Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
ปล่อยไปตามหัวใจ...ณ 'ดอยทูเล' ดอยทูเล (Doi Tu Lay) จ.ตาก
    • Posts-1
    Nardumar •  December 29 , 2014

    ปล่อยไปตามหัวใจ...ณ 'ดอยทูเล'

    การท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะภูเขาสูง 
    มันมาจากความหวัง ความตั้งใจที่จะมีโอกาสได้เห็น ได้มองพระอาทิตย์ขึ้นจากทุกๆสถานที่ในโลกใบนี้
    ชีวิตนี้เกิดมาโชคดีอย่างนึงค่ะที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และหนึ่งในนั้นก็คือ...การออกเดินทาง 

    มีความสุขมากๆค่ะ ยังขอบคุณ 'เขาใหญ่' (หัดเดินป่าครั้งแรก เมื่อ 12 ปีที่แล้ว) มาจนถึงทุกวันนี้
    ที่ฝึกทำให้ปีกกล้าขาแข็งขึ้น กล้าที่จะออกเดินทาง กล้าเสี่ยง และกล้าที่จะใช้ชีวิตตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ 

    แต่ความฝันในการเดินทางก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอกนะคะ 
    ยังอยากเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาด้วยความเหนื่อยเพื่อวันนึงจะได้เดินทางไปในทุกที่ที่อยากไป...
    แล้วตะโกนเสียงดังๆว่า "ฉันมาถึงแล้วนะ” 

    จนถึงตอนนี้ อายุ 28 ปี ย่าง 29 สะสมความฝัน ความทรงจำในการเดินทางได้พอสมควร 
    ถึงจะไม่เยอะมากถ้าเทียบกับอีกหลายๆท่านในนี้..แต่คุณภาพแน่น 
    ตั้งใจว่าภายในอายุ 35 ปี อยากไปจะไป check in บนยอดเขาให้ครบทุกยอดในเมืองไทย 
    แค่นี้ก็นอนตายตาหลับแล้วจริงๆ 

    การเดินทางของความฝันก็ยังคงมีมาเรื่อยๆและจะยังคงมีต่อๆไป
    ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะมีสักวันหรือวินาทีเดียวที่จะสามารถใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีความฝันล่อเลี้ยงหัวใจได้ 
    ...เพราะอะไรน่ะเหรอ?

    เพราะ...

    ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งในโลกใบนี้ที่อยากไปเยือน 
    ยังมีอีกหลายคนในโลกนี้ที่อยากเจอ
    ยังมีอีกหลายความฝันที่อยากทำให้สำเร็จ
    ยังมีอีกหลายคนที่อยากสร้างแรงบันดาลใจให้
    และยังมีอีกหลายชีวิตที่อยากดูแล

    ถ้าพร้อมแล้ว..
    เดินทางไป... 'ผจญภัย'...ด้วยกันนะคะ ^^

    _____________________________________________________________________________________


    ดอยทูเล อยู่ในพื้นที่ ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก  บุกเบิกและดูแลด้านการท่องเที่ยวโดย อบต.ท่าสองยาง
    ชาวปกาเกอะญอ เรียกภูเขาลูกนี้ว่า "ทูเลโค๊ะ" ซึ่งมีความหมายถึง ภูเขาสีทอง   
    ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมง
    ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเดินทาง คือ เดือน พ.ย.-ม.ค. ของทุกปี
    ____________________________________________________
    เรานั่งรถทัวร์กรุงเทพฯ - แม่สอด ของบริษัท บขส. เที่ยวเวลา 20.20 น.
    มาถึงที่ บขส. แม่สอด ประมาณเกือบๆตีห้า 
    ก่อนที่จะมาถึงแม่สอด จะมีด่านตรวจประมาณ  2 ด่าน 
    (หากใครจะไป โปรดเตรียมบัตรประชาชนไว้ด้วยนะคะ ^^)

    จากหลังจากนั้น เราก็ต่อรถสองแถว(คันสีส้ม) 
    สายแม่สอด-แม่สะเรียงจาก บขส. แม่สอด ไปยัง อบต. ท่าสองยาง
    เที่ยวแรก เวลาหกโมงเช้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
    (อันนี้ต้องขอบอกนิดนึงค่ะ ว่า อบต.ท่าสองยาง 
    จะอยู่ห่างจากตัวอำเภอท่าสองยางไปอีกประมาณ 60 กม. เราต้องนั่งรถสองแถวไปลงที่ อบต.ค่ะ)

    _____________________________________________________________________________________


    รักความรู้สึกนี้ที่สุด..การนั่งรอลุ้นว่ารถจะเป็นยังไง? การไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นแบบไหน? 
    การไม่รู้ว่าสองเท้าเราจะก้าวไปเจออะไรบ้าง?
    4 ชั่วโมง 20 นาที กับรถสองแถวกระป๋องสีส้มคันนี้ สายแม่สอด-แม่สะเรียง เที่ยวแรกเวลาหกโมงเช้า 
    บอกเลยว่านั่งนานสุดๆ ทุลักทุเลสุดๆ จอดรับ จอดส่งตลอดเวลา 
    ผู้คนมากหน้าหลายตา ที่ต่างคุยกันตลอดทาง แต่เราฟังไม่ออกสักคำ...ได้แต่นั่งยิ้มให้อย่างเดียว

    เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก..มันตื่นเต้นมากๆ ทำให้ได้เห็นในอีกวิถีชีวิตหนึ่ง 
    ท่ามกลางความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ แต่ผู้คนที่นี่กลับอยู่ร่วมกันอย่างสงบ..เราต่างสื่อสารกันด้วยรอยยิ้ม..

    ....จริงๆแล้วเคล็ดลับความสุขคืออะไร? 

    ....อยู่ที่สถานที่? หรือ อยู่ที่ใจกันแน่นะ? _____________________________________________________________________________________

    หลังจากติดต่อ ศึกษารายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ อบต. ท่าสองยาง เสร็จเรียบร้อย  
    ก็นั่งรถต่อมาที่บ้านแม่จวาง ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง  

    เป็นจุดเริ่มต้นการเดินขึ้น…”ม่อนทูเล”
    เราเริ่มเดินเวลาประมาณ 10.40 น. ของวันที่ 5 ธันวาคม 2557

    ภาพเบื้องหน้าภาพแรกที่เราได้สัมผัส คือ...ภาพนี้ ^^


    _____________________________________________________________________________________

    ด่านที่ 2 อาจจะเรียกว่า ด่านทรงตัว
    ถ้ายังเบลอๆจากการนั่งรถอยู่ล่ะก็..อาจจะก้าวพลาดก็ได้นะคะ ^^


    _____________________________________________________________________________________

    ระหว่างทาง...ที่ไร้สัญญาณโทรศัพท์ ไร้อินเตอร์เนต
    สุดท้ายแล้ว อินเตอร์เนตมันกลับสำคัญน้อยลง เมื่อได้ออกไปท่องเที่ยว...
    แค่เราลอง...."ออกจากระบบ"...เราอาจจะได้เห็นรายละเอียดของโลกใบนี้ได้มากขึ้น
    _____________________________________________________________________________________

    ประมาณครึ่งทาง จะพบลำธารเล็กๆ ไหลผ่าน
    น้ำเย็น ใสสะอาด สามารถใช้ดื่มได้ เราขอนั่งพักตรงนี้ก่อนที่จะเดินขึ้นสันเขา เพราะขาเริ่มล้า...

    _____________________________________________________________________________________

    ไม่สำคัญหรอกว่าจะไปถึงจุดหมายหรือเปล่า 
    สำคัญที่ก้าวแรกต่างหาก
    เราคงจำก้าวแรกที่เดินไม่ได้..เพราะยังเด็กเกินไป 
    แต่ก้าวแรกที่เดินตามความฝัน เชื่อว่า..'คงไม่มีทางลืม'

    ...‪‎สันเขาเบื้องหน้าคือเส้นทางที่เราต้องเดินฝ่าแดด‬ ฝ่าฝนต่อไป..

    คงเป็นแบบนี้เองสินะ..ที่เค้าพูดกันว่า "เส้นทางไปสวรรค์...มันมักจะยากลำบากเสมอ"
    _______________________________________________________

    Ps. เดินมาทันอีกกลุ่ม ได้พูดคุยทักทายทำความรู้จักกันเล็กน้อย
    ก่อนที่จะชวนกันปีนขึ้นต่อ...
    เราได้มิตรภาพใหม่จากที่นี่..ได้ช่วยดึงกันขึ้น พยุงกัน ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
    มันเป็นความบังเอิญที่ไม่บังเอิญจริงๆนะ...(ขอแอบถ่ายหน่อยนะคะ ^^)

    _____________________________________________________________________________________

    พอพ้นการปีนป่ายในด่านสุดท้ายที่เป็นการพิสูจน์ว่า..
    พื้นรองเท้าของใครที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด..
    เดินฝ่าพงหญ้ามาอีกไม่ไกล..ก็จะเจอกับลำธาร..

    มาถึงตรงนี้...นั่นคือสัญญาณว่า...พอก้าวข้ามสายธารนี้ไป..สวรรค์กำลังจะอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ^^

    _____________________________________________________________________________________

    และแล้ว....

    คุณเมฆมาต้อนรับก่อนคนแรกเลย...
    แต่มาแป๊บเดียวนะคะ...แล้วคุณเมฆก็รีบจากไป...สงสัยจะมีธุระ..^^

    _____________________________________________________________________________________

    เวลา 24 ชั่วโมงใน 1 วัน เวลา 7 วันใน 1 สัปดาห์ 
    เวลา 52 สัปดาห์ใน 1 ปี ทุกคนมีอย่างเท่าเทียมกัน 
    เวลาทำหน้าที่ไปเรื่อยๆไม่เคยหยุด เข็มนาฬิกายังคงวิ่งวนไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย..
    แต่เราสามารถหยุดเวลาของเราเองได้โดยการดึงถ่านที่ใส่นาฬิกาก้อนนั้นออก
    เวลาของเราหยุดอยู่กับที่แล้ว...

    -ชั่วโมงต้องมนต์ เหมือนโดนมนต์สะกดจริงๆค่ะ-

    _____________________________________________________________________________________

    แรงผลักดันบางอย่างทำให้ต้องเดินทางตะลอนๆไปในสถานที่ใหม่ๆทุกครั้งที่มีโอกาส
    ...สถานที่ที่แค่เคยเห็นในหนังสือ หรือเพียงอ่านรีวิวของคนอื่น 
    ลองออกไปลองสัมผัส ไปเห็นด้วยตาตัวเองดีไหม?

    _____________________________________________________________________________________

    เคล็ดลับของการเดินทางที่มีความสุขแบบเรา คือ ความช้าค่ะ..

    ช้าในการสัมผัส ค่อยๆละเลียด ใส่ใจรายละเอียด นั่งมอง นั่งสูดอากาศ 
    นั่งใช้ชีวิตกับปัจจุบันขณะข้างหน้า ใครจะไปรู้ว่าหลังจากนี้จะมีโอกาสได้กลับมาที่นี่อีกหรือเปล่า 
    เพราะฉะนั้นมันอาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน 

    ชีวิตก็แค่นั้น! 

    การเดินทางบ่อยๆ จะสอนให้เราอยู่กับปัจจุบันให้เป็นมากขึ้น 
    เพราะทุกสถานที่ที่ได้ไปเยือน อาจจะไม่มีรอบสอง 
    อาจจะไม่มีวันได้กลับไปเยือนหรือกลับไปสัมผัสมันอีก พลาดแล้วอาจคือพลาดเลย 

    คิดว่าจริงไหมคะ?

    _____________________________________________________________________________________

    ‪‎ทุกสถานที่‬...ที่ไปด้วยแรงบันดาลใจ
    มักจะให้ความสุขและความทรงจำที่หอมหวาน..
    ‪‎แปลกดีนะ‬...แม้จะแบกกระเป๋าเดินทางจะหนักแค่ไหน...
    แต่มันกลับรู้สึกเบาสบายกว่าการแบกกระเป๋าโน๊ตบุ๊คเพียง 1 เครื่องเป็นร้อยเท่าพันเท่า..

    ....‎เพราะการเดินทางคือชีวิต‬ และชีวิตคือการเดินทาง...^^

    _____________________________________________________________________________________

    อ้อ..ลืมบอกไปค่ะ
    เราถึงที่ตั้งแคมป์เวลาประมาณ 16.30 น.
    เราตั้งแคมป์ข้างๆลำธาร
    ______________________________________________
    Ps. ที่นอนเราอันเล็กๆ ซ้ายมือสุด (นอนคนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ)
    ส่วนที่เหลือ เค้ามากันเป็นกรุ๊ปค่ะ...แอบเนียนไปตั้งเต๊นท์ใกล้ๆเค้า..เผื่อมีอะไรจะได้มีคนมาช่วยทัน ^^

    _____________________________________________________________________________________

    พระอาทิตย์ดวงเดียวกัน...แต่เมื่อมองคนละสถานที่ 
    ความสวยงามย่อมไม่เหมือนกัน..
    และจะสวยมากสวยน้อย...ก็อยู่ที่ว่า..ณ ตอนนั้น...เรานั่งอยู่ข้างๆใคร
    _________________________________________________
    Ps. แอบอิจฉาคนไปเป็นคู่ๆ แต่มองแล้วก็รู้สึกดีค่ะ..ชอบจังเวลาเห็นคนรักกัน ^^

    _____________________________________________________________________________________

    ยังยืนยันว่าการเดินทางไม่เคยเป็นเรื่องไร้สาระ 
    ถ้าเราหมั่นหาแง่มุมให้ตัวเองได้ออกไปเจอบททดสอบ ท้าทายขีดความสามารถ 
    เราจะเติบโตขึ้น จิตวิญญาณของเราจะแข็งแรงและมั่นคง 
    กิจกรรมแอดเวนเจอร์ก็เป็นอีกบททดสอบหนึ่งของชีวิต จะก้าวหรือจะถอย?! 
    การตัดสินใจอยู่ที่คุณและมันก็จะสร้างนิสัยนั้นให้คุณด้วย!...

    _____________________________________________________________________________________

    ความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา 
    ทุกอย่างดูเรียบง่าย เงียบสงบ 
    ก่อเกิดความรู้สึกสุขสงบทางใจเล็กๆ ให้กับคนเดินทางอย่างเรา

    ...ได้เห็นธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่อลังการ มหัศจรรย์เกินกว่าจินตนาการ 
    ความสวยงามเกินความคาดหวังทุกอย่างจริงๆค่ะ...^^

    _____________________________________________________________________________________

    -อรุณสวัสดิ์-

    ได้เวลาไปตามล่าจุดสูงสุดกันบนยอดเขา  
    วิวสวยจับใจสมกับการที่ต้องเดินขึ้นเป็นกิโล การเดินทางก็สนุกอย่างนี้ล่ะค่ะ 
    ทดสอบความอดทน ท้าทายทั้งร่างกายและจิตใจ อาจจะมีความอยากวกกลับหลายรอบ 
    แต่ถ้าเราไม่ย่อท้อซะอย่าง ตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะเดินไปให้ถึงยอดเขาให้ได้ 
    เป้าหมายก็เหมือนลูกไก่ในกำมือคุณแล้วล่ะค่ะ ^^

    _____________________________________________________________________________________

    ป้ายบอกระดับความสูง  1,350 เมตร  เป็นจุดสูงสุด

    แม้ทางเดินจะแสนไกล แต่จุดหมายปลายทางที่ไปถึงก็คุ้มค่า..

    _____________________________________________________________________________________

      Wherever we look, there's something to be seen. 

    _____________________________________________________________________________________

    ได้เวลาบอกลา...ชีวิตมีพบก็ต้องมีจาก...เป็นเรื่องธรรมดา
    __________________________________

    ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ
    ทุกสิ่งล้วนมีข้อบกพร่องทั้งนั้น..อยู่ที่ว่าจะมากหรือน้อย..

    เสน่ห์ของทุกสรรพสิ่ง..อยู่ที่ความไม่สมบูรณ์แบบ
    เพราะความสมบูรณ์แบบ ..มันไม่มีเสน่ห์..
    (ลองมีขั้นบันใด ให้เดินขึ้น-ลง ได้แบบสบายๆ คุณว่า..ความพยายามจะยังเกิดขึ้นอีกมั๊ย?)
    Ps. ขอบคุณเพื่อนใหม่ ที่ถ่ายภาพนี้ให้ค่ะ ^^

    _____________________________________________________________________________________

    เป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนชีวิตมากๆ 
    ได้ทำหลายอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ แต่ก็ทำได้ 
    (แม้กระทั่งการโบกรถคนแปลกหน้ากลับเข้ามาในเมือง...เพราะรถโดยสารหมด)
    เพียงแค่เอาชนะความกลัวในใจตัวเอง นี่แหละค่ะถึงรักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ 
    มันเต็มไปด้วยบททดสอบและความท้าทายที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นและแข็งแรง
    พร้อมที่จะเผชิญอะไรก็ตามที่จะเข้ามาในชีวิต..


    ธรรมชาติมีความสวยงามและมีความมหัศจรรย์อย­ู่ในตัวของมัน 
    ธรรมชาติจะดึงดูดให้เรากลับไปหามันเสมอ เสน่ห์ของมันจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ 
    แค่เราเปิดโอกาสให้กับตัวเองออกไปสัมผัสมั­นอย่างใกล้ชิด
    และสร้างผลกระทบต่อธรรมชาติใ­ห้น้อยที่สุด 
    เราจะเห็นธรรมชาติอย่างที่มันควรจะเป็น ควรจะอยู่ ในที่ที่มันเป็นตัวของตัวมัน 
    ประสบการณ์ตรงจากธรรมชาติสามารถเปลี่ยนมุม­มองและชีวิตของคุณได้จริงๆนะคะ
    _____________________________________________________________

    ...หลงรักเส้นทางนี้..เป็นอะไรที่ต้องบอกตัวเองไว้เลยว่า.."จะกลับไปอีก"

    Place : ดอยทูเล ท่าสองยาง จ.ตาก
    Date : 5-6 ธันวาคม 2557

    ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ทุกคนหลงเข้ามาในนี้นะคะ
    และขอบคุณที่ติดตามจนจบค่ะ... ^^


     
    • PedPucking  อ่านเพลินเลยครับ เจ๋งงงอ่ะ 09 November 2015 22:05:22
    • ผู้เฒ่าเต่า  สวยงามมากครับ อยากกลับไปอีกครั้ง 12 October 2015 10:20:49
    • Theeranan  ต้องไปให้ได้ 25 August 2015 12:07:06
    • Kittikhun  เก่ง กล้า สามารถ มากเลยครับ 25 August 2015 11:19:37
    • Pam  ชอบบรรยายอ่ะ เห็นภาพเลย ทำให้การเดินทางแบบแบ๊คแพ๊คเป็นเรื่องสนุกไปเลยค่ะ ดูง๊ายง่ายถ้าจะไป^^ ปล.ภาพสวยมากค่ะ 12 April 2015 16:48:37
    • เมธา  บรรยายได้เยี่ยม...ภาพประกอบยอด ทำให้อยากไปมากเลย 12 April 2015 14:50:55
    • Tang  แล้วชั้นจะตามไปปปป
      ขอบคุณ จขกท. มากคะ
      12 April 2015 09:58:56
    • หมูหยอง  น่าสนุกจังครับ ฟังแล้วก็อยากจะไปดูสักครั้ง^^ 12 April 2015 09:18:54
    • Nardumar  จริงๆควรจะไปต่อที่ม่อนคลุย..แต่เวลาน้อย..เลยไปได้แค่คืนเดียวเองค่ะ ^^ 06 January 2015 21:01:26
    • numishiro  เคยไปเมื่อสองปีก่อน ประทับใจจนอยากจะไปซ้ำ 29 December 2014 15:46:19
    • Posts-2
    Boyziie •  December 29, 2014
    • Strong point:
    • Weak point:
    • Conclusion:
    Score
    • Posts-3
    iFew •  December 29 , 2014

    เพิ่งไปมาเมื่อ พย นี่เอง ไว้จะเขียนรีวิวมาแลกกันอ่านนะครับ อิอิ

    • Nardumar  จะรออ่านนะคะ ^^ 06 January 2015 21:01:49
    • Posts-4
    Yingmim •  December 29 , 2014

    แจ๋ว มากเลยค่ะพี่  เดียวหนูขอเดินลอยตามนะค่ะ ^_______________^

    • Nardumar  อย่าช้านะคะ..^^ 06 January 2015 21:02:13
    • Posts-5
    Kunlaya •  December 30 , 2014

    การเดินทางคนเดียว ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด,...

    • Nardumar  คนนี้คุ้นๆนะ...^^ 06 January 2015 21:02:36
    • Posts-6
    แ ม ว มุ ม ก ลั บ  •  January 03 , 2015

    ขอบคุณในบันทึกเดินทางที่แบ่งปันนะครับ

           เป็นการเดินทางที่สนุกมากๆเลยครับ ผมเองก็สนุกที่ได้ติดตามบันทึกเดินทางของคนอื่น เชื่อว่าคนเรามีหนทางไม่เหมือนกัน แล้วก็มีเป็นล้านๆเส้นทางให้เราเลือกเดินไปตามใจปราถนาของแต่ละคน! 

        ...เพราะแบบนั้น ถึงไม่ได้เดินทางไปที่นั้นๆในตอนนี้ด้วยตัวเอง แค่ได้ติดตามบันทึกสนุกๆของใครสักคนไปเรื่อยๆ รอวันที่เราจะก้าวออกไปด้วยเท้าของเราเองก็เป็นความสุขอีกอย่างที่น่าแสวงหาเหมือนกัน แล้วการเดินทางของพี่ก็เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆเลยครับ ขอบคุณที่แบ่งปัน ^__^

    • Nardumar  จริงๆก็หวั่นๆอยู่เหมือนกันค่ะ..
      แต่ถ้าไม่ลองเริ่ม..มัวแต่รอคนนั้นคนนี้..ก็คงจะไม่ได้ไปไหนเหมือนกัน..

      ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะคะ..ที่เข้ามาอ่าน..
      ไปเที่ยวไหน...อย่าลืมมาแลกกันอ่านอีกนะคะ ^^
      06 January 2015 21:05:37
    • Posts-7
    jack •  January 07 , 2015

    สวัสดีนักลุยเดี่ยวสาวครับ

    เรามือใหม่ ที่กำลังหลงไหลการท่องเที่ยวแบบลุยๆ 

    ขอบคุณรีวิวดีๆ ภาพสวยๆ ครับ ซักวันจะขอไปตามรอย ^_^

    • Nardumar  สวัสดีเช่นกันค่ะ..
      ด้วยความยินดีมากๆค่ะ..^^
      08 January 2015 00:05:20
    • Posts-8
    McPITCH •  August 25 , 2015

    เสน่ห์ของความสวยงามของผู้หญิง เกิดจากการเดินทางจริงๆครับ