9 Hr. เ ชี ย ง ใ ห ม่ ใ ช่ มี ดี แ ค่ ห ม อ ก แ ล ะ ภู เ ข า
สวัสดีครับผม นี่เป็นรีวิวที่สองของเพจนี้ และเป็นรีวิวที่สองของจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งรีวิวแรก
ก็คือ..." สัมผัสแห่งขุนเขา...เปิดเมืองแห่งสายหมอก...แ ม่ ก ำ ป อ ง สู่ ม่ อ น เ ง า ะ " หวังว่าทุกท่านยังไม่เบื่อจังหวัดนี้นะครับผม เข้าเรื่องเลยหละกัน
ก่อนอื่นในการเที่ยวเชียงใหม่ครั้งนี้ได้เลือกใช้บริการที่พักที่ B2 มหิดล ซื่งตั้งอยู่นอกเมืองมาหน่อย
สาขาในเมืองวันที่ผมจะไปพักมันเต็มหมด ดูโดยรวมๆแล้วผมว่าโอเครนะ มีที่จอดรถยนต์ให้ ห้องสะอาด
ที่สำคัญมี Wifi แรงมาก ราคาต่ำกว่าสิ่งที่ได้ นับว่าคุ้มครับ ถ้าใครที่เดินทางมาเที่ยวไม่มีรถยนต์แนะน้ำหาที่พักใน
เมืองนะครับน่าจะสะดวกกว่า
ในเช้าวันเสาร์ที่ 30 มกราคม 2559 อาน้ำแต่งตัวเสร็จ 9:00 น.ก่อนออกเที่ยวเราต้องหาอะไรลงท้องเราก่อน
และก็นี่เลยครับขอแนะนำร้านก๋วยแม่จำปา อร่อยเด็ดครับผม อยู่ใกล้ที่พัก B2 ที่ผมพักด้วยเมนูมีเยอะมากมากครับ ก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่ได้เยอะนะครับ ธรรมดา 40 พิเศษชามใหญ่มาก 50 บาท
และที่ผมสั่งมาทานก็มีเล็กต้มยำน้ำพริกเผา(40 บาท) หมูย่าง(40 บาท) และก็น้ำกระเจี๊ยบ(10 บาท)
ก๋วยเตี๋ยวที่ว่าอร่อย หมูย่างนี่เด็ดเลยครับ นุ่มหวานมีกระดูกอ่อนให้เคี้ยวกลึบๆ เด็ดครับผม
อิ่มไปกับราคา 90 บาทครับผมและนี่คือพิกัดของร้านก๋วยเตี๋ยวแม่จำปา ครับผม
เมื่ออิ่มของคราวแล้วมันก็ต้องมีของหวาน นั่งกดๆจิ้มๆ ipad อยู่นานว่าจะเลือกร้านไหนดีที่มันน่ากินและที่สำคัญเดินทางง่ายสะดวกที่จอดรถ และในที่สุดก็ได้ร้าน เอาเป็นว่าร้านนี้หละกัน Bear Hug Cafe' ส่วนที่จอดรถเป็นหาจอดริมถนนข้างทางฝั่งตรงข้ามครับผมแล้วเดิน ชิวๆไปร้าน ได้ชมความงานและสัมผัสบรรยากาศของเมืองเชียงใหม่ไปในตัวครับ
เดินไปเดินมาแป๊ปๆถึงร้านแล้วววครับ ที่ร้านมีที่นั่งทั้งในร้านและนอกร้านครับผม บรรยากาศภายในร้านน่ารักดึครับ ร้านไม่เล็ก ไม่ใหญ่ครับ เมนูมีมากมาย ที่ผมสั่งคือกาแฟลาเต้เย็น(55 บาท) กับ ชีสซี่ ฮันนี่โทส(125 บาท)
งั้นมาชมภาพกันยาวๆเลยครับผมและนี่ก็พิกัดร้าน Bear Hug Cafe' ครับผม
หลังจากอิ่มทั้งของมันและของหวาน ท้องก็ตึง ถึงเวลาเดินย่อยหาที่เที่ยว จะไปไหนดีลองๆหาหลายๆที่เที่ยวที่มันใกล้ๆตัวเมืองหน่อยและก็เจอสิ่งนี่ สิ่งที่ชาวต่างชาติชอบไปเที่ยวกันอีกที่หนึ่ง นั้นก็คือ แกรนแคนยอน เชียงใหม่ นั้นเอง
เมื่อมาถึงจะมีรถจอดอยู่ข้างทางเรียงรายกันไปหมด ค่าเข้าชมคนไทย คนละ 50 บาท ครับพอเดินเข้าไป ดูอลังการดีนะครับ คาดว่าน่าจะเป็นเหมืองเก่ามั๊งครับ น้ำดูลึกมาก สีเขียวน่าโดดน้ำมากกครับ
สภาพอากาศที่ผมไปคือช่วงที่ประเทศไทยหนาวเย็นมากในรอบปีหวังว่าจะจำกันได้ ณ ตอนนั้นมีแดด แต่อากาศเย็น
นั่งตากแดดยังเย็นสบายอะครับ มีลมพัดเรื่อยๆ มีเสียงตะโกนหัวเราะ ของชาวต่างชาติดังเป็นระยะๆ มองไปจุดหน้าผาจะมีชาวต่างชาติต่อแถวกันกระโดดน้ำเล่นกัน ส่วนคนไทยก็ต่อแถวเพื่อไปถ่ายรูปกัน งั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา มาดูรูปกันยาวๆเลยครับผม
อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ค่าเข้าชมก็ตกราคาหัวละ 50 บาท สำหรับผู้ใหญ่ครับ ไม่ต้องสาธยายมากครับมา
ชมภาพกันเลย ก่อนอื่นผมขอแนะนำ ไปช่วงเช้า ไม่ก็บ่ายๆเกือบปิด ก็ดี อากาศจะได้ไม่ร้อนครับ
เที่ยวจนเพลนมองดูนาฬิกา จะ 4 โมงเย็นละ ยังมีที่เที่ยวที่ไหนอีกเนี่ยที่พอจะถ่ายรูปได้ ลองๆ
ถามพี่ google ดู และก็เจอเข้าจริงๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลเดินทางสะดวก เจอในเว็ปเขาบอกว่าปิด 6 โมงเย็น อาววว
ยังพอมีเวลาก็เจอจัดเลยครับ อีก 1 สถานที่ก่อนจบทริปของวันนี้ที่ที่ว่าก็คือ "บ้านข้างวัด" นั้นเอง
เมื่อไปถึงก็มีทั้งต่างชาติและคนไทยเดินเที่ยวกัน เป็นสไตล์ออกแนววินเทรจหน่อย มีบ้าน 8-10
หลังอยู่รวมกัน แต่ละหลังก็เปิดเป็นร้านขายของที่ละลึกมั่ง ขายของกินมั๊ง มีแม้กระทั้งร้านทำผมครับ
มาดูกันเลยครับ บ้างทีทั้นจะหาสถานที่แบบนี้มานั่งชิวทำงานกันก็ได้ครับผม
นี่ร้านขายของที่ระลึกครับ เจ้าของร้านใจดีครับ พอบอก "ขออนุญาตถ่ายรูปหน่อยครับ" เจ้าของร้านยิ้มตอบกลับอย่างเต็มใจ "ได้คะ" รู้สึกดีเมื่อได้รับอนุญาตให้ถ่าย ^_^
ส่วนร้านข้างๆกันจะเป็นร้านโชว์และขายผลงานครับผม
หลังจากเดินจนเหนื่อยทั้งวัน ก็ต้องมานั่งเพิ่มพลังซักหน่อยครับ ด้วยนมสดอุ่นๆ นั่งชิวๆ ซึมซับบรรยากาศรอบๆ นั่งดูรูปที่เที่ยวถ่ายมาทั้งวันในกล้อง มองดูนาฬิกา จะ 6 โมงเย็นแล้ววว คงต้องหยุดทริป 9 ชั่วโมงของวันนี้
ไว้ที่ร้านนมแห่งนี้ครับ มาชมภาพล็อตท้ายสุดของทริปนี้กันเลยครับผม
และนี่คือพิกัด " บ้านข้างวัด " สถานที่ท้ายสุดของทริปนี้ครับผม
================== จบแล้วครับผมสำหรับทริปนี้ =================
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านและดูรูปมาจนถึงท้านสุดของทริป หรือบางท่านจะดูแค่รูปอย่างเดี่ยว แต่ก็ขอบคุณ
ที่ยอมสละสิ่งที่มีค่ามากที่สุดนั้นก็คือ "เวลา" ของท่าน มานั่งชมหรือวิจารณ์ในทริปครั้งนี้
ขอบคุณครับบบบบ ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับผม