จุดหมายปลายทางของการเดินทางของเราในครั้งนี้ เรามุ่งหน้าลงใต้ ขอใช้เวลาไปติดเกาะซัก 3-4 วัน กันที่เกาะสมุย เมื่อมาถึงเกาะสมุยแล้ว ถ้าไม่ได้มาเยือน Landmark หรือสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเกาะอย่าง “หินตาหินยาย” ก็คงจะถูกค่อนแคะว่า มาไม่ถึงเกาะสมุย และด้วยเหตุกลัวว่าจะไปไม่ถึงที่ ทันทีที่สองเท้าเราเหยียบแผ่นดินบนเกาะสมุย เราจึงรีบตรงดิ่งไปชมความอัศจรรย์ของธรรมชาติ ณ หินตาหินยายกันก่อน

หินตาหินยายตั้งอยู่ที่บริเวณหาดละไม เมื่อเราเดินผ่านบริเวณร้านค้าด้านหน้าเข้าไปจะพบกับลานหินกว้างริมชายหาด ถ้าเรามองไปทางด้านขวามือจะเห็น “หินตา” ซึ่งเป็นหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ถูกกัดเซาะโดยน้ำทะเล สายลม และแสงแดด จนมีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศชายตั้งชี้ฟ้าอยู่  ส่วนทางด้านซ้ายมือคือ “หินยาย” ซึ่งเป็นก้อนหินแกรนิตขนาดมหึมา มีลักษณะเหมือนร่างของผู้หญิงตั้งแต่ช่วงเอวลงไป นอนทอดตัวลงไปในทะเล หันหน้ารับคลื่นลมที่ซัดสาดอยู่เป็นระยะ นอกจากคำอธิบายถึงปรกฎการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีตำนานท้องถิ่นที่เล่าต่อๆ กันมาว่า

นานมาแล้วมีตายายคู่หนึ่งชื่อ ตาเครง และ ยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จะเดินทางไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่าย ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้กับลูกชายชื่อ คง โดยแล่นเรือสำเภาออกไป และมีนายปราบ เพื่อนของลูกชาย เป็นนายท้ายเรือ ครั้นเรือแล่นมาถึงบริเวณแหลมละไมเกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม สินสอดทองหมั้นที่ตระเตรียมมาจมน้ำหายไปจนหมด ส่วนญาติสนิทมิตรสหายที่เดินทางร่วมกันมาก็จมน้ำเสียชีวิต กลายเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยรายรอบเกาะสมุย และอีกหลายๆ คนถูกน้ำพัดไปกลายเป็นหมู่เกาะอ่างทอง ส่วนนายคง ถูกน้ำซัดไปทางหาดเชิงมนเสียชีวิตกลายเป็นเกาะกง ด้านนายปราบ นั้นได้เกาะเรือสำเภาของตัวเองลอยไปทางอ่าวบ้านดอนจนเมื่อจะถึงอ่าวบ้านดอน เรือสำเภาก็จมลงจนกลายเป็นเกาะนกเภา และนายปราบก็เสียชีวิตกลายเป็นเกาะปราบ อยู่บริเวณอ่าวบ้านดอนนั่นเอง ที่ยังคงเหลือรอดชีวิตอยู่ก็มีแค่ตาเครง และยายเรียม ซึ่งถูกน้ำทะเลพัดเข้ามาที่หาดละไม ทั้งตาและยายเสียใจเป็นอย่างมากและกลัวว่าตาม่องล่าย จะคิดว่าตนทั้งคู่เป็นคนไม่รักษาคำพูด จึงพากันอธิฐานของให้เกิดเป็นสัญลักษณ์ให้ตาม่องล่าย เห็นว่าพวกตนไม่ได้ผิดคำสัญญา จากนั้นก็กลั้นใจกระโดดน้ำที่หาดละไมเพื่อฆ่าตัวตายและกลายเป็นหินตาหินยายจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ทุกๆ วันจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมความอัศจรรย์นี้อย่างไม่ขาดสาย ส่วนใครที่เลือกมาเที่ยวที่หินตาหินยายในช่วงเย็น เราขอแนะนำให้รอชมความสวยงามของวิวพระอาทิตย์ตกอันสวยงามจากบริเวณลานหิน ซึ่งนับเป็นจุดที่เราสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ลับไปหลังเนินหินได้อย่างสวยงาม และนอกจากการเดินเล่นชมบริเวณรอบๆ หินตาหินยายแล้ว การเดินช็อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก และของฝากนานาชนิดที่ร้านค้าบริเวณทางเข้าหินตาหินยายก็น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะ “กาละแม” ของฝากขึ้นชื่อของเกาะสมุย ที่ไม่ว่าใครไปใครมาก็ต้องแวะซื้อติดมือกลับไปด้วยทุกครั้ง ที่สำคัญกาละแมที่ขายอยู่บริเวณหินตาหินยายนั้นอร่อยมาก ไม่ว่าจะเลือกซื้อเลือกชิมที่ร้านไหน ก็อร่อยไม่แพ้กันเลยทีเดียว

ส่วนใครที่มีโอกาสมาเที่ยวถึงเกาะสมุยแล้ว เราแนะนำว่าให้ลองแวะไปชื่นชมกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของหินตาหินยายแล้วถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันซักหน่อย เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานว่า อย่างน้อยครั้งหนึ่งเราก็มาถึงเกาะสมุย เรียบร้อยแล้ว

- หินตาหินยายตั้งอยู่บริเวณหาดละไม ห่างจากหาดเฉวงประมาณ 7 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยรถสองแถวจากหาดเฉวงมาได้ในราคาคนละ 50 บาท

- การเข้าชมหินตาหินยาย ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือค่าธรรมเนียมในการเข้าชม แต่ถ้าหากใครขับรถมาด้วย จะต้องเสียค่าจอดรถราคาคันละ 20 บาท

- ของฝากจากร้านค้าในบริเวณหินตาหินยาย นอกจากผ้าบาติก งานหัตถกรรมจากมะพร้าวแล้ว ยังมี กาละแม ที่จัดว่าเป็นของฝากขึ้นชื่อของเกาะสมุยขายอยู่ในบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก

- การเดินชมบริเวณหินตาหินยายควรใช้ความระมัดระวังสูง เนื่องจากแนวหินค่อนข้างลื่น อาจทำให้พลัดตกลงไปในทะเลได้

ที่อยู่ : ตำบลมะเร็ด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

GPS : 9.452350, 100.039433

ไฮไลท์ : ถ่ายรูป ชมทิวทัศน์โดยรอบบริเวณหินตาหินยาย/ เล่นน้ำทะเล ที่หาดทรายเล็กระหว่างหินตาหินยาย/ ซื้อของที่ระลึก ต่างๆ จากร้านค้าบริเวณทางเข้า

บนเกาะสมุยให้ใช้ถนนรอบเกาะ (ทางหลวงหมายเลข 4169) มุ่งหน้าไปทางหาดละไม ให้สังเกตุป้ายบอกทาง ถ้าหากมาจากหาดเฉวง จะต้องผ่านหาดละไมมาอีกเล็กน้อย ก่อนจะถึงทางเข้าหินตาหินยาย แต่ถ้ามาจากทางน้ำตกหน้าเมือง หรือบ้านหัวถนน ทางเข้าหินตาหินยายจะถึงก่อนหาดละไม ทางเข้าหินตาหินยายจะเป็นซอยเล็กๆ ที่บริเวณปากทางจะมีป้ายบอกชัดเจน ตรงเข้าซอยไปอีกเล็กน้อย ก็จะเห็นหินตาหินยายตั้งอยู่ริมหาด