Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ตื่นตาเจ้าพายุเก่า บอกเล่าอดีต พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ (Yoo Suk Suwan Museum) จ.ปราจีนบุรี
    • Posts-1
    theTripPacker •  December 24 , 2013

    พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ ตื่นตาเจ้าพายุเก่า บอกเล่าอดีต

    จุดหมายปลายทางของการเดินทางครั้งนี้อยู่ที่ “พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์” จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งรู้จักกันดีในฐานะที่เป็นแหล่งรวบรวมตะเกียงเจ้าพายุไว้นับหมื่นดวง รวมไปถึงของเก่าโบราณหายากอีกมากมายที่ไม่ค่อยพบเจอในยุคสมัยนี้แล้ว ถึงแม้ว่าตลอดเส้นทางจะมีสายฝนโปรยปรายอยู่เป็นระยะ แต่รุ่นนี้แล้วรับรองไม่มีถอย ยังไงก็ต้องมาให้ถึงจนได้ล่ะครับ

    “พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์” เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน อยู่ภายใต้การดูแลของคุณณรงค์ อยู่สุขสุวรรณ์ ซึ่งเริ่มสะสมตะเกียงเจ้าพายุมาตั้งแต่สมัยยังทำอาชีพรับซื้อขายของเก่าจำพวกเศษเหล็ก โลหะ ด้วยกลัวว่าตะเกียงเจ้าพายุที่มีเอกลักษณ์สวยงามจะถูกชาวต่างชาติมาขอซื้อออกนอกประเทศไปจนหมด จากที่เคยคัดแยกตะเกียงไว้ขายทำกำไรรเป็นดวงๆ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นการเก็บสะสมตั้งแต่ตะเกียงเจ้าพายุดวงเล็กดวงน้อย รวมถึงที่คนรู้จักมักคุ้นซื้อหามาเป็นของฝาก จนปัจจุบันมีตะเกียงเจ้าพายุจำนวนมากกว่า 10,000 ดวงที่นำมาจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ ข้าวของที่จัดแสดงอยู่ในอาคารทั้ง 5 หลังนั้น หลักๆ ก็จะเป็นตะเกียงเจ้าพายุที่มีรูปทรงแปลกตาและหายากซึ่งมาจากทั่วทุกมุมโลก จัดเรียงไว้เป็นหมวดหมู่ พร้อมป้ายกำกับชื่อรุ่นและที่มาอย่างชัดเจน จนเรารู้สึกทึ่งมากกับตะเกียงจำนวนมหาศาลที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเครื่องมือส่องแสงสว่างก่อนจะมีวิวัฒนาการใช้กระแสไฟฟ้าแทนอย่างในปัจจุบัน นอกจากตะเกียงเจ้าพายุที่เป็นตัวชูโรงของพิพิธภัณฑ์แล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ยังของเก่า ของสะสมที่น่าสนใจอีกมาก เพราะหัวใจรักของนักสะสมไม่ได้หยุดความสนใจอยู่แค่ตะเกียงเท่านั้น ยังมีตู้เก่า ตู้โบราณทำจากไม้สัก นาฬิกา จักรยาน เครื่องใช้ในครัวเรือนอีกสารพัดชนิด เรื่อยไปจนถึงของเล่น ของสะสม ของที่ระลึกที่เป็นตัวบอกเล่าเรื่องราวตามยุคสมัย ซึ่งแน่นอนว่าข้าวของทุกชิ้นถูกจัดเรียงไว้ตามห้องต่างๆ อย่างเป็นระเบียบเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าชม

    • Posts-2
    theTripPacker •  December 24, 2013
    • Posts-3
    theTripPacker •  December 24 , 2013

    เนื่องจากสิ่งของที่จัดแสดงอยู่ในอาคารทั้ง 5 หลังนั้นมีมากมายจนบรรยายไม่หมด ดังนั้นเราจึงขอยกตัวอย่างกันแบบคร่าวๆ ก็พอนะครับ เริ่มจาก “อาคารราชาวดี” ซึ่งเน้นหนักไปทางตะเกียงชนิดต่างๆ พร้อมส่วนประกอบต่างๆ ของตะเกียงที่เราจะได้ศึกษากันอย่างละเอียดยิบ รวมไปถึงของโบราณตั้งแต่ เครื่องเงิน เครื่องทองเหลือง เตารีดโบราณ ตู้เย็นใช้น้ำมันก๊าซ เป็นต้น ถัดมาที่ “อาคารลีลาวดี” ที่แบ่งออกเป็นห้องย่อยๆ อีก 6 ห้อง รวบรวมเครื่องใช้ เครื่องกระเบื้อง ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เคยคุ้นกันตั้งแต่สมัยคุณตาคุณยาย ของเด็กเล่นสังกะสีสมัยคุณแม่ยังเด็ก จักรยานและจักรยานยนต์เก่าทรงคลาสสิค พระผง พระเหรียญชื่อดัง และเครื่องมือชั่ง ตวง วัดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งบางชิ้นก็หน้าตาไม่คุ้นเคยเอาซะเลย ส่วน “อาคารชวนชม” จะจัดแสดงภาพถ่ายเก่าแก่ของเมืองปราจีนบุรีในอดีต หนังสือเก่านานาชนิดและแสตมป์อีกเพียบ สำหรับ “อาคารฟ้าประดิษฐ์” ก็จะรวบรวมสารพัดเรือในรูปแบบต่างๆ ไปจนถึงเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตสมัยก่อนให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาหาความรู้กันอย่างสนุกสนาน และอาคารหลังสุดท้ายที่สร้างขึ้นจากรูปทรงของตะเกียงมีชื่อว่า “อาคารเจ้าพายุ” เป็นอาคารสูงที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวโดยรอบพิพิธภัณฑ์ได้ด้วย

    หลังจากแหงนคอชมตะเกียงที่แขวนอยู่บนเพดาน สลับกับของสะสมในพิพิธภัณฑ์จนครบทุกห้อง ทุกอาคารแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ยังมีมุมให้พักผ่อนหย่อนใจในสวนด้านหลัง ซึ่งมีทั้งบ่อปลา กรงนกขนาดใหญ่ ไปจนถึงบ่อเต่าและบ่อจระเข้ด้วย ระหว่างทางเดินในสวนก็ไม่ได้ปล่อยให้เราเดินกันเปล่าๆ นะครับ เพราะต้นไม้แต่ละต้นในสวนก็มีทั้งที่คุ้นตาและแปลกตา บางต้นก็เป็นต้นไม้ท้องถิ่น บางต้นก็เป็นไม้เก่าแก่ที่ปัจจุบันหาได้ยากแล้ว ยิ่งเด็กรุ่นใหม่ๆ ในเมืองอย่างเราด้วยแล้ว เชื่อว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักชื่อด้วยซ้ำ เลยได้ถือโอกาสเปิดหู เปิดตา เปิดสมองเรียนรู้กันอย่างเต็มที่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เย็นย่ำจนได้เวลาพิพิธภัณฑ์ปิดกันเลยทีเดียว

    • Posts-4
    theTripPacker •  December 24, 2013

    Editor's Comment

    • Strong point:
    • ตะเกียงเจ้าพายุ สารพัดรูปแบบที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์สวยงาม ซึ่งต่างที่มา ต่างแหล่งผลิตก็มีรายละเอียดต่างกันออกไป รวมไปจนถึงส่วนประกอบต่างๆ ของตะเกียงที่คนรุ่นหลังอย่างเราอาจจะเกิดไม่ทันใช้แล้วด้วยซ้ำ แต่ก็ยังมีโอกาสได้ชมของจริงอย่างใกล้ชิด แถมยังมีของเก่าโบราณหายากอีกมากมายที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างเป็นระเบียบ
    • Weak point:
    • ถึงแม้จะมีการจัดแสดงสิ่งของไว้เป็นหมวดหมู่ แต่ข้าวของบางส่วนก็ไม่มีป้ายกำกับ อีกทั้งการเข้าชมยังไม่มีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวทั่วไปที่เข้าชม จึงถือเป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าการได้มาเที่ยวพิพิธภัณฑ์แล้วไม่ได้รับความรู้กลับไปอย่างเต็มที่
    • Conclusion:
    • พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากๆ เพราะได้สะสมรวบรวมตะเกียงเจ้าพายุไว้มากที่สุดในประเทศไทย รวมไปถึงของเก่าโบราณที่มีทั้งของใช้ใกล้ตัว และเครื่องมือเครื่องใช้ที่ไม่คุ้นเคย ทำให้คนรุ่นหลังๆ ได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ และทำความรู้จักกับวิถีชีวิตของคนในอดีตผ่านข้าวของต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด
    Score
    • Posts-5
    theTripPacker •  December 24 , 2013

    ข้อมูลทั่วไป

    ที่อยู่ : 135 ถนนปราจีนตคาม ตำบลดงขี้เหล็ก อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี 25000

    GPS : 14.069609, 101.426146

    เบอร์ติดต่อ : 037-217551, 037-217552, 081-2958218 แฟกซ์ : 037-217444

    E-mail : yusuksuwan@hotmail.com

    Website : http://www.yusuksuwanmuseum.com/home.php

    เวลาทำการ : เปิดทำการทุกวัน 09.00 น. - 17.00 น.

    ค่าธรรมเนียม :

    - ชาวไทยผู้ใหญ่ 80 บาท / เด็ก 30 บาท

    - ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 150 บาท / เด็ก 100 บาท

    ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี

    ไฮไลท์ : ตะเกียงเจ้าพายุโบราณยี่ห้อต่างๆ จากทั่วโลก ซึ่งมีจัดแสดงไว้นับ 10,000 ดวง

    กิจกรรม : เดินชมตะเกียงเจ้าพายุ และของสะสมต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์

    • Posts-6
    theTripPacker •  December 24 , 2013

    วิธีการเดินทาง

    จากตัวเมืองปราจีนบุรี บริเวณอนุเสาวรีย์รัชกาลที่ 6  มุ่งหน้าไปตามถนนราษฏรดำริ ข้ามแม่น้ำปราจีนบุรี จากนั้นให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3452 (ปราจีนตคาม) เป็นระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร จะเห็นพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์อยู่ทางด้านซ้ายมือ

    หรือถ้าเข้าเขตเมืองปราจีนบุรีมาตามทางหลวงชนบทปราจีนบุรีหมายเลข 2033 จะข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปราจีนบุรี บริเวณวัดแก้วพิจิตร จากนั้นให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3452 (ปราจีนตคาม) ไปอีกประมาณ 5.5 กิโลเมตร จะถึงพิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์


    • Posts-7
    theTripPacker •  December 24, 2013
    • Posts-8
    theTripPacker •  December 24 , 2013

    แกลลอรี่รูปภาพ

    • Posts-9
    theTripPacker •  January 10, 2014