สวัสดี น่าน นานมาแล้วที่ได้ไป
มีโอกาสได้ไปเชียงใหม่มาหลายครั้ง ครั้งนี้ลองดูรีวิวจากคนอื่นๆ และลองไปจังหวัดอื่นทางภาคเหนือดูบ้าง จังหวัดที่ได้รับเลือก คือ "น่านงัยย"
จองโปรบินกับแอร์เอเชียได้ในราคา 290 บาท / คน จองยาวๆๆไป ก็รอเวลาบินได้....
ขึ้นเครื่องเวลา 07.30 น โดยประมาณ ถึงสนามบินน่านนคร 08.40 น เราเช่ารถไว้กับ JM น่าน เป็นโตโยต้าวีออส นัดรับรถ 10.00 น. แต่ผิดพลาดน่าจะจดเวลากันผิด โทรไปตามรอ 15 นาทีได้ เสียเวลานิดหน่อยไม่ได้ซีเรียสอะไรค่ะ (โทษที่ความผิดตัวเองไม่คอนเฟริ์มกับเขาอีกทีก่อนออกมา)
น่านฟ้าน่านนน
รถเช่าที่เช่าไว้
รับรถเรียบร้อยก็ออกเดินทางได้ จุดมุ่งหมายปลายทางของวันแรกคือ อ. บ่อเกลือ เราจองที่พักล่วงหน้าไว้ที่ อ.บ่อเกลือ ชื่อที่พักอุ่นไอมาง ณ สปัน
เราใช้เส้นทางทางนี้ --> จากจังหวัดน่าน ขับไปทางอำเภอปัว ขับไปจนถึงอำเภอปัว จากนั้นใช้ถนนสาย 1256 มุ่งหน้าอุทยานแห่งชาติ ดอยภูคาจากนั้นขับไป ตามเส้นทางมุ่งหน้าสู่อำเภอบ่อเกลือ
เราวางแผนไว้ว่าถ้าผ่านที่ไหนเราก็จะแวะที่นั่น โดยที่เราศึกษาสถานที่มาบ้าง ดูตามป้ายทางหลวงบ้าง ไปๆๆกัน
รถโดยสารแบบนี้ก็ยังมีให้เห็นมื้อกลางวันเราแวะทานข้าวข้างทาง คนละ 30 บาท เป็นข้าวซอยไก่ กับข้าวมันไก่ รสชาติใช้ได้เลย ถูกด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ จากนั้นก็มุ่งหน้าต่อไปยังวัดภูเก็ต ชื่อวัดภูเก็ตแต่ไม่ได้อยู่ภูเก็ตนะเออ
วิวจากด้านบนลานวัด เสียดายที่ทุ่งนาถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแล้ว ไม่ทันได้เห็นท้องทุ่ง ไม่อย่างนั้นคงจะสวยกว่านี้ ไหว้พระชมวิวเสร็จก็ออกเดินทางต่อไปยังร้านกาแฟ ที่ใครๆก็บอกห้ามพลาด
ถึงแล้วร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ไปชิมสักหน่อย
กาแฟอร่อย บรรยากาศดี ไม่อยากจะไปไหนเลยยย.... อ่อ พอเดินทางมาเรื่อยๆอากาศก็จะเริ่มเย็นลงมาบ้าง อยากจะนอนตรงนี้นานๆกำลังสบายแต่ก็ต้องลุกขึ้นมาถ่ายรูปและออกเดินทางต่อเพราะเรายังมีอีกหลายจุดหมายให้แวะ..
ที่เห็นเป็นศาลาๆนั่นคือที่นั่งสำหรับลุกค้า และมีทางเดินเชื่อมต่อกัน
พักตรงนี้จุใจแล้วออกเดินทางต่อค่ะ จุดต่อไปที่จะแวะคือบ่อเกลือ เราไปวันธรรมดาวันนี้คนเลยไม่เยอะเท่าไร เงียบๆดีค่ะ
บ่อเกลือโบราณ
มีชาวบ้านนำไข่ต้มเกลือมาขายเดินดูรอบๆมีธารน้ำ เดินไปนั่งทานไข่ ดูวิว เสร็จแล้วออกเดินทางต่อค่ะ
เข้าสู่เขตอุทยานอากาศเริ่มเย็นเริ่มมีหมอกหนาขึ้น
ตรงนี้สามารถแวะถ่ายรูปได้ อากาศเย็นสบายเลยค่ะเดินทางต่อไป เหลือจุดมุ่งหมายสุดท้ายของวันนี้
ถึงแล้วเป็ดน้อยมารอตอนรับ เอาสัมภาระไปเก็บแล้วก็มาดุวิวกัน เราจองกระโจมริมน้ำไว้ อยากได้บรรยากาศชิวๆ
ห้องพักของเราหลังที่สอง มีเก้าอี้ให้นั่งฟังเสียงน้ำไหล ดูวิวเดินเล่นในหมู่บ้าน อากาศดีมากกก มีภูเขา มีลำธาร มีสะพาน มีหมอก คือฟินมากๆ หลังจากเดินรอบหมู่บ้านเสร็จก็มารอทานข้าวเลย เราซื้อแพ็คเกจแบบรวมอาหาร 2 มื้อ เย็นกับเช้า คนละ 800 บาท
ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารไว้เพราะหิวมั๊กๆๆ แต่อร่อยหมดทุกอย่างโดยเฉพาะลูกฝักแม้วผัดไข่ กินจนหมดจนต้องขอเติม คุณป้าคนดูแลใจดี คอยดูแลไม่มีอะไรขาดตกพร่องเลย อิ่มแปล้ แถมกล้วยยักษ์ให้อีก 1 ลูกถึงกับจุกกันเลยย
ทานอาหารเสร็จได้เวลาไปอาบน้ำ เตรียมตัวนอน พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางอีก ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมสำหรับคนนอนกระโจม แต่ถ้านอนบ้านก็ห้องน้ำในตัว ราคาเดียวกัน แต่กระโจมจะใกล้ชิดธรรมชาติฝุดๆๆ
ไม่ได้เปิดม่านมากเพราะผู้ร่วมทีมกลัวผี ฮ่าๆๆ อากาศดี้ดีย์ค่ะ
ฝันดีค่ะ หมดไปแล้ว 1 วัน กับน่าน เนิบๆ จริงๆ กับที่มีคนเคยนิยามไว้
เข้าใจคำว่าที่พักหลักร้อยวิวหลักล้านก็ตอนนี้ ไม่อยากจะลุกไปไหนเลยยย แต่!!!ก็ต้องไป ทานอาหารเช้าเสร็จเก็บสัมภาระออกเดินทางต่อสู่อำเภอปัว คืนนี้เราจะนอนกันที่บ้านตานงค์ เหมือนเดิมแวะไปเรื่อยๆๆ
ระหว่างทางบางทีก็สวยงามกว่าปลายทาง เจอทุ่งข้าวโพดกับหมอก เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว ^^
ขับรถมาเรื่อยๆ ก็ได้เวลาทานอาหารเที่ยงแล้ว เราขอฝากท้องไว้กับฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ( บ้านผาเก๊าะน้ำกูน)
อร่อยทุกอย่าง อิ่มแล้วไปต่อได้ จุดมุ่งหมายต่อไปใกล้ๆนี่เอง ขับรถวนลงไปข้างล่าง เป็นวังศิลาแลง เรามาวันธรรมดา ไม่มีคนเลยแอบกลัวนิดนึง แต่ก็เดินทางเข้าไปค่ะ เป็นป่าเข้าไปนิดนึงเดินต้องระวังด้วยนะคะ บางที่ก็ลื่น
ทางเข้ามีฝายกั้นน้ำเดินลัดเลาะป่าเข้าไปด้านใน
เสร็จจากจุดนี้ขับรถไปเรื่อยๆ ตามแพลนที่วางไว้คร่าวๆ เราว่าจะไปวัดร้องแง เปิดจีพีเอสนำทางไปค่ะ
ไหว้พระเสร็จออกเดินทางต่อไปยังที่พักสำหรับคืนนี้ค่ะ โฮมเสตย์บ้านตานงค์
น่านไงบ้านตานงค์ แต่ไม่มีข้าวเหลือแล้ว >< เสียดายมาก เราเลือกห้องวิวไว้ ก็คือชั้นสองของบ้าน
ชอบวิวตรงนี้มากอยากยกกลับไปไว้บ้าน ดูสบายตามากค่ะ
ภายในห้อง หวานเชียว
เสียดายมาช้าไปนิดเก็บเกี่ยวข้าวไปหมดแล้ว
เก็บข้าวของชมวิวแล้ว ยังไม่ถึงเวลารับประทานอาหารเย็นเลยย ไปปั่นจักรยานเล่นกันดีกว่า (เราโทรมาบอกว่าทานข้าวกับบ้านตานงค์ระหว่างทาง ค่าอาหารเย็นคนละ 150 บาทค่ะ)
ได้ขนมมาเพียบเลย อากาศครึ้มๆมีฝนตกลงมานิดหน่อย แต่ที่เรามาถึงฝนหยุดตกแล้ว
กลับที่พักไปรอทานอาหารเย็นกันค่ะ หน้าตาอาหารเย็นบ้านตานงค์เป็นแบบนี้ อร่อยนะจะบอกให้อิ่มแปล้ สรุปขนมที่ซื้อมาไม่ได้กินเลย
วันที่สองหมดไปอีกวันแล้ว น่าน นาน นาน พาเรามาหา "เขา"
วันที่ 3 ทานอาหารเช้าเสร็จก็รีบออกเดินทางไปต่อ ยังมีปลายทางอีกหลายที่ที่เราต้องไป
หอศิลป์ริมน่าน ที่แรกของวันนี้ พลาดจากวันก่อนที่เรามาเพราะวันก่อนปิดทำการ เลยต้องมาวันนี้แทน
โปสการ์ดแจกฟรี มีตู้ให้หยอดร่วมทำบุญข้างๆ
ภายในมีร้านกาแฟจำหน่าย นั่งทานกาแฟชิวๆ อากาศดีๆ เงียบสงบมาก
บางจุดก็ถ่ายรูปไม่ได้ ดูด้วยตาเปล่ามาเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องไปดูเองสายแล้วออกเดินทางต่อไปยังวัด ไปไหว้พระกันค่ะ
รูปอาจจะไม่เรียงนะคะ อัพทีเดียว บริเวณนี้เป็นบริเวณตัวเมืองน่าน มีวัดภูมินทร์ วัดพระธาตุช้างค้ำ อุโมงต้นลีลาวดี จิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวยังคงให้เราได้ศึกษาเรื่องราวในอดีตได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ไปกันต่อค่ะ สถานีต่อไป วัดพระธาตุแช่แห้ง ไหว้พระเสร็จเดินทางต่อค่ะ เตรียมตัวขึ้นดอยแวะซื้อเสบียงที่เซเว่นแถวปั้มปตท.นาน้อย แวะทานข้าวกลางวันที่หน้า รพ.นาน้อย ประมาณ 100 บาทมีทอน
ถึงแล้วว ดอยเสมอดาว เสมอดาวจริงๆ แต่เวลานี้ดาวยังไม่เห็น
เต็นท์สีฟ้าเป็นเต็นอุทยาน ส่วนเต้นส่วนตัวก็อยู่พื้นที่รอบๆ ข้อดีของนอนเต็นท์คือใกล้ชิดธรรมาชาติและประหยัด ข้อเสียคือเราไม่สามารถควบคุมคนภายนอกได้ แต่ก็มีเฉพาะบางกลุ่ม ที่เสียงดังเอ๊ะอะโวยวายแม้เจ้าหน้าที่จะเตือนกี่รอบก็ตาม สรุปแทบไม่ได้นอนกันเลยคืนนี้ ไหนๆก็มาถึงดอยเสมอดาวไม่มีไรทำถ่ายรูปเล่นกันดีกว่า ถ่ายดาวไม่เป็นได้มาเท่านี้ พยายามแล้ว ไปไม่ถึงดวงดาวจริงๆๆ เช้าแล้วออกมาล่าหมอกกัน วันที่ 4 เก็บภาพจุใจแล้วเตรียมเก็บข้าวของออกเดินทางต่อได้ ลงดอยมาเรื่อยๆ ก็เจอป้ายพระธาตุเขาน้อยแวะสักการะก่อนเข้าเมือง
ศาลหลักเมืองน่าน
เสร็จแล้วนำสัมภาระเข้าไปเช็คอินที่พักของคืนนี้ เฮือนน่านนิทรา
ที่พักนี้เหมาะกับคนรักสงบ น่าจะไม่เหมาะกะเรา เราจัดอยู่ในจำพวกกลางๆ อึดอัดเวลาเดินบนพื้นไม้ เดินทีก็ดังๆ เกรงใจคนอื่นมาก จนเรามองไม่เห็นความสุข แต่โดยรวมที่นี่ดีค่ะ แต่ติดที่ตัววเราเองเท่านั้น แต่น้ำหนักตัวมากไปเดินทีพื้นบ้านทรุดยวบๆ
เที่ยงนี้เราฝากท้องไว้กับร้านขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย เจ้สุณีย์ เพราะอยู่หน้าปากซอยที่พักของเราเอง
กินอิ่มแล้วก็กลับไปนอนเอาแรงไว้เดินเล่นที่ถนนคนเดินคืนนี้กันดีกว่า
เอ๊ะๆ ร้านนี้ทำไมคนเยอะๆ เขารอไรกัน เข้าไปดู อ่อ ร้านขนมหวานป้านิ่มนี่เอง ไปต่อแถวสิคะ รออะไร อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ
ถนนคนเดินอยู่ข้างๆวัดภูมินทร์ คือเราปั่นจักรยานหลงๆวนไปวนมา จริงๆจากที่พักเราไม่ไกลเลย ต่างถิ่นกรุณาใช้ปาก ถามไปเลยย เราวนซะเหนื่อยกว่าจะถามวนซะหลายรอบ ตรงบริเวณวัดทำเป็นที่นั่งทานมีเสื่อปูให้มีขันโตกให้นั่งทานได้ แต่คนเยอะ ถ้ารอนั่งตรงนี้น่าจะยาวเราเลยซื้ออาหารทานไประหว่างทางเดิน เดินไปชมไปอิ่มค่ะ อยากบอกว่าเราถูกหวยจากเลขบ้านหลังนี้ เป็นบ้านเก่าแก่ของเมืองน่านเขา มีป้ายชื่อติดอยู่
อิ่มแล้วเหนื่อยแล้ว ปั่นจักรยานกลับไปนอนเตรียมตัวกลับบ้านกันเถอะ
ลากันไปด้วยภาพวิวกลางคืนของอุ่นไอมาง ณ สปัน เราพักที่ละคืนเท่านั้นสาเหตที่เป็นแบบนี้เพราะตอนแรกเรากะจะมาน่านแค่ครั้งเดียว เลยจะเก็บที่เที่ยวให้หมด แต่พอมาจริงๆแล้วมีหลายที่ที่เราติดใจอยากจะไปอีก และเราคงจะได้กลับมาอีกครั้ง สวัสดีน่าน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ค่าใช้จ่ายตลอดทริปต่อคนไม่เกิน 5000 บาท โดยสารเครื่องบินทั้งไปและกลับ
-เช่ารถวันละ 800/3 วัน =2400 บาท
-ค่าที่พัก+อาหารบางมื้อประมาณ 4000 บาท
-ค่าน้ำมันรถประมาณ 2000
-ค่าอื่นๆจิปาถะ 1600 บาท