*** ความสะดวกที่ทำให้อุทยานแห่งชาติป่าหินงามคือสวนหย่อมแบบอลังการ
สวนหย่อมอยู่ในเมือง มันสะดวก เรียบร้อย สะอาด ปลอดภัย แต่กับป่าใหญ่ ๆ นั้นจะไม่สะดวก ทางเดินอาจจะมีโคลน หรือดิน ฝุ่น หรือต้นไม้ ใบหญ้าเต็มไปหมด นั้นเป็นเรื่องปกติ แต่กับอุทยานแห่งชาติป่าหินงามนั้นไม่ใช่
เส้นทางหลักในการเดินทางสู่จุดท่องเที่ยวภายในอุทยานนั้นถูกสร้างไว้ด้วยถนนปูนซีเมนต์ขนาด 6 - 7 เมตรเห็นจะได้ ทำให้คุณสามารถเดินทางไปมาได้หลากหลายด้วยวิธีดังต่อไปนี้
จุดรอรถรับส่งนักท่องเที่ยวตามจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ อย่างในภาพนี่คือจุดที่เดินชมทุ่งดอกกระเจียวเสร็จแล้ว จะเดินออกมาเจอจุดรอรถตรงนี้พอดี ถ้ารถว่าง เราก็ขึ้นไปได้เลย
* ใช้บริการรถรับส่งนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรถตอนยาว มีที่นั่งจำนวนมาก
ชาวบ้านที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนจัดระบบเข้ามาให้บริการตรงนี้ พร้อมทั้งคอยพูดผ่านไมค์แนะนำจุดท่องเที่ยว และข้อมูลต่าง ๆ ให้ด้วย รถรับส่งจะวิ่งจากด่านเก็บเงินค่าเข้าอุทยาน (30 บาทสำหรับด่านอุทยานแห่งนี้ ส่วนใครนอนเต็นท์ก็ไม่ต้องจ่าย จะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บเองที่เต็นท์ตอนกลางคืน ส่วนค่าบริการรถรับส่งนั้นจะต้องเสียอีก 30 บาท) ตรงไปบนสุดปลายทางคือ ‘ผาสุดแผ่นดิน’ แล้วก็วิ่งลงไปที่ ‘ลานหินหน่อ’ ต่อด้วย ‘ลานหินงาม’ และกลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง ซึ่งจะมีรถรับส่งวิ่งไปมาตลอดทั้งวัน แต่กลางวันจะน้อยหน่อย ช่วงเช้า ๆ จะเยอะมาก เพราะนักท่องเที่ยวนิยมมาชมตอนช่วงเช้าเยอะสุด
รถรับส่งให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าจน 6 โมงเย็นนะครับ
รถรับส่งนักท่องเที่ยววิ่งช่วงเช้าเยอะมาก เพราะนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันเยอะ แป๊บ ๆ ก็เต็มคันรถ รถถึงออกเดินทาง
* เดิน หรือวิ่งด้วยตัวเอง
อย่างที่บอกว่าเส้นทางเป็นปูนซีเมนต์ทำไว้ดีมาก ระยะทางจากจุดเริ่มต้นไปถึงผาสุดแผ่นดินรวมแล้วไม่เกิน 3 กิโล มีจุดที่เป็นทางชันบ้าง ทำให้คุณได้ท้าทายในการวิ่งออกกำลังกาย ถ้าเหนื่อยก็แค่เดิน หรือรอขึ้นรถรับส่งนักท่องเที่ยวก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นวันปกติ รถรับส่งจะค่อนข้างว่างในบางเวลา ทางชาวบ้านหลายคนก็ใจดีที่จะรับเรากลับฟรี ๆ ไม่ได้คิดเงิน
* ปั่นจักรยานของตนเอง
ที่นี่ไม่มีจักรยานให้เช่า ถ้าอยากปั่นต้องเอามาเอง แต่อาจจะไม่เหมาะถ้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ เพราะจากที่ฟังมาคือ สามารถเอาจักรยานมาปั่นเล่นเองได้ แต่ไม่ควรเกิน 2 คน ถ้ามามากกว่านี้จะขวางเส้นทางรถรับส่งนักท่องเที่ยว และเป็นอันตรายได้
เส้นทางที่เป็นปูนซีเมนต์ตลอดทางหลัก เชื่อมไปยังจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ เราจะนั่งรถรับส่ง จะเดิน หรือวิ่ง หรือปั่นจักรยานของเราไปก็ได้ครับ
นอกจากเส้นทางหลักที่เชื่อมจุดท่องเที่ยแต่ละจุดแล้ว ภายในเส้นทางย่อยก็ยังทำไว้ดีมาก อย่างเช่น เส้นทางชมทุ่งดอกกระเจียว ที่ทำเป็นทางยกระดับสูงขึ้นมาจากพื้นดินเล็กน้อย ทำให้ไม่มีน้ำขัง เดินได้สะดวก มีรั้วเล็ก ๆ กั้นเพื่อให้ทราบว่าห้ามลงไปเหยียบย่ำในทุ่งดอกกระเจียว พร้อมป้ายห้าม แต่ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากโคตร ๆ ที่ลงไปเหยียบ วันนึงหลายร้อยคนครับ ถ้าเป็นวันหยุดอาจจะเกือบหลักพันคน และถ้าหยุดยาว ผมว่าเกิน 2000 คนสบาย ๆ เลย โดยที่มีคนเตือนอย่างสุภาพก็ยังคงไม่สนใจ แล้วมีการมาเถียงคนที่เตือนอีกต่างหาก บางคนก็แกล้งทำเป็นล้มลงไปในทุ่ง แล้วนอนทับดอกไม้เพื่อที่จะได้ถ่ายรูป - ทุเรศครับ ไม่ได้ดีเลย
นักท่องเที่ยวเจ้าเล่ห์บางคน ทำเป็นแกล้งล้มลงไปในทุ่งดอกกระเจียว ถ้ามากันเป็นกลุ่ม ส่วนใหญ่ก็จะหัวเราะชอบใจที่เพื่อนโชว์อะไรแผลง ๆ
ผมได้คุยกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ยอมรับตรง ๆ ว่าดูแลไม่ไหว กำลังมีแค่ 4 คน บางวันมีแค่ 1 คน กับทุ่งดอกกระเจียวขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ยังบ่นเชิงตัดพ้อกับผมว่า ในช่วงวันหยุดยาว ๆ ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คน และคนที่เดินลงไปย้ำบนทุ่งดอกกระเจียวเห็นอยู่ใกล้ ๆ ตะโกนเรียกให้ขึ้นก็ไม่ขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปจับ หรือนำตัวขึ้นมาได้ เพราะคนยืนเต็มทางเดินจนขยับไปไหนไม่ได้ก็มี และยังมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่หน้าใหญ่ หรือใจใหญ่เวลาอยู่เป็นกลุ่ม โชว์พาวให้เพื่อนเห็น โดนตำหนิไม่ได้ ทำท่าทำทางจะเข้ารุมทำร้ายคนเตือน หรือเจ้าหน้าที่ก็มีให้เห็นเยอะแยะ
เฉพาะที่ผมไปยืนดูผมพบว่า รถรับส่ง 1 คันที่วิ่งขึ้นมา 1 รอบ มีนักท่องเที่ยวติดรถมาประมาณ 20 คนเห็นจะได้ จะต้องมีอย่างต่ำ 1 คนโดยเฉลี่ยที่จะต้องเหยียบลงไปในทุ่ง บางคันมากันเป็นหมู่คณะ ก็ลงกันแทบจะทั้งหมู่คณะนั้นแหละ แล้ววัน ๆ นึง รถรับส่งวิ่งรวมกันเป็น 100 เที่ยวนะครับ นี่คือวันธรรมดานะ
บางคนเพื่อนห้าม แต่ทำใจใหญ่ ดูเก๋าดี เดินลงไปอย่างไม่แคร์สายตาใคร บางคนโดนเตือนก็ยังไม่สนใจคำเตือนแม้จะโดนเตือนถึง 4 รอบ แต่พอกลับขึ้นมายังจะเถียงคนที่เขาเตือนอย่างสุภาพเสียอีก
บ่นพอแล้วสำหรับเรื่องแย่ ๆ มาดูกันต่อถึงความสะดวก เช่น ไฟฟ้าตามข้างทางแถวที่พัก และห้องน้ำที่มีเยอะมาก ห้องน้ำตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็มีรองรับ ไม่ใช่ว่ามีแค่ตรงจุดกางเต็นท์ แต่แม้แต่จุดท่องเที่ยวทั้งหมด ก็มีห้องน้ำไว้รับรอง
ทางเดินที่ว่าดี ๆ อาจจะมีบางจุดท่องเที่ยวที่คงไว้เป็นทางธรรมชาติ เช่นลานหินงามเป็นต้น
ร้านอาหารทั้งในอุทยาน และหน้าอุทยาน จะปิดกันค่อนข้างดึก ทำให้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องอาหารการกินมากนัก อ่อ แล้วยังมีร้านค้าเปิดตามจุดท่องเที่ยวบางแห่งอีก เช่น ลานหินงามก็มีร้านน้ำ ร้านขนมขาย ที่ผาสุดแผ่นดินก็มีเช่นกัน
เอาเป็นว่า ที่นี่ไม่เหมือนป่า แต่บรรยากาศเขียว ต้นไม้แน่นเหมือนป่าปกติทั่วไป แต่สะดวกกว่าป่าปกติจนเหมือนสวนหย่อมขนาดยักษ์ จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำไมถึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะมาก เพราะความสวยงามของพื้นที่ไม่ได้ลดทอนลงไป บรรยากาศการเดินป่าแบบลุย ๆ นั้นจะไม่มีที่นี่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความสวยงามของธรรมชาติจะหายไปด้วยทั้งหมดครับ
แช๊ะแล้วแชร์ ทำได้ถ้าใช้ True และ AIS แต่บางพื้นที่ก็เน็ตไม่วิ่งนะ ส่วน DTAC ผมไม่มี SIM ไม่มีเครื่องให้ลอง
สัญญาณมือถือที่นี่มีทั้ง 3 ค่าย แต่ของ DTAC ผมไม่ได้ตรวจสอบด้วยตัวเอง ฟังจากชาวบ้านเล่าว่า จะมีแค่บางจุดเท่านั้น ส่วน TRUE จะมีเกือบเต็มพื้นที่ และ AIS จะเต็มพื้นที่น้อยกว่า True แค่เล็กน้อยครับ แต่ถึงจะโทรเข้าออกได้ในจุดที่มีสัญญาณ แต่ผมพบว่า เน็ตอาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คิดนะครับ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*** ช่วงไหนที่ควรมาเที่ยวที่นี่
จุดขายของที่นี่คือ ทุ่งดอกกระเจียว ซึ่งบานเฉพาะฤดูฝน ตั้งแต่ มิ.ย. - ก.ย. แต่ผมแนะนำว่า กลางเดือนกรกฎาคมจนถึงต้นเดือนสิงหาคมคือช่วงเวลาที่ดอกกระเจียวจะบานเกือบเต็มที่ หรือเต็มที่แล้ว
ทุ่งดอกกระเจียวไม่ได้มีดีแค่ดอกกระเจียว ผมพบว่าในวันฟ้าเปิด เราจะเห็นเมฆ หรือหมอก ผมตอบไม่ได้ เพราะลักษณะมันคล้ายเมฆบนหัวเรา แต่มันไหลผ่านไปเร็วมาก ๆ ทำให้บรรยากาศภายในทุ่งเห็นเป็นแสง และเงาเมฆไล่กันไปมาในบางครั้ง สวยงามมาก ๆ
ชีวิตสบาย ๆ กลางทุ่งดอกไม้ รับแดดอ่อน ๆ นั่งเล่นกับพื้นไปเลยเพื่อความฟิน ถ้าได้ลองไปจะรู้ว่าอากาศเย็นสบาย ลมผิวเบา ๆ กับหมอกจาง ๆ เมฆไหล ๆ มันทำให้เราสบายใจได้ขนาดไหน
ลมไม่แรงเพราะเป็นป่ากันลมไว้แล้ว ส่วนเมฆ หรือหมอกที่ว่านั้น จะโดนลมพัดสูงกว่ายอดไม้ไปไม่มาก อ่อ แล้วก็เช้า ๆ ยังมีหมอกคลุมตัวเต็มพื้นที่ทุ่งดอกกระเจียวด้วยครับ สายหน่อยหมอกคลุมตัวถึงจะหายไป เหลือแต่เมฆหมอกที่ลอยเร็ว ๆ เหนือยอดไม้
ยังมีผาสุดแผ่นดิน ที่เป็นหน้าผาชันสูง ทำให้เราเห็นทิวทัศน์ที่ราบของลพบุรี (เรายืนบนจังหวัดชัยภูมิ) กว้างขวางออกไป สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม แต่ในหน้าฝนคุณอาจจะพบว่า บางวันมีไอน้ำลอยอยู่ในอากาศมากไปหน่อย หรือบางวันก็เป็นเมฆฝนลอยไปลอยมาอยู่ไกล ๆ ทำให้อาจจะต้องวัดดวงกันซักหน่อย แต่ถ้าแสงมาจะสวยมาก แต่ถ้ามาหน้าหนาว หรือหน้าร้อน ไอน้ำในอากาศน้อย ฟ้าเปิด เราจะเห็นได้ไกล และเคลียร์มากครับ
ดอกกระเจียวจะบานเยอะมากเป็นจุด ๆ ซึ่งก็จะทำเป็นพื้นที่ยืนเข้าไปให้ได้ถ่ายรูปกันก็มี
ลานหินงาม เราสามารถมาชมได้ทุกฤดู แต่ถ้าไม่อยากวัดดวงกับฝน ก็มาหน้าหนาวได้ครับ แต่หน้าฝนอย่างที่ผมมา ก็ไม่ได้เจอฝนเลยยกเว้นตอนกลางคืน แต่ก็นั้นแหละ ใครจะไปรู้ได้ละ
ลานหินหน่อนั้นจะเป็นกองหินอยู่รวม ๆ กันใกล้ ๆ กัน พื้นที่ไม่กว้างนัก มาฤดูไหนก็ได้ และมันยังมีดอกกระเจียวขึ้นรวมกับดอกหญ้าอื่น ๆ ขึ้นแถวนี้ด้วย