Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
ดอยภูแว | เส้นทางแห่งความภาคภูมิใจ จ.น่าน (ทริป 2 วัน 1 คืน) ดอยภูแว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา (Doi Phu Wae Doi Phu Kha National Park) จ.น่าน
    • Posts-1
    Namee •  November 22 , 2019

    ข้าคือ... ผู้พิชิตดอยภูแว

    ดอยภูแว | ถ้าไม่แคร์ไม่ต้องมาแลกัน 
    ทริป 2 วัน 1 คืน | 9-10 พฤศจิกายน 2562


    ทริปเที่ยวดอยภูแว จ.น่าน เป็นการเที่ยวป่าแบบจอยทริปหารเฉลี่ยนะคะ
    เป็นครั้งแรกในรอบปีกับการได้มีโอกาสมาสัมผัสอากาศหนาวโซนภาคเหนือ

     

    "ดอยภูแว" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ยอดดอยมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,837 เมตร ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 4 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการเดินของแต่ละคน) และ ณ จุดพักแคปม์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,743 เมตร (ความสูงที่ได้วัดจากนากา)

    ณ ยอดดอยภูแว

     

    ***การเดินทาง***

    การเดินทางโดยรถยนต์ ตามเส้นทาง ปัว-บ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ 
    >> จากตัวเมืองน่านใช้ทางหลวงหมายเลข 1080 (ไปอำเภอปัว) ระยะทาง 35 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวา ใช้ทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว – บ่อเกลือ – เฉลิมพระเกียรติ) ถึงกิโลเมตรที่ 24 – 25 เลี้ยวซ้ายเข้าที่ทำการอุทยานฯ รวมระยะทางจากตัวเมืองน่าน 60 กิโลเมตร
    >> จากที่ทำการอุทยานฯ ไปถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 9 (บ้านด่าน) ระยะทาง 63 กิโลเมตร และเดินเท้าขึ้นยอดดอยประมาณ 6 กิโลเมตร
    >> จุดเริ่มออกเดินเท้าระดับความสูงอยู่ที่ประมาณ 700 เมตร เดินเท้าขึ้นจุดพักแคมป์ที่ระดับความสูงประมาณ 1,743 เมตร

    หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 9 (บ้านด่าน)

     

    หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยภูคาที่ 9 (บ้านด่าน)

    - เป็นจุดรวมตัวและจุดลงทะเบียนสำหรับนักท่องเที่ยวก่อนขึ้นพิชิตดอยภูแว (ก่อนมาถึงหน่วยฯ นักท่องเที่ยวต้องติดต่อกับทางอุทยานแห่งชาติดอยภูคาเพื่อจ่ายค่าเข้าอุทยานฯ ก่อนมาถึงหน่วยฯ)
    - มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ประมาณ 2 ท่าน (การเดินเท้าต้องมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทางเราขึ้นจุดพักแคมป์เท่านั้น)
    - หน่วยฯ มีห้องน้ำให้บริการอยู่ 3 ห้อง ด้านนอก และด้านในอาคาร 1 ห้อง
     

    ***สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม***
    อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
    โทรศัพท์ : 054-701000, 054-731362, 08-2194-1349
    อีเมลล์ : phukha_np@hotmail.com

     

    9 พฤศจิกายน 2562 | ออกเดินเท้าพิชิตดอยภูแว

    >> ทริปนี้เป็นทริปที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่ขึ้นดอยภูแว รวม 13 คน คือพวกเรานั้นเองจำนวน 10 คน + เจ้าหน้าที่นำทาง 1 คน และลูกหาบ 2 คน อารมณ์เหมือนได้เที่ยวแบบ private มาก ด้วยระยะทางจาก อ.ปัว มาแวะอุทยานฯ และไปยังหน่วยฯ ใช้เวลาหลายชั่วโมง และเส้นทางค่อนข้างขึ้นเขา ลงเขา ทางโค้ง ทางชัน มีหมด ทำให้การออกเดินเท้าปาไป 11 โมงกว่าเกือบจะเที่ยง (ถ้ามาถึงบ่ายเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้ขึ้นยอด) เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เริ่มออกเดินเท้า Go Go!

    ณ จุดเริ่มออกเดินเท้า

     

     

      >> จุดชมวิวแรกที่จะได้เห็นหลังจากเดินเท้าเข้าเส้นถนนของหมู่บ้าน และวิวนี้เองบอกให้รู้ว่าใกล้จะถึงหมู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกให้พวกเราแวะพักกินข้าวที่หมู่บ้านนี้

    เป็นช่วงเวลาเที่ยงกว่าๆ อากาศค่อนข้างร้อนมากแต่วิวดี

     

    >> เส้นทางผ่านเพื่อเดินเข้าหมู่บ้านปู่ดู่ ระหว่างเส้นทางจะพบกับหมู่บ้านและวิถีความเป็นอยู่ของคนที่นั้น

     

    >> เราแวะกินข้าวกันเกือบจะบ่ายละที่หมู่บ้านก่อนออกเดินเท้าต่อ อาหารกลางวันคือเราเตรียมกันมาเอง และจำเป็นต้องขึ้นมากินข้าวบนยุ้งเก็บข้าวโพดของชาวบ้าน เพราะที่หมู่บ้านสุนัขเยอะมากๆ เห็นแล้วสงสารแต่ก็สงสารตัวเองด้วยเช่นกันเลยขอกินก่อนเหลือเด๋วแบ่งให้

     

    >> เส้นทางออกจากหมู่บ้าน ณ จุดๆ นี้ จะเริ่มเดินผ่านทุ่งข้าวโพดบนสันเขา และเทือกเขา เดินจนเจอป้ายบอกทางขึ้นยอด นั้นละได้ครึ่งทางที่เดินผ่านมา

    จุดพักครึ่งทางก่อนเริ่มเดินขึ้นเขาอย่างจริงจัง

     

    >> หลังจากหมดเส้นทางทุ่งข้าวโพด ความโหดก็มาเลยค่ะ เดินไต่ระดับความชันบนสันเขาขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดพักแคมป์ 

    เดินมาระหว่างทางก็เจอกับลูกหาบของเรากำลังนั่งพักอยู่พอดี

     

    >> ระหว่างเดินเท้าจะพบกับ "ต้นปรงป่า" จุดไฮไลท์เลยค่ะ ต้องถ่ายรูปคู่ด้วยนะ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงงงงง

     

    >> ณ จุดพักแคมป์ จากระดับความสูงที่วัดได้คือ 1,734 ก็นั่งรอลูกหาบกันไป หลังจากกางเต็นท์เสร็จพวกเราขึ้นยอดเพื่อไปชมพระอาทิตย์ตกกันตอน 5 โมงกว่าๆ อากาศเย็นสบายๆ ไม่หนาวเลย แต่ช่วงกลางคืนคือน้ำค้างแรงมาก!

     

    >> ประมาณ 5 โมงเย็นกว่าๆ เลย ก็ขึ้นยอดชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน จากจุดพักแคมป์ถึงยอดดอย ระยะทางประมาณ 100 กว่าเมตรได้ ใช้เวลาในการเดินเท้าไม่ถึง 20 นาที และเส้นทางขึ้นไม่โหดร้าย เดี๋ยวมาดูกันว่าวิวตอนเย็นระหว่างเส้นขึ้นยอดจะเป็นเช่นไร

    มุมสูงครึ่งทางมองไปยังจุดพักแคมป์

     

     

    >> มั่วแต่สะดุดตากับวิวระหว่างทาง ขึ้นไม่ถึงยอดสักที เพราะอาทิตย์ตกดินซะงั้น เลยรวบยอดพรุ่งนี้เลย

    ยังถือว่าโชคดีที่ฟ้าไม่ปิด ทำให้เราได้มีโอกาสเห็นพระอาทิตย์ตกดิน

     

    >> ขอปิดท้ายของวันด้วยอาหารมื้อเย็นด้วยยำกระทะ กับ ชาบูหม้อไฟ บนยอดดอย

    • Posts-2
    Namee •  November 23 , 2019

    วิวเช้า ณ ยอดดอยภูแว

    10 พฤศจิกายน 2562 | ข้าคือผู้พิชิตยอดดอยภูแว


    ***ลักษณะยอดดอย*** 
    >> เป็นทือกเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อนโดยมีพื้นที่ราบอยู่รอบ บนยอดเป็นทุ่งหญ้าปกคลุมภูเขา และมีหินผาอยู่ตามบริเวณรอบๆ ทั่วเขา ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่
    >> บนยอดดอยมีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดช่วงฤดูหนาว ส่วนในฤดูฝนอากาศค่อนข้างชุ่มชื้น และลมค่อนข้างแรงในช่วงฤดูร้อน

     

    ***จุดชมวิวบนยอดดอย*** 
    >> จากจุดพักแคมป์เดินเท้าขึ้นยอดประมาณ 100 เมตร เส้นทางเดินขึ้นยอด เดินง่าย ใช้เวลาในการเดินขึ้นไม่นาน โดยบนยอดสามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา ถ้าดวงดีอาจได้เจอทะเลหมอก ความสวยงามบอกได้เลยว่ามาเต็ม 100
    >> บนยอดดอยสามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกดินได้ในบริเวณเดียวกัน

     

    >> ด้วยความสูงบนยอดดอย และระยะทางขึ้นยอดไม่ได้ไกลกันมาก สามารถขึ้น 6 โมงเช้าเพื่อขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอยได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ

    "สุดยอด" แล้วนะ

     

    >> เราเริ่มออกเดินเท้ามุ่งหน้ากลับหน่วยฯ ตอน 8 โมงครึ่ง ถึงหน่วยฯ ตอน 10 โมงกว่าๆ

    เมนูข้าวต้ม ง่ายๆ สบายกระเพาะ

     

    พร้อมมากในการเดินเท้ากลับหน่วยฯ

     

     

    >> ขากลับมีโอกาสได้ผ่านดงข้าวโพดอีกรอบ อารมณ์ถ่ายภาพก็มาเลย และเมื่อมีโอกาสได้ผ่านหมู่บ้านรอบนี้ร้านค้าเปิดดีใจกันเหมือนถูกหวยก็แวะซื้อน้ำมากินกันคนละขวด ขวดละ 15 บาท แก้กระหายได้เยอะเลย สำหรับใครที่ไปพิชิตดอยภูแว อย่าลืมแวะอุดหนุนร้านค้าของชาวบ้านกันนะคะ 

    ดอกไม้ในหมู่บ้าน

     

    ***ทริปหารเฉลี่ย ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าธรรมเนียม แบบมีสต๊าฟดูแล***
    ***รายละเอียดทริป***

    - มีลูกหาบส่วนกลางแบกของส่วนกลาง 
    - บางทริปไม่มีลูกหาบส่วนกลาง ต้องช่วยกันแบกของส่วนกันกันเอง
    - ไม่มีเต็นท์ ต้องใช้เต็นท์หรือเปล ส่วนตัว (ใครไม่แบกเต็นท์เอง เสียค่าแบกให้ลูกหาบส่วนกลางได้)
    - มีอาหารให้ 2 มื้อ (มื้ออื่นๆ เตรียมเอง หากินกันเอง)
    - ไม่มีประกันการเดินทาง (ควรทำทุกครั้งที่คิดจะออกเดินทางนะจ๊ะ)
    หมายเหตุ : ทริปหารเฉลี่ยเป็นทริปแบบ 50/50 คือ ต้องสามารถตัวแลตัวเองได้ แต่ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลง แล้วแต่คนชอบนะจ๊ะ

     

    ***สิ่งของที่ต้องเตรียม / สิ่งที่ควรทราบก่อนเดินทาง***
    1. อุปกรณ์ สำหรับทานอาหาร เช่น กล่องข้าว จาน ชาม แก้วน้ำ ช้อน (นำไปเอง)
    2. อุปกรณ์ สำหรับการนอน ถุงนอน หมอนลม ผ้าพลาสติก (กราวน์ชีท ) สำหรับปูรองนอน เบาะรองนอน ( เต็นท์ หรือ เปล ที่นำไปเอง ) (อุทยานฯ ไม่มีให้เช่า)
    3. อุปกรณ์ สำหรับกันสัตว์ ทาก แมลง เช่น ถุงกันทาก สเปย์ฉีกกันแมลง
    4. ยาสำหรับใช้ส่วนตัว
    5. อุปกรณ์ อื่นๆ เช่น รองเท้าแตะ ไฟฉาย ทิชชู
    6. มีน้ำดื่มให้ 2 ขวด (แบกเองนะ เตรียมให้พอบนยอดไม่มีแหล่งน้ำ) ถ้าคิดว่าไม่พอซื้อเพิ่มไปจร้า
    7. บนยอดไม่มีห้องน้ำ ไม่มีที่อาบน้ำ (ถ้าอยากน้ำอาบแนะนำอาบน้ำค้าง ที่นั้นน้ำค้างแรงมาก)
    8. การตั้งแคมป์สมาชิกต้อง... กางเต็นท์ด้วยตัวเอง และช่วยกันเก็บบริเวณที่พัก
    9. สมาชิกต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย เพราะสต๊าฟเขาจะช่วยดูแลความสะดวกให้พอประมาณจร้า  
    10. ข้อสุดท้ายสิ่งนี้สำคัญ... เตรียมขาให้แข็งแรง มีแค่ใจแต่ถ้าขาไม่ไหวก็อาจไปไม่ถึงหรือต้องใช้เวลาในการเดินนานเลยนะคะ คิดจะเที่ยวป่าขาต้องไหวใจต้องสู้จร้า!

     

    ***ค่าใช้จ่ายต่อทริป 2,500 บาท/คน***
    **รวมค่าบริการของอทุยานฯ

    - ค่าธรรมเนียมในการเข้าเขตอุทยานฯ
    - ค่าธรรมเนียมยานพาหนะที่เข้าจอดในอุทยานฯ
    - ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง
    - ค่าลูกหาบส่วนกลาง

    **ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (สำหรับคนที่ขี้เกียจ)
    - ค่าลูกหาบ วันละ 600 บาท เหมา 2 วัน 1,200 บาท/คน (แบกได้ไม่เกิน 20 โล) สำหรับคนที่ไม่อยากแบกเป้เอง
    - ค่าจ้างแบกเต็นท์ 200 บาท (ไป-กลับ) สำหรับคนที่ขี้เกียจแบกเอง
     

    By : Namee Be Bear

    #เที่ยวให้มีความสุขและสนุกกับสิ่งที่ทำ #เมื่อไรที่เริ่มออกเดินเมื่อนั้นเราก็จะเริ่มเหนื่อย!

    ขออภัยหากมีข้อมูลส่วนใดผิดพลาดไป
    Fanpage : www.facebook.com/KanXengStudio