ดอยหลวงเชียงดาว ครั้งหนึ่งในชีวิตเราเคยขึ้นไปพิชิตสวรรค์
ดอยสูงอันดับสามของประเทศ 2,225 เมตร แต่เป็นลานกางเต็นท์สูงที่สุด แค่นั้นก็ท้าทายเพียงพอให้ลองดูสักตั้ง สำหรับคนชอบเที่ยวธรรมชาติครั้งหนึ่งคงต้องขึ้นไปยลความงดงามให้เห็นเป็นบุญตา และหลังจากมองดูท่าทีอยู่พักใหญ่ ปีนี้ในที่สุดผมก็มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติยอดฮิตที่สุดแห่งหนึ่งในบ้านเราเสียที
เข้าใจกันก่อนว่าดอยหลวงเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้เที่ยวตั้งแต่ 1 พ.ย. ถึง 31 มี.ค. เท่านั้น จำกัดให้ค้างแรมด้านบนเพียง 150 คน ต่อวัน ดังนั้นเราจึงต้องจองเสียก่อน ไม่ใช่นึกจะไปก็เดินขึ้นได้เลยนะ เดี๋ยวนี้มีทัวร์ทั้งจากกรุงเทพและท้องถิ่นจัดกันเยอะ แต่ผมไม่ชอบ อยากไปเองมากกว่า ซึ่งวิธีการจริงๆ ง่ายแสนง่าย
โทร 053-456-623 บอกเจ้าหน้าที่ว่าเราอยากขึ้นวันไหน นอนกี่คืน ไปกี่คน ให้รถรับ-ส่งพาขึ้นทางไหนลงทางไหน ลูกหาบกี่คน พอเรียบร้อยค่อยส่งอีเมล์ยืนยันที่ chiangdaows2521@gmail.com เป็นอันเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตามคำว่าง่ายหมายถึงวิธีการ แต่วันที่คุณจะไปมันง่ายด้วยหรือเปล่าก็ไม่แน่ คนเต็มก็เป็นอันจบเห่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ผมเลือกเที่ยวช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน คนยังไม่เยอะ บวกด้วยเป็นวันกลางสัปดาห์ อังคาร พุธ พฤหัส ดังนั้นพอติดต่อเข้าไปที่เขตฯ แค่ครั้งเดียวก่อนการเดินทางประมาณสองสัปดาห์ทุกอย่างก็เรียบร้อย
รายละเอียดของผมคือ สองคืน หกคน ขึ้นทางเด่นหญ้าขัด ลงปางวัว ต้องการรถรับ-ส่ง จากตัวอำเภอเชียงดาว ลูกหาบสองคน (คนละ 20 กิโลกรัม) สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ผมสรุปให้ตอนท้ายครับ
ความจริงตอนจองมีสมาชิกแน่นอนแค่ผมกับเพื่อนอีกคน แล้วค่อยมาหาเพื่อนหารค่ารถค่าลูกหาบเพิ่มทีหลัง เดี๋ยวนี้การหาเพื่อนเที่ยวทางโซเชียลง่ายจะตายไป แป๊บเดียวสมาชิกครบหกคน เที่ยวกับเพื่อนใหม่แบบนี้แหละเจ๋งดี
---------------------------------
(1)
ตัดฉับมาที่วันเดินทาง จุดรวมพลอยู่ที่หมอชิต เราหกคนจองรถทัวร์ กทม.-บ้านท่าตอน 18.30 น. ของ บขส. แจ้งลงที่จุดจอดอำเภอเชียงดาว รถป.1 ราคา 533 บาท หากใครอยากนั่งวีไอพีก็มีนะ ถ้าอยากประหยัดมากๆ นั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่ แล้วค่อยต่อรถโดยสารเชียงใหม่-เชียงดาว ก็ได้ แค่วิธีนั้นจะช้าและมีกระทบกับเวลาขึ้นดอย
ช่วงที่เราไปกรมอุตุฯ ประกาศว่ามีมรสุมเข้า แต่ต้องเดินหน้าต่อครับ วัดดวงลุยไหนลุยกันไม่มีเกี่ยง
ตลอดทางรถฝนตกเป็นระยะแม่นตามคำพยากรณ์ หกโมงครึ่งตอนเช้ารถมาถึงอำเภอเชียงดาว จอดหน้าโรงแรมเชียงดาว อินน์ รถรับ-ส่งของเรามารอเรียบร้อย โยนของขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าสู่ตลาดเพื่อเตรียมเสบียงกันเลย
ของสำคัญที่สุดในการพิชิตเชียงดาวคือน้ำดื่ม เพราะข้างบนไม่มีแหล่งน้ำใดๆ เราซื้อขวดใหญ่ 1.5 ลิตร สี่แพ็ค ขวดเล็กอีกแพ็คสำหรับพกตอนเดินขึ้น รวมถึงของสดสำหรับทำกินกันข้างบนนิดหน่อย
จากนั้นรถพาเราไปที่ที่ทำการเขตฯ เพื่อลงทะเบียน จ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมทั้งมัดจำขยะคนละ 100 บาท ใช้เวลาไม่นานครับ ถ้าหากใครอยากจะเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ ก็จัดการให้เรียบร้อย
เราจะมาเจอกับลูกหาบที่นี่ หนึ่งคนแบก 20 กิโลกรัม คิด 450 บาท ต่อคนต่อวัน นับว่าลูกหาบที่นี่แบกค่อนข้างน้อยนะ น้ำหนึ่งแพ็คก็ปาเข้าไป 9 กิโลกรัม หนึ่งคนแบกน้ำสองแพ็คก็แทบหมดโควต้า ผมเลยต่อรองขอเขาเพิ่มเป็น 25 กิโลกรัม เน้นอาหารเป็นหลักเพราะไม่ต้องแบกลง แล้วจ่ายส่วนเกินกิโลกรัมละ 40 บาท เป็นอันตกลงวินวินทั้งคู่
สำหรับห้องน้ำที่ดอยหลวงเชียงดาว รู้กันอยู่ว่าเป็นส้วมหลุม เจ้าหน้าที่กางผ้าบังตาเหมือนห้องน้ำฉุกเฉินให้ใช้สำหรับเหตุจำเป็น สิ่งที่เราต้องพกมาด้วยก็พวกกระดาษชำระเปียกทำสำหรับทำความสะอาดอะไรประมาณนั้น
เพราะฟ้าปิดหมอกขาวทั้งดอย เราเลยไม่ต้องไปไหนต่อ ล้อมวงทำกับข้าวร่วมกัน มีจานหลักเป็นอาหารซองสำเร็จรูป ไข่ต้ม ผัดผัก ช่วงนี้น่าจะเป็นไฮไลท์ของการแคมปิ้งล่ะครับ เป็นอะไรซึ่งเฮฮาเหลือเกิน จากหลายคนไม่เคยรู้จักกันกลายมาเป็นมิตรสหายเพราะกินข้าวกลางป่าด้วยกันแบบนี้แหละนะ
---------------------------------
(2)
ฝนตกหนักตลอดทั้งคืนเหมือนที่กรมอุตุฯ ว่าไว้ ความหวังจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเหือดหาย โผล่ออกมาจากเต็นท์ตอนเช้าหมอกก็ขาวโพลนไปทั่วพื้นที่
สิบเอ็ดโมงเราลงจากกิ่วลมเหนือไปทางกิ่วลมใต้บ้าง ขึ้นมาถึงปรากฎว่าฟ้าปิดเสียอย่างนั้น เลยเปลี่ยนใจไปกินข้าวกันดีกว่าเพราะท้องเริ่มร้อง เดินป่าปีนเขาอย่างนี้ใช้พลังงานเยอะเหลือเกิน
เรากำลังพักผ่อนเรื่อยเปื่อยอยู่ที่เต็นท์ตอนที่ฝนตกกระหน่ำอีกรอบประมาณครึ่งชั่วโมง ทว่าหลังจากฝนหยุดอากาศเริ่มมีเค้าลางว่าจะดีขึ้น เจ้าหน้าที่บอกว่าดูจากท้องฟ้าแล้วช่วงเย็นๆ ฟ้าคงเปิดให้เห็นอะไรดีๆ ได้ยินแบบนั้นกำลังใจเรามากขึ้นเยอะ พอนาฬิกากระดิกถึงบ่ายสามโมง เราตัดสินใจกันว่าควรเดินขึ้นยอดดอยได้แล้วล่ะ
ช่วงก่อนเดินขึ้นหมอกยังปกคลุมไม่เห็นยอด แต่พอขึ้นมาเรื่อยๆ ก็มีแววดีอย่างที่เจ้าหน้าที่บอก อากาศเริ่มเปิด บรรยากาศสดชื่นสวยงามมาก ถ่ายรูปกันเพลิน
เราใช้เวลาเสพภาพดื่มด่ำอยู่อย่างนั้นชนิดสุขกันสุดๆ พร้อมความหวังว่าพระอาทิตย์คงตกสวยแน่นอน แต่ขณะที่พระอาทิตย์ใกล้ลับ กลับปรากฎมวลหมอกขาวมหาศาลพัดมาเต็มที่ปิดแสงสีทองของเราเสียอย่างนั้น แต่หากถามว่าเสียดายไหม ผมบอกเลยว่าไม่ สิ่งที่ได้เห็นมาในวันนี้มันเกินพรรณาแล้วล่ะ
คืนนั้นฝนยังคงตกๆ หยุดๆ เราตื่นเช้ามาโดยมีหมอกขาวห่มคลุมสดชื่นดีไม่น้อย กินข้าวมื้อสุดท้ายพร้อมทำเสบียงไว้กินกลางทางมื้อเที่ยง เก็บข้าวของ เก็บขยะ อะไรที่เราเอามาก็ต้องเอาลงไปด้วย
ขาลงเร็วแต่ลื่น วัดพื้นกันคนละสองสามครั้งตามระเบียบ และเมื่อมาถึงทางลงทางปางวัวที่เขาว่าปราบเซียนหนักหนาก็เป็นไปอย่างยากลำบาก ฝนตกหนักหลายวันทำให้ทางเละเทะเหมือนเดินลุยสไลเดอร์ปลักโคลนยังไงยังงั้น ถึงขนาดผมต้องเก็บกล้องใส่กระเป๋ามิดชิดไม่ได้หยิบออกมาถ่ายสักรูป ยากขนาดนั้นล่ะนะคิดเอาแล้วกัน (ฮา...)
กว่าจะลงมาถึงที่จอดรถทางปางวัวก็ประมาณบ่ายโมงครึ่ง รถมารอรับเราไปที่ทำการเขตฯ อาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะไปส่งหน้าโรงแรมเชียงดาว อินน์ เป็นอันจบภารกิจทริปนี้
ผมนั่งยิ้มเปิดดูรูปบนยอดดอยหลวงเชียงดาววนอยู่หลายเที่ยวตอนนั่งรถเข้ากรุง คิดไม่ตกจริงๆ ว่าจะหาคำใดมาบรรยายความงามซึ่งเราพบเห็น คำว่าสวยมาก งดงามมาก สวยจริงๆ สวยที่สุด มันยังเล่าความรู้สึกได้เพียงแค่เสี้ยวเดียว เหมือนภาพถ่ายที่ดูยังไงก็สวยไม่ได้ครึ่งของภาพจริง
และผมแอบเผลอถามตัวเองขึ้นมาว่า “นี่เราขึ้นไปเที่ยวสวรรค์มาใช่ไหม”
----------------------------------------------
ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวดอยหลวงเชียงดาว
(ไม่รวมค่าเดินทางจาก กทม. และค่าอาหารต่างๆ)
ค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยว 20 บาท ต่อคน
ค่าธรรมเนียมยานพาหนะ 50 บาท ต่อคัน
ค่าธรรมเนียมกางเต็นท์ 30 บาท ต่อหลัง ต่อคืน
ค่าลูกหาบ (20 กิโลกรัม) 450 บาท ต่อคน ต่อวัน (นับจากวันขึ้นถึงลง)
ค่ารถ เขตฯ-เด่นหญ้าขัด 1,200 บาท ต่อเที่ยว
ค่ารถ เขตฯ-ปางวัว 600 บาท ต่อเทียว
ค่ารถ เขตฯ-ตลาดเชียงดาว 100 บาท ต่อทริปไป-กลับ
* ค่ามัดจำขยะ 100 บาท ต่อคน รับเงินคืนเมื่อนำขยะลงมาข้างล่าง
ทริปของเราหกคน หารเฉลี่ยรวมค่าอาหาร แต่ไม่รวมค่ารถทัวร์ คนละประมาณ 1,300 บาท
----------------------------------------------
ใครอยากคุยกับผมเรื่อยเปื่อยเรื่องท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล (ถ้าผมมีให้นะ) หรือชวนเที่ยว ยินดียิ่งนะครับ
www.facebook.com/alifeatraveller
----------------------------------------------