✿ : : KHAO-YAI : : ✿ ~ ONE DAY TRIP ~ 'ทุ่งทานตะวัน' บานสะพรั่ง ใหญ่ที่สุดในอีสาน แห่งเดียวใน 'เขาใหญ่' (Nov 29,2015)

ดินฟ้าอากาศเมืองไทยปีนี้ ดูทีจะไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย

ไม่แน่ไม่นอน แต่ที่แน่นอนเลย ก็คือ

'ฤดูกาลท่องเที่ยวทุ่งดอกทานตะวัน' ที่หนึ่งปีมีเพียงหนึ่งครั้ง มาถึงแล้วน้าาาาา ...

ถ้าพูดถึง 'ทุ่งดอกทานตะวัน' ใครหลายๆคนคงนึกถึงทุ่งทานตะวันที่จังหวัดสระบุรี

หรือไม่ก็ที่จังหวัดลพบุรี กันใช่ไหมล่ะค่ะ ?

เราก็หนึ่งในนั้นที่คิดแบบนั้น! ยังมีอีกหลายๆจังหวัดที่หันมาปลูกดอกทานตะวัน

ทานตะวันเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ใช้น้ำน้อย เกษตรกรเลยหันมาทำไร่ทานตะวันกันมากขึ้นในปัจจุบัน

เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง

และในวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆไปชมทุ่งทานตะวัน ที่ใหญ่ที่สุดในอีสานแห่งเดียวในเขาใหญ่กันค่ะ ตามมาเลย!

ไร่ทานตะวันมณีศร

หลังจากที่ต้องผิดหวังจากปีที่แล้ว ที่ตั้งใจขับรถไปดูทุ่งดอกทานตะวัน ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี แต่ดันหลงทางซะอย่างงั้น จากทุ่งดอกทานตะวันกลับกลายเป็นทุ่งดอกดาวเรืองแทนซะนิ เราเลยตั้งเป้าหมายใหม่ว่า "ปีหน้าจะไม่ขับรถไปเองแหละ นั่งรถไฟนำเที่ยวทุ่งดอกทานตะวันแทนดีกว่า" ได้ดูทุ่งดอกทานตะวันชัวร์ไม่มีหลงแน่นอน

พอมาถึงปีนี้ ก็ต้องมาผิดหวังซ้ำสอง เมื่อได้ข่าวจากทีม PR การรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า "งดเดินขบวนรถนำเที่ยวทุ่งทานตะวันและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง" แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ!?

แล้วสวรรค์ก็เข้าข้าง เราได้ข้อมูลใหม่มาว่า ตอนนี้ทุ่งทานตะวันที่หนองแขม จ.ลพบุรี บานแล้ว เราเลยตั้งใจว่า อาทิตย์ที่จะถึงนี้จะเดินทางไปดู ก่อนที่ดอกจะโรย แล้วจะเก็บภาพได้ไม่สวย แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจแบบกะทันหัน เมื่อทราบข่าวอีกแหล่งหนึ่งบอกว่า ทุ่งทานตะวัน ที่เขาใหญ่ ก็บานแล้วนะ ห๊ะ! เขาใหญ่เนี่ยนะ มีทุ่งดอกทานตะวัน เราดูรูปที่เพื่อนในกลุ่มแบกเป้เที่ยวโพสลงไว้ ~ มันสวย เหลืองอร่ามมากเลย ฉากหลังเป็นทิวเขาด้วย ~ สวยไม่แพ้ เขาจีนแลที่จังหวัดลพบุรีเลยค่ะ ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายในทันที่ว่า วันอาทิตย์นี้เราจะบุก " ไร่ทานตะวันมณีศร " ทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน แห่งเดียวในเขาใหญ่ค่ะ

ทุ่งทานตะวันไร่มณีศร อยู่ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา แต่เดิมนั้นเคยทำเป็นไร่ข้าวโพด แต่เรื่องด้วยเรื่องปัญหาภัยแล้ง เจ้าของฟาร์มจึงเปลี่ยนมาทำไร่ดอกทานตะวันแทน ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับดีนะคะ เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ^_____^

การเดินทางนี้เป็นการเดินทางแบบ ONE DAY TRIP ไปเช้าเย็นกลับ เราเลยเริ่มออกเดินทางกันเช้าหน่อยค่ะ เราเลือกเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวค่ะ เพราะเส้นทางที่เราจะไปนั้น ไม่ค่อยมีรถโดยสารประจำทางผ่านสักเท่าไหร่ ... เราเริ่มออกเดินทางกันตอน 6.30 น. เสบียงพร้อม ออกรถ ลุย! ...

ทุ่งทานตะวันไร่มณีศร ไม่มีอยู่ใน Google Map ค่ะ ต้องหาตำแหน่งเอา (14.575975 N , 101.443353 E) หรือจะปักหมุดไว้ที่โรงเรียนบ้านคลองเสือ / วัดคลองเสือ / หรือจะปักหมุดแบบเจ้าของกระทู้ก็ได้นะคะ ที่ แพนเธอร์ครีครีสอร์ท รับรองเจ้า Google Map พาไปไม่หลงทางแน่นอนค่ะ ...

เราวิ่งรถจากกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางด่วนฉลองรัช ผ่านด่านเก็บเงินธัญบุรี วิ่งมาทางเส้นบางปะอิน > สระบุรี > นครราชสีมา > เขาใหญ่ (ถ.มิตรภาพ เลี้ยวเข้า ถ.ธนะรัชต์)

ถ้าหากใครเคยมาเที่ยวที่เขาใหญ่แล้วล่ะก็ไม่หลงทางแน่นอนค่ะ เพราะ วิ่งเส้นที่มุ่งหน้าขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เลย

จุดสังเกตที่ 1 ร้าน MID WINTER

จุดสังเกตที่ 2 ปั๊ม ปตท.

จุดสังเกตที่ 3 ร้านเสต็กอิน เลยไปอีกประมาณ 50 เมตร จะเจอทางเข้าไปทุ่งทานตะวัน อยู่เยื้องๆกับฟาร์มโชคชัย 3 ป้ายที่บอกทางไปทุ่งทานตะวัน จะเป็นป้ายฟิวเจอร์บอร์ดเขียวด้วยปากกาเมจิคว่า " ทุ่งทานตะวัน ไร่มณีศร 500 ไร่ ต้องสังเกตดีดีเลยค่ะ เพราะ ป้ายบอกทางเล็กมาก ... เราว่า พอเจอจุดสังเกต 3 จุดที่เราบอกไป ดูป้าย 'วัดศรีชัยมงคล' / 'พิชญ์ เขาวงกต' / 'BONANZA' เอาดีกว่าค่ะ เห็นชัดกว่า เพราะ ใช้ทางเข้าเดียวกัน

เมื่อเลี้ยวเขามาในซอย ก็วิ่งไปตามทางเลยค่ะ เพราะ ทุกแยกจะมีป้ายฟิวเจอร์บอร์ดบอกทางไว้ทุกจุดสังเกตเอานะคะ ทางค่อนข้างเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะพอสมควร แต่ไม่หนักหนาอะไรค่ะ ... เรามาถึงทุ่งทานตะวัน ตอน 9.00 น. พอดิบพอดีเลยค่ะ

ข้อแนะนำก่อนการชมทุ่งทานตะวัน

1. เตรียมร่ม เสื้อแขนยาว หมวก แว่นตา เอาไว้บังแดดด้วยนะคะ เพราะ แดดค่อนข้างร้อนในเวลากลางวัน

2. หากใครแพ้ฝุ่นเตรียมหน้ากากอนามัยไปด้วยก็ดีนะคะ เพราะทางก่อนเข้าไปในทุ่ง รถแล่นสัญจรผ่านไปผ่านมาทำให้ฝุ่นคลุ้งตลบอบอวลเลยค่ะ ...

3. สิ่งที่ขาดไม่ได้คือกล้องถ่ายรูปค่ะ หรือใครจะถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือก็ได้ สวยเหมือนกัน เห็นกับตายิ่งสวยกว่าในภาพนะ ^^

4. อย่าเด็ดดอกทานตะวันกลับไปด้วยนะคะ ถึงจะมีเยอะแยะก็เถอะ เราเห็นมากับตัวเองเลย ทำลายธรรมชาติที่สวยงามหมด เก็บไปเพียงแค่ภาพถ่ายเถอะค่ะ

5. ดอกทานตะวันสวยอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องนำสิ่งของไปแต่เติมหรอก บางทีดอกไม้ดอกหนึ่งอาจหมดความสวยเพราะฝีมือเรานะ กลีบหัก คอหักเพราะฝีมือของมนุษย์ .. (ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม อิอิ)

เราเดินทางถึงทุ่งดอกทานตะวันเช้ากว่าที่ตั้งเป้าไว้ค่ะ คนเลยยังไม่เยอะมาก (พอคนเริ่มรู้ข่าว เริ่มทยอยมากันแล้วค่ะ ทำให้รถค่อนข้างที่จะติดในตอนช่วงใกล้ๆจะเที่ยง เราเดินทางกลับสวนทางกับหลายๆคนที่เพิ่งมา กว่าจะออกมาได้เบี่ยงรถหลบกันมันส์เลยค่ะ เพราะ ถนนค่อนข้างเล็ก)

ช่วงเช้า ตอนที่พระอาทิตย์ยังไม่ส่องแสง ดอกทานตะวันจะก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่เมื่อมีแสงจากพระอาทิตย์ดอกทานตะวันก็จะเงยหน้าขึ้นมารับแสง และหันเหตามดวงอาทิตย์ ... พูดแล้ว ก็นึกถึงตำนานดอกทานตะวันขึ้นมาเลยค่ะ เพื่อนๆเคยอ่านกันรึป่าว? .. ตำนานเรื่องนี้เป็นที่มาของความหมายของดอกทานตะวันที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ และความจงรักภักดี .. ลองอ่านกันดูนะคะ ... ในตำนานกรีก กล่าวไว้ว่า มีหญิงงามผู้หนึ่งนามว่า 'Clytie' เธอตกหลุมรักในความสง่างามของเทพอพอลโล ซึ่งเป็นเทพเเห่งเเสงอาทิตย์ หลังจากนั้น เธอก็ออกมาเฝ้ามองเทพอพอลโลทุกๆวัน ได้เเต่หวังให้เทพอพอลโล หันมามองเธอสักครั้ง ด้วยความรู้สึกที่มั่นคงต่อเทพอพอลโลนั้นไซร้ จึงตั้งจิตอธิฐานต่อทวยเทพ หากเธอลับลาไปขอให้เธอตั้งมั่นอยู่ตราบเเสงสิ้นตลอดกาล หลังจากที่เธอสิ้นลม เรียวขาของเธอได้หยั่งรากลึกลงไปในพื้นพสุธา แขนและลำตัวก็กลับกลายเป็นลำต้นใบไม้เขียว ใบหน้าอันอ่อนหวานกลับกลายเป็นสีน้ำผึ้ง เส้นผมไหมสีทองของเธอกลับกลายเป็นกลีบดอกไม้สีเหลืองสดใส คอยแหงนมองเทพแห่งดวงอาทิตย์ไปทุกแห่งหนโดยไม่มีทางเหน็ดเหนื่อยและจะคอยหัน มองตลอดจนกว่าดวงอาทิตย์ของเธอจะลาลับจากคุ้งขอบฟ้า ด้วยความรักและความภักดีตลอดกาล ...

ฤดูกาลเที่ยวทุ่งดอกทานตะวัน หนึ่งปีจะมีเพียง 1 ครั้ง จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน - มกราคม

ช่วงเวลาที่เหมาะสม 10 โมงเช้า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมทุ่งดอกทานตะวัน

ไร่ทุ่งดอกทานตะวันมณีศร ด้านนอกสามารถถ่ายรูปได้ฟรี ถ้าเข้าด้านในสามารถขับรถเข้าไปเที่ยวชมได้ค่ะ ค่าผ่านทางคนละ 20 บาทเท่านั้น

ความสวยนี่เกินราคาเลยค่ะ .. เราเดินทั่วไร่เค้าเลย เพลินดี อากาศก็ดี ^___^

ไร่ที่นี่เค้าปราศจากการฉีดสารเคมีนะคะ สังเกตจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตามดอกทานตะวัน แทรกเข้าไปถ่ายรูปยังไงก็เล็งๆด้วยนะ เดี๋ยวจะคันเอาได้

บางแปลง ปลูกไว้อย่างหนาแน่น หากไม่มีที่ให้แทรกเข้าไปอย่าพยายามแทรกเลยนะคะ ดอกไม้อาจช้ำได้

ม้าตัวนี้ ชื่อ ' น็อตตี้ ' จะยืนคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมาถ่ายรูปได้ค่ะ ม้าแคระก็มีนะ ราคาบริการ 20 บาทค่ะ ถ่ายได้จนกว่าจะพอใจเลย

ปล. ขอบคุณ SONY A6000 ที่ทำให้เราได้ภาพสวยๆตลอดทริปนี้

(รูปทั้งหมดไม่ผ่านการแต่งใดๆทั้งสิ้น อยากให้รูปออกมาสดจริง ตามคุณภาพของกล้อง)

ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตาม หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ยินดีน้อมรับทุกคำติชม

.. เจอกันเดินทางครั้งต่อไป ..

มีสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจเรียกคืนกลับมาได้ คือ 'เวลา'

แม้ว่าเวลาแต่ละวันมีเท่าเดิม

แต่ทุกวินาทีที่เดินย่อมมีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นเสมอ ...