ทริปเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน
'หนาว' เมื่อไหร่ ก็คิดถึง 'เหนือ'
บางสถานที่ไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ บางสถานที่ต่อให้เดินทางไกลแค่ไหนก็ไม่เคยบ่น และบางสถานที่ไปครั้งเดียว...ไม่เคยพอ คงเพราะสถานที่เหล่านั้นอิ่มอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์ซึ่งมีเฉพาะตัว ที่แม้จะเคยไปเยือนหลายครั้งก็ยังทำให้เรานึกถึง...
แล้ว ความคิดถึง ก็ทำให้เกิด ทริปเหนือ ฉบับเดินทาง 4 จังหวัด 5 วัน กับระยะทาง 1,500 กิโลเมตร ที่จะทำให้เราหายคิดถึง 'เขา'
: : Trip 4-8 Dec 2015 | เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน : :
'หน้าหนาว' เมืองไทย เขาแวะมาไม่นานก็...ไป เราก็เลยต้องรีบหยิบเสื้อกันหนาว ที่ปกตินอนเหงาอยู่ก้นตู้ เก็บกระเป๋าพาตัวเองออกไปสัมผัสลมหนาว ที่นานๆ สักครั้งจะพัดผ่านมา ออกไปยืนมองภูเขาสูง...ละเลียดฟ้า ระไอหมอกขาวจางๆ ที่เหนือยอดหญ้า ออกไปสูดอากาศสด...สดให้ชุ่มปอดอีกครั้ง :)
'ระยะแพลนสั้น ระยะทาง (โคตร) ยาว' การเดินทางข้ามจังหวัด เปลี่ยนที่นอนทุกคืนแบบนี้ เราก็เลยเตรียมแผนการเดินทางกับศึกษาเส้นทางจากจังหวัดนี้ไปจังหวัดนั้นไว้คร่าวๆ ไม่ได้แพลนอะไรนัก นอกจากเรื่องที่พักที่คิดว่าจองไว้สะดวกกว่า ไม่ว่าจะถึงดึกดื่นแค่ไหนก็ไม่ต้องห่วงนะ
นั่นล่ะ! ภารกิจตามหา 'ที่พัก' ให้ครบสี่จังหวัดในช่วงวันหยุดยาวๆ ก่อนเดินทางไม่กี่วันก็เลยเริ่มขึ้น เพิ่งรู้ว่านี่งานหินเลยนะ ในตอนนั้นที่ไหนๆ ก็เต็ม ตามด้วยหาเช่ารถตู้ ที่คันไหนๆ ก็ถูกจองไว้แล้วอีก เอิ่ม...พักปาดเหงื่อแป๊บนะ _ _!
: : เที่ยวนี้เป็น Family Trip ที่ไปกัน 5 คนค่ะ สไตล์...กินอิ่ม นอนสบายในบางคืน [เอาใจผู้ใหญ่] วิวสวย แวะถ่ายรูปข้างทางบ้อยบ่อย แบบไม่กลัวคนขับงอน [อันนี้ตามใจเรา] ก็ผสมผเสกันให้แฮบปี้ครบทุกวัยล่ะเนอะ :)
เราตั้งต้นการเดินทาง ที่นี่ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ที่พูดได้ว่า 'คุ้น' เพราะเจอหน้ากันทุกปี มิหนำซ้ำบางปียังเห็นหน้ากันหลายครั้งซะด้วย ก็ที่นี่เขามี [ของ] ที่ชวนให้ต้องมา [ลิ้มลอง] ด้วยสายตาตัวเองอยู่เรื่อยๆ นี่นะ
อันที่จริง...มาบ่อยแค่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก ก็ จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีถึง 25 อำเภอ ที่บางอำเภอเราก็ยังไม่เคยเฉียดไปถึงด้วยซ้ำ
: : เจ็ดร้อยกิโลเมตรแรก จากกทม. ถึงเชียงใหม่ พวกเรา 'ชิวล์' ไปกับการนั่งๆ นอนๆ มีเพื่อนเป็นขนมกรุบกริบ ห่อแล้วห่อเล่า กับหน้า Feed Facebook ร่วมๆ สิบชั่วโมงก็ถึงตัวเมืองเชียงใหม่ บวกกับอีกชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงที่พักใน อำเภอแม่แตง ที่ว่า...เมื่อยๆ เหนื่อยเพลียก็ดูจะหายวับในเช้าวันใหม่ เมื่อได้เห็นบรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทกลางขุนเขา...แบบนี้ :)
เมื่อคืนกว่าจะถึงที่พักเป็นตอนเกือบๆ สามทุ่มล่ะ ติดต่อล็อบบี้ซึ่งอยู่ด้านหน้าสุดของรีสอร์ท นั่งรถกอล์ฟเข้าไปอีกสองร้อยเมตรได้ก็ถึงบ้านพัก ที่ตอนนั้นรู้แค่ว่า...ด้านหลังของห้องติดสระ เมื่อเปิดประตูกระจกแบบบานเลื่อนออกไป เห็นแค่เงาตะคุ่มไหวๆ ของต้นไม้กับสายน้ำสีเข้มที่สะท้อนวับๆ กับแสงสลัวของพระจันทร์
...เป็นค่ำคืนที่สงบเงียบ ชวนให้พักผ่อนเสียจริงๆ ตอนนั้นเรายังไม่รู้หรอกว่าบรรยากาศโดยรอบรีสอร์ทเป็นแบบไหน จนถึงตอนนี้ที่ต้องสตั้นท์ไปหลายวิ กับ...วิวเขาที่รายล้อมบ้านพักสีส้มอิฐ หลังที่เราอาศัยนอนเมื่อคืน
: : สิบแสนรีสอร์ท แอนด์ สปา (Sibsan Resort & Spa) ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแม่ตะมาน ตำบลกึ้ดช้าง อำเภอแม่แตง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 57 กิโลเมตร ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีก็ถึง
รีสอร์ทตกแต่งสไตล์ล้านนาไว้อย่างมีเอกลักษณ์ เดาว่ามี 'ช้าง' เป็นสัญลักษณ์ (หรือเปล่า?) อันนี้สังเกตจากองค์ปั้นพระพิฆเนศที่อยู่ตรงวงเวียนทางเข้ารีสอร์ท รูปภาพกับรูปปั้น ส่วนตกแต่งกระจุกกระจิกอื่นๆ ในตัวอาคารก็เช่นกัน บูทิคโฮเทลแห่งนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา รวมไปถึงแมกไม้นานาพันธุ์ แลร่มรื่น มีอาณาเขตติดกับ ปางช้างแม่แตง ซึ่งเข้าไปชมและทำ Activity เช่น ล่องแพ ขี่ช้าง ชมทัศนียภาพของบรรยากาศรอบๆ ได้
: : เราเข้าพักใน Delux Pool Villa บ้านพักหลังเดี่ยวที่มีด้านหน้าติดสวน กับด้านหลังที่เปิดประตูแล้วกระโจนลงน้ำได้เลย ภายในห้องกว้างขวาง มีการแบ่งโซนเป็นส่วนของห้องน้ำ [แยกส่วนเปียก ส่วนแห้ง] ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินกับโต๊ะเครื่องแป้ง ถัดเข้าไปเป็นส่วนของเตียงขนาดคิงไซส์ ที่ใช้ผนังร่วมกับโต๊ะเครื่องแป้ง และด้านในสุด เป็นโซนนั่งเล่นขนาดกะทัดรัด พร้อมชุดโซฟายาว [เมื่อเสริม 1 ท่าน ทางรีสอร์ทจะใช้บริเวณนี้ปรับเป็นเตียงเสริม]
เช้าวันใหม่ที่มาพร้อมกับสายหมอกเรี่ยจางกับอากาศที่กำลังสบาย กลบกลืนความอ่อนล้าของเมื่อวานให้ต้องกระตือรือร้นตื่นขึ้น ยังไม่ถึงแปดนาฬิกาดีเราก็ลุกขึ้นเปลี่ยนชุด คว้าผ้าพันคอมาใช้ให้สมกับอากาศ ฉวยกล้องแล้วออกไปชมบรรยากาศนอกห้อง ตอนนี้จึงได้เห็นว่าห้องพักของเราอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่น่าทึ่งจริงๆ :)
เรามุ่งหน้าไปยังห้องอาหารซึ่งอยู่ส่วนหน้าของรีสอร์ท (ถัดเข้ามาจากล็อบบี้) แต่ก็สามารถเดินลัดเลาะสวนไปถึงห้องอาหารได้เช่นกัน
...ดูเหมือนว่าการจัดวางผังของรีสอร์ท ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก สระน้ำ ศาลาหรือกระทั่งสวนที่ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้พันธุ์ต่างๆ มีความเชื่อมต่อให้เดินถึงกันได้ เราว่าเป็น ความลงตัว ระหว่างธรรมชาติกับส่วนพักผ่อนหย่อนใจ ที่ทำให้เราเดินชมบรรยากาศรอบรีสอร์ทได้โดยไม่เบื่อ
เกือบสามร้อยวันในปีหนึ่งๆ เรามักคร่ำเคร่งอยู่กับ 'ความรีบเร่ง' ที่ทำให้ต้องรีบรนไปเสียทุกอย่าง ตั้งแต่...ตื่นนอน กินข้าว ขับรถ เรียนหนังสือหรือไปทำงาน เป็นกิจกรรมที่แข่งกับเวลาเกือบทั้งสิ้น กับอีกหลายสิบวันที่เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่ก็วัน 'ลาพักร้อน' ที่นานๆ จะบีบให้เจ้านายอนุมัติได้ ถึงจะมี Vacation Time กับเขาบ้าง
ความชุลมุนชุลเก ทำให้เวลาของวันหนึ่งๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนบ้างครั้ง...เราก็ลืมว่าทำอะไรไปบ้าง? กินอะไรเป็นข้าวเที่ยงของเมื่อวานหรืออาหารเช้าของวันก่อนหน้านั้นคืออะไร บางทีก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน จนสงสัยว่า 'ความรีบร้อน' พราก 'ความทรงจำ' เล็กๆ ช่วงเวลาสั้นๆ ของเราไปแล้วน่ะสิ
การเดินทาง ทำให้เราหลุดออกมาจากความวุ่นวาย แม้จะแค่ชั่วครู่ชั่วยาม จับวางเราลงบนฉากใหม่ ที่อาจเป็นทะเล แม่น้ำ ป่าหรือภูเขาสูงเสียดสักที่ ให้เราได้ผ่อนคลาย นั่งนิ่งๆ แล้วมองภาพรอบตัวได้นานขึ้น นานพอจะสังเกตเห็นรายละเอียด สีสัน อุณหภูมิหนาว-ร้อน นานพอจะมองเห็นการเคลื่อนไหวของลม ฟ้า อากาศ และนานพอจะพาเราดื่มด่ำไปกับความรู้สึกที่เรียกได้ว่า...สุข จริงๆ