สองตลาดน้ำแห่งหัวหิน คู่เหมือนที่แตกต่าง

Posts-1

theTripPacker • November 13 , 2013

สองตลาดน้ำแห่งหัวหิน คู่เหมือนที่แตกต่าง

ถ้าจะบอกว่า ตอนนี้ที่หัวหิน ก็มีตลาดน้ำให้เที่ยวด้วยเหมือนกันแล้วนะ หลายคนก็คงแทบจะไม่อยากเชื่อหูกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะภาพที่เรานึกถึงหัวหินนั้น ก็คงมีแต่ชายหาด ทะเล และท้องฟ้าสีคราม และคงจะไม่มีใครเคยคิดเลยว่าจะมีตลาดน้ำอยู่ที่อำเภอหัวหินกับเค้าด้วย ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของหัวหินอย่างตลาดน้ำที่ว่า ก็เปิดตัวกันในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 แห่ง นั่นก็คือ “ตลาดน้ำหัวหิน” และ “ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม” ที่สำคัญตลาดน้ำทั้ง 2 แห่งนี้ มีสไตล์การตกแต่งที่ต่างกันออกไป ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ตามเราไปเที่ยวกันเลยดีกว่า

Posts-2

theTripPacker • November 13, 2013

Posts-3

theTripPacker • November 13 , 2013

สำหรับที่แรก เราขอเริ่มกันที่ “ตลาดน้ำหัวหิน” ก่อน ซึ่งที่นี่จะโดดเด่นด้วยตัวอาคารสีขาวสะอาดตา ล้อมรอบบึงขนาดใหญ่เอาไว้ ซึ่งอาคารเหล่านี้เป็นอาคารไม้ทรงไทยประยุกต์ที่มีลวดลายไม้ฉลุสวยงาม อาคารแต่ละโซนจะมีชื่อเรียกตามอำเภอในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และถูกเชื่อมต่อกันด้วยสะพานโค้งสูงสีขาวที่มีลายฉลุสวยงาม ส่วนร้านค้าภายในก็มีสินค้าให้เลือกจับจ่ายมากมายหลายประเภท ตั้งแต่ของกินเล่น ขนมนมเนย ของแต่งบ้าน ของที่ระลึก เสื้อผ้า กระเป๋า รวมถึงของฝากอื่นๆ ของหัวหิน นอกจากร้านค้าที่เรียงรายอยู่ตามโซนต่างๆ แล้ว ที่ตลาดน้ำหัวหินนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้เราได้เพลิดเพลิน ทั้งการถีบจักรยานน้ำ นั่งเรือพายให้อาหารปลา ให้อาหารแกะ รวมถึงกิจกรรมประจำของทุกคนอย่างการถ่ายภาพตามมุมต่างๆ ไว้เป็นที่ระลึก ส่วนใครที่เดินเล่นแวะเวียนจับจ่ายสินค้ากันจนเหนื่อยแล้ว จะลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งริมน้ำชิมของอร่อยจากเรือพ่อค้า แม่ค้าที่จอดขายอาหารอยู่ริมตลิ่งก็ดีไม่น้อย หรือจะเดินไปที่ศูนย์อาหารที่อยู่ด้านข้างของตลาดก็ได้เช่นกัน และถ้าหากใครที่ยังไม่หมดแรงไปซะก่อน ก็เชิญตามเรามาเที่ยวต่อกันเลยดีกว่า

Posts-4

theTripPacker • November 13, 2013

Posts-5

theTripPacker • November 13 , 2013

ถัดจากตลาดน้ำหัวหินมาอีกเล็กน้อย เราก็จะมาถึง “ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม” ซึ่งเป็นตลาดน้ำในสไตล์ย้อนยุคเช่นกัน แต่ต่างกันที่บรรยากาศของที่นี่จะคล้ายกับยุครัตนโกสินทร์ ในสมัยของรัชกาลที่ 6 มากกว่า ส่วนใครที่เคยได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ตลาดน้ำอโยธยาแล้ว อาจจะรู้สึกว่าที่ตลาดน้ำหัวหินสามพันนามนี้มีความคล้ายคลึงกันอยู่ไม่น้อย นั่นก็เป็นเพราะว่า ทีมงานสร้างเป็นทีมเดียวกัน ที่ตลาดน้ำหัวหินสามพันนามจะมีการจัดเรียงอาคารไว้ล้อมรอบบึงน้ำขนาดใหญ่ตรงกลางเช่นกัน แต่ไม่มีการเชื่อมต่อแต่ละโซนด้วยสะพานไม้ ดังนั้นเราจะได้เดินเล่นกันเพลินๆ ตามรอบบึงเป็นวงกลม ส่วนที่บึงน้ำตรงกลางนั้นเป็นเวทีการแสดงกลางน้ำ ซึ่งจะมีการแสดงจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ให้ได้ชมกันทุกวัน นอกจากนี้ในบึงน้ำยังมีเรือพายขายสินค้าอีกมากมาย ทั้งของกิน ของที่ระลึก รวมถึงยังมีให้บริการนั่งเรือชมบรรยากาศรอบๆ บึงด้วย ส่วนใครที่อยากจะชมให้รอบๆ ตลาดก่อนจะออกแรงเดินด้วยสองเท้าของตัวเอง ที่นี่ยังมีรถไฟจำลองวิ่งไปรอบๆ ตลาดให้เราได้นั่งเล่นกันเพลินๆ สนนราคาค่าบริการก็เพียงคนละ 20 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ร้านค้าที่มีอยู่กว่า 200 ร้านค้า ก็ยังมีสินค้ามากมายให้เราได้เลือกจับจ่ายกันอย่างสนุกสนาน ทั้งอาหารคาวหวาน ของกินเล่น ขนม เสื้อผ้า โปสเตอร์ ของแต่งบ้าน ของที่ระลึก เครื่องประดับ เครื่องหนัง ฯลฯ เรียกได้ว่ามีมากจนนับกันไม่ไหวเลยทีเดียว

Posts-6

theTripPacker • November 13, 2013

Posts-7

theTripPacker • November 13 , 2013

ส่วนใครที่อยากมาเที่ยวที่ตลาดน้ำทั้ง 2 แห่งนี้บ้าง ก็ลองแวะเวียนกันมาได้ และถึงแม้ว่าตลาดน้ำหัวหิน และตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม จะตั้งอยู่ใกล้กันมากๆ เพราะอยู่ห่างจากกันเพียงแค่ 100 เมตรเท่านั้น ก็อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นที่เดียวกันเสียล่ะ เพราะถ้ามัวแต่เดินเที่ยวอยู่ที่ตลาดแห่งใดแห่งหนึ่งจนเลยเวลา ก็อาจจะทำให้พลาดบางสิ่งที่น่าสนใจจากอีกตลาดไปได้ไม่รู้ด้วยนะ

Posts-8

theTripPacker • November 13 , 2013

Note

- บรรยากาศของตลาดน้ำทั้ง 2 แห่ง มีความแตกต่างกันอยู่มากพอสมควร ซึ่งตลาดน้ำหัวหินจะมีลักษณะแบบไทยประยุกต์ ส่วนตลาดน้ำหัวหินสามพันนามจะมีลักษณะแบบไทยย้อนยุคมากกว่า

- การเดินเที่ยวตลาดน้ำในช่วงกลางวัน จะมีอากาศร้อนมาก แนะนำว่าถ้ามาเที่ยวในช่วงเย็นๆ ที่แดดร่มแล้วจะดีกว่ามาก

- ตลาดน้ำทั้ง 2 แห่งนี้ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 9.00 – 19.00 น. และอาจจะเพิ่มเวลาเปิดให้บริการในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

Posts-9

theTripPacker • November 13, 2013

Editor's Comment

Strong point:
ตลาดน้ำหัวหิน และตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของเมืองหัวหิน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก ซึ่งตลาดทั้ง 2 ได้มีการจำลองบรรยากาศของตลาดน้ำในอดีตด้วยรูปแบบที่ต่างกันออกไป นอกจากนี้ภายในตลาดยังมีร้านค้า สินค้า และกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย

Weak point:
ตลาดน้ำทั้ง 2 แห่ง มีประเภทของสินค้าแทบจะไม่แตกต่างกันเลย สินค้าที่มีวางขายมักจะเป็นร้านคล้ายๆ กัน หรืออาจเป็นร้านเดียวกันกับอีกแห่ง ความแตกต่างของทั้ง 2 แห่งนั้น มีแค่เพียงบรรยากาศ และการตกแต่งสถานที่โดยรอบเท่านั้น นอกจากนี้ ถ้าหากมาเที่ยวในช่วงกลางวัน อากาศจะร้อนมาก อาจทำให้เดินไม่สนุกเท่าไรนัก แนะนำว่าให้มาช่วงเย็นๆ น่าจะดีกว่า

Conclusion:
ตลาดน้ำทั้ง 2 แห่งนี้ จัดเป็นตลาดน้ำที่เป็นการขุดบ่อน้ำ และสร้างเป็นตลาดริมน้ำขึ้นมาเลียนแบบบรรยากาศย้อนยุค ซึ่งไม่ใช่ตลาดน้ำที่มีมาแต่เดิมตามแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงตลาดทั้ง 2 นี้ยังตั้งอยู่ใกล้กันมาก และมีสินค้าที่เกือบจะไม่ต่างกันเลย จุดที่แตกต่างกันก็คงเป็นอาคาร สถานที่ ที่มีการตกแต่งที่แตกต่างกันออกไป ส่วนใครจะชอบบรรยากาศแบบใดมากกว่ากัน คงต้องลองแวะไปเที่ยวชมด้วยตัวเองดูซักครั้ง คงเป็นที่ถูกใจของหลายๆ คนในครอบครัวอย่างแน่นอน

Score