กิจกรรม : นั่งเรือข้ามโขงไปฝั่งลาว เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน
ระยะเวลา : 2 ชั่วโมง – 1 วัน
ค่าใช้จ่าย : 200 บาท ขึ้นไป (ค่าเรือไป-กลับ 120 บาท ค่าธรรมเนียมด่านลาว เข้า-ออก 80 บาท)
ถ้าได้ลองนั่งเล่นริมโขงแล้วมองไปทางฝั่งลาว จะเห็นทิวเขาที่เป็นฉากหลังสวยงามมากครับ ซึ่งจังหวัดนครพนมนั้น จะตรงกับ เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน (ຄໍາມ່ວນ) ของประเทศลาว อยู่ใกล้ลาวแค่เอื้อมแบบนี้หลายคนก็คงมีความรู้สึกที่อยากจะข้ามไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศที่ฝั่งลาวบ้าง ซึ่งถ้าหากพอมีเวลาก็อยากจะแนะนำให้ลองข้ามไปเที่ยวดูนะครับ ไม่มีพาสปอร์ตก็ไปเที่ยวได้ (ทำเรื่องผ่านแดนที่ ตม. ตรงหอนาฬิกาได้เลย) และการเดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปนั้น ค่อนข้างที่จะสะดวกสบาย เพราะจะมีเรือข้าม ทุกครึ่งชั่วโมง ตลอดทั้งวัน
เริ่มต้นที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง(ติดกับหอฬิกา) สามารถใช้พาสปอร์ตในการผ่านแดนได้ครับ (พาสปอร์ตไม่เสียค่าใช้จ่าย) และ สามารถทำใบผ่านแดน ก็ได้ครับ (ใช้แค่บัตรประชาชน แต่เสียค่าบริการประมาณ 35 บาท) จากนั้นก็เอาพาสปอร์ต มาซื้อตั๋วเรือข้ามไปครับ เที่ยวละ 60 บาท ก็จะมีใบเอกสารขาออกประเทศแจกมาด้วยครับ ก็กรอกข้อมูลส่วนตัวไปครับ ทำเรื่องผ่าน ตม. ไทยแล้ว จากนั้นเรือก็ลงเรือเพื่อข้ามฝั่ง ใช้เวลาแค่ 15-20 นาที ยืนชมวิว แป๊บเดียว..ก็ถึงฝั่งประเทศลาวแล้ว ทำการปั๊มเข้าประเทศลาวครับ จะเสียค่าธรรมเนียม 40 บาท (จ่ายเป็นเงินไทยได้ครับ)
แนะนำว่าถ้าอยากเที่ยวสถานที่เที่ยวใน "ท่าแขก" นี้ต้องมีเวลาอย่างน้อยสักครึ่งวันครับ แล้วเหมาสกายแล๊ปไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เช่น ถ้ำ กำแพงหิน ตลาด วัด แบบนี้เป็นต้นครับ เพราะ แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวนั้นค่อนข้างที่จะอยู่ไกลกันพอสมควร และจำเป็นต้องเหมารถ หรือ เช่ารถเที่ยวเอาครับ แต่.. ถ้าอยากแค่ข้ามมาเที่ยว เปลี่ยนบรรยากาศสัก 1-2 ชั่วโมง นี่ก็ย่อมได้ครับ มีวัดที่พอเดินไปเที่ยวได้ หรือ ลองหาอะไรกินในร้านอาหารเล็กๆ ริมโขง ..ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบครับ
สรุป ถ้าจะข้ามไปฝั่งลาว(แบบมีพาสปอร์ต) ต้องมีงบ 200 บาท อย่างต่ำครับ..!! (ค่าเรือไป-กลับ 120 บาท ค่าธรรมเนียมด่านลาว เข้า-ออก 80 บาท)
รถสกายแล็ปจอดคอยให้บริการกับนักท่องเที่ยวบริเวณท่าเรือ ซึ่งเมื่อทำเรื่องเข้าลาวเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเหมารถสกายแล็ปได้ที่ตรงนี้เลย ราคาเหมาก็ขึ้นอยู่กับการตกลง และ ระยะทางของสถานที่ต่างๆ ที่จะไป
บรรยากาศวิวทิวทัศน์จากฝั่งลาว(ท่าแขก) เมื่อมองกลับไปที่ฝั่งไทย(นครพนม)
เมนู "ไข่ข้าว" ของร้านอาหารเล็กๆ ริมโขงแห่งหนึ่ง ซึ่งบริเวณริมโขงฝั่งลาวนี้ ก็มีร้านอาหารหลายร้านให้ได้ลองไปนั่งเปลี่ยนบรรยากาศ
กิจกรรม : ลองชิมอาหารเวียดนาม ณ ครัวเวียดนาม
ระยะเวลา : 1 ชั่วโมง (ร้านเปิด 10.00-22.00 น.)
ค่าใช้จ่าย : 50-200 บาท
ในอดีต สมัยยุคของสงครามอินโดจีน และ สงครามเวียดนาม นครพนมเคยมีชาวเวียดนามส่วนหนึ่งอพยพเข้ามาอาศัยหลบภัยสงครามอยู่ระยะหนึ่ง จึงทำให้นครพนมได้รับ วัฒนธรรมเวียดนามมาพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น สถาปัตยกรรม ตึกรามบ้านช่อง หรือ วัฒนธรรมต่างๆ รวมไปถึงอาหารการกินด้วย
นครพนม มี ร้านแหนมเนือง(อาหารเวียดนาม) ให้ลองชิมอยู่หลายร้านเหมือนกันครับ แต่ขอแนะนำร้านนี้ละกันครับ เพราะเมนูหลากหลาย และร้านติดแอร์นั่งเย็นสบายดีครับ ราคาไม่แพง ชื่อร้าน ครัวเวียดนาม จาก "หอนาฬิกา" ไปตามเส้น "เฟื่องนคร" ประมาณ 100-200 เมตร จะถึงแยกที่มี 7-11 ตรงหัวมุม แล้วเลี้ยวซ้ายเลยครับ ร้านจะอยู่ตรงข้าม เยื้องๆ กับ 7-11 นั่นเองครับ หรือ จะเดินมาก็ได้นะครับ จากตรงหอนาฬิกา(ถนนคนเดิน) เดินมาร้านก็ไม่ได้ไกลอะไรครับ ถึงแยก 7-11 แล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะเห็นร้านครับ
บรรยากาศภายในร้านจะประดับด้วย "งอบ" ที่เป็นสัญลักษณ์ของเวียดนาม เป็นงอบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เคยเห็นกันบ่อยๆ เป็นงอบใบเล็กๆ ประดับอยู่ที่ฝาผนังร้าน ในร้านดูโปร่ง สว่าง สะอาดตาดีครับ มีคนวนเวียนเข้ามาทานอาหารในร้านกันพอสมควรเลย โดยเฉพาะช่วงเย็นๆ เมนูอาหาร มีทั้ง อาหารไทย และ อาหารเวียดนาม ส่วนเมนูที่แนะนำก็ อย่างเช่น แหนมเนือง, หมูยอ, บุ๋นบี่, เฝอ เป็นต้น แต่ที่ร้านจะมีเมนูพิเศษที่ไม่ได้มีรายการอาหารด้วยนะครับ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในฤดูกาลนั้นๆ ซึ่งถ้าไปถูกช่วงก็มีอาหารแปลกตาให้ได้ลองเหมือนกันนะ
เมนูแรกที่ต้องสั่งก็ต้อง "แหนมเนือง" ครับ แต่ที่นี่มี "แหนมเนืองห่อสำเร็จ" ด้วยครับ น่าจะประมาณว่าทานสะดวก ไม่ต้องใช้มือเพราะห่อสำเร็จมาให้เลย ขนาดพอดีคำ ราดน้ำจิ้มแล้วกินได้เลย แต่ผมว่าการใช้มือหยิบกินนี่มันจะรู้สึกอร่อยนะ หยิบผักเติมนั่น เติมนู่นเอง มันได้อารมณ์กว่าเยอะ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ล่ะ! ลองแบบห่อสำเร็จมาบ้าง ก็สะดวกดีอย่างที่ว่าเหมือนกัน .. ห่อมาเป็นคำๆ เลย กินง่ายดี ชุดละ 120 บาท เอง!
ขึ้นชื่อว่าอาหารเวียดนามก็ต้องมีหมูยอ เป็น "หมูยอรวม" ลวกมา พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ชุดละ 180 บาท หมูยอนี่รู้สึกจะมีอยู่ 3 อย่างครับ จิ้มกับน้ำจิ้ม ที่คล้ายน้ำจิ้มซีฟู๊ด เปรี้ยวๆ หวานๆ ผมว่าเมนูนี้อร่อยเลยล่ะ ด้วยส่วนตัวชอบกินหมูยออยู่แล้วอ่ะนะ
เมนูต่อมา อันนี้รู้สึกจะหากินยากหน่อย ไม่มีในรายการอาหาร มีในบางช่วงฤดูกาลเท่านั้น ซึ่งเมนูไหนที่มีบางช่วงฤดูกาลก็จะมีพนักงานคอยแนะนำให้ครับ ซึ่งก็น่าลองเหมือนกันเป็น "ปลาเอินต้มเค็ม" (180 บาท) เป็นปลาแม่น้ำโขงประเภทหนึ่งครับ ที่จับมาได้แบบสดๆ ในบางช่วงฤดูกาลเท่านั้น มานครพนม ไม่ต้องห่วงครับ ได้กินปลาแม่น้ำสดๆ อย่างแน่นอนครับ! อันนี้ต้องทานกับข้าวสวยครับ ถึงจะพอเหมาะ.. เพราะรสค่อนข้างหนักไปทางเค็มนิดๆ และก็ควรทานคู่กับผักสดด้วยนะครับ เข้ากันดีเหมือนกันครับ
กิจกรรม : ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ หาดทรายทองศรีโคตรบูร
ระยะเวลา : ประมาณ 1 ชั่วโมง (05.45 – 06.30 น.)
ค่าใช้จ่าย : ไม่มี
ในช่วงริมโขงใกล้ๆ กับตัวเมือง ณ จุดตรงนี้ถูกเรียกว่า "หาดทรายทองศรีโคตรบูร" ครับ เป็นหาดทรายน้ำจืดที่สวยงามมากแห่งหนึ่งจะปรากฎให้เห็นในช่วงฤดูแล้งเท่านั้น โดยปกติฤดูแล้งของภาคอีสานจะเป็นช่วงราว เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ของทุกปี จะเห็นหาดทรายจะยื่นออกไปไกลจนกระทั่งถึงบริเวณกลางลำน้ำโขง หาดทรายนี้จะอยู่ตรงข้ามกับ แขวงคำม่วน ประเทศลาว โดยในยามเช้าแบบนี้ ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นจากขอบฟ้านั้น นับว่าเป็นภาพที่งดงามมาก เพราะแสงแรกของวันนั้นจะส่องแสงตกกระทบกับผืนทราย แล้วสะท้อนแสงมา ทำให้เกิดความรู้สึกราวกับว่า หาดทรายมีสีราวกับทอง จนได้ชื่อว่า "หาดทรายทองศรีโคตรบูร" บรรยากาศริมโขงยามเช้าอากาศก็ดีมากๆ ชาวบ้าน ออกหาปลา กันแต่รุ่งสาง .. ได้เห็นวิถีชิวิต ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ไม่เสียแรงเลย ที่ ตื่นแต่เช้า ....แน่นอนครับ!
ชมบรรยากาศ และวิถีชีวิตยามเช้าของชาวบ้านริมสองฝั่งโขง
มารอชมพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งจะขึ้นจากฝั่งประเทศลาว
แสงแรกของวันนั้นจะส่องแสงตกกระทบกับผืนทราย แล้วสะท้อนแสงมา ทำให้เกิดความรู้สึกราวกับว่า หาดทรายมีสีราวกับทอง จนได้ชื่อว่า "หาดทรายทองศรีโคตรบูร"
กิจกรรม : ลองชิมหลากหลายเมนูปลาแม่น้ำโขง
ระยะเวลา : 1-2 ชั่วโมง
ค่าใช้จ่าย : 100 บาท/คน ขึ้นไป
มาเที่ยวริมแม่น้ำโขงแบบนี้ ก็ต้องทาน ปลาแม่น้ำโขง สิครับ ที่นครพนม จะเห็นร้านอาหารที่เป็นเมนูปลาแม่น้ำโขงเยอะแยะมากมาย ใกล้กับแหล่งน้ำขนาดนี้ จึงทำให้มีโอกาสได้ลิ้มลองกับหลากหลายเมนูปลาแม่น้ำโขงเลย ที่รับรองความสด ปลาสดๆ จากแม่น้ำโขง ซึ่งปลาแต่ละชนิดก็มีให้ได้ทานเฉพาะบางฤดูกาลเท่านั้น
ยกตัวอย่างร้านนึงที่เคยไปทาน "ร้านสบายดี@นครพนม" สาเหตุ เพราะร้านนี้ค่อนข้างไปมาสะดวก ร้านหาง่าย อยู่ในถนนคนเดินถนน เส้นริมโขงนี่เอง ที่เคยสั่งเมนูปลา ก็อย่างเช่น ปลาลวกจิ้ม ปลาทอดกรอบ ปลาราดพริก ต้มยำปลา เป็นต้น เป็นร้านอาหารที่มีเมนูอาหารค่อนข้างหลากหลายครับ มีเมนูแปลกใหม่ให้ได้ลิ้มลองกันตลอดปี ตามแต่วัตถุดิบที่มีในแต่ละฤดูกาลครับ ทั้งอาหารท้องถิ่น อาหารไทย อาหารฝรั่ง อาหารลาว แต่ที่เด็ดก็คือ เมนูบรรดาปลาแม่น้ำโขงอย่างที่บอกไปนี่แหละครับ ที่ต้องลอง!
แนะนำเมนูที่ห้ามพลาดครับ ใครมาก็ต้องสั่งมาลอง เมนู "ปลาจุ่ม" ปลาแม่น้ำโขงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ เสริฟมาเป็นชุดพร้อมผัก และ เครื่องเคียง คีบจุ่มลงไปในน้ำซุป เดือดๆ แค่แว๊บๆ สัก 4-5 วินาที ก็เอามาจิ้มน้ำจิ้มก่อนใส่ปาก เนื้อหวานเหนียวนุ่ม.. อร่อยเลยครับ ปลาสดๆ แบบนี้!
"ปลาจุ่ม" ปลาแม่น้ำโขงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ เสริฟมาเป็นชุดพร้อมผัก และ เครื่องเคียง
จะให้อร่อยต้องคีบลงไปลวกในน้ำเดือดเพียงไม่กี่วินาที ก่อนจะนำมาจิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด ต้องลอง!
กิจกรรม : เดินเล่นถนนคนเดินนครพนม
ระยะเวลา : 1-2 ชั่วโมง (ทุกวัน ศ. ส. และ อา. เวลา 18.00 – 21.00 น.)
ค่าใช้จ่าย : ตามความสะดวก
ในเวลาค่ำคืนออกย่ำราตรีกันได้ ที่ "ถนนคนเดินนครพนม" จะอยู่ที่ตรงบริเวณ "หอนาฬิกา" ถ.สุนทรวิจิตร ริมแม่น้ำโขงนี่เอง (สรุปแบบว่า หอนาฬิกานี่เป็นเหมือนศูนย์กลางการเที่ยวทุกที่เลย) ถนนคนเดินจะมีเฉพาะ วันศุกร์ เสาร์ และ อาทิตย์ 3 วันเท่านั้นนะครับ เริ่มตั้งร้านขายของ กันตั้งแต่ช่วงเย็นๆ ไปจนถึงประมาณ 3 ทุ่มครับ
ถนนคนเดินนครพนม ก็จะมีลักษณะเหมือนกับ ถนนคนเดินที่อื่นๆ ทั่วไป ซึ่งจะมีการปิดถนนเพื่อให้ร้านค้าเข้ามาวางขายสินค้า ก็มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของใช้ และยังมีอาหารการกินท้องถิ่นแซ่บๆ มากมายให้ได้ลองชิม ถ้าอยากได้บรรยากาศควรจะมาเที่ยวนครพนมในช่วงหน้าหนาว เพราะบรรยากาศที่ริมโขงจะดีมากๆ การได้เดินถนนคนเดินก็จะได้บรรยากาศที่เหมาะ อากาศหนาวๆ เดินเล่น ซื้อของกิน เดินไป กินไป ช๊อป ชิม ชิลล์ ได้อารมณ์ดีครับ
และ บริเวณนี้เองก็เป็นที่ตั้งของร้านกินดื่มหลายร้านเหมือนกันครับ ถ้าเดินถนนคนเดินจนจุใจแล้ว ก็หาร้านนั่งชิลล์ ฟังเพลงสบายๆ จิบเบียร์ บางๆ ในบรรยากาศริมโขงได้ครับ
บรรยากาศของถนนคนเดินนครพนม
ร้านอาหารต่างๆ หลายร้านตั้งเรียงรายให้ได้ไปลองชิม
สินค้า ข้าวของ เครื่องใช้ และของที่ระลึกต่างๆ มีเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก
สุดท้าย.. นอกเหนือจากที่ได้รวบรวม "10 สิ่งที่ไม่ควรพลาด เมื่อไป นครพนม" มาข้างต้นแล้ว ก็อยากบอกว่า.. นครพนมยังมีอะไรให้เราไปรู้จักมากกว่านี้อีกเยอะแยะมากมาย...
และ การได้มาเที่ยว "นครพนม" ทำให้รู้สึกประทับใจ อะไรหลายๆ อย่างเลยครับ ไม่เบื่อ..ที่จะมาหลายๆ รอบ ชอบวิถีชีวิตที่ช้าๆ ไม่เร่งรีบ ในบรรยากาศของธรรมชาติริมฝั่งโขง ชิลล์ๆ สบายๆ ซึ่งถ้ามีโอกาสต้องได้กลับไปเยือนอีกแน่ๆ ครับ!
การท่องเที่ยวเชิงไฉไล | CHAILAIBACKPACKER
Fanpage : https://www.facebook.com/chailaibackpacker
Instagram : CHAILAIBACKPACKER
Twitter : @chailaibackpack / goo.gl/VIBXC9