Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
ดอยหลวงตากหน้าฝน เส้นทางยาวไกล หัวใจห้ามท้อ ยอดดอยหลวงตาก | Doi Luang Tak Peak จ.ตาก
    • Posts-1
    Boy •  July 14 , 2018

    สวัสดีจ้า ทริปนี้มาเดินป่ากันบ้างหลังจากเดินป่าล่าสุดก็ดอยหลวงเชียงดาวเมื่อปลายปีที่แล้วต้นปีมาก็อัดทะเลรัวๆ เลยพึ่งจะได้ขึ้นเขากันก็หน้าฝนเลย ทริปนี้ไม่ได้วางแผนมากนักมาคิดกันอาทิตย์สุดท้ายว่าเสาร์อาทิตย์นี้อยากไปกางเต็นท์เอาเขาไหนดี งบน้อยๆ ตอนแรกก็ว่าจะไปทับเบิกก็ไปหลาบรอบละ เลยว่าจะไปผาหินกูบก็เต็ม เลยนึกได้ดอยหลวงตากเคยอยากไปอยู่ เลยโทรเช็คขึ้นได้ก็จัดไปเลย ค่าใช้จ่ายก็เบาๆไม่เกิน1500บาท 

    ทริปนี้เดินทางวันที่ 16-17/6/2561

    ตารางทริปนี้ไม่มีไรเลย ขับรถมาถึงตำบลตี3นอนสักตื่นเช้าเดินขึ้นดอยหลวงตากเช้าอีกวันกลับแวะเขื่อนภูมิพลและมากินข้าวที่สะพานแขวนเมืองตากร้านบ้านเคียงน้ำ

     

    แวะดูคลิปก่อนได้จ้า รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D7200 tokina 11-20 fix35 tamron 70-300 vc และ Gopro hero 4 silver

    ฝาก เหลี่ยมพาเที่ยว ด้วยจ้า

    • Posts-2
    Boy •  July 14, 2018
    • Posts-3
    Boy •  July 14 , 2018

    เริ่มออกเดินทาง4ทุ่มกว่าๆจากกทม ดอยหลวงตากอยู่ในตำบล ทุ่งกระเชาะ จังหวัดตาก 400กว่าโลหน่อยๆไม่ไกลจากตัวเมืองเท่าไหร่ใช้เวลาไม่นานนักตี3เราก็ขับมาถึงทางดีวิ่งง่ายเลี้ยวเข้ามาจากถนนใหญ่ไม่ไกลก็ถึง นอนเอาแรงสักตื่น 6โมงกว่าก็ตื่นอาบน้ำล้างหน้าแปรงฝันเตรียมตัวเดินกัน 

    ดูท้องฟ้าวันนี้ค่อนข้างดีเช้านี้ไม่มีฝน มีแดดออก แต่เมฆยังหนาตรงไกลๆแถวเขาที่เราจะไป

     


    หลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่ไว้ก็จัดเตรียมของขึ้นรถเราต้องจอดรถไว้ที่เทศบาลเพราะว่าตรงจุดเริ่มเดินนั้นไม่มีคนเฝ้าดูแลเขาเลยให้จอดนี้กันแล้วเหมารถเข้าไปเพื่อความปลอดภัย ถือเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนด้วยครับ อุดหนุนกันไป ค่ารถ 600 บาท รวมไปกลับ


     

    เส้นทางเข้าไปยังจุดเริ่มเดินก็ไม่ไกลมากประมาณ 15 นาทีได้ครับทางเละนิดหน่อยพอประมาณ


    ถึงแล้วรูปหมู๋สักนิดกับพี่เจ้าหน้าที่คนนำทางที่นี้บังคับให้มีเจ้าหน้าที่นำนะครับไม่ให้เดินเอง เพราะเส้นทางมีแยกตัดป่าด้วยในช่วงแรกๆ อาจจะหลงได้ต้องมีคนนำ ค่าเจ้าหน้าที่ก็1200 บาท ส่วนลูกหาบก็ คนละ1200รวมไปกลับ เราเอาคนเดียวพอครับแบกของส่วนกลางกะเต็น ที่เหลือแบกกันเอง

     

    เส้นทางช่วงครึ่งทางแรก เป็นเส้นทางง่ายๆชมนกชมไม้ เดินราบมีชันขึ้นเรื่อยๆแบบเบาบางสามารถเดินได้เรื่อยๆไม่เหนื่อย

    มีตัดข้ามน้ำ สองสามรอบ ตรงนี้แหละที่จะงงแน่ๆถ้ามาเอง

     

    หลังจากเดินได้ประมาณ 30 นาที เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ปวดขี้ครับ งานเข้าแล้วครับที่นี้


     

    ผ่านน้ำล้างหน้าล่างตาสักหน่อย ลองดูเผื่อจะหายปวดท้อง

     

    กลั้นใจเดินไปอีกสักพักเริ่มไม่สบายตัว ขมิบตูดไปมาเหงื่อออกตูดทรมานแท้ๆ555 พี่เจ้าหน้าที่เลยแนะนำ ห้องน้ำกลางป่าเขียวขจีรีสอร์ท ปลดปล่อยสู่สรวงสวรรค์ เป็นที่มาของคำว่า ป่าขี้ของผมอย่างแท้จริงที่ดอยหลวงตาก 5555

    เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้ สถานที่ป่าขี้เอาไว้บรรยากาศดีมาก ระแวงคนบ้างระแวงสัตว์มั้งจะมีตัวไรไหมว้าา

     

    หลังจากเอาออกเรียบร้อยน้ำหนักตัวเบาไปเยอะ ฟิตเต็มร้อยเลยทีนี้เดินพริ้วเลย ช่วงนี้เริ่มมีขึ้นๆเรื่อยๆแต่ก็ยังไม่ชันเท่าไหร่นัก สบายๆเรื่อยๆ ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงจุดชมวิวแรก นู้นปลายยอดไกลๆนั้นใช่ไหมที่เราจะไป

    ทำไมเมฆมันเยอะจังละตรงนั้นฟ้าจะปิดไหม แต่ระหว่างทางเดินนี้แดดออก แต่มีเย็นๆเหมือนลมฝนลอยมาไกลๆ

    มืดเชียว

    การันตีได้ว่าความชันไม่เท่าไหร่มอไซด์ยังขี่มาได้เรื่อยๆ 7-11กลางป่าครับ พี่เขาจะขี้ไปถึงประมาณ 4-5 โลก่อนจะถึงจุดที่ชันที่มอไซด์ไปไม่ได้

    มาถึงแล้วก็จัดกันเลยคนละป๋องก่อน ยิงสูงยิ่งแพง ตอนนี้ 20 บาท ถ้าจุดสุดท้าย 25 บาท

    โค้กซ่าาๆสดชื่นแต่จริงๆไม่แนะนำหรอกน้ำหวานกินแล้วคอยิ่งแห้งหิวน้ำไวอีกต้องไว้กินตอนถึงยอด แต่มันยั่วใจขนาดนี้ยังไงก็ต้องโดนซะหน่อยย พรานโยยกซดปรื๊ดๆหมดด

    ไปต่อๆเครื่องกำลังร้อนเดินมันส์ๆ

     

    เริ่มเดินมาถึงเที่ยงจากเริ่มต้น 9 โมง หิวแล้ว เจอลานกว้างเขียวๆแวะกินข้าวก่อน ตอนนี้น่าจะ 6-7โลได้แล้วมั้ง

    หลังจากกินข้าวเสร้จ จะผ่านลานกว้างๆๆที่คนจะมาพักกินข้าวกัน แล้วทีนี้จะขึ้นยาวๆยันถึงลานสนเลย แต่ความชันไม่โหดมาก เดินไปได้เรื่อยๆพอหอบเริ่มกินก็หยุด ช่วงหลังนี้แหละเริ่มเหนื่อยจริงๆและ มันไกลเหลือเกิน

    มีวิวให้ชมเรื่อยๆแต่ก็ไม่ค่อยได้ถ่ายหรอกเหนื่อย

    บางช่วงชันๆพอๆกะดอยหลวงเชียงดาว แต่ไม่ยาวมากสลับกันไป

    นั้งพักแปบบ

     

    ตอนนี้เริ่มจะหมดสภาพและ555 หนักด้วยรอบนี้10กว่าโลได้ แค่กล้องก็4โลละมั้งกลับมาปวดไหลเลยมันสะพายข้างเดียว คราวหน้าคงต้องหากระเป๋ากล้องใหม่แล้ว

     

     


    แล้วก็ถึงเนินหมาหอบสุดท้าย ชันสุดก็คือตรงนี้แหละ แต่ยังดีไม่ไกลมากประมาณ 200-300 เมตรได้ แต่อาจจะต้องสี่ขาเลยทีเดียว555

     


    ตะกายมาถึงแล้วในที่สุดด ตอนแรกที่ใจนึกว่าถึงแล้วแต่ยังไม่ใช่ ต้องเดินอีก 40 นาทีได้

    พักชมวิวลมเย็นๆรอชุดหลังก่อนผมทิ้งแฟนขึ้นมาก่อนเลยเรา3คน 555 ชุดหลังอีก4คนยังมาไม่ถึง

    มาแล้วว

     

    คนนี้ถึงกับคลานน

     

    พักให้หายเหนื่อยแล้วไปต่ออีกหน่อย มาถึงตรงนี้ตะคริวมันขึ้นขาสะงั้น สงสัยพักนานไป

    จนท บอกให้ถ่ายรูปก่อนเลยวันนี้จุดชมวิวเดี่ยวพรุ่งนนี้เผื่อฟ้ามันปิด

    ลมตอนนี้แรงมากๆทางซ้ายก็มีเมฆฝนลอยมา


    วิวงามมาก

     

     

    รวมหมู๋หน่อย ตอนแรกว่าจะไปข้างบนยอดข้างหลังแต่เหนื่อยและอยู่แค่นี้พอ

     

     

    แปบเดียวเท่านั้นฝนก็ลงมาครับ แต่ไม่แรงมาก

    ต่อไปช่วงสุดท้ายก่อนจะเจอจุดกางเต็นท์ป่ากล้วย ดงทากดีๆนี้เอง แต่โชคดีไม่โดนเลยสงสัยชุดแรกๆเก็บไปหมดแล้วรอดไปจ้า

    รกมาก

     

    มาถึงบ่าย2กว่า ใช้เวลา 6 ชั่วโมง หาที่รอลูกหาบยังมาไม่ถึง ทุกอย่างอยู่ในหมอกขาวไปหมด


    หลังจากกางเต็นท์แล้วก็รอเย็นทำอาหารกินกัน

    มื้อเย็นวันนี้ชาบูอีกแล้ว แต่ไม่ใช่ชาบูธรรมดา เป็นชาบูดาวลอย

    ดาวลอยคือเหล้าต้มของพื้นบ้านแต่ละจังหวัดแต่พื้นที่ความอร่อยก็แตกต่างออกไปคุณสมบัติก็แก้หนาวได้ดีทีเดียวดกทีเดียวร้อนไปทั้งร่างกาย55

    เหตุเกิดเพราะตอนแรกฝากพี่เขาซื้อมาขวดละ100ขวดขวดเท่าน้ำ1.50 ลิตร แล้วทีนี้ที่ดอยหลวงตากเนี้ยจะมีตาน้ำข้างล่างใกล้ๆลูกหาบก็เอาขวดน้ำแบบเดียวกันไปกรอกมาวางให้ แล้วตอนที่จะเอาน้ำไปต้มชาบู ดันหยิบกันไปผิด หมดเกลี้ยงทั้งขวดดด

     

    หน้าตาดูหน้ากินแต่กินไม่ไหวกินแล้วมันข่มไปหน่อยกินดาวลอยหึ่งเลย

     

    ด้วยความเสียดายของเลยทำการล้างน้ำ เทน้ำออกแล้วคั่วกะน้ำเปล่าล้างและบีบบน้ำออก แล้วเอาไปต้มน้ำเปล่าอีกรอบบ

    ค่อยยังชั่วรอบนนี้กินได้แต่กินไปก็รู้สึกมึนๆไปด้วย กินกันหมดหม้อก็เริ่มตึงๆเมาๆกันเลยทีเดียว5555

    หลังจากนั้นก็นั้งเล่นนั้งคุยกันเรื่อยๆ อ้อไปขอแบ่งดาวลอยพี่เขามาอีกรอบขอสักครึ่งขวดก็ยังดีแก้หนาวๆ

     

    ประมาณเกือบทุ่ม รอบๆก็ยังขาวมาก เลยขอเดินไปจุดชมวิวหน่อยเห็นว่าไม่ไกล

    เดินไปไม่ไกลครับ10นาทีเองมั้งก็ถึงแล้ว

    แต่ทุกอย่างก็ขาวไม่มีไรให้ดูและลมแรงสุดๆเดินกลับมามืดพอดี แล้วคืนนั้นก็เข้านอนประมาณ 2 ทุ่มกว่า อากาศหนาวๆเย็นๆกำลังดีนอนในเต็นท์สบายๆ

    เช้ามาตื่นมาพร้อมกับความขาวววเหมือนเดิมม แต่ใจก็ยังมีลุ้นกะรอจนถึง10โมง ต้มมาม่ามื้อเช้าแสนอร่อยกันก่อน

    ถึงสิบโมงแล้วมาถึงป้ายก็ยังขาวลมแรงมีฝนด้วย เราก็ยังรอดูเผื่อจะขอให้เห็นสักนาทีก็ยังดี ทำการเปิดเน็ตลืมบอก เน็ตบนยอดนี้แรงพอสมควรตรงกางเต็นดับๆ หาคาถาฟ้าเปิด ทำการท่องร่ายอยู่10นาที

    ไม่น่าเชื่อครับ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ของแบบนี้ ละอองหมอกแรงกว่าเดิมไปอี้กกกก5555 ขาวจั๊วเหมือนเดิมม

    ไม่เป็นไรยังไงเราก็มาพิชิตได้สำเร็จแล้วถึงอากาศจะปิดแต่ก็พิชิตได้สำเร็จ

     

    ละอองแรงจนจะเป็นฝนเปียกไปหมดครับ

    เดินไปอีกยอดใกล้ๆหน่อยแต่ขาวก็เลยไม่ได้ไปต่อลงกันดีกว่าเดี่ยวจะเย็น

    ได้เวลากลับมีโอกาศจะมาใหม่ดอยหลวงตาก

    แต่อยู่ในหมอกแบบนี้มันก็ฟินดีนะครับ

    เดินออกมาถึงจุดชมวิวเมื่อวาน หมอกเยอะมาก ลมแรงครับขอถ่ายอีกรอบ

     

    ทั้งหมอกทั้งฝน

    ลานสนยามฝนหล่นเบาๆ

    ขาลงนี้แหละเสียวและลื่นเอาตูดไถไปเลยเพื่อความชัว55

    อันนี้คือผีเสื้อใช่ไหมครับ

    ครึ่งทางหลังฝนตกค่อนข้างแรง แต่ผมร้านเลยไม่ได้ใส่เสื้อกันฝน เอาถึงคลุมกระเป๋ากล้องอย่างเดียว ลงถึงรถตัวก็เปียกไปหมด แต่สดชื่นดีนะครับชอบมากเดินป่ากลางฝนร่างกายไม่เหนื่อยเดินได้ยาวๆ

    ก่อนขึ้นรถกลับเล่นน้ำตรงทางออกหน่อย

    น้ำเย็นสดชื่นๆๆ กลับที่เทศบาลอาบน้ำเก็บของ บ่าย 3 พอดีเวลายังเหลือ

     

    แวะไปปิดท้ายที่เขื่อนภูมิพล ไม่ไกล 40 โลได้ เปิด แมบดูเส้นทางขับตาม GPS เอาอีกแล้วรอบนี้พาลัดเส้นถนนคันนาแคบๆอีกแล้ว แต่แล้วต้องยกความดีความชอบให้เขาได้พบกับมุมสวยๆที่ไม่เคยเห็นในรีวิว

     

    หลังจากที่เราเดินตากฝนกันมาฝนยังตกเรื่อยๆทำให้พอเราอยู่พื้นล่างแล้วจึงมองเห็นหมอกสวยๆที่เราเดินฝ่ากันมา

    บรรยากาศหน้าฝนนี่มันสวยสดชื่นใจจริงๆ

     

     

     

    พร้อมกับพานะทริปนี้พี่บิ็กวีโก้เช่นเคยมา 5 คนวันนี้ อีก 2 คนลงมาจากลำปาง

     

    จัดมุมสวยๆให้พี่บิ็ก4*4 หน่อย


     

     

    ไปกันต่อ

     

    ถึงเขื่อนภูมิพลสี่โมงกว่าอากาศเย็นๆ

     

     


     

     

    ถ่ายรูปอยู้สักพักก็โบกมือลาแยกกะพี่สองคนกลับลำปางพวกเรากลับกทม.

     

     

    แวะกินข้าวมื้อเย็นอีกรอบที่เมืองตากแถวๆสะพานแขวน ร้านอาหารบ้านเคียงน้ำ บรรยากาศดี ดนตีเพราะ

    อาหารอร่อยทุกเมนูเลย 5คนอาหาร 5 อย่างและสั่งกลับบ้านอีกอย่าง1100 เอง ที่แปลกคือข้าวเปล่าขายเป็นถ้วยหม้อดินไม่มีเป็นโถว แปลกดีครับ

    ดรตรีก็เพราะมีคุณแม่ร้องเพลงกล่อมเบาๆไปด้วยฟังเพลินมากตอนแรกนึกว่าเปิดเพลงเดินมาอ้าวคุณแม่ร้องอยู่ตรงนี้

     

    ปิดท้ายอีกนิดสะพานแขวนเมืองตาก

     

    ออกจากสะพานแขวนเกือบทุ่มนึง ทำเวลาได้ดวันนี้รถไม่ถึงถึงดอนเมือง 5ทุ่มกว่า นอนหลับสบายตื่นเช้าไปทำงาน

    อีกหนึ่งเขาที่เหมาะสำหรับมือใหม่มือเก่าเลยทางเดินไม่ยากแค่ไกลอย่างเดียว ลงมาแล้วไม่ปวดเข่าแค่ล้าขานิดหน่อยถือว่าเป็นทริปที่ชิวๆดีครับ สองวันหนึ่งคืนสบายๆ มาลองกันได้เลยย


    สรุปค่าใช้จ่าย

    ค่าน้ำมัน 1100 โลได้ หมดไป 3000 บาท

    ข้าวต้มขามา 280

    ค่าหมูชาบูและข้าวกลางวันตอนเดิน 1500

    แปปซี่80

    ค่าเจ้าหน้าที่1200 ลูกหาบ 1200 ค่ารถ 600 รวม 3210 อะไรอีก210ลืมแต่รูปที่จดไว้เป็นงี้

    ข้าวเย็นบ้านเคียงน้ำ1235

    รวมแล้วบางอย่างหาร 5 ที่ตอนเดินป่าหาร 7

    สรุปแล้ว ที่มากทม.5คนผมหมดคนละ 1500 พอดี ครับ ตามงบที่ตั้งไว้

    ขอบคุณที่ติดตามแล้วพบกับใหม่ทริปหน้าครับผม