ได้มีโอกาศกลับมาเชียงใหม่อีกครั้ง เพราะโปร 580 ของบางกอกแอร์เวย์แท้ ๆ เข้าไปคลิ๊กดูเล่น ๆ ดันได้ไฟต์ติดมือกลับออกมาเฉยเลย ว่าแล้วก็มานั่งคิด ไปไหนดีหว่า ๆ ในหัวคิดถึงม่อนแจ่มก่อนเลย เคยไปมาครั้งนึงนานมาแล้วเลยอยากกลับไปอีก กลับไปครั้งนี้ อยากไปนอนบนนั้น อยากอยู่บนนั้นนาน ๆ ก็เลยจัดการเสิชหา รร. จองที่พักเสร็จสรรพ ส่วนรถเช่าได้มาจากงานท่องเที่ยวราคา 500 บาท/วัน

เนื่องจากมัวแต่ลังเลเยอะไปไฟต์ที่ได้เลยบินดึกมาก  บินมาถึงเชียงใหม่ห้าทุ่ม  ลงเครื่องเสร็จปุ๊บหาไรหม่ำ เข้า รร. นอน เตรียมตัวลุยต่อพรุ่งนี้เช้า ผมนัดให้บริษัทรถเช่า เอารถมาส่งที่ รร. ประมาณ 9.00 น. หลังจากได้รับรถก็ไปกินข้าวเช้า จากนั้นแวะไปไหว้พระที่ดอยสุเทพก่อนเลย จากนั้นค่อยไปม่อนแจ่มต่อ

บ่ายโมงตรง เริ่มออกเดินทางจากจากเชียงใหม่ไปม่อนแจ่ม ระหว่างทางเจอร้านกาแฟ วิวสวยมาก เลยแวะชิมกาแฟ ชมวิวสักหน่อย

ไม่แน่ใจว่าร้านนี้ชื่อไร แต่มีป้ายคำว่า Love ใหญ่มากอยู่หน้าร้าน มีของฝากขายด้วย จะเป็นสตอร์เบอร์รี่อบแห้ง หรือผลไม้อบแห้งอื่น ๆ และก็มีเสาวรสขายด้วย กิโลกรัมล่ะ 50 บาท

14.00 น. มาแวะหม่ำข้าวที่บ้านม่อนม่วน  ผมเคยมาบ้านม่อนม่วนครั้งนึงเมื่อหลายปีก่อน จำได้ว่าเป็นรีสอร์ทและร้านกาแฟเล็ก ๆ แต่วิวสวยมาก น่ามาพักมาก ๆ แต่ราคาค่อนข้างแพง ทำได้แค่เพียงมาแวะทานกาแฟ มาครั้งนี้บ้านม่อนม่วนเปลี่ยนไปเยอะมาก มีบ้านพักเพิ่มขึ้นมาหลายหลัง ร้านกาแฟ ร้านอาหารขยายใหญ่มาก คนก็เยอะขึ้นตาม

ร้านอาหารโซนนี้สร้างเพิ่มขึ้นใหม่ วิวก็โอเค

ราคาอาหารคร่าว ๆ ถ้าเป็นกับข้าว ราคาจะประมาณ 150 บาท ตอนแรกคิดว่าจะไม่เยอะมาก แต่พอมาเสิร์ฟ จานใหญ่พอควรเลย กินกันแทบไม่หมดเลยทีเดียว

ระหว่างนั่งทานข้าว ก็มองเห็นยอดเขาสูงลิบ ๆ อยู่ลูกนึง เห็นหมอกลอยผ่านรีสอร์ทมาเรื่อย ๆ ยังคิดในใจว่า น่าไปนอนพักจริง ๆ แท้จริงแล้วรีสอร์ทที่เห็นก็คือบ้านหว่าหญ้า ที่เราจะไปนอนคืนนี้นี่เอง เพิ่งมารู้ตอนจบทริปหลังเอารูปมาเปิดดู ว่าแล้ว…บ้านพักทรงนี้คุ้น ๆ ตา

หลังจากหม่ำข้าวอิ่มแล้วกำลังจะจ่ายเงิน ฝนก็ตกลงมาตูมใหญ่ แผนเดิมว่าจะไปเที่ยวม่อนแจ่มเป็นอันต้องล้มเลิกไป ผมก็เลยไปนอนกลิ้งหลบฝนตรงมุมร้านกาแฟไปก่อน รอฝนหยุดแล้วค่อยไปเช็คอินเข้ารีสอร์ท

16.00 น. หลังติดฝนอยู่นาน ในที่สุดก็มาถึงรีสอร์ท ผมจองรีสอร์ทม่อนอิงดาวเอาไว้ เป็นบ้านพักหมายเลข 7 วิวหน้าบ้านพักประมาณนี้ครับ ช่วงที่มาถึงฝนก็ยังตกพรำ ๆ อยู่เรื่อย ๆ

ลองถ่ายแบบพาโนรามาดูบ้าง ตอนนี้ฝนก็ยังคงตกอยู่เรื่อย ๆ ก็เลยเข้าห้องพัก ไปนอนกลิ้งรอฝนหยุด

16.30 น. ฝนเริ่มตกเบาลงแล้ว ไอหมอกเริ่มลอยขึ้นมาเป็นระยะ ๆ

ซูมิเข้าไปดูหมอกใกล้ ๆ  หมอกฝน สวย ๆ

นั่งถ่ายรูปอยู่สักพัก เพื่อนก็ชวนไปนั่งกินกาแฟที่บ้านหว่าญ่า เพราะตอนขับรถผ่านมา เห็นวิวตรงฝั่งบ้านหว่าญ่าสวยงาม อลังกาลมากก็เลยว่าจะแว๊บไปดูสักหน่อย  พอเข้ามาถึงรีสอร์ทหมอกลอยเยอะมาก

ร้านกาแฟของรีสอร์ทจะเป็นแบบเปิดโล่ง  พอฝนตกหนักก็เปียกแฉะหมดเลย เลยไม่มีที่ให้นั่งกินกาแฟ ก็เลยไปขอเขาดูห้องดีกว่า ห้องนี้เป็นห้องพักแบบกล่อง อยู่โซนด้านบน ราคา 1,590 บาทต่อคืน พอเปิดเข้าไปถึงจะเจอฝูกเลย มีห้องน้ำขนาดใหญ่อยู่ในตัวด้านหลัง มีทีวีและพัดลมให้
 

ลองออกไปดูนอกระเบียง วิวอย่างสวย  บ้านพักโซนนี้จะมี 4 หลัง ปลูกเรียงติดกัน

จะมีบ้านพักอีกแบบหนึ่งซึ่งห้องจะใหญ่กว่า ราคาแพงกว่า ตั้งอยู่ด้านล่าง  ว่าแล้วก็เลยขอเขาดูห้องสักหน่อย

มีโซฟาให้นั่งดูหมอกลอยทั้งวัน ฟิน ๆ ส่วนที่นอนก็หันหน้าออก ตื่นมาก็เห็นหมอกลอยได้เลย

ฝนเริ่มจะหยุดแล้ว หมอกก็น้อยลง อากาศเย็นสบาย มีลมเย็น ๆ พัดมาตลอด

18.00 ย้ายของมานอนที่บ้านหว่าญ่าเสร็จเรียบร้อย ก็นั่งดูหมอกลอยไปเรื่อย ๆ หน้าห้องพัก แบบ ชิว ๆ

ถึงแม้ฝนจะหยุดตกแล้ว แต่ก็ยังมีหมอกลอยขึ้นมาเรื่อย ๆ

ลองซูมิเข้าไป ๆ โซนนี้ยังมีป่าเขียว ๆ ให้ดู

อันนี้เป็นอีกมุมด้านหลัง มุมนี้จะมีนาขั้นบันได

เป็นร้านกาแฟ+ร้านอาหาร ที่วิวสวยมาก ๆ

ด้านข้างรีสอร์ทมีแปลงผักกาดขาวด้วย เพิ่งจะเคยเห็นต้นมันแบบสด ๆ ก็ครั้งนี้แหละ

บ้านพักแบบกล่องเล็ก บ้านที่ผมพักอยู่หลังแรกสุดเลย

สองหลังด้านล่างร้านกาแฟนั้น จะเป็นบ้านหลังใหญ่

ป้ายชื่อหน้ารีสอร์ท

เดินถ่ายรูปไปสักพัก เพื่อนเริ่มกังวล กลัวจะหิวตอนดึก เลยชวนขับรถไปซื้อมาม่าคัฟที่ม่อนอิงดาวมาตุนไว้ก่อน ผมก็เดินถ่ายรูปรอ  ม่อนอิงดาวยามเย็น...

กลับไปถึงหว่าญ่า ฟ้าเริ่มมืด อากาศช่วงตอนกลางคืน จะเย็นมากๆ  ก็ออกไปนั่งรับลมเย็น ๆ นอกระเบียง สักสองทุ่มเพื่อนผมก็ไปต้มมาม่ามานั่งกินนอกระเบียง ผมนั่งไปสักพักเริ่มหิวตาม ก็เลยลองเดินไปสั่งข้าวไข่เจียวมาทาน 5555 จริง ๆ ที่นี่เขาจะมีหมูกระทะให้สั่งกินได้ด้วย โดยเขาจะตั้งเตาให้กินกันบนลานร้านกาแฟเลย แต่ผมไม่รู้ ตอนถามน้องพนักงานตอนแรก บอกว่าไม่มีอาหารให้สั่ง ต้องทานจากข้างนอกเข้ามาเลย  แต่เห็นแขกคนอื่นนั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อยก็เลยงง อ้าว ไหนว่าไม่มีไรกินไง แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวครั้งหน้าไป ไม่พลาดแน่นอน ^^

ตื่นมาอย่างสดชื่นแจ่มใส มองออกไปนอกห้องพักก็เห็นวิวแบบนี้เลย ไม่ต้องเดินไปไหนไกล

เห็นรอยขีดกลางฟ้า ตอนแรกก็งงนึกว่าแสงอะไร ที่แท้เป็นรุ้งกินน้ำนั่นเอง

ดวงอาทิตย์เริ่มขึ้น​ยามเช้า

ฟ้าสีส้มมีหมอกรำไร ๆ

พอสายหน่อย แดดเริ่มมาและ แต่อากาศก็ยังเย็นสบาย ไม่ร้อน

สว่างแล้ว ฟ้าเริ่มเป็นสีฟ้าเข้ม ส่วนหมอก ก็เดินขบวนมาเป็นระยะ เหมือนเดิม

ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว  อาหารเช้าของที่นี่จะเป็นข้าวต้มหมูครับ มีน้ำส้มให้ด้วย ส่วนนมเปรี้ยว อันนี้แบกขึ้นมาเอง

ร้านอาหารยามเช้า หมอกกลุ่มใหญ่เริ่มบุกประชิดเข้ามาแล้ว

ยิ่งสาย หมอกยิ่งเยอะ ลอยผ่านบ้านพักเยอะมาก ขาวโพลนไปหมด ชุ่มฉ่ำ ๆ

ลองเดินไปถ่ายรูปที่มุมแปลงผักกาดข้าวบ้าง

ที่จอดรถที่นี่ค่อนข้างน้อย ต้องจอดชิดริมเขาเลย

บ้านกล่องเล็กสี่หลัง

หลังนี้เป็นบ้านพักอีกแบบหนึ่ง จะมีสองชั้น วิวน่าจะสวยมาก ๆ โดยเฉพาะชั้นบน เสียดายวันที่ไปมีคนพัก เลยขอดูห้องไม่ได้

ด้านหน้าบ้านสองชั้น

มีทางเดินลงไปด้วย ว่าแต่ ลงไปไหน 555

10.00 น. ได้เวลาอำลารีสอร์ทแล้ว

โดยส่วนรวมค่อนข้างชอบรีสอร์ทนี้มาก ๆ โดยเฉพาะวิวหน้าห้องพัก แต่ภายในห้องพักยังมีหลายจุดควรปรับปรุง เช่น ความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนห้องที่ผมพักมีกลิ่นนิด ๆ อาจจะเป็นเพราะฝนตกเลยอาจจะชื้น กับที่กดชักโครกกดยากไปนิดนึง ที่ทำน้ำอุ่นแบบแก๊ส ต้องมานั่งเรียนรูวิธีการปรับใหม่นิดนึง เพื่อนผมอาบไปมันติด ๆ ดับ ๆ แต่ผมอาบแล้วร้อนตลอด 555  นอกนั้นก็โอเคหมด

เดี๋ยวหน้าหนาวนี้ จะกลับไปใหม่นะ See You Again ^__^

การเดินทางยังไม่จบ จุดหมายปลายทางของผมในวันนี้คือ บ้านแม่กำปอง แต่ตอนนี้ยังพอมีเวลาเหลือ ไปแวะเที่ยวม่อนแจ่มกันก่อนดีกว่า

ม่อนแจ่มก็เปลี่ยนไปเยอะพอสมควรเหมือนกัน  รู้สึกว่าจะมีแปลงดอกไม้เยอะขึ้นกว่าเดิม

ช่วงนี้ม่อนแจ่มจะปลูกดอกเวอร์บีน่าเยอะมาก

แดดก็เริ่มร้อนและ  ถ่ายรูปสักพัก ก็ขับรถไป…..แม่กำปอง ….

ระหว่างลงจากม่อนแจ่ม ปรากฎว่าหลงทาง ขับไปขับมาดันวนกลับไปโผล่ที่ม่อนอิงดอย ก็เลยแว๊บลงไปถ่ายรูปยามเช้าซะเลย ฟ้าใส ๆ ก็สวยอยู่นะเนี่ย

– The End –