พระธาตุบังพวน ชวนดูสัตตมหาสถาน
นอกจากบั้งไฟพญานาคแล้ว ในจังหวัดหนองคายยังมีความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคอีกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นความเชื่อว่ามีเมืองมีวังพญานาคอยู่ที่นี่มีถ้ำประหลาดที่เชื่อกันว่าเป็นถ้ำพญานาคมีคนเคยเห็นสัตว์ตัวยาวในแม่น้ำโขงที่เชื่อกันว่าเป็นพญานาค มีร่องรอยที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นรอยพญานาคมีวัดที่เกี่ยวพันกับพญานาครวมไปถึงมีพระธาตุที่มีความเกี่ยวโยงกับพญานาคอย่าง “พระธาตุบังพวน” ประดิษฐานอยู่
“พระธาตุบังพวน” เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหนองคายตามตำนานอุรังคธาตุกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาลพื้นที่แห่งนี้คือ “ภูเขาลวง” ริมน้ำบางพวน (หรือภูลวง) เป็นที่อยู่อาศัยของพญานาค ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับยังดินแดนแถบลุ่มน้ำโขงพญานาคได้มาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ทำให้ดินแดนแห่งนี้ถูกยกให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนอีกข้อมูลหนึ่งระบุว่ามาจากตำนานอุรังคธาตุเหมือนกันแต่ที่มาของการกำเนิดพระธาตุไม่เหมือนกันคือเชื่อว่าหลังการก่อสร้างพระธาตุพนมเสร็จสิ้นเหล่าพระอรหันต์ 500 องค์ที่ทำการสร้างพระธาตุพนมได้เดินทางไปอินเดียอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้านำมาประดิษฐานไว้ยังสถานที่ 4 แห่งในเมืองหนองคายและเมืองเวียงจันทน์โดยหนึ่งในนั้นก็คือพระธาตุบังพวนนั่นเอง
นั่นเป็นที่มาคร่าวๆ จากตำนานอุรังคธาตุซึ่งแตกต่างไปจากตำนานความเชื่อพื้นบ้านที่แม้จะไม่ได้ระบุยุคสมัยการสร้างพระธาตุบังพวนแต่ได้ระบุว่าคำว่า “บังพวน” แผลงมาจากคำว่า “บังคน” (หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า“ขี้โผ่น”) ที่แปลว่ากระเพาะปัสสาวะซึ่งเชื่อว่าพระธาตุองค์นี้ภายในบรรจุพระบังคนหนักของพระพุทธเจ้าเอาไว้ในขณะที่หลักฐานทางโบราณคดีไม่สามารถระบุชัดเจนได้ว่าพระธาตุบังพวนสร้างขึ้นในสมัยใด กระทั่งปี พ.ศ. 2513 เกิดภัยธรรมชาติจนพระธาตุบังพวนพังทลายลงมา จากนั้นในปี พ.ศ. 2520 ทางกรมศิลปากรได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุขึ้นมาใหม่ตามแบบรูปทรงเดิม และทางวัดจัดให้มีการเฉลิมฉลองสมโภชองค์พระธาตุกันทุกวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี