะจ๊ะ ถ้าชอบให้กดไลน์ ถ้าถูกใจช่วยกดแชร์

Fanpage : https://www.facebook.com/KanXengStudio/