ว่าด้วยเรื่องของจังหวัดใหม่ จังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย "บึงกาฬ" เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่แยกออกมาจากจังหวัดหนองคาย ตั้งแต่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา จังหวัดบึงกาฬ  มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีน้ำตก มีภูเขา เมีหลายอำเภอที่มีเขตพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง และอีกฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขงจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน (ลาว) การเดินทางมาที่จังหวัดบึงกาฬ สามารถเดินมาได้หลายทาง เช่น รถประจำทาง รถไฟ รตยนต์ส่วนตัว และข่าวดีสุดๆ อีกไม่นานบึงกาฬก็จะมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 "บึงกาฬ-ปากซัน" ซึ่งโครงการอนุมัติผ่านไปแล้ว

  กลับมาที่สถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งของบึงกาฬ คือ วัดพระธาตุภูลังกา ซึ่งอยู่ในเขตพิทักษ์อุทยานแห่งชาติพระธาตุเจดีย์ เป็นที่ตั้งของเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ สร้างอยู่บนจุดสูงสุดของภูลังกา (ภูลังกา คือ ชื่อของภูเขา) อยู่ในเขตอำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ สำหรับการเดินทางมายังวัดพระธาตุภูลังกานั้น สามารถเข้าถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ได้เลย โดยจากบ้านโนนชมภู อำเภอบึงโขงหลง เป็นเส้นทางลาดยางประมาณ 1.5 กิโลเมตร จากนั้นก็เป็นถนนลูกลัง ประมาณ 2 กิโลเมตร (รถเก๋งสามารถเข้าถึงได้) จากนั้นก็เดินตามบันได ขึ้นไปด้านบนยอดภูลังกา หากใครมารถประจำทาง ยังไม่มีรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยว เข้าถึงตัววัดได้ อาจจะต้องอาศัยโบกรถหรือสอบถามจากชาวบ้านในระแวกนั้นก็ได้ (รถประจำทางที่วิ่งผ่าน รถ 99 สายกรุงเทพ - บ้านแพง / รถอุดร - บ้านแพง) 

 เตรียมตัวเดินขึ้นภูลังกา

 ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า วัดพระธาตุภูลังกาเปิดเป็นสถานที่ท่อเที่ยวยังไม่สมบูรณ์แบบมากนัก โดยยังไม่มีร้านอาหารมาบริการนักท่องเที่ยว (สอบถามจาก เจ้าหน้าที่ สถานที่นี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก) ด้านบนสุดยังไม่มีร้านอาหารเช่นเดียวกัน ไม่มีไฟฟ้า ระบบน้ำใช้ประปาภูเขา สำหรับคนที่จะมากางเต้น์นอนก็สามารถทำได้ โดยติดต่อที่ทำการหน่วยพิทักษ์ฯ ทางด้านล่างก่อน อาหารเครื่องดื่มอุปกรณ์ต่างๆ เตรียมขึ้นมาเอง ปกติจะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาพักบ้างช่วงเทศกาล เช่น ปีใหม่ (เจ้าหน้าที่ แนะนำให้มาช่วงหน้าหนาวจะดีมาก) จริงๆ ก็สามารถเที่ยววันเดียวก็ได้ ขึ้นมาแล้วลงได้เลยใช้เวลาไม่มาก

  การเดินทางเมื่อเรามาถึง วัดพระธาตุภูลังกา ขับรถมาให้สุดทาง จะเจอกับที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ด้านหน้าจะมีที่จอดรถ มีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยอำนวยความสะดวกอยู่ด้านล่าง

ข้อควรทราบก่อนขึ้นภู

1. ระยะทางเป็นภูเขาสูงประมาณ 1-2 กม. ชันมาก ชันน้อย สลับกันไป บรรไดทำด้วยคอนกรีต สลับกับดิน(บางส่วน) 

2. ระยะทางจากที่ทำการจนถึงจุดสุดยอดพระธาตุไม่มีห้องน้ำ ไม่มีร้านอาหาร(ด้านบนด้วย) ควรเตรียมน้ำ ยาสำหรับคนมีโรคประจำตัว นักท่องเที่ยวควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง

3. จุดชมวิวหลายๆ จุด ยังไม่มีที่กั้นเป็นกิจลักษณะต้องระวังมากๆ

4. เตรียมกายและใจให้พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลยยยยย :)

ด้านหน้าที่ทำการหน่วยพิทักษ์ฯ

 เส้นทางขึ้นเขา

  เดินอ้อมที่ทำการทางด้านซ้ายไม่ถึง 50 เมตร เราก็ถึงทางเดินขึ้น มองแล้วชิวๆ ไม่น่าจะชันมาก ลุยยยยย ทริปนี้ผมลุยกับน้องชาย 2 คน (ขึ้นเวลา 15.50 น.) ไปค่ำๆหน่อย กลางวันอากาศร้อนมากก

ลวดลายพญานาคบนทางเดินขึ้นเขา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องราวความเชื่อ ของคนหนองคายและบึงกาฬในปัจจุบัน เราจะพบเห็นเสมอๆ ในวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใน 2 จังหวัดนี้ ที่ขึ้นชื่อมากๆ ก็จะเป็นบั้งไฟพญานาคนั่นเอง

บันไดทางเดิน

บันไดทางขึ้นทำด้วยคอนกรีตอย่างดี สบายหายห่วงเรื่องความลำบาก แต่ต้องเตรียมรองเท้าที่เหมาะสำหรับปีนป่ายหน่อยนะครับ ทางเดินไกลพอสมควร

ทั้งสองข้างทางเดินเราจะพบกล้วยไม้ป่าและพรรณไม้ชนิดต่างๆ มากมาย ดูได้นะแต่อย่าเก็บหรือเด็ดไปละ ธรรมชาติอยู่กับธรรมชาตินั่นแหละสวยงามแล้ววว

จุดชมวิว

เดินมาสักพักทางชัดมากขึ้นเรื่อยๆ เราก็เจอจุดชมวิวจุดแรก จะมองเห็นยอดเขาอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเขาลูกเดียวกันนี่แหละ(ภูลังกา) แต่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง แต่ดีนะ เจ้าหน้าที่ ที่ทำบันไดขึ้นมา เหมือนจะรู้ว่านักท่องเที่ยวจะเหนื่อยตรงไหน ก็จะทำที่พักริมทางไว้ให้ หอบแฮกๆ กันเลยทีเดียว

มุมมองจากตรงนี้ จะมองเห็นด้านล่างก็คือวัดพระธาตุภูลัง เส้นทางที่เราผ่านเข้ามายังที่ทำการหน่วยพิทักษ์ฯ  หรือเส้นทางที่เราขับรถเข้ามานี่แหละ

ดีนะที่ยังมีเส้นทางเรียบๆ ให้เดินกันได้ T T

เส้นทางที่สูงและชัดรอเราอยู่ข้างหน้า มองไปสุดๆ จะเห็นที่พักอยู่ เหมือนกับบอกเราว่าต้องไปให้ถึงจะได้พักถ้าอยากร้อนตรงนี้ก็นั่งได้เลยยย 555

บันไดบางจุดมีการชำรุด เจ้าหน้าที่ทำบันไดเหล็กทำเป็นทางเลี่ยงให้เราเดิน ต้องระวังให้มากๆนะครับ

จุดชมวิวอีกจุด ความหวังใกล้เข้ามาอีกนิด

ระหว่างทาง จะมีพระธาตุเล็กๆ อยู่เพื่อให้เราได้รู้ว่าใกล้แล้วว ได้ยินมาอีกที ว่านี่พึ่งถึงกลางทางพอดีเป๊ะ T T

ผ่านจากพระธาตุมา เราจะมองเห็นผาหินขนาดใหญ่ มีช่องทางเดินเล็กๆด้านข้าง สวยงามไปอีกแบบ

เห็นทีจะไม่ไหว ขอพักอีกสักรอบละกัน จริงๆ พักมาตลอดทาง ที่พลาดมากก็คือทั้งสองชีวิต พกน้ำอัดลมมาขวดเดียว T T

ชายผู้แข็งแกร่งเดินนำหน้าผมไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น เสียงตะโกนออกมาจากป่าด้านหลัง รอกรูด้วยยยยยยยยยยย 555

เมื่อเดินมาถึงพื้นที่ราบๆ แบบนี้แล้วทำให้เรายิ้มได้อย่างสบายใจ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ถึงเจดีย์ที่อยู่จุดสูงสุด อุตสาห์ดีใจ -*-

พาโนรามา สักหน่อย ไหนๆ ไอโฟนก็จัดมาให้แล้ว

เราถึงพื้นราบหลังเขาแล้ว แต่ปลายสุดอีกด้านหนึ่งยังเหมือนไกลมากๆ แต่ไม่เป็นไรเราไม่ได้ไปถึงที่นั้นไม่เป็น 5555

หล่อๆ สักภาพเถอะน่าาาา 5555

พาโนรามา อีกด้านของภูลังกา อากาศตอนเย็นๆ กำลังสบายเลย ตอนเดินขึ้นร้อนมากกกกกกกกก

สังเกตุดีๆ จะเห็นพระธาตุอยู่ไกลๆ นั่นแหละคือเป้าหมายของเรา หลังจากนอนพักให้หายเหนื่อยแล้วเดินต่อไปเล้ยยย

อีกนิดเดียวววววววววววว T T

ใกล้แล้วววววว 555

ถึงแล้วววววววววววววววว ในที่สุดเราก็มาถึง จุดสูงสุดของภูลังเป็นที่ตั้งของเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ ตั้งสูงอยู่บนยอดภูลังกา สามารถมองเห็นได้จากถนนด้านล่าง (เซกา - บึงโขงหลง) สวยงามและอากาศดีมากๆ (ขึ้นมาถึง 17.20 น.) เฉลี่ยขึ้นมาถึงประมาณ 1.30 ชม. อันนี้แบบเร็วนะครับ ผมว่าเดินชิวๆ สัก 2 ชม. จะพอดี ไม่เหนื่อยมาก

เรามาถึงแล้วววววว

พี่บ้าง

น้องบ้าง

มองไปรอบๆ วิวสวยใช้ได้เลยน้าาา ไม่อยากลงเลยย

ที่มองเห็นภูเขาลิบๆ ไกลๆ และเส้นน้ำบางๆ กั้นอยู่ คือ แม่น้ำโขงและภูเขาฝั่งประเทศลาว

ขากลับลงมาเจอกับพี่เจ้าหน้าที่หน่วยพักทักษฯ เลยขอถ่ายรูปมาซะหน่อย เลยได้สอบถามข้อมูลการขึ้นมาพัก ดังที่แจ้งไว้ในตั้งแต่แรกแล้วนะครับ พี่ๆจะอยู่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมา จะมีแคมป์ที่พัก เป็นเพิงที่มีแต่สังกะสีอาศัยแขวนเปลนอน ไม่มีไฟฟ้า 2-3 วัน ลงครั้งนึงหรือตามที่หัวหน้าสั่งครับ    

จากนั้นผมก็น้องก็รีบวิ่งกันลงมาอย่างรวเร็วเพราะเวลาใกล้ค่ำมากแล้ว ตอนถ่ายรูปกับพี่เจ้าหน้าที่ (17.40 น.) ด้านล่างปิดเวลา 18.00 น. รีบวิ่งด้วยเดินด้วยถึงด้านล่าง (18.10 น.) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ต้องบอกว่าวิ่งซะส่วนใหญ่

ขอลากันไปด้วยภาพนี้นะครับ แสงแสดอุ่นๆ วิวด้านหน้าภูลังกามองเห็นบึงโขงหลง บึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่เป็นที่แหล่งท่องเที่ยว คือ หาดคำสมบูรณ์และเป็นแหล่งจับสัตว์น้ำของชาวบ้านแถบนี้ หวังว่าทุกๆท่านจะรู้จักแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬ เพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งที่นะครับ ถ้ามีโอากาสอย่าลืมมาเที่ยวบึงกาฬกัน และสุดท้ายท้ายสุด นี่เป็นรีวิวแรกของผมถ้ามีส่วนใดผิดพลาดประการใดก็อภัยให้กันนะครับ ขอบคุณมากครับที่อ่านจนจบ สวัสดี :)

FB : facebook.com/veerapong.tak