สะเลเต ชาเล่ต์ บ้านพักหลังน้อยใกล้ผืนป่าใหญ่
เรื่องที่หลับที่นอนระหว่างการเดินทาง สำหรับหลายๆ คนอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ ชนิดที่ว่า ค่ำไหนนอนนั่นได้เลย แต่สำหรับบางคนแล้ว นานๆ ทีจะได้ออกไปตากอากาศหรือเปลี่ยนบรรยากาศบ้างซักครั้ง ดังนั้นการสรรหาเลือกที่หลับที่นอนให้มีพร้อมทั้งความสุข สะดวก สบาย ถ้าแถมด้วยวิวทิวทัศน์สวยๆ ได้อีกก็คงจะดีไม่น้อย และคราวนี้เราก็เดินทางมาถึงจังหวัดชัยภูมิ เพื่อมาชื่นชมความงามของทุ่งดอกกระเจียวที่แข่งกันบานชูช่ออวดดอกสวย และด้วยความที่อยากจะเห็นวิวสวยๆ ของทุ่งดอกกระเจียวและหมอกตอนเช้าๆ ดังนั้นเราจึงเลือกหาที่พักที่อยู่ไม่ห่างจากตัวอุทยานแห่งชาติมากนัก จะได้ไม่เสียเวลาเดินทางตอนเช้า แล้วเราก็ตัดสินใจเลือกที่ “สะเลเต ชาเล่ต์” บ้านพักหลังน้อยๆ ใกล้ผืนป่าใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติป่าหินงามเพียง 400 เมตรเท่านั้น
เพียงแค่ขับรถมาถึงที่ปากทางเข้าสะเลเต ชาเล่ต์ แนวต้นสนที่ปลูกเรียงรายอยู่ 2 ข้างทางก็ต้อนรับเราด้วยความร่มรื่น ครั้งนี้เราได้พักที่“ชาเล่ต์ 3” ซึ่งเป็นห้องใหญ่ที่สุด และถึงแม้ทางสะเลเต ชาเล่ต์จะมีบ้านพักเพียง 3 หลัง แต่ว่าทุกหลังก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป ทำให้เราอยากจะแวะเวียนมาพักให้ครบทั้ง 3 แบบซะจริงๆ เริ่มกันที่ชาเล่ต์ 3 ที่เราพักกันก่อน แค่เห็นตัวบ้านจากด้านนอกก็ทำให้เราอดตื่นเต้นไม่ได้แล้ว ด้วยรูปทรงของบ้านที่น่ารักมาก ตัวบ้านเป็นแนวหินที่ถูกเรียงรายกันเป็นระเบียบ มีปล่องไฟคล้ายกับบ้านในเทพนิยายอย่างไรอย่างนั้น และที่เก๋ที่สุดก็คือ บนหลังคาที่ปลูกดอกไม้ไว้เต็มไปหมด เช่นเดียวกันกับรอบๆ ตัวบ้านที่มีดอกไม้นานาชนิดออกดอกอวดสีสันกันอย่างไม่ยอมกัน และที่ด้านข้างของตัวบ้านยังมีบันไดนำเราไปสู่พื้นที่ดาดฟ้าด้านบน ซึ่งถูกจัดสรรให้เหมาะกับการจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวเล็กๆ ด้วย แค่รูปลักษณ์ภายนอกก็ทำให้หลายๆ คนตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นได้ไม่ยาก ยิ่งเข้าไปภายในบ้านที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย แต่ก็มีสีสันสดใสด้วยมุมโซฟาสีชมพูสดสวย อีกจุดเด่นของบ้านหลังนี้ก็คือ อ่างอาบน้ำทรงกลมขนาดใหญ่ในห้องน้ำซึ่งตั้งอยู่ติดหน้าต่าง สามารถเปิดม่านออกชมวิวด้านนอกได้ด้วย
จะว่าไปแล้ว สะเลเต ชาเล่ต์ ก็ไม่ได้มีเฉพาะบ้านพัก ชาเล่ต์ 3 เท่านั้นทีน่าสนใจ เพราะชาเล่ต์ที่ 1 และ 2 ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ถึงแม้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่สำหรับชาเล่ต์ที่ 2 ก็โดดเด่นด้วยระเบียงกว้างเปิดรับวิวได้เต็มตา ส่วนชาเล่ต์ที่ 1 ก็โดดเด่นด้วยวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นไกลไปถึงลานหินงามบนอุทยานแห่งชาติป่าหินงามเลยทีเดียว และสิ่งหนึ่งที่มีเหมือนกันทุกหลังก็คือ ความเป็นส่วนตัวด้วยตัวบ้านที่ปลูกยื่นไล่ระดับไปตามแนวเขาที่ลดหลั่นกันไป รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันในบ้านพัก พร้อมอินเตอร์เน็ต wi-fi ให้ใช้ฟรี แล้วถ้าหากมองไม่เห็นเครื่องปรับอากาศในห้องพักก็ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องแปลกใจไปเพราะ อากาศที่นี่เย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งในช่วงเทศกาลยอดนิยมอย่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมที่มีดอกกระเจียวบาน อากาศก็เย็นสบายแถมบางทีเรายังรู้สึกหนาวจนต้องหาเสื้อมาสวมอีกชั้น หรือต้องพึ่งผ้าพันคอช่วยเพิ่มไออุ่นกันเลยทีเดียว และยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวนั้นก็หายห่วงไปได้เลย รับรองว่าอากาศหนาวเย็นถูกใจแน่นอน