เมื่อเทศกาลท่องเที่ยวเข้ามาเยือน...หกเดือนเต็มๆ กับเส้นทางเกือบ 20,000 กิโลเมตร นายสีนิลมองตาเจ้านายก็เข้าไปถึงปลายหัวใจ เดาออกทันทีว่าต้องเดินทางไกลอีกแล้วซินะ

เจ้านายกับนายสีนิลลงความเห็นว่าทริปนี้ขอจัดหนักหน่อย เพราะอยากออกไปตามล่านางพญาเสือโคร่ง และคงไม่ใช่ถ้าจะไปแค่ที่เดียว พญาเสือฟังชื่อดูยิ่งใหญ่และน่ากลัว แต่จริงๆ เธอคือดอกไม้ดอกเล็กบอบบาง สีสันสดใส เห็นแล้วก็ทำให้คิดถึงซากุระของญี่ปุ่น คล้ายๆกันแต่ไม่เหมือนกัน ก็นามสกุลเดียวกันนี่น่าจะคล้ายกันก็ไม่เห็นเป็นอะไร..

บ่ายแก่ๆ ของวันที่ 11 เดือนแรกของปี 59 การเดินทางจากเมืองนนท์มุ่งสู่หมู่บ้านร่องกล้า อ.นครไทย จ.เพชรบูรณ์ นายสีนิลเลือกวิ่งเส้นสระบุรี ออกชัยภูมิ ผ่านอ.ชุมแพ(ขอนแก่น) ตัดเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ขอบอกว่านายสินิลมาถึงตรงนี้ก็มืดพอดี มันมืดมากจริงๆ ระยะทางตรงจุดนี้น่าจะสัก 60 กม. จะทั้งมืดทั้งเปลี่ยว ในยามค่ำคืนแบบนี้ไม่แนะนำให้มา ขับไปเสี่ยวสันหลัง มีป้ายระวังช้างข้ามถนน นึกในใจอยากให้มีช้างข้ามมาสักตัว คือว่าอยากมีเพื่อนอ่ะนะ...แอบกลัวผีอยู่ลึกๆ..อิอิ คืนนี้ขอนอนหล่มสักก็แล้วกันพรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันต่อ พอถึงโรงแรมก็ 3 ทุ่มกว่าโชคดีของเจ้าสีนิลไฟหน้าขาดพอดี..เอาๆ ถือว่ายังมีบุญอยู่บ้างที่ไม่ขาดกลางทางอ่ะนะ

อรุณเบิกฟ้า ณ วัดผาซ่อนแก้ว เขาค้อ

ความศรัทธามาพร้อมกับความสวยงาม

ดื่มด่ำกับบรรยากาศ และรสชาติกลมกล่อมของกาแฟ "Pino Latte" ร้านกาแฟที่มีวิวสวยๆระดับ5ดาวได้ล่ะมั้ง

ราคากาแฟกับเค้กก็ระดับ 5 ดาวเหมือนกัน แต่ก็คุ้มนะถ้านั่งชิวๆ มองวิวสวยๆและจิบกาแฟไปเรื่อยๆ สบายอารมณ์ใช้ได้เลยทีเดียว

ออกเดินทางต่อมุ่งตรงสู่ภูลมโล การเดินทางไปภูลมโลเลือกได้ 2 ทางคือ ไปทางบ้านกกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย ระยะทางเข้าไปประมาณ 20 กม. ค่าเหมารถประมาณ 1,500-2,000 บาท ส่วนเราเลือกทางที่สองและนายสีนิลไปด้วยไม่ได้เพราะมันอันตรายเกินกว่าที่จะเสี่ยง คือขึ้นทางบ้านร่องกล้า(ภูหินร่องกล้า อ.นครไทย)จ.เพชรบูรณ์ ระยะทางขึ้นประมาณ 7 กม. ค่าเหมารถ 800 บาท

"อะไรที่ได้มายากๆ มันทำให้เรารู้สึกว่ามีค่ามากเสมอ"

ขอแนะนำนิดนึงนะว่า ก่อนเหมารถให้ตกลงกับคนขับว่าจะอยู่ข้างบนได้กี่ชั่วโมง ไม่งั้นเขาจะเร่งให้เราลงเพราะเขาอยากทำรอบ มันจะทำให้เราเสียอารมณ์ป่าวๆ

อัยยะ...มันเยอะขนาดนี้เลยนะ ทั้งแม่เสือ ลูกเสือ แข่งกันบานสะพรั่ง เห็นแล้วน้ำตาจิไหล งดงามจริงๆ หนาแน่นเกินคำบรรยาย

ทำไมเรียกว่า "นางพญาเสือโคร่ง" อันนี้จริงเท็จไม่รู้ แต่เคยได้รับคำบอกเล่าจากเด็กนักเรียนบนดอยตอนเป็นครูบนดอยว่า เพราะลำต้นของเธอมีลายเหมือนเสือ อืมดูๆแล้วก็ใกล้เคียงอยู่นะ

น่าอิจฉาจุงเบย...คราวหน้าพามาบ้างดีก่า

เส้นทางสายชมพูภูพิงค์ น่าจะดีเนอะ

^..^มองภาพตรงหน้า ชวนให้นึกสงสัยว่า จิตรกรท่านใดนะ ได้เติมแต้มชมพูให้แซมเขียว^..^

ขอบคุณสองหนุ่มสาวเพื่อนร่วมแชร์ค่ารถ...กลับได้แล้ว คนขับรถชวนแล้วชวนอีก โธ่เอ๊ยได้แค่ครึ่งชั่วโมงเอง..เซ็ง!!!

ก่อนออกเดินทางจากบ้านร่องกล้า มุ่งสู่...ขุนสถาน จ.น่าน..ไง

ขนาดต้นไม้ยังมีคู่..คราวหน้าหาคู่ให้นายสินิลมั้งนะครับเจ้านาย

ออกจากบ้านร่องกล้า นายสีนิลเลือกเดินทางสายอ.ชาติตะการ จ.พิษณุโลก มุ่งไปอ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เพื่อไปข้ามแพที่บ้านประมงปากนาย เขื่อนสิริกิต์

ได้ยินมาว่าเส้นทางนี้สวยสุดๆ ใครๆหลายคนคงรู้จัก ใครหลายคนคงเคยใช้ทางเส้นนี้แล้ว แต่มันใหม่สำหรับนายสินิล แม้ต้องเร่งรีบไปให้ถึงก่อนค่ำ เพราะตาบอดซะแล้ว แต่เลือกเพราะความอยากรู้ให้ได้รู้ อยากเห็นให้ได้เห็น "ไม่ไปจะรู้ไง"

เส้นทางตั้งแต่อ.น้ำปาด ขอบอกว่าโค้งอันตรายมาก ไม่ว่าจะรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะเซียนBig Bikeที่ชอบแบนโค้ง มันน่าจะเป็นโค้งปราบเซียนเลยอ่ะนะ เพราะโค้งมันเหมือนยูเทิร์นมากกว่า ถนนมันไม่รับโค้งทำให้เข้าโค้งยากมาก นายสีนิลบอกว่าห้ามประมาท ห้ามแบนเข้าโค้ง อาจหลุดโค้งได้ง่ายๆเลยนะครัช(เป็นความคิดสำหรับมือใหม่อย่างนายสีนิลนะขอรับ..ไม่เชื่อก็ไม่ว่ากันจ้า)

จากอ.น้ำปาด ถึง บ้านประมงปากนาย ระยะประมาณ 50 กม.

เจอเจ้าถิ่นเข้าให้แล้ว...เขามองผมครับ..นายสีนิลบอกว่าอย่างงั้นนะ 5555

ถึงแล้วท่าข้ามแพ ขอเข้าไปดูลาดเลาซะหน่อย เผื่อหาทางหนีทีไล่(นายสีนิลขาสั่น คริๆ ก็มันกลัวน้ำ)

ถ้าเราจะข้ามแพ ให้ไปติดต่อที่ร้านอาหารแพลุงตี้ แกเป็นคนเรียกแพให้เรา แกเล่าว่า "แพมี 4 แพ สลับกับไปมาฝั่งนี้กับกับฝั่งกระโน้น แกเห็นนายสีนิล แกบอกว่า แปลกใจนะที่เห็นรถเครื่องคันใหญ่ๆ มาข้ามแพ ปกติมีแต่ฝรั่งทั้งนั้น คนไทยยังไม่เห็นมีเลย ส่วนใหญ่จะมีแต่รถยนต์กับรถเครื่องชาวบ้าน"

"มาๆๆๆมานั่งเล่นบนแพพี่ก่อนนะ แพยังไม่มา รอหน่อยนะ จะนอนก็ได้" ลุงตี้ เอ๊ย พี่ตี้ชักชวนไป ให้อาหารปลาไปด้วย

รอไปได้สักพักเริ่มหิวแล้วล่ะ ตั้งแต่ออกจากภูลมโลยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย พอดีแพลุงตี้เป็นร้านอาหารตามสั่งและเครื่องดื่ม เราอยู่บนแพ เห็นปลาเป็นฝูง เอ้า..นึกอยากกินปลาซะงั้น ลุงตี้จัดให้ตามนั้น

##############################เมนูมื้อนี้..ผัดฉ่าปลากดคัง..จานนี้ราคา 150 บาทถ้วน#########

ระหว่างเรากับแมว....ไม่รู้ว่า...เมนูใครอร่อยกว่ากัน

แม้แตกต่าง...แ ต่ เ ร า ก็ รั ก กั น ไ ด้...ขอเพียงแค่...เ ปิ ด ใ จ

หนังท้องตึง..หนังตาหย่อน คำโบราณว่าไว้ ลุงตี้หยิบหมอนใบย่อมมาให้เหมือนรู้และเข้าใจดี แต่ไม่ได้หลับหรอกนะ นอนฟังลุงตี้เล่าเรื่องนั่นเรื่องนี้ อย่างเช่น "แกบอกว่าช่วงหน้าร้อนน้ำน้อยก็ใช้แพไม่ได้ เขาจะแจ้งติดป้ายไว้ที่อ.น้ำปาดเลย จะได้มาไม่เสียเทียว" สักพักแพข้ามฝากก็มานู้นแล้ว ไม่รู้นายสีนิลวิ่งหนีไปรึยัง55555

ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมมีเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกด้วย ปะไปกัน พารถลงเรือ....ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ข้ามมาได้อย่างปลอดภัย เส้นทางลัดประหยัดเวลาไปได้เกือบชั่วโมง ย่นระยะทางได้ 100 กว่ากิโลเมตร ข้ามฝั่งมาสู่บ้านประมงปากนาย อ.นาหมื่น จ.น่าน อำเภอเล็กๆแต่น่าเยี่ยมชมอย่างมาก ยังสงบนิ่งไร้กลิ่นไอของผู้คนแปลกหน้าที่เรียกตัวเองว่า นักท่องเที่ยว

เดินทางต่อตามจุดมุ่งหมาย ไปตามล่านางพญาเสือโคร่งขุนสถาน จ.น่าน

นางพญาเสือ ยังไม่เบ่งบานอย่างที่คิด แอบผิดหวังเล็กๆ แต่ไม่ได้มากมายอะไร เพราะเข้าใจว่าอากาศปีนี้มันแปรปรวนร้อนบ้าง ฝนบ้าง หนาวบ้าง ก็ไม่เห็นเป็นไร เฝ้ามองเธอตอนไม่มีดอกบ้าง สวยแปลกตาไปอีกแบบเนาะๆๆๆ นายสีนิลไม่ได้นอนข้างบน เจ้านายเลือกพาลงไปนอนข้างล่างน่าจะอุ่นกว่า เพราะตั้งแต่ป่วยแล้วทริปล่มเมื่อก่อนสิ้นปี ร่างกายยังไม่ค่อยฟื้นสักเท่าไร ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า เอ้าว่าไงว่าตามกันคร้าบเจ้านาย

ถนนขึ้นลงขุนสถานประมาณ 20 กม. ขวาเป็นหน้าเขา ซ้ายเป็นเหวลึก สวยแบบโหดๆ 5555 ถนนลอยฟ้าก็น่าจะเรียกได้นะ

ตลอดเส้นทางที่ผ่านมาตั้งแต่อ.น้ำปาด เรื่อยมา จนถึงเมืองแพร่ ต้องบอกเลยว่าเป็นเส้นถนนที่สวยมากๆ สองข้างทางของถนนมีพื้นที่การเกษตรสลับกับป่าไม้เขียวๆ บนภูเขา ถนนขึ้นสูงลงต่ำตามแนวของขุนเขาช่างน่ามองมากจริงๆ

โชคดีมาเจองานพื้นเมืองเล็กๆของเมืองแพร่ แม่ค้าผู้นี้งามแต้งามว่าเน๊าะ (แอบแซวคุณป้าอิอิ)

เดินทางต่อไปหาเธอ นางพญาเสือที่ขุนวาง....

นายสีนิลออกเดินทางจากเมืองแพร่ ผ่านอ.แม่ทะ ลำปาง เข้าลำพูน เลี้ยวเข้าจอมทอง จ.เชียงใหม่ มาถึงก็บ่ายเย็นๆ ต้องจอดนอนแล้วล่ะ ไปต่อไม่ได้ ไฟยังไม่มี แวะกินข้าวก่อนค่อยหาที่นอน

บอกตรงๆว่าเจ้านายผมอยากดื่มเบียร์ แต่ร้านนี้ยังไม่มีขาย ต้องไปซื้อร้านข้างๆ ที่ขายเบียร์เอาเบียร์มากินที่ร้านไม่มีเบียร์ โห..แล้วจะเขียนให้งงทำไมเนี่ย???

นางพญาเสือโคร่งที่ขุนวาง น้อยกว่าที่ปีที่แล้ว แต่ก็พอมีให้นักล่ามาแบบไม่เสียเที่ยว รีบๆมากันก่อนที่จะร่วงโรยนะคร้าบบบบ

@ศูนย์อนุรักษ์รองเท้านารี & รอยยิ้มสวยๆ ของเด็กน้อยวัยใส กับแม่นางเสือโคร่งต้นใหญ่ ที่เบ่งบานสีชมพูจัดจ้าน ไม่คว้ากล้องมาถ่ายคงไม่ได้จริงๆ

เจ้านายคับ..อยากได้แบบนี้มั้งอ่ะ

ไปต่อกันเถอะ ยังมีอีกที่นึงที่ตั้งใจไว้ และไม่คิดจะพลาด แม้เจ้านายจะงานเข้า ถูกตามตัวด่วน เพื่อเดินทางออกนอกไทยแลนด์แดนสยาม ไปหาสาวงามเมืองตองยี 5555 ล้อเล่นๆ ต้องไปทำงานที่นอกประเทศจร้า...งั้นรีบไปตามล่าเธอสีชมพูที่ขุนช่างเคี่ยนกันดีกว่า

ระหว่างทาง ไม่ผิดconcept หรอกคับ เจ้านายผม นายสีนิลกับวัดเป็นของคู่กันจริงจริ๊ง

จริงๆ ตั้งใจว่าจะไปล่าพญาเสือโคร่งอีกหลายๆที่ แต่เจ้านายนายสีนิลต้องรีบไปgo inter เลยขอปิดท้ายนางพญาเสือโคร่งสวยๆที่ขุนช่างเคี่ยนที่สุดท้ายของทริปนี้ อากาศดีเย็นมากมายกับ 9 องศาในยามค่ำคืน เสาร์อาทิตย์นี้ไม่รู้จะไปที่ไหนก็ลองเลือกไปสักที่นึงก็ได้นะ เมืองไทยไปที่ไหนก็สวยทั้งนั้น ลิ้มรสความสุขได้ทั้งระหว่างทางอย่างบ้านปากนาย หรือปลายทางที่นางพญาเสือรอให้ไปถ่ายรูปคู่ เธอฝากมาบอกว่าจะไปคนเดียวหรือไปเป็นหมู่ ก็ถ่ายรูปคู่กับเธอได้ทั้งนั้น...อย่าเพิ่งทิ้งกันน๊า..รอเจอกับทริปหน้า..คิดเอาไว้เล่นๆว่าจะพาไปกินสะตอ..by นายสีนิล

..ขณะหนึ่งที่คิดอะไร..อีกอึดใจก็กลายเป็นอดีต...

ทั้งทุกข์ ทั้งสุข..สุดท้ายก็ต้องผ่านไป..ใจเราเองที่เลือก...จะจำ...