หยุดยาววววว ปาย...กาญจน์....มั๊ย???

เปิดปฏิทินวันหยุดประจำปี เห้ยเห้ย!!! เดือนนี้มีหยุดยาว 3 วันนิหน่า >>> ปฏิบัติการโพสท่ายิ้มหวานกะกล้องถ่ายรูปเริ่มอยู่ในหัว

แต่ปายหนายดี??? ระหว่างขับรถไปทำงาน หลบรถติดผ่านเส้นทางรถไฟ โดนไม้กั้นขวางอยู่ 

แว๊ป ในหัว "อยากไปเส้นทางรถไฟสายมรณะ" ฮ่าฮ่าฮ่า เพื่อนๆ ช้าน โอม ++++ จงว่าง จงว่าง จงว่าง

แต่อกหักดัง โผ๊ละ (ไม่ใช่ดังโป๊ะ เพราะอกเริ่มเหี่ยว ฮิฮิ)

แก..ช้านติดออดิท (Audit)มาตรวจโรงงาน แก..ช้านต้องไปตามหนี้ แก...ช้านมีนัดเดทแล้ว แก...ช้านมายว่างงงง.....

อืมมมมม คิดแผนไปคนเดียวก้อได้ว่ะ วะฮ่าฮ่า สายมั่นซะอย่าง หุหุหุ แต่...เหมือนสวรรค์เปิดทาง 

ว่างแล้ว ว่างแล้ว ออดิทเลื่อน เดทเลิกนัด อยากไปเดินเล่นทางรถไฟ อยากไปปิล๊อก แต่ยังต้องตามหนี้ 5555

งั้นรวมความอยากของทุกคน รอบนี้ไปกัน 3 คน สาวใหญ่กะสาวห้าวไม่ว่าง ไม่เป็นไรค่อยส่งรูปอวดในไลน์ให้เกิดความอยากต่อไป

ตั้งต้นจากบ้านในเช้าวันเสาร์ไปกาญจน์นะจ๊ะบุรีกันก่อน เพราะเป็นจังหวัดที่ตั้งใจ ไปหลายครั้งแต่ยังไม่เคยเที่ยวในตัวเมือง บวกกับจะได้แวะเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ด้วย ตั้งเข็มทิศไปตัวอำเภอเมืองกาญจนบุรีกันเลย

เส้นทางไกลประมาณ 150 กิโลเมตร เราไปเส้นทางถนนพุทธมณฑลสาย 2 - 3 - 4 (มันไปโผล่ทุกสาย 555) ลัดเลาะเลียบเส้นทางมาตลอด เส้นทางรถติดเราไม่ไป เปิดอากู๋ google Map ดูเส้นทางและไปตามทางที่ทะลุทะลวงเพื่อหนีรถติด ไม่น่าเชื่อ++ วันนี้วันหยุดน้า แต่ทำไมรถติดจัง_ท้องเริ่มร้อง_แรงเมาท์เริ่มหมด สาวคิกขุโกอินเตอร์ มองหาร้านข้างทางเพราะต่อมรับรู้ความหิวชัดเจนกว่าทุกคน 

เรามุ่งตามเส้นทางไปตลาดธนบุรี หรือเรียกว่า "สนามหลวง 2" แต่สายตาของสาวคิกขุฯ เห็นกลุ่มควันลอยละล่องในอากาศก้อนใหญ่ "แก แก ข้างหน้า ไก่ย่าง หยุด หยู๊ด หยุด" ตะโกนบอกสาวสวยซุ่มซ่ามแข่งกับเสียงเพลงที่ดังในรถ 

เอี๊ยดดดด เบรคทันทีแต่เลยไปจอดหน้าร้านขายก๋วยเตี๋ยว สาวเท่ห์ฯ รีบบอก เห้ย !!! ไม่ใช่ร้านนี้ ถอยยยย คร๊าบบถอย 

ลงจากรถปุ๊ป ตั้งหน้าไปหยิบน่องไก่ อกไก่ ตับไก่และตูดไก่ คนละไม้ 2 ไม้ตามความชอบ (ให้ทายนะว่าใครชอบส่วนไหนของไก่ 5555) จนแม่ค้าตกใจเพราะสาวๆ แต่ละนางหน้าตามุ่งมั่นมาก เดินเข้ามาเหมือนจะท้าตบ 555

ขอแนะนำเลยร้านนี้ส้มตำไก่ย่างที่อยู่ริมทางก่อนเลี้ยวเข้าไปซอยตลาดธนบุรี(สนามหลวง 2)ตรงถนนพุทธมณฑลสาย 3 มีจุดสังเกตคือ เป็นร้านขนาดกลางไม่เล็กไม่ใหญ่ มีโต๊ะนั่งประมาณ 4 โต๊ะและส่วนแยกเพิ่มเติมที่สร้างใหม่อีก 3-4 โต๊ะ(ถ้าจำไม่ผิด) รถยนต์จอดหน้าร้านเยอะๆ และกลุ่มควันปิ้งไก่ก้อนใหญ่ มีพนักงานเสิร์ฟเป็นน้องๆ ผู้ชายหน้าตาขาโหด (หยอก หยอก) แต่โค-ตะ-ระ ใจดี บริการทุกระดับประทับใจ อาหร่อยมากมาย ไม่ใช่เพราะเดอะแก๊งฯ หิวหร๊อกนะ แต่อร่อยทุกอย่างจริงๆ โดยเฉพาะส้มตำที่คุณพี่ทำมาให้แบบถึงใจ นั่งซิ๊ดปากไปเขมือบไปไม่ยอมวางช้อนกันเลยทีเดียว แถมปริมาณอาหารให้มาแบบไม่กลัวขาดทุน จุดเด่นคือ มีน้ำพริกปลาร้าและผักสดเคียงตั้งอยู่ประจำโต๊ะ กินเพลินจนลืมถ่ายรูป เสียดายไม่ได้ถามชื่อร้าน ใครเป็นลูกค้าแถวนั้นฝากบอกชื่อร้านให้เดอะแก๊งฯ ด้วย จะขอบพระคุณม๊ากมากคร้า

เราต้องรีบทำเวลาหลังจากเพลิดเพลินไปกะอาหารเช้าที่ได้กินก็เกือบเที่ยง ไปถึงตัวเมืองกาญจนบุรีอีกชั่วโมงกว่าๆ แวะเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่ ไปแบบไม่บอกล่วงหน้า เกาะรั้วตะโกนเรียกแล้วบุกเข้าไปในบ้านโดยที่เจ้าของบ้านอาบน้ำอยู่ เซอร์ไพรส์คร้าาาาา 555

พูดคุยรำลึกความหลังกันพักใหญ่ ก็ขอตัวไปตระเวนถ่ายรูปเล่นในตัวเมือง หาที่พักและหาของกิน เพราะพวกเราไม่เคยวางแผนระยะยาว ขอเอาแผนระยะสั้นๆ แบบนี้แหละ ตื่นเต้นดี 555

ที่พักในตัวเมืองมีหลากหลายแบบให้เลือก เดอะแก๊งฯ ไม่เลือกเยอะตั้งใจจะค้าง 1 คืน เลือกราคาไม่แพงเพราะกว่าจะเข้าที่พักก็ค่ำมืดแล้วจึงเก็บเงินไปใช้อย่างอื่นดีกว่า เรื่องที่นอนไม่ใช่ปัญหาเพราะเราเคย ไม่ได้นอน-นอนในรถ-นอนในปั๊มน้ำมัน-นอนในป่า-นอนในน้ำ (บนแพ) ก็ยังนอนกันมาแล้ว 55555

เป้าหมายต่อไปของเรา คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สาวสวยซุ่มฯ เรียกร้องตั้งแต่อยู่ในรถเพราะความจริงอยากไปเส้นทางรถไฟสายมรณะ แต่มันจะมืดค่ำแล้ว เอาเป็นเส้นทางสบายๆ ไปก่อนหละกัน ^^

เดินสบายๆ นักท่องเที่ยวไม่ได้หนาแน่นกว่าที่คิด เอ๊ะ!!! หรือเป็นเพราะเรามากันจะมืดแล้วม้าง 5555

เหมือนรีบมาแล้วรีบถ่ายรูป 555 เพราะทำเวลาก่อนที่แสงอาทิตย์หมด ถ้าวันนั้นใครที่รอถ่ายรูปในจุดที่เดอะแก๊งฯ ถ่ายอยู่แล้วรอนาน ต้องขออภัย เพราะถ่ายคน กว่าจะได้สักรูป "แก..มุมมันไม่ได้ - แก..หน้าชั้นยังไม่โอ หน้าง่วงอ่ะ - แก..มันก็ได้นะ..แต่...เอาใหม่ และอีกหลายๆ แก แก แก"  สาวสวยซุ่มซ่าม เรื่องมากจนได้ฉายาอีกชื่อคือ สาวสวยเรื่องเยอะ 55555

เราหาที่พักใกล้ตลาดโต้รุ่ง วันนั้นมีงานวันวิสาขบูชาทำให้มีของกินของขายมากมาย แต่ไปๆ มาๆ เดอะแก๊งฯ ก็ยังไม่หน่ำใจ ตาลายไปกะร้านค้า เสียดายที่เดินผิดทาง ตัดสินใจเร็วไปหน่อยเพราะความหิวจึงไม่ได้ลองชิมอีกหลายร้าน แต่ตัวเมืองกาญจนบุรี ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาก แต่ด้วยเวลาที่จำกัด ขอแค่นี้ก็พอ ต้องการแค่ถ่ายรูป วันหน้าวันอื่นมาถ่ายใหม่ ^^

เดินกลับจากตลาดโต้รุ่ง นอนคุยกันในที่พัก แล้วพรุ่งนี้เราจะไปไหนต่อ ......

หาที่เที่ยวแถวใกล้ๆ หรืออยากไปสิ สาวเท่ห์ฯ โยนโจทย์มาให้ ......

อืม!!!! 10 ที่เที่ยวในเมืองกาญจน์ฯ หรา!! จริงๆ ในใจยังอยากไปเส้นทางสายมรณะ แต่คิดไปคิดมาเพื่อนอาจจะเบื่อหน่ายแล้วมันจะกลายเป็นเส้นทางมรณะของเราไปซะเอง 555

หาเป้าหมายที่มีเส้นทางใกล้อำเภอสวนผึ้ง เพราะตั้งเป้าจะไปนอนเล่นใกล้ๆ ตลาดกะเหรี่ยง 

"เอางี้ ไปวัดถ้ำเสือดีกว่า แล้วค่อยไปหาไรกินกันที่..ร้านมีนาคาเฟ่" สาวสวยฯ นำเสนอ  "แล้วไปไหนต่อดี หรือจะไปเมืองมัลลิการ์ อ่ะ ไม่ไปดีกว่า เอ๊ะ!! หรือไปดูต้นจามจุรียักษ์ แต่...ก็เห็นต้นไม้ต้นยักษ์มาเยอะแล้ว หรือ...." ------ "พอยัง สรุปจะไปไหน" สาวเท่ห์ฯ เริ่มรำคาญ 5555 "ก็เค้าอยากไป แต่ไม่ไปหละ" สาวเท่ห์ฯ กุมหัวปวดขมับ 555 "อาร๊ายง่ะ ถามเอง..ตอบเอง แถมเปลี่ยนใจเร็วมาก ยังไม่ถึง 30 วินาที เปลี่ยนใจแหละ โอ๊ย!!! เพื่อนใครว่ะ" ^^

เราไปตลาดเช้าตรงถนนปากแพรกเพื่อกินมื้อเช้าก่อน เดินวนทั่วตลาดเพื่อหาร้าน แต่...วนกัน 2 รอบก็ยังไม่เจอร้านถูกใจ วนในรอบที่ 3 โดนสาวเท่ห์ฯ บอกว่าอย่าเดินวนครบ 3 รอบแล้วไม่เลือกสักร้านอีกนะ สรุป ต่างคนต่างหากินกันเอง ใครใคร่กินก๋วยเตี๋ยว ใครใคร่กินข้าวแกงก็ไปตามเส้นทางของตัวเอง แล้วมาเจอกันตอนกินเสร็จ 5555 เดอะแก๊งฯ ก็เป็นยังงี้ แตกต่างกันทุกเรื่องแต่เราก็คบกันได้ พูดจากันตรงๆ ใครชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ให้บอก เถียงกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ ไม่เคยโกรธเคืองกันเกิน 1 นาที สรุปคือ เอาที่สบายใจ

ตลาดสดในเมืองกาญจน์ชุมชนถนนปากแพรกตำบลบ้านเหนือเป็นชุมชนเมืองเก่าที่ยังคงเห็นอาคารไม้เก่าและอาคารตึกที่ยังคงสไตล์ผสมผสานวัฒนธรรมไทย - จีน และที่ขาดไม่ได้คืออาหารที่แต่ละร้านแข่งกันเป็นร้านเจ้าเก่า รสชาติอร่อยจนเดอะแก๊งฯ ไม่สามารถตัดสินได้เลยว่าร้านไหนอร่อยกว่ากัน

เมื่อท้องอิ่ม เริ่มเดินทางกันต่อ เรามุ่งหน้าไปอำเภอท่าม่วง เส้นทาง 14.5 กิโลเมตร ผ่านเขื่อนแม่กลอง ผ่านสุสานเอกชนวังหีบและสุสานกาญจนบุรี สาวคิกขุฯ ถึงกับร้องทัก "สวยจัง หันหน้าออกแม่น้ำหลังชนเขาเป็นไปตามฮวงจุ้ยที่ดี" "แกจะมาจับจองไว้สักที่ก่อนไหม" สาวเท่ห์พูดเรียบๆ แต่แอบขำเพราะได้จิกกัดเพื่อนเล่นเอาสาวคิกขุฯ นั่งงอนหน้าเป็นตูดไก่ ก่อนหันมาแซวสาวสวยฯ "แกไม่ถ่ายรูปหละ สวยนะ" "ไม่อ่ะ ชั้นไม่อยากรบกวนเขา เดี๋ยวได้ลุกขึ้นมายิ้มใส่กล้องฉัน เกรงใจเขานะ" 5555

พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท องค์พระเจดีย์เป็นสีอิฐ ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ สามารถมองเห็นวิวรอบๆ วัด จะเห็นทุ่งนาสีเขียว ลมเย็นพัดโชยมากระทบทำให้คล้ายร้อนได้

พระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี

ถึงอากาศร้อนเดอะแก๊งฯ ก็พยายามปาดเหงื่อเพื่อขึ้นไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ เดินวนขึ้นบันไดแข่งกันทำเสียงหอบ หายใจทางปาก ต้องแวะสูดลมหายใจแล้วบอกตัวเอง สู้โว๊ย!!! ขนาดเด็กอายุประมาณ 5 ขวบ ยังร่าเริงเดินนำหน้า จะไปยอมได้ไงเสียชื่อเดอะแก๊งปากหมาฯ หมด 5555

ผ่อนคลายที่วัดถ้ำเสือ ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือก็คงไม่ได้เห็นวิวสวยๆ ท่ามกลางอากาศที่ร้อน ถ้าเราสงบนิ่งได้ก็จะเจอลมเย็นพัดผ่าน แหม๋ บรรลุธรรมใน 5 นาทีเชียว 555

ไหว้พระเสร็จ เรารีบลงจากวัดเพื่อจะไปหาข้าวกินต่อที่ร้าน "มีนาคาเฟ่" แต่...คนและรถอย่างเยอะ จอดกันเต็มสองข้างทางเหมือนกับมีงานแจกอาหารฟรี เดอะแก๊งฯ เลย ถอยยยย ดีกว่า ไม่อ่ะอ่ะอ่ะเอา ดีกว่า ขับรถผ่านไปปักหมุดใหม่พุ่งตรงไปอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีกันเลย ระยะทางประมาณ 74 กิโลเมตร เพราะเป้าหมายต่อไปของเราคือ "ตลาดโอ๊ะป่อย"

"แล้วเราจะไปนอนที่ไหน" หาสิ สาวคิกขุฯ ทำหน้าที่เป็นเลขานุการ ติดต่อประสานงาน จัดหาที่พักโดยการอนุมัติของสาวสวยซุ่มฯ และสาวเท่ห์ เราแบ่งหน้าที่กันชัดเจน 5555

โทรติดต่ออยู่หลายที่แต่ก็ไม่เป็นไปตามความต้องการ ที่พักเต็มแล้วบ้าง ราคาไม่เหมาะสมแพงไป-ถูกไป 

จริงๆ สวนผึ้งมีที่พัก - รีสอร์ทเยอะจัดปลัดไม่ได้บอก ฮิฮิ เปิดรายชื่อโรงแรมที่ใกล้ตลาดโอ๊ะป่อย รัศมีไม่เกิน 10 กิโลเมตร เราเลือกขับรถชมสวนผึ้ง จากถนนเล็กๆ ผ่านไร่อ้อย มาถึงถนนสายหลัก แวะพักที่ปั๊ม ปตท.สวนผึ้ง ก่อนถึงตัวอำเภอเพื่อหาของกิน ขับไปโทรหาโรงแรมไป สิบกว่าหมายเลขที่โทรเข้าไปสอบถามจนสาวคิกขุฯ เริ่มเบลอเรียกชื่อผิดเรียกชื่อถูก จำรายละเอียดของที่นั้นปนกับที่นี้ ท้องก็เริ่มหิว นางเลยเริ่มงอแง สาวสวยซุ่มฯ ก็เรื่มไม่ไหว จอดรถตั้งใจช่วยกันหาที่พักกันหน้าร้านขายเมล่อนซะเลย จนเจ้าของร้านเมล่อนหันมามองแล้วมองอีกว่า รถคันนั้นจอดทำไม ??? 

สาวคิกขุฯ เงยหน้ามามองเห็นที่ร้านปิดป้าย เมล่อน 3 ลูก 100 บาท รีบสิค่ะ!!! จัดแจงลงไปซื้อ ขอชิมทั้งๆที่ เขาไม่มีให้ชิม เซ้าซี้เจ้าของร้านว่าถ้าซื้อแล้วจะปอกให้ไหม เพราะอยากกินเลย แต่พี่เจ้าของร้านบอกปกติเราไม่มีบริการปอกให้นะ แหม๋+++ ซื้อหลักร้อยแต่อยากได้บริการหลักล้าน 5555

น้องหมานั่งเฝ้าร้าน คงกลัวว่าสาวคิกขุฯ จะมากวนใจอะไร แต่นางน่ารักมากไม่เห่าสักคำ แถมทำหน้าตาน่ารักใส่อีก เกรงใจพี่เจ้าของร้านนะ ไม่งั้นจับยัดมาท้ายรถพากลับบ้านด้วยแล้ว 555

พอได้กินเมล่อนของโปรดแล้ว เดอะแก๊งฯ ตั้งหน้าหาที่พักกันต่อ แต่เราสะดุดตาร้านกาแฟริมทางที่มีหินสลักเป็นรูปหน้าคนเหมือนยุคหินฟลิ้นท์สโตนส์ ที่นี้ คือ "โมอาย คอฟฟี่" แวะสิคะ จะปล่อยผ่านได้ไง ^^

เราได้สถานที่หยุดพักกินขนม นมเนย และตั้งหน้าหาที่พัก บ่ายสามโมงแล้วยังไม่เจอสถานที่พักของเราคืนนี้ คิดแผนสำรองคือเต้นท์หลังเล็กที่พกรถติดมาด้วยอาจต้องหาทำเลจุดกางเต้นท์ใกล้ๆตลาด น่าจะเป็นทางเลือกสุดทายของเรา อิอิ

สาวคิกขุฯ เริ่มบ่น โทรหาจนตาลายเวียนหัวแล้ว จะเอาไงอ่ะ... จนมาถึงรายชื่อรีสอร์ทท้ายสุด "ล้อมรัก รีสอร์ท"

สาวสวยซุ่มฯ : "นอนที่นี้ไหม??? ไม่ไกลจากตลาด เป็นบ้านเรือนไทย ไหนไหนก็ไม่ได้ไปเมืองมัลลิการ์ แต่งชุดไทยถ่ายรูปแล้ว ขอนอนบ้านเรือนไทยแทนก็ได้"

สาวเท่ห์ฯ : "บ้านเรือนไทยเลยหรา ถ้าแกอยากนอนไปนอนบ้านฉันสิ" 

สาวสวยซุ่มฯ "เออนะ งั้นย้ายบ้านแกมาอยู่สวนผึ้งนะ แล้วฉันจะไปนอน 555" 

สาวคิกขุฯ : "สวัสดีคะ ติดต่อที่พักคะ ไม่ทราบมีห้องว่างไหมคะ - อ๋อ ค่ะ ราคาเท่าไรคะ  เป็นบ้านเรือนไทยใช่ไหม? พักคืนเดียวคะ 3 คนคะ อ๋อ ผู้หญิงตัวเล็กๆ นอนเตียงเดียวกันได้คะ 555 อ๋อ ตามสบายเลยหราค่ะ ได้คะ จะเข้าไปดูเดี๋ยวนี้คะ รอสักครู่นะค่ะ" สาวคิกขุฯ กำลังเจรจากับทางเจ้าของรีสอร์ทอยู่

สาวเท่ห์ฯ แซว : "เจ้าของพูดเสียงเย็นๆป่ะ แบบ ซาหวาดดี บ้านล้อมรักยินดีต้อนรับ" 5555

สาวคิกขุฯ : "บ้า แก แต่เราจะไปพักกันที่นี้ใช่ไหม" 

สาวสวยซุ่มฯ แซวต่อ : "อืมที่นี้แหละ เดี๋ยวไปดูก่อน แต่ฉันกะสาวเท่ห์ฯ มีพระแล้วนะ แกมีป่าว 5555"  สาวคิกขุฯ หันเลิ่กลั่กก่อนจะควานหาพระที่คอ จนสาวสวยซุ่มฯแซว "แกไม่ต้องกลัวหรอก เพราะไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าแกแล้ว" 5555

สาวเท่ห์ฯ : "ที่บอกว่าตามสบายจะนอนกี่คนก็ได้อ่ะ เพราะยังไงก็ต้องนอนรวมตัวกอดกันกลมอยู่บนเตียงใช่ไหม" 5555

เอ้า ++++ รีบไปดูที่พักกันเผื่อสาวเท่ห์ฯ ขนลุกขนชัน (เพราะปวดครี่) จะได้เปลี่ยนใจทัน 5555

จากร้าน "โมอาย คอฟฟี่" มาตามเส้นทางถนนราชบุรี - ผาปก ประมาณ 9 กิโลเมตร เลยที่ว่าการอำเภอสวนผึ้ง เลยทางเข้าตลาดโอ๊ะป่อย แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปแยกซอยห้วยคลุม ประมาณ 4 กิโลเมตรจะถึงซอยห้วยคลุม 2 เลี้ยวซ้ายไปโลด ไปไม่ยากเพราะมีป้ายบอกทางตลอด เพียงแค่มาให้ถึงที่ว่าการอำเภอก่อนไม่มีหลงทางแน่นอนจร้า 

เข้ามาในซอยห้วยคลุม 2 ประมาณ 400 เมตรก็ถึงที่พัก "ล้อมรัก รีสอร์ท" จะอยู่ด้านซ้ายมือ มาง่ายม๊ากกกก 555

เนื้อที่ของรีสอร์ทกว้างขวาง เข้าไปติดต่ออาคารไม้ 2 ชั้นหลังคาสีฟ้าก่อนเลย ขอบอก เจ้าของรีสอร์ทใจดีมากกกก แถมสวยด้วย ฮิฮิ เป็นข้าราชการครูเกษียณอายุที่ผันตัวเองมาทำงานบริการ คือ อาจารย์นิตยา 

อาจารย์เป็นคนคุยสนุก เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของเดอะแก๊งฯ จึงเล่าให้ฟังว่าบ้านเรือนไทยนี้ทำจากไม้สักทองที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นไม้ใหม่ ไม่มีเรื่องราวหลอนๆ อยู่แน่นอน 5555 สาวคิกขุฯ สบายใจไปเปราะหนึ่ง 

เราไปจับจองห้องที่เรือนแม่พิมพ์ เป็นเรือนไทยหลังใหญ่ มีห้องเล็กๆ อยู่บนเรือน 6 ห้อง แต่วันนั้นไม่มีแขกห้องอื่นพัก เดอะแก๊งฯ จึงถือครองเรือนใหญ่ไปโดยปริยาย ไม่มีใครมาแย่ง 5555 

จริงๆ ที่นี้มีห้องพักให้เลือก 4 โซน คือ โซนวิลล่า โซนกระท่อม โซนริมน้ำ และเรือนไทยหลังใหญ่ ราคาก็แตกต่างกัน อันนี้ต้องโทรไปถามอาจารย์นิตยากันเองนะคะ 

สำหรับราคาที่พัก จะแตกต่างกันในช่วงหน้าโลว์กับหน้าไฮ ส่วนเดอะแก๊งฯพักอยู่ที่ราคาคืนละ 900 บาท เหมาทั้งรีสอร์ทเลยจร้า ฮิฮิ

หากใครสนใจ ติดต่อสอบถามหรือจะพูดคุยเรื่องราคาที่พัก โทรได้เลยจ้าที่เบอร์ 089 - 883 8855 หรือ Line : @lomrak 

เราตั้งใจจะไปชมตลาดโอ๊ะป่อย (ตลาดกระเหรี่ยง) และตั้งใจมาให้ทันตักบาตรตอนเช้า โทรสอบถามเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะมีการตักบาตรเวลาประมาณ 07.45 น. ให้นักท่องเที่ยวมาถึงตลาดก่อน 07.30 น. เพื่อเตรียมตัว เดอะแก๊งฯ เป็นคนตรงเวลาอยู่แล้ว ฮิฮิ เพราะมีสาวสวยซุ่มฯ ที่คอยปลุกเพื่อนๆ ใครไม่ลุก มีเทอย่างเดียว 5555

ที่ตลาดมีการบริหารจัดการที่ดี ให้เด็กๆ มีกิจกรรมเป็นมัคคุเทศก์ตัวน้อยยืนต้อนรับและแนะนำโน้นนี้นั้น แถมดูแลเรื่องความสะอาดภายในบริเวณตลาดเป็นอย่างดี น่าร๊ากกกคร้า ^^

ชุดตักบาตรราคาไม่แพง 49 บาท  แถมดอกไม้ที่ขายชุดละ 20 บาท เพื่อสมทบเป็นทุนให้น้องๆ ต่อไป

มาถึงที่ตลาด คิดว่ามาเช้าแล้วนะแต่นักท่องเที่ยวมาก่อนเราเยอะมาก มานั่งรอกันที่ท่าน้ำอย่างเรียบร้อย ที่นี้ถือได้ว่าผู้ดูแลบริหารจัดการดี นักท่องเที่ยวแม้จะเยอะแต่ก็สามารถจัดระเบียบไม่ให้วุ่นวายได้ดี อันนี้ชมคร้า ชมจากใจ ^^

ตื่นเต้นตอนจังหวะที่พระมากับแพ มันเท่ห์มาก หุหุหุ ฉากหลังสวยด้วย พระท่านคงร้อนเพราะต้องใช้เวลายืนบนแพสักพัก กว่าที่แพจะมาถึงก็น่าจะร้อนใช้ได้อยู่ 

ในระหว่างที่ตักบาตร ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นคนเป่าเขาควายเป็นจังหวะ ๆ เข้าถึงอารมณ์และรับรู้ได้ถึงบรรยากาศความศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมนี้จริงๆ ช๊อบชอบ ^^

ตักบาตรเสร็จถึงเวลาตลาดเปิด ใครใคร่กินอะไรก็ไปซื้อตามใจ และมานั่งทานริมน้ำ ทางตลาดได้จัดสัดส่วนและพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนสมกับชื่อ "โอ๊ะป่อย" ที่แปลจากภาษากะเหรี่ยงว่าพักผ่อนจริงๆ แต่เงื่อนไขมีอยู่ตรงที่บริเวณที่มีไม้ไผ่สานเป็นทางเดินหรือนั่งห้ามใส่รองเท้าเข้าไป เพราะเป็นการอนุรักษ์และเพื่อการนวดเท้าไปในตัว 

ตรงข้ามกับตลาดเป็นวัด เดอะแก๊งฯ มีเวลาเลยขอแวะขอพรก่อนกลับสักนิดส์ ^^