ปัว-บ่อเกลือ ที่นี่น่านนคร
"หมูแดง" มันคือชื่อของเจ้า 2 ล้อของผมคันนี้เอง ผมเดินทางไปกับเจ้าหมูแดง โดยออกจากกรุงเทพประมาณ 5 ทุ่มของวันที่ 14 โดยแบ่งสถานีพัก ออกเป็น 4 สถานีก่อนถึงน่าน นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่ และ น่าน
.......................................................................
15/7/17
ผมถึงน่านเวลาประมาณ 7 โมงเช้า โดยที่น้องฝนอ้างแขนต้อนรับผมอย่างดีก็เลยแวะไปหลบฝนที่ วัดเขาน้อย ซึ่งก็เป็นที่ผมวางแผนใว้ก่อนแล้วว่าจะมารับแสงเช้าและชมวิวของเมื่องน่านที่นี่ แต่เช้านี้คงไม่มีแสงแล้วละหน้าฝนของที่นี่ก็แบบนี้แหละวิวด้านหน้าก็จะเห็นจังหวัดเล็กๆที่ถูกล้อมรอบไปด้วยเขา ผมรักที่นี่มากไม่รู้เพราะอะไร ผมเคยมาที่นี่แล้วหนึ่งครั้งก่อนหน้านี้ซึ่งผมก็คิดว่าจะต้องมาอีกแน่นอน
หลังจากฝนหยุดตกก็จะเข้าไปชมวัดในตัวจังหวัดนิดหน่อยเพื่อรอเวลาให้ตรงตามแผนที่วางใว้ว่าจะต้องถึง ปัว ก่อนบ่ายสอง โดยจองทีพัก โฮมสเตย์ตานงค์ ใว้ และแผนหลักของผมที่มาน่านในรอบนี้ ก็คือ ปัว-บ่อเกลือ ผมต้องการถนนลอยฟ้า
ได้เวลาแล้วก็ออกเดินทางไป ปัว กันเถอะคับท่ามกลางสายฝนโปรยปรายบวกกับความง่วงนิดๆ ................... ถึง ปัวก็ที่นี่ก่อนเลยคับ
"วัดภูเก็ต" กับวิวสีเขียวของท้องทุ่งนาข้าว ท่ามกลางหุบเขา มันหายเหนื่อยเลยคับเมื่อเจอเเบบนี้
มันคือความฝันเล็กของผมที่จะบ้านหลังเล็กๆ พร้อมกับทุ่งนาที่มีภูเขาล้อมรอบเเบบนี้
ถ่ายรูปเสร็จก็เดินทางไปเช็คอินต่อที่ โฮมสเตย์ตานงค์ ทางเขาก็จะงงนิดหนึ่งผมไม่คิดว่าจะเป็นทางลูกรัง
ได้ที่พักชั้นสอง ชั้นสามจองไม่ทัน ห้องพักก็จะวินเทจ หน่อยๆ ชอบคับสวยดี หน้าห้องก็จะมีที่นั่งสำหรับสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด
วิวโดยรอบ สามารถมองเห็นได้ 360 องศา อากาศเย็นสบายหนาวนิดๆ
เเต่ว่ายังปลูกข้าวไม่ทั้งหมด ถ้าปลูกข้าวทุกเเปลงเเล้วคงสวยกว่านี้ ที่มื้อเช้าอาหารเช้าฟรีนะคับ เเต่มื้อเย็นมีให้เเบบเป็นชุดเป็นอาหารพื้นบ้านรสชาติใช้ได้เเต่จะเเปลกนิดๆ หรืออาจจะผมไม่เคยกินก็เป็นได้ คืนนี้คงต้องหลับฝันดีที่นี่
........................................................
16/7/17 ตื่นเช้าวันใหม่พร้อมที่จะเดินทางไป บ่อเกลือ โดยจะเเวะไปเพิ่มพลังที่ ร้านกาเเฟไทลื้อ
ทุ่งนาข้าวที่รอให้เขียวกว่านี้จะสวยมากคับ
เพิ่มพลังเเล้วก็ต่อกันไปที่ บ่อเกลือ คับ ต้องปีนเขาเเล้ว
..............................................................
ระว่างทางฝนเทลงมาตลอดเลยคับเราคงต้องพลาดวิวสวยๆ เเล้ว............ถึงบ่อเกลือก่อนเที่ยงคับ โชคดีที่ฝนหยุดตกพร้อมเขาเช็คอินที่ บ่อเกลือฆ้องดังรีสอร์ท อาบน้ำเเก้เหนื่อย เเล้วไปต่อที่หมู่บ้านสะปัน
สะปัน หมู่บ้านเล็กๆที่ ถูกล้อมรอบด้วยหุบเขา ซึ่อยู่ห่างจากบ่อเกลือประมาณ 8 กม.
มุมสะพานก่อนเข้าหมู่บ้านที่ อุ่นไอมาง
ผมจองที่พักที่นี่ก่อนหน้านี้ เเต่ว่าเต็มก่อน ก็ทำให้พลาดไป
น้ำตกสะปัน น้ำตกที่อยู่ติดกับหมู่บ้าน
น้ำตกที่บ่งบอกอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมาค่อนข้างน้อยจึงทำให้เเทบจะไม่มีเศษขยะเลย
.....................................................................................
กลับจากสะปัน เมื่อเห็นว่าฝนหยุดเเล้วผมเลยจะขับรถย้อนกลับไปเก็บวิวข้างทางระหว่างปัว-บ่อเกลืออีกครั้งนั้นคือ เป้าหมายของผม
ท้องฟ้า-เขา กับถนนที่คตเคี้ยว
อชท. ดอยภูคา สูงจากระดับน้ำทะปานกลาง 1715 เมตร เเละก็เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์เเละทะเลหมอกในตอนเช้าด้วย
ผมขับย้อนกลับไปเรื่อยๆเพื่อต้องการที่เก็บรูปให้ได้มากที่สุด ซึ่งตอนที่มาจาก ปัว นั้นผมไม่เห็นวิวข้างทางเเบบนี้เลยเนื่องจากฝนเทมาตลอดเลย
เมื่อเลยพื้นที่ของเขต อชท.ดอยภูคาก็จะมองเห็นถนนที่สวยงาม - ถนนลอยฟ้าที่โดดเด่น
สองข้างทางก็จะมีทั้งข้าวเเละก็ข้าวโพ้ดที่กำลังจะเริ่มเพาะปลูกตอนรับหน้าฝนกัน ผมใช้เวลาอยู่กับถนนเส้นนี้เกือบ 3 ชม. ด้วยระยะทางเพียง 20 กว่า กม. เท่านั้นเอง เเต่ก็การมองผ่านเลนส์ของผมนั้นมันทำให้ผมมีความสูขมากมายเลยทีเดียว ผมต้องขับย้อนกลับไปบ่อเกลื่ออีกครั้งพร้อมกับสายฝนที่กำลังจะโปรยปรายลงมาอีกครั้ง
ถึงที่พักก็พร้อมที่จะนอนมาก เพราะวันนี้เปียกมาสองรอบ ซึ่งก็ได้กะเพราสุดอร่อยจาก ร้านเตาเกลือมาเสริฟ
.......................................................................................
17/7/17 ตื่นเช้าวันใหม่ พร้อมกับสายฝนโปรปรายเเต่เช้าเลย จำเป็นต้องรองท้องด้วยกาเเฟอุ่น กับ หมอกจางๆที่อยู่เหนือของตัว อำเภอบ่อเกลือ
วันนี้ภารกิจใหญ่ด้วยระยะทาง 800 กม. บ่อเกลือ-กทม.
เส้นทางระหว่าง บ่อเกลือ-สันติสุข ซึ่งก็มีฝนเทลงมาตลอดเส้นทาง ยากต่อการถ่ายรูปมาก
คงฝากใว้ด้วยวิวมัวๆจากฝ้าเกาะที่เลนส์กล้อง เเละคงต้องมุ่งหน้าสู่ กทม. เเล้วละ ฝนก็ไม่ท่าทีว่าจะหยุดเลย.
เจอกันใหม่ทริปหน้า ถ้ามีเวลาจะรีวิวด้วยความละเอียด หรือสอบถามหลังไมค์ ได้ที่ https://www.facebook.com/JaenTKME24
#THEJAEN