รีวิวนี้เป็นทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน กับเพื่อน 4 คน ตอนแรกผมก็ได้ยินชื่อหาดไร่เลย์มานาน ก็ไม่เคยได้รับรู้ว่ามันคืออะไรที่ไหน ยังไง สวยแค่ไหน อยู่ๆวันนึงอารมณ์อยากเที่ยวก็มา(อีกแหละ)เลยนึกว่าจะไปไหนดี เลยนึกถึงหาดไร่เลย์และก็ลองเข้าไปหาข้อมูลในกูเกิ้ลดู โอ้!!!!มันสวยมากๆเลยตัดสินใจที่นี่แหละคือทริปต่อไปของเรา การเดินทางของผมเริ่มต้นจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยรถทัวร์จาก ขนส่งหาดใหญ่ ไปยังกระบี่ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง โดยผมลงตรงปากทาง สถานีขนส่งกระบี่ แล้วก็ต่อรถสองแถวไปยังอ่าวนางเพื่อไปขึ้นเรือ ค่ารถราคาคนละ 50 บาท เมื่อถึงอ่าวนางเราก็เดินทางต่อโดยเรือ บังเอิญช่วงที่ผมไปฝนตก ค่าเรือเลยเพิ่มขึ้นเป็นคนละ 120 บาท จากเดิมเกือบๆร้อยหรือประมาณ 100 นึง ผมไม่แน่ใจ ใช้เวลาเดินทางโดยเรือไปถึงหาดไร่เลย์ประมาณ 15-20 นาที

ถึงแล้วคัพหาดไร่เลย์ เป็นหาดทรายสีขาวละเอียดริมโตรกผา ซึ่ง หาดไร่เลย์ เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมปีนหน้าผา และ หาดไร่เลย์ แบ่งออกเป็น หาดไร่เลย์ตะวันออก (หาดน้ำเมา) และ หาดไร่เลย์ตะวันตก มีโขดหินคั่นระหว่างหาดทั้งสอง บริเวณหาดมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวหลายแห่ง 

เมื่อถึงหาดไร่เลย์ผมก็มุ่งตรงไปยังที่พักก่อน ซึ่งที่พักของผมจะอยู่ฝั่งทางตะวันตก เลยต้องเดินลัดเลาะตามซอยเพื่อไปทะลุยังฝั่งตะวันตก เพราะเวลาเรือมาจอดจะจอดฝั่งตะวันออก ที่พักของผมชื่อ ซันไรท์ ทรอปิคอล รีอสร์ท ราคาห้องละ 2000 บาท อยู่ติดชายหาดเลยคัพ ตอนแรกตั้งใจว่าจะหาที่ถูกกว่านี้ แต่เนื่องจากหลายๆที่ห้องเต็มไปเยอะ บวกด้วยที่พักบางแห่งถูก แต่อยู่ไกล เลยต้องตัดสินใจเอาว่ะที่นี่แหละ ไม่ใกล้ไม่ไกลนักเวลาจะเดินไป-มาเพื่อไปยังฝั่งตะวันออกห้องของผมจะอยู่ติดสระว่ายน้ำเลย คือเปิดประตูมาเดินไม่กี่เก้าก็กระโดดลงสระเลยคัพ ภายในจัดสไตค์โมเดิน กว้าง และที่สำคัญห้องน้ำกว้างมาก แต่ผมหารูปที่ถ่ายในห้องน้ำไม่เจอ ต้องขออภัยด้วยคัพ

หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็เดินทางต่อไปชมถ้ำพระนางที่ถือว่าเป็นอีกฝั่งที่สวยงามและน่าสนใจ ระหว่างทางก็จะพบหน้าผาเป็นหินย้อยสวยงาม เดินมาได้สักพักก็ถึงแล้วคัพ ถ้ำพระนาง 
ตรงนี้คือจุดบูชาพระนาง ซึ่งสิ่งที่คนเอามาบูชาก็คือเจ้านี่แหละคัพ เยอะมากมายเต็มไปหมด ผมก็ไม่แน่ใจเรื่องความหมายว่าเป็นมาอย่างไรบริเวรณชายหาดหน้าถ้ำพระนาง ฝั่งนี้จะเงียบสงบ ไม่มีที่พัก แต่บรรยากาศดีมากๆ

หลังจากเดินเล่นชมความงามที่บริเวณถ้ำพระนางแล้วตกเย็นพอดีก็ไปเดินเล่นถ่ายรูปชิวๆที่ฝั่งตะวันออก ซึ่งก็ต้องเดินลัดเลาะตามซอยเช่นเดิมเพื่อไปยังฝั่งนี้ ซึ่งฝั่งนี้มีชายหาดที่กว้างและสวยที่สุด

เดินเล่นกันจนเหนื่อยและหิวก็กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกมาหาอะไรกิน ร้านอาหารส่วนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นฝั่งที่ผมอยู่ เดินหาจนได้ร้าน ราคาที่นี่ก็สูงกว่าปกติไม่เยอะ ถือว่าไม่แพงจนเวอร์คัพ ราคามื้อนี้จำไม่ได้แล้วคัพว่าประมาณเท่าไหร่แต่ก็อร่อยมากๆคัพ

หลังจากไปทานข้าว กลับมาก็ติดต่อตรงเคาร์เตอร์ที่รีสอร์ทเพื่อซื้อทัวร์ไปชมทะเลแหวกในวันพรุ่งนี้ ราคาคนละ 500 บาทครับ จองเสร็จก็กลับไปนอนพักผ่อนเอาแรงลุยต่อพรุ่งนี้คัพ เมื่อรุ่งเช้าก็ตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตขึ้นตรงหน้ารีสอร์ทคัพ ช่วงเช้าน้ำจะลดครับจะเห็นแต่โคลน

หลังจากชมพระอาทิตกันเต็มที่แล้ว ก็ได้เวลานัดเพื่อขึ้นเรือไปทัวร์ที่ทะเลแหวกและจุดอื่นๆ โดยจะต้องไปขึ้นเรือทางฝั่งตะวันออกจุดแรกที่เรามาแวะคือ ทะเลแหวกคัพ แต่โชคร้ายไปหน่อย เรือลำที่ผมมา ไกด์กับคนบังคับเรือดันเทะเลาะกัน เนื่องจากคนขับเรือจะมุ่งไปที่ทะเลแหวกก่อนซึ่งตอนนั้นทะเลยังไม่แหวก เพราะไม่ใช่ช่วงเวลาของมัน คือเหมือนทำงานผ่านๆให้รีบเสร็จไปวันๆไม่ได้สนใจว่าลูกค้าจะต้องได้สิ่งที่ประทับใจกลับไป แต่ไกด์เป็นคนที่จะพาเราไปยังจุดอื่นก่อน เพื่อที่จะกลับมายังทะเลแหวกตอนหลัง เพราะเป็นเวลาน้ำลดจะเห็นทะเลแหวกที่สวยงาม สุดท้ายก็ต้องไปทะเลแหวกก่อน เพราะคนบังคับเรือไม่ตามไกด์ เซ็งกันทั้งลำคัพ แถมเรือยังมาเสียอีกด้วยคัพกลางทะเลแต่ถึงแม้จะไม่เจอทะเลแหวก แต่เมื่อมาถึงก็ประทับใจคับเนื่องจากแม้ว่าน้ำจะขึ้นแต่เราก็สามารถเดินไปเดินมาตรงบริเวณนั้นได้เนื่องจากน้ำยังไม่ลึก สามารถเดินจากอีกเกาะไปยังอีกเกาะนึงได้คัพ ที่สำคัญน้ำใสมากๆอีกด้วยคัพ

หลังจากเก็บภาพบรรยากาศตรงทะเลแหวกไปหลายภาพ ก็ไปต่อยังเกาะทับ และเกาะไก่ ที่เป็นจุดดำน้ำ ที่นี่ผมไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่เนื่องจากลงไปเล่นน้ำดำดูปลากันคัพ รอบๆตัวก็จะเห็นปลาว่ายอยู่เต็มไปหมด

เวลาล่วงเลยมาจนบ่าย จุดที่4 ของวันนี้คือเกาะปอดะ ซึ่งมีชายหาดที่สะอาด น้ำใส ทรายขาว นุ่มเท้ามากๆภูเขาเล็กๆลูกนี้คือสัญลักษณ์ของเกาะปอดะคัพผมน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา