ทริปนี้เกิดจากวันลาของปีที่แล้วเหลือค่ะ และไม่อยากเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เราจึงขอลาวันที่ 13-16 พอดีได้ยินว่าจะมีงานบอลลูนที่เชียงราย เลยจัดทริปซะเลย ซึ่งเพื่อนร่วมทริปเราคือเพื่อนที่ทำงาน แต่นางดันมีปัญหาขัดข้องเล็กน้อย กว่าจะตามมาได้ก็วันที่ 15 โชคดีวันที่ 13 มีเพื่อนมาด้วยคนนึง เลยกลายเป็นทริปงงๆไป

เอ้าเริ่มทริปค่ะ

ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิวันที่ 13 กุมภา ไฟล้เช้ากับสายการบินไทยสมาย ไปถึงสนามบินเชียงรายประมานสิบโมงครึ่ง เราเดินทางมากะเพื่อนหนึ่งคน มีแพลนว่าวันนี้จะขึ้นภูชี้ฟ้ากัน ก็ไม่ได้หาข้อมูลอะไรมากมาย ถามๆคนแถวนั้น เค้าบอกให้ไปขึ้นรถที่ท่ารถเก่า เราก็จัดการเรียกแทกซี่จากสนามบินไปค่ะ ค่ารถประมาณ 120 บาท

พอไปถึงที่ท่ารถเก่า ก็หารถตู้ที่จะขึ้นภูชี้ฟ้า พี่เค้าบอกว่ามีสองรอบคือรอบเก้าโมงเช้ากับรอบบ่ายโมงครึ่ง เราไปถึงที่ท่ารถประมาณเกือบเที่ยง ก็เลยไปเดินเล่นๆแถวนั้นรอขึ้นรถค่ะ ค่ารถไปกลับภูชี้ฟ้า 300 บาท พอบ่ายโมงครึ่งก็ขึ้นรถตู้ เต็มคันเลยทีเดียว คุยกับพี่รถตู้ว่าเราอยากไปผาตั้ง พี่เค้าบอกต้องเหมารถไป เราก็เลยหาสมาชิกจากในรถเนี่ยแหละค่ะ ชวนๆกันไป ปรากฏว่าไปกันทั้งหมด 9 คน ค่ารถคนละ 120 บาท ไปกลับผาตั้งค่ะ เพิ่มเติมเล็กน้อย คือพวกเราไม่ได้หาที่พักไว้บนนนี้ กะจะมานอนเต็นท์ โชคดีว่าลุงที่มารับขึ้นไปผาตั้งเป็นเจ้าของรีสอร์ท เขามีเต็นท์ให้เช่าอยู่พอดี พวกเราเลยไปพักที่รีสอร์ทของลุง ชื่อว่ารีสอร์ทดาวเหนือ

พอไปถึงผาตั้ง พระอาทิตย์เกือบจะตกละ ลุงบอกให้เวลาหนึ่งชั่วโมง พวกเราก็เดินๆกันไป เจอม้าค่ะ มีให้ขี่ม้าขึ้นไปบนยอดเลยจัดซะเลย ขี่ม้าไปกลับทั้งหมด 350 บาท วิวข้างทางสวยมวากกกกกก

เพื่อนใหม่ :)

เนื่องจากเวลามีน้อย แปบเดียวก็ต้องรีบลงละ ลุงรออยู่ พอลงไปข้างล่างก็มีร้านขายสตอเบอรี่ กับไวน์สตอเบอรี่เต็มเลยค่ะ ชาวบ้านพื้นที่แถวนั้นน่ารักมากๆ ตอนกลางคืนอากาศก็หนาวววววว เริ่มหนาวกันแล้ว ขากลับลุงขับรถบอกว่าขอแวะซื้อหมั่นโถวแปบนึง ไอพวกเราก็นั่งรอกันในรถ ทั้งหิวทั้งหนาว คุณลุงลงไปนานมากเลย สักพักแกกลับมาพร้อมหมั่นโถวสิบลูก นางน่ารักใจดีน้ำใจงามมากกก ให้พวกเรากินกันคนละลูก ณ จุดนั้นคือฟินกับหมั่นโถวมากค่ะ ขับมาสักพักก็มาถึงรีสอร์ทดาวเหนือของคุณลุง ลุงบอกว่ามีหมูกะทะนะ โอ้โหห พวกเรานี่ตาลุกวาว หิวจัด โทรสั่งแทบไม่ทัน หลังจากที่ไปผาตั้งมา เราก็ได้เพื่อนเพิ่มมาอีกสี่คนค่ะ พวกนางก็ไม่ได้จองที่พักไว้ เลยมาด้วยกันหมดเลย เราจองเต็นท์สองหลัง หลังใหญ่นอนรวมกัน 4คน หลังเล็กให้สองคนเป็นแฟนกันนอนด้วยกันไป ก็เหมือนได้เพื่อนใหม่ เสร็จแล้วก็ปาร์ตี้หมูกะทะกัน กับอากาศหนาวๆ ฟินไปอีกแบบ ก็ก่อกองไฟกัน นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ดูดาวววววว

โชคดีได้ภาพดาวตกมาด้วย :)

หลังจากกินลมชมวิวเม้ามอยสักพักก็แยกย้ายนอนค่ะ ตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะขึ้นภูชี้ฟ้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ลุงบอกจะมารับตอนตี5 นิดๆ พอถึงตอนเช้า โอ้โหหนาวมากประมาณ 11 องศา แทบไม่อยากออกจากเต็นท์เลย แต่ก็ต้องสู้เพื่อพระอาทิตย์ของพวกเรา ค่ารถขึ้นภูประมาณ 60 บาทต่อคนค่ะ ประมาณตีห้านิดๆ ลุงก็มารับ แกดริฟได้สุดยอดมากค่ะ พอไปถึงทางขึ้นภู รู้สึกทัวจีนลงหรือยังไงไม่รู้ มีแต่คนจีนเต็มไปหมดเลย วันนั้นคนค่อนข้างเยอะ หมอกกก็เยอะด้วยเช่นกัน

ยังคงตามล่าดาวต่อไป 5555

แฮปปี้วาเลนไทน์

ถ่ายกับภูชี้ฟ้า

หลังจากเก็บเกี่ยวภาพกันจนหนำใจเราก็เดินลง กลับที่พัก แล้วก็ลงจากภูตอนเก้าโมงเช้า เรากับเพื่อนก็แยกกันตรงนี้ค่ะ เพื่อนกลับไปทำงานละ ต่อไปลุุยเดี่ยว 5555 ลงมาถึงตัวเมืองเชียงรายประมาณ 11 โมง โชคดีมากที่ที่พักที่เราจองไว้ไม่ไกลจากท่ารถ เราก็ใช้ อากู๋นำทาง เดินไปประมานสิบนาทีก็ถึงที่พักค่ะ อยู่ตรงหอนาฬิกาพอดี ชื่อ Moon House เจ้าของน่ารักมากกกก หลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อยก็ไปหาของกิน แถวที่พักมีร้านขนมจีนน้ำเงี้ยวกับข้าวซอยอยู่ ค่อนข้างอร่อยและไม่แพงด้วยค่ะ พอหาอะไรลงท้องเรียบร้อยก็คิดว่าจะไปวัด เค้าว่าวัดห้วยปลากั้งที่นี่ขึ้นชื่อ แต่เนื่องจากเดินทางลำบากเหลือเกิน ต้องเหมารถสองแถวไป เราเหมาไปด้วยราคา 130 บาท ไปอย่างเดียวไม่รวมกลับนะคะ 5555 พอไปถึงก็ขึ้นไปดูเจดีย์เก้าชั้น แล้วก็ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมค่ะ สวยงามมากก

พอไหว้พระเสร็จ ก็ว่าจะไปไร่บุญรอดค่ะ แต่จะไปยังไงดี รถก็ไม่มี เหมาสองแถวก็แพงเหลือเกิน เค้าคิด 500 บาท เราเลยกะจะลองถามคนแถวๆนี้ดู โชคเข้าข้างอยู่มาก พอดีว่าไปซื้อน้ำ แล้วเจอพี่สองคนยืนอยู่แถวนั้น เราก็เลยเข้าไปคุยกับเค้า ถามว่าจากนี่จะไปไร่บุญรอดไปยังไงได้บ้างคะ พี่เค้าก็ถามว่า เอ้าแล้วน้องมายังไงมากับใครล่ะ เราก็บอกเค้าว่าหนูเหมาสองแถวมาคนเดียวค่ะ 5555 พี่เค้าคิดว่าเราล้อเล่น แต่นางก็ใจดีมาก นางบอกว่ากำลังจะไปพอดี งั้นไปด้วยกันเลยแล้วกัน อั้ยยยะ โชคดีสุดๆ พอไปถึงก็ไปหาของกิน แล้วก็เก็บรูปบอลลูนไปพลางๆ

อยู่กับพวกพี่เค้าสักพักก็แยกย้ายกันเพราะพี่เค้ากลับก่อน ไอเราก็อยากอยู่ดูคอนเสิร์ต แต่ดันมาคนเดียว ไม่เจียมเลย 5555 จำได้ว่าเพื่อนที่เจอบนภูก็จะมางานบอลลูนวันนี้เหมือนกัน เราก็เลยติดต่อเค้า แล้วก็นัดเจอกัน รออยู่ดูคอนเสริ์ต วันนั้นมีสงกรานต์ กับอะตอม แล้วก็ลิปตามาค่ะ แต่พออะตอมร้องจบ เราก็ไม่ไหวละ ขอตัวกลับที่พัก ขากลับจากไร่ก็นั่งรถไปลงปากทาง จะมีสองแถวรอให้เราเหมาเข้าเมืองไปอยู่ค่ะ คนละ 50 บาท ก็ถึงที่พักเรียบร้อย เป็นอันว่าจบวันไปแบบงงๆ

วันที่ 15 กุมภา

เพื่อนที่ทำงานกำลังตามมา เราก็รอนางอยู่ที่ที่พักต่อไปค่ะ กว่านางจะมาถึงก็สิบเอ็ดโมงกว่าได้ และนางเช่ารถมาจ้า

วันนี้ก็ยังไม่มีแพลนเช่นเดิมค่ะ ตอนแรกว่าจะไปแม่สาย ขับไปเรื่อยๆดันไปเจอป้ายไร่ชาฉุยฟงแวะซะเลย แม่สงแม่สายอะไรไม่ได้ไปแล้ว 5555 พอถึงถึงไร่ก็หาของหวานกะชากินกันแล้วก็ถ่ายรูปเล่น slow life ไปอีกก

หลังจากออกจากไร่ชา ก็ไปไร่สตอเบอรี่ต่อค่ะ ที่ๆเราไปชื่อไร่บ่าวน้อยสตอเบอรี่ ชื่อมีความน่ารักมุ้งมิ้ง ที่ไร่เสียค่าเข้า 40 บาท มีให้เก็บสตอเบอรี่ได้ด้วย ขีดละ 70 บาทถ้าจำไม่ผิด พวกเราสองคนก็เดินเก็บกันเพลินเลยค่ะ เค้าให้ชิมได้ด้วย 5555