ภูลมโล ความสวยงามที่ซ่อนอยู่กลางหุบเขา

สำหรับการเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการไปเที่ยวกับพี่ๆที่ทำงาน เพราะปกติมีแต่นั่งกินเบียร์กันแถวๆที่พักฮ่าๆ ล้อเล่นครับ  ครั้งนี้พวกเราเดินทางโดยรถส่วนตัว หาที่เที่ยวกันอยู่นาน และก็มาลงเอยที่นี่ ที่ภูลมโลภูลมโล

 ตั้งอยู่ในตำบลกกสะทอน  อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ภูลมโลเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อ ของสามจังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย สิ่งที่ทำให้ภูลมโลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในเวลานี้ คือ เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีพื้นที่กว้างขวางนับ 1000 ไร่  นางพญาเสือโคร่งของภูลมโลจะไม่ได้มีให้ชมเพียงจุดเดียว แต่จะกระจายมีให้ชมในหลายจุดโดยจะบานแทรกตัวอยู่ในหุบเขา ป่าไม้และต้นหญ้า ภูลมโลเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติ ที่สวยงามของขุนเขา และอากาศที่หนาวเย็นโดยนางพญาเสือโคร่งจะบานในช่วงเดือน ม.ค. ของทุกปี ทั้งนี้ในแต่ละปีจะบานไม่ตรงกัน ก่อนเดินทางต้องเช็คข้อมูลอีกครั้ง การเดินทางไปชมความสวยงาม สามารถไปได้สองทาง นั่นคือฝั่งกกสะทอนและฝั่งบ้านร่องกล้าแล้วตึความสะดวกของแต่ละคน ส่วนพวกเราเลือกไปทางอ.ด่านซ้าย ต.กกสะทอน เพราะใกล้พวกเราสุด

เราเริ่มต้นเดินทางจาก อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย เวลา 14.00 เลือกใช้เส้นทางเรียบโขง หนองคาย-เลย ด้วยความชิลและไม่เร่งรีบจึงแวะข้างทางตามใจชอบฮ่าๆและนั่นแหละครับ คือจุดเริ่มต้นของการเสียเวลาโดยไร้ประโยชน์ของพวกเรา  และที่แรกคือพัดโขดแสนไค หรือชาวหนองคายเรียกกันว่า แกรนแคนยอนหนองคาย พอถึงแล้วจอดสิครับจอด และนี่คือพี่ๆที่ร่วมชตากรรมกับผมครั้งนี้ มากับพี่มันก็ดีนะครับ รถก็ไม่ต้องครับ กินอะไรก็ไม่ต้องออกก่อน ฮ่าๆเเต่ท่าจะดีกว่านี้กินฟรีก็ได้นะครับผมไม่ถือ

เก๊กหล่อถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกันสักหน่อย

จากนั้นก็เดินทางต่อ แรกๆก็กะจะไปทางลัด ลัดไปลัดมา เลยสิครับฮ่าๆ ใหนๆก็ใหนๆละ ไม่ต้องรงต้องรีบกันละ แวะต่อครับแวะต่อ ฝากท้องอาหารเย็นที่ภูเรือกันสักหน่อย ร้านภูเรือโภชนา ต้นตำหรับ ร้านสวยดี อาหารอร่อยและถูกมากครับ เดี๋ยวกลับเอารูปมาแปะให้

ขับรถจนลืมเผื่อใจว่าทางขึ้นนั้นแสนยากเย็น ขึ้นเขาจากด่านซ้ายมาทางอ.หล่มเก่าว่ายากแล้ว เลี้ยวขวามาทาง ต.กกสะทอนยิ่งยากกว่า จ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถนนนี่ใครเป็นริดสิดวง คงแตกแบบไม่ต้องผ่าเลยก็ว่าได้ บวกกับการเดินทางของเราที่มาตอนกลางคืนยิ่งทำให้ขับรถลำบากเข้าไปอีกกกกกกกฮ่าๆ หลุ่มมีกี่หล่มเราเก็บเรียบ ระยะทาง 20 กิโลเหมือน 100 กิโลเลยทีเดียว ขับไปสักพักใหญ่ๆก็ถึงที่พักของพวกเรา นั่นคือ ภูลมโล@เลย อยากบอกว่า เจ้าของที่นี่บริการดีมากครับ คอยโทรเช็คเราตลอดเวลา แต่เป็นเราเองที่มาค่ำไปฮ่าๆ แยกๆครับ ไม่ใช่เข้านอนนะ แยกเก็บของ เวลาดึกไม่ใช่ปัญหา แต่ที่ต้องหานั่นคือเบียร์และน้ำแข็ง จัดสิครับจัด

-ค่าห้องพักเราจองเป็นกระโจมสามห้องราคา 800 บาท ฟรีอาหารเช้า เบอร์โทรติดต่อ 0810365016

แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆความซวยเข้ามาทักทายทุกครั้งที่มาเที่ยว ครั้งนี้ก็เช่นกัน รถพี่อีกคันที่ตามมาดันผ้าเบรกหมด อยู่ตีนเขา ฮ่าๆจ้าคลื่นไม่มี ขอเตือนเลยนะครับ ใครจะไปรบกวนพก ซิม AIS ไปด้วยก็ดี ไม่งั้นเวลาฉุกเฉินจะลำบาก เหมือนพี่ผม ต้องแบกความกล้าไปเคาะบ้านขอความช่วยเหลือฮ่าๆ ลงไปรับสิครับรออะไร

มาถึงครบทุกคนก็ได้ฤกษ์งามยามดี เบียร์พร้อมเสบียงพร้อม กองไฟพร้อม ลุยๆเลยครับรออะไร แถมไม่ได้เกรงใจเวลา ฮ่าๆกลัวไม่คุ้มจัดกันซ๊ะดึกเลยทีเดียว

หกโมงเช้าต้องรีบตื่น อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน กินข้าวให้เรียบร้อยเพื่อที่ต้องรีบไปดูซากุระเมืองไทยตอนเช้าๆ ขนาดว่าเราตื่นเช้าแล้ว แต่ก็ยังมีคนเช้ากว่าเราอีกกกกกกก เราได้รถคัน ที่ 59 ฮ่าๆ รถราคาคันละ 1500 บาทเราสามารถให้เจ้าของที่พักติดต่อจองไว้ให้ได้ เริ่มขึ้นได้ตั้งแต่ 04.00 กันเลยทีเดียว

การเดินทางไปชมความสวยงาม สามารถไปได้สองทาง นั่นคือฝั่งกกสะทอนและฝั่งบ้านร่องกล้าแล้วตึความสะดวกของแต่ละคน ส่วนพวกเราเลือกไปทางอ.ด่านซ้าย ต.กกสะทอน เพราะใกล้พวกเราสุด

นี่คือบรรยากาศตอนเช้าของที่พัก

 

อุปกรณ์ที่ต้องพกติดตัวนั่นคือ เสื้อคลุม หมวก mrask ปิดปาก เพราะว่าฝุ่นเยอะมากกกกกกกก

 

ทางเข้าอุทยานจะมีจุดจ่ายตังค์ค่าธรรมเนียม แต่เราไม่ได้จ่ายหรอก ราคานี้รวมอยู่ในราคาเหมารถแล้วว เห็นละอองนั่นมั้ย ไม่ใช่หมอกนะ ฝุ่นล้วนๆ

นั่งรถไปสักพักใหญ่ ถึงใหญ่มากราวๆ45นาทีถึง 1 ชั่วโมง ก็ถึงจุดชมวิวซากุระเมืองไทย จัดแจงเสื้อผ้าหน้าผมให้พร้อม แล้วก็ลุยครับ ที่นี่ไม่มีอะไรมากไปกว่าการยืนเท่ห์ๆให้เข้ากับบรรยากาศแล้วก็ถ่ายรูป

ด้วยความที่คนเยอะ ไม่อยากถ่ายรูปให้เห็นคน ผมเลยต้องหาตัวช่วยครับ นี่เลยเก้าอี้ที่มีใว้ใช้สำหรับเหยียบลงจากรถ ขอยืมพี่เขามา ฮ่าๆเดินแบกทั่วเลย น่าจะมีผมแค่คนเดียวด้วยนะ ไม่เป็นไรเพื่อรูปที่สวยงาม และก็ได้ผลครับ

นี่ครับวิธีการใช้

หรือหากใครคิดไม่ออกว่าคนเยอะขนาดใหน เรามีภาพมาให้ดู ฮ่าๆนี่ขนาดช่วงเช้านะครับ

เปลี่ยนที่ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ นี่ครับสี่หนุ่มสี่มุมของทริป เรียงลำดับความหน้าตาดีเลยครับฮ่าๆ หลบตีนแปป

ถ่ายรูปแล้วก็ถ่ายรูป ให้ทุกคนจินตนาการว่าเราดูซากุระอยู่ประเทศญี่ปุ่นฮ่าๆ

แจกความหวานและความสดใส

มองไปแล้วอิจฉาหาถ่ายรูปเล่นดีกว่า

ก่อนจะกลับพี่สาวคนสวยขอขึ้นหินโชว์ความสวย

จากนั้น คนขับรถจะพาเราไปจุดชมวิวที่มีป้ายด้วย แต่ๆๆๆ เราเลือกที่จะไม่ไปเองฮ่าๆ เพราะรีบกลับ ต้องไปที่อื่นต่อ กลับรถเลยครับพี่ go go

ทางกลับจะผ่านแปลงดอกพญาเสือโคร่ง ที่ใหญ่ที่สุดของภู

แต่น่าเสียดายที่ มันยังไม่บาน พี่เขาบอกว่า จะบานช่วงกลางเดือนกุมภา ถ้าบานหมดนี่ บอกเลยว่า คงสวยมาก แต่ใหนๆก็มาละ บานไม่บานไม่สนครับ ว่าแล้วก็ไม่รอช้า ลุย

นี่ก็มาซ๊มาดเกาหลี ฟิลลิ่งมาเต็ม ส่วนผมหรอขอไกลๆ ใกล้ๆคงไม่น่ารอด ฮ่าๆ

มาทั้งทีรูปพี่ผมคนนี้น้อยสุดละ น่าสงสารมาก ไม่เชื่อดูหน้าดิ

ถ่ายรูปจนอิ่มหนำสำรายใจ ก็กลับ กลับไปหากินข้าวเตรียมตัวไปที่อื่นต่อลองดูบรรยากาศรอบๆนะครับ เผื่อทำจะทำให้คนที่จะมาตระหนักเรื่องการเเต่งตัวมากขึ้น ฝุ่นฟุ้งมาก โชคดีหน่อยพวกผมมาตอนเช้า คนน้อย เเละยังพอมีหมอกกลบฝุ่นใว้ ไม่งั้น เละกันถ้วนหน้าฮ่าๆ

ยังนะครับ ยังเหลือถนนอีก เห็นดอกพญาเสือโคร่งสวยๆนั้น กว่าจะเข้าไปได้ก็ต้องผ่านถนนหนทางที่ลำบากอยู่เหมือนกัน

ระหว่างทางจะเห็นวิวตลอด ไม่ว่าจะภูเขา ป่าสน ต้นไม้ ผมว่าสวยไปอีกแบบนะ

นั่งมาสักพักก็ถึงที่พัก รีบเลยครับ รีบกินข้าวอาบน้ำแต่งตัว เพราะต้องไปต่ออีกที่ พอเคลียทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาโบกมือลา ภูลมโล ไว้มีโอกาสหน้าผมจะกลับมาใหม่ เพราะที่นี่ถือว่าเป็นอีกที่ ที่สามารถพักผ่อนหย่อนใจได้

สำหรับทริปนี้ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ

ขอบคุณมากๆถ้าอ่านทุกบรรทัดของผม

ขอบคุณพี่ๆร่วมทริปทั้ง5 คน

ขอบคุณทุกคำติชม

ขอบคุณที่ดูรูปผมทุกรูป

.........

ปล.เดี๋ยวเอารูปมาแปะเพิ่มเติม เจอกันใหม่ทริปหน้าครับ