เมื่อเอ่ยคำว่า “ตลาดสด” ให้ได้ยิน แน่นอนว่าเลี่ยงไม่ได้ที่จะชวนให้นึกถึงแผงผัก แผงปลา พ่อค้าแม่ขาย หรือเหล่าของใช้จำเป็นต่างๆ อะไรทำนองนั้น แต่คงไม่ใช่กับเรา เพราะวันนี้ถ้าเอ่ยถึงตลาดสดสิ่งแรกที่วิ่งเข้ามาในความคิดเลยคือ รถไฟ นั่นก็มาพร้อมๆ กับความตื่นเต้นที่ดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตลาดสดแห่งนี้ไปเสียแล้ว บางคนอาจสงสัยว่า ขณะเดินจับจ่ายซื้อของในตลาดสดมันจะมีอะไรให้น่าตื่นเต้น ยกเว้นกรณีจำเป็นต้องเดินเฉียดเขียงหมูของอาเฮียที่เคยบาดหมางกันมา หรือดันมีปากเสียงกับเจ้าของแผงทุเรียนก็คงไม่ใช่ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีเรื่องทำนองนี้แน่นอน แล้วถ้ายังไม่เชื่อ ก็ลองไปดูด้วยตาดีกว่าครับกับ “ตลาดร่มหุบ” ตลาดสดกลางเมือง แม่กลอง แห่งนี้ว่าจะเป็นยังไงกันบ้าง

ท่ามกลางบรรยากาศในช่วงกลางวันของตัวเมือง สมุทรสงคราม ไม่ได้ราบเรียบเงียบเหงาแต่อย่างใด โดยเฉพาะตลาดสดแม่กลองที่คึกคักมาตั้งแต่ช่วงเช้ามืด บรรดาแม่บ้านต่างง้วนกับการเลือกสรรวัตถุดิบกลับไปปรุงอาหาร โดยเฉพาะ ปลาทูแม่กลอง ของขึ้นชื่อ ซึ่งหน้าต้องงอ คอหัก ตัวเล็กสั้นเท่านั้นถึงจะเนื้อมันอร่อยถูกใจ โดยพื้นที่นี้มีปลาทูค่อนข้างชุกชุม เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์บริเวณชายฝั่งปากแม่น้ำ นั่นก็รวมถึง ปูไข่ ตัวใหญ่เบิ้มที่นอนอวดกล้ามโตพร้อมหนีบทุกเมื่อ ฉะนั้นเวลาลงมือเลือกปูต้องระวังนิ้วกันหน่อย ส่วน­ของทะเลสดชนิดอื่นๆ ก็มีให้เลือกสรรได้ตามชอบใจ ส่วนเป้าหมายของเราตอนนี้หาใช่การมาเลือกซื้อผักซื้อปูไม่ แต่จะมาเพื่อดูรถไฟที่พอแล่นผ่านตลาดปุ๊บ แม่ค้าก็จะรีบหุบทันที แต่อย่าเพิ่งคิดไปไกล เพราะกิริยาที่ว่าหุบนั้นคือ “หุบร่ม” และ “ผ้าใบ” เพื่อหลีกทางให้รถไฟวิ่งผ่านไปก็เท่านั้น ซึ่งคนถิ่นอื่นหากได้เห็นอาจจะมองว่าเป็นเรื่องแปลก หรืออันตราย แต่นี่แหละคือวิถีของคนถิ่นนี้ ที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างดี ถึงขนาดมีการแซวกันว่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนี้ล้วนสนิทสนมกับรางรถไฟมากกว่า นายหัวรถจักรเสียอีก เพราะบรรดาสินค้าพืชผลที่วางขายจำนวนไม่น้อยได้วางแนบชิดขอบรางมากขนาดนั้น เลยทีเดียว

ในขณะที่เรากำลังยืนรอรถไฟที่จะเข้าสถานีในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าอยู่ นั้น ไม้กั้นทางก็หย่อนตัวลงมาพร้อมกับนายสถานีที่ยืนโบกธงสีเขียวเป็นสัญญาณเปิด ทางให้รถไฟวิ่งผ่าน ส่วนบรรดาร่มและผ้าใบกันแดดของแม่ค้าในตลาดนั้นก็ไล่เรียงหุบลงกันเป็นแถว ดูคล้ายโดมิโน่ล้มลงอย่างไรอย่างนั้น ทางด้านคนค้า คนจับจ่าย รวมถึงนักท่องเที่ยวอย่างเรา ต่างก็ยืนเบียดตัวหลบรถไฟด้วยความตื่นเต้นแบบสุดๆ ถ้าหากคะเนด้วยสายตาแล้วระยะห่างจากที่ยืนถึงรถไฟไม่น่าจะเกินหนึ่งช่วงแขน จนเมื่อรถไฟวิ่งผ่านไปทุกอย่างก็กลับมาสู่สภาพเดิมอีกครั้ง และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อ “ตลาดร่มหุบ” หรือ “ตลาดเสี่ยงตาย” อย่างที่ใครหลายคนกล่าวกันไว้ใครที่อยากได้ประสบการณ์อันแตกต่างก็สามารถมา ลองสัมผัสกันได้ เพราะจะมีรถไฟเข้า-ออกสถานีแม่กลองทุกวันมากถึงวันละ 8 เที่ยว และคนที่ติดอกติดใจเขาก็ไม่ได้สงวนสิทธิ์จำกัดให้ชมเพียงคนละรอบเท่านั้น ขึ้นอยู่ความพอใจจะ 5 รอบ 7 รอบ ก็เชิญได้ตามสบาย

พอตกช่วงบ่ายเราก็มากันที่ “วัดเพชรสมุทร วรวิหาร” หรือเดิมคือ “วัดบ้านแหลม” เพื่อกราบสักการะ ปิดทองสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอย่าง “องค์หลวงพ่อวัดบ้านแหลม” พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เชื่อกันว่าถูกสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ยุคเดียวกันกับ องค์หลวงพ่อโสธร และ หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ อีกทั้งเรื่องราวเล่าขานที่คล้ายกันอย่างหนึ่งก็คือ พระพุทธรูปทั้งสามที่กล่าวมาข้างต้นรวมถึง หลวงพ่อวัดไร่ขิง และ หลวงพ่อวัดเขาตระเครา ทั้ง ห้าองค์นั้น ต่างลอยมาตามลำน้ำก่อนจะอันเชิญขึ้นมาประดิษฐานตามวัดต่างๆ ทั้งนี้วัดเพชรสมุทรก็อยู่ไม่ห่างจากตลาดร่มหุบซักเท่าไหร่ แถมระหว่างทางที่เดินผ่านก็ยังจะพบเห็นบ้านเรือนเก่าได้อีกด้วย ตกเย็นๆ บริเวณนี้ก็ยังมีของอร่อยตั้งร้านเรียงรายมากมาย ทั้งของกินเล่นเรื่อยไปจนถึงของกินจริงจัง ไว้ค่อยบริการนักเที่ยวท่องล่องชิมทั้งหลาย ทั้งหมดที่ได้พบในวันนี้ สามารถยืนยันเป็นอย่างดีว่าเสน่ห์ของเมืองที่มีเพียงสามอำเภอนี้ มีอะไรที่ทำให้ต้องเหลียวหลังกลับมามองและชื่นชมได้ไม่รู้เบื่อเลยจริงๆ 

- เวลารถไฟเข้าสถานีแม่กลอง 08.30 น., 11.10 น.,14.30 น. และ 17.40น. เวลาออก 06.20 น., 09.00 น., 11.30 น. และ 15.30 น.

- ทุกวันเสาร์จะมีกิจกรรมการแสดง และออกร้านขายของที่ระลึกในบริเวณตลาดร่มหุบ

- งานปิดทองหลวงพ่อวัดบ้านแหลมจัดขึ้นปีละ 3 ครั้ง คือ 13 เมษายนของทุกปี ครั้งที่2 ช่วงงานวันสาร์ท เดือน 11 ตามปฏิทินไทย และช่วงเทศกาลตรุษจีน

ที่อยู่ : ถ.เพชรสมุทร อ.เมือง จ.สุทรสงคราม

GPS : 13.407467, 99.998850

เวลาทำการ : เวลารถไฟเข้าสถานีแม่กลอง 08.30 น., 11.10 น.,14.30 น. และ 17.40 น. เวลาออก 06.20 น., 09.00 น., 11.30 น. และ 15.30 น.

ช่วงเวลาแนะนำ : ตามช่วงที่รถไฟเข้าหรือออกสถานีแม่กลอง

ไฮไลท์ : ชมตลาดร่มหุบ ซึ่งรถไฟจะวิ่งผ่านตลาด บรรดาแม่ค้าก็จะหุบร่มหลีกทาง 

กิจกรรม : เที่ยวชมตลาดที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงไหว้พระบ้านแหลม พระคู่เมืองแม่กลอง และซื้อหาของฝาก

ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทาง ถนนพระราม 2 มุ่งหน้ามาเรื่อยมา แล้วเบี่ยงซ้ายขึ้นสะพานยกระดับมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองแม่กลอง โดยใช้ ถนนทางหลวงหมายเลข 325 จากนั้นวิ่งตามเส้นทางหลักไปซักระยะ จนเมื่อเจอป้อมตำรวจขนาดใหญ่ก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนประสิทธิ์พัฒนา วิ่งต่อไปเล็กน้อยพอเจอสี่แยกแล้วให้เลี้ยวขวาเข้า ถนนเพชรสมุทร แล้ววิ่งไปอีกซักระยะก็จะพบสถานีรถไฟแม่กลองทางซ้ายมือ ส่วนตลาดอยู่ทางฝั่งขวาของถนน

ส่วนถ้ามาทางรถไฟ จากกรุงเทพฯ จะต้องเริ่มจากสถานีวงเวียนใหญ่ไปลงที่สถานีมหาชัย จังหวัดสมุทรสาครจากนั้นนั่งเรือข้ามฟากไปฝั่งท่าฉลอม เพื่อขึ้นรถไฟต่อจากสถานีบ้านแหลมไปยังสถานีแม่กลอง (ปลายทาง)ใช้เวลาเดินทางประมาณ1 ชั่วโมงค่าโดยสาร10บาท