Search and share travel destinations and experiences in Thailand Sign up Log in
 
เดินกินเดินเที่ยว วันเดียวสามตลาด ดื่มบรรยากาศลำน้ำแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม (Samut Songkhram Province) จ.สมุทรสงคราม
    • Posts-1
    นายสองสามก้าว •  May 12 , 2015

    เดินกินเดินเที่ยว วันเดียวสามตลาด ดื่มบรรยากาศลำน้ำแม่กลอง

    เมืองแห่งคุ้งน้ำ ลำคลอง ท้องเรือ ไม่น่าแปลกใจหากสมุทรสงครามจะเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยชุมชนริมน้ำ ผูกพันกับวิถีของสายน้ำมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ และเมื่อมีชุมชนริมน้ำย่อมต้องมีตลาดริมน้ำ หากพูดถึงที่เที่ยวสุดยอดฮิตของสมุทรสงครามในเวลานี้ ชื่อแรกซึ่งเกือบทุกคนนึกถึงต้องที่นั่นเลย... ตลาดน้ำอัมพวา

    แม้ต้องยอมรับว่าตลาดน้ำในปัจจุบันแปรเปลี่ยนจากวิถีเก่าก่อนกลายเป็นที่เที่ยวต้อนรับคนเมืองตามกระแสสังคมไปแล้ว ถึงอย่างนั้นตลาดน้ำก็ยังคงมีมนต์มีเสน่ห์ในตัวของมันเองอยู่ดี ที่สำคัญจะไปเยือนกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ เพราะกิจกรรมเด่นที่สุดยามเที่ยวตลาดน้ำย่อมไม่พ้นการกิน กิน กิน กิน แล้วมีใครไม่ชอบกินบ้างล่ะ จริงไหม?

    พอมีฤกษ์งามยามดี ผมเองเลยขอจัดทริปจูงมือคุณนายเดินเล่นเดินกินที่ตลาดน้ำสมุทรสงครามสักหน่อย ไม่ใช่แค่ตลาดเดียวนะเอ้อ แต่วันเดียวเล่นเอาพุงแทบแตกเพราะจัดหนักจัดเต็มถึงสามตลาดแบบไม่สนที่เที่ยวประเภทอื่นเลย ลุยโลดที่ ตลาดเก่าบางนกแขวก ตลาดน้ำบางน้อย ตลาดน้ำอัมพวา ทั้งหมดตั้งอยู่บริเวณปากคลองตามชื่อตลาดซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำแม่กลอง ห่างกันประมาณสิบกิโลเมตรเท่านั้น

    ขับรถจากกรุงเทพใกล้ๆ ชั่วโมงนิดหน่อยก็ถึงแล้ว ขอบอกเลยครับเหมาะเป็นที่เที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์เหลือเกิน

    ----------------------------------------------------------------------------------

    12.00 น. @ ตลาดเก่าบางนกแขวก

    จัดทริปเที่ยวสมุทรสงครามไม่ต้องเร่งรีบ (โดยเฉพาะเมื่อบ้านผมอยู่ฝั่งธนบุรี) ออกตัวตะวันสายโด่ง เหยียบคันเร่งแว้บเดียวก็มาถึงตลาดเก่าบางนกแขวก กะเวลาเที่ยงตรงท้องกำลังร้องพอดิบพอดี ว่าแต่ว่าใครเคยเห็นนกแขวกบ้าง? เจ้านี่เป็นนกยางพันธุ์เล็ก คอไม่ยาวนัก ตัวสีขาว หลังสีเทาอมเขียวหม่นๆ ตาแดงแป๊ด เปิดอากู๋ดูภาพกันได้ หรืออยากเห็นตัวจริงที่เขาดินก็มีครับ

    เขาเรียกที่นี่กันว่าตลาดเก่า เพราะเคยเป็นตลาดสำคัญเมื่อนานหลายทศวรรษมาแล้ว ก่อนต้องปิดตำนานลง เมื่อถนนหนทางสะดวก และเหมือนอีกหลายตลาดคือฟื้นคืนชีพขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีก่อนด้วยเหตุผลด้านการท่องเที่ยว ทว่ากับบางนกแขวกต้องเรียกว่าฟื้นครึ่งเดียว กึ่งเป็นกึ่งตาย ตายก็ไม่ตายแต่ก็ไม่คึกคักเสียที

    ดีมานด์ คู่กับ ซัพพลาย คนเที่ยวน้อย พ่อค้าแม่ขายซึ่งตอนแรกทำท่าเหมือนจะเยอะพลอยลดน้อยลงด้วย แต่ดีอย่างเพราะทำให้ตลาดเก่าบางนกแขวกมีบรรยากาศสบาย ไม่พลุกพล่าน ของซื้อของขายมีไม่เยอะนัก เหมือนแวะไปชวนคนเก่าคนแก่คุยเล่นในวันหยุดเสียมากกว่า ทว่าหากพูดถึงของกินก็มีอยู่พอตัว

    ร้านดังบางนกแขวกที่เห็นคนนิยมมีก๋วยเตี๋ยวปู กับก๋วยเตี๋ยวกะลา แต่มาคราวนี้ผมเลือกข้าวแห้งเฮียเกียรติ โฆษณาตัวเบ้อเร่อว่าเป็นเจ้าดั้งเดิม หน้าตาน่ากินเชียวล่ะ ของผมหนึ่งชามใส่ไก่ ของคุณนายหนึ่งชามใส่กระดูกหมู ถามถึงรสชาติลิ้นจระเข้อย่างผมถือว่าโอเคครับ ของโปรดอยู่แล้วกินยังไงก็อร่อย แต่ไม่ถึงขั้นเลิศหรูโดนใจอย่างที่สุด เพราะเคยกินถูกใจกว่านี้นี่ดำเนินสะดวกหรือตัวอำเภออัมพวามาแล้ว

    เสร็จจากเขมือบข้าวแห้ง เดินผ่านมาถึงร้านขนมจีบซาลาเปา แม่ค้าส่งสายตาเว้าวอนเลยต้องลองสักหน่อย ขนมจีบกุ้งบวกหมูของคุณนาย ส่วนผมสนใจซาลาเปาใส่ไข่พะโล้ ตอนแรกคิดว่าข้างในจะมีเป็นลูก พอบิมามีแค่ซีกนิดเดียว (ฮา...) ยังไงก็ถือว่าหน้าตาน่ากินพอสมควร รสชาติใช้ได้ กินหมดต้องขอลูบท้องอิ่มแบบกำลังดีครับ

    บรรยากาศของบางนกแขวกดูหงอยเหงาสักหน่อยแต่ก็เรียบง่ายดี เดินเลียบริมน้ำแม่กลองไม่กี่ร้อยเมตรก็สุดตลาด ผมมาที่นี่เป็นครั้งที่สาม สังเกตว่าทั้งนักท่องเที่ยวและร้านค้าลดลงเรื่อยๆ ดูท่าคงไม่โตกว่าที่เห็นแล้วล่ะ น่าเสียดายครับ อยากให้มาเที่ยวกันเยอะๆ เพราะจริงแล้วขับรถจากอัมพวาแป๊บเดียวเท่านั้นเอง

    ----------------------------------------------------------------------------------

    13.30 น. @ ตลาดน้ำบางน้อย

    เหมือนกับบางนกแขวกครับคือผมมาบางน้อยรอบที่สามแล้ว แต่ต่างกันราวฟ้ากับเหวคือขณะที่ตลาดเก่าบางนกแขวกสาละวันเตี้ยลง ตลาดน้ำบางน้อยกลับโตขึ้นมากมาย ของซื้อของขายเพียบตั้งแต่ลานจอดรถตรงวัดเกาะแก้วจนเดินเข้าตลาดเลย

    น่าสนใจที่สุดคือเมื่อก่อนร้านต่างๆ จะอยู่ทางซ้ายของคลองบางน้อย ส่วนตอนนี้ฝั่งขวาเริ่มมีร้านพอสมควร ที่สำคัญมีพวกบูติคเกสต์เฮ้าส์เปิดใหม่หลายแห่ง ยอมรับตามตรงครับว่าเก๋ไก๋น่ารักน่าพักมาก แต่พอถามราคาแล้วต้องถอยขาขวิดเพราะหลักหนึ่งพันอัพทุกแห่ง ให้ทุ่มขนาดนี้ต้องมากับหวานใจเท่านั้นแหละครับ (อ๊ะ... ผมก็มากับคุณนายนี่นา!)

    บางน้อยมีสินค้าค่อนข้างหลากหลายพอประมาณครับ ทว่าสำหรับผมซึ่งไม่ใช่ขาช็อปไม่มีอะไรเตะตาเท่าไหร่ เน้นถ่ายรูปเล่นและกินบรรยากาศเป็นหลัก

    เอาล่ะได้เวลากินแล้ว บอกตรงๆ ว่ายังอิ่มจากบางนกแขวกไม่หาย แต่มาถึงทั้งทีต้องโดนสักหน่อย ด้านในสุดมีก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่คุณนายเคยมากินแล้วไม่ปลื้มเท่าไหร่ ส่วนโรตีแต้จิ๋วซึ่งมีที่นี่แห่งเดียวเพราะเขาทำกินเป็นขนมหวานภายในครอบครัวเป็นของแสลงสำหรับผมครับ หวานเลี่ยวจนแสบลิ้นเลยล่ะ

    ลงตัวตรงร้านก๋วยจั๊บหัวมุมปากคลอง ไม่ดีจนสุดยอดแต่ก็ไม่ได้เลยร้าย

    อิ่มอีกรอบแล้วถึงมาฟินเอากับ สายน้ำฤาจะกั้น ร้านกาแฟและที่พักชื่อเก๋ที่อยู่ข้างร้านก๋วยเตี๋ยว ของผมน้ำผึ้งมะนาวโซดา ของคุณนายมะนาวปั่นราดน้ำผึ้ง อากาศร้อนระอุได้เครื่องดื่มเปรี้ยวๆ เย็นๆ สดชื่นสะใจสุดๆ น่าเสียดายว่าไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ยลครับ ใส่แก้วกระดาษปะยี่ห้อนมคาเนชั่นเลยไม่รู้จะถ่ายมาทำไม (ฮา...) เอาบรรยากาศร้านไปดูแทนแล้วกัน

    ----------------------------------------------------------------------------------

    16.00 น. ตลาดน้ำอัมพวา

    ไม่นึกจริงๆ ไม่นึกเลยว่าเดี๋ยวนี้อัมพวาจะมีทัวร์จีนมหาศาลขนาดนี้! เอาเถอะเมื่อมาถึงแล้วต้องบากบั่นฝ่าดงตี๋หมวยสักหน่อย (ผมเองก็ตี๋แท้ๆ นี่หว่า!) โชคดีที่วันนั้นถือว่าคนไม่เยอะมากด้วยใกล้กับสงกรานต์ที่ผู้คนไปเที่ยวไกลๆ ที่จอดรถก็หาไม่ลำบากนัก เดินตลาดแบบค่อนข้างสบายหลายจุด ไม่ถึงกับเกาะกันไหลตามทางเดินเหมือนครั้งก่อนๆ

    เดินเข้าตลาดผ่านแว้บสายไหมสีสันน่ารักเชียว ลองชิมสักหน่อยว่าเป็นไง บอกเลยว่ากว่าจะหมดกล้ำกลืนฝืนทนเพราะเสียดายตังค์ (ฮา...) หวานปานเอาน้ำตาลกรอกปากเลยทีเดียว ครั้งเดียวเลิก แนะนำเฉพาะคนรักความหวานครับ

    เดินเล่นถ่ายรูปเพลินๆ น่าตกใจว่าผมมาอัมพวาครั้งล่าสุดคือ ก.ย. 57 ทริปค้างคืนวันธรรมดาสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบ ผ่านแค่ครึ่งปีปรากฏว่าร้านอาหารและที่พักนับสิบพากันรีโนเวท ปรับปรุงใหม่ มุมถ่ายรูปเก่าก่อนที่เคยลั่นชัตเตอร์พากันอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ได้มุมถ่ายรูปใหม่มาเพิ่ม เรียกว่าวันเวลาที่อัมพวาเวียนไปเร็วเหลือเกิน ไม่มีที่ไหนหยุดนิ่งเลย

    ที่จริงกะเดินเรื่อยเปื่อย บังเอิญมาถึงหน้าร้านชานชาลา สายตาคุณนายเหลือบไปเห็นผัดไทยเกี๊ยวกรอบ หน้าตาไฮโซน่ากิน ท้องยังไม่หิวแต่ใจกระโจนไปโลดโน่นแล้ว เลยจัดมาหนึ่งจานแบ่งกัน เมนูนี้ด้วยสัมผัสปลายลิ้นของผมถือว่าสอบผ่าน ผมเป็นคนเน้นเผ็ดเติมพริกสักหน่อยก็โอเคแล้ว นี่ถ้าไม่ติดว่าท้องอิ่มคงจัดมาอีกจานล่ะครับ (ฮา...)

    เติมท้องแล้วก็เดินย่อยเวียนไปวนมานั่นแหละ จึงมาถึงคิวของหวาน เป็นร้านโปรดที่สุดของผมที่อัมพวาแล้วล่ะ พักหลังมาทีไรต้องจัดตลอดไม่ให้ขาด ไอศกรีมศรีมาลา โด่งดังจากรายการ SME ตีแตกด้วยไอติมผลไม้  ผมกินไม่เคยเบื่อ แค่คิดถึงรสชาติก็น้ำลายสอ งวดนี้จัดเต็มมาสามถ้วย มะม่วงพริกเกลือ มะม่วงน้ำปลาหวาน มะขามผงบ๊วย คนละจ้วงสองจ้วงเปรมกันไป สุดฟินครับบอกได้เต็มปากเต็มคำ

    กินไอติมเสร็จก็พักท้องสักครู่ด้วยการเดินถ่ายรูปเล่นอีกสักหน่อยครับ ของโดยรวมไม่มีอะไรถูกใจเป็นพิเศษ และกินจนตังค์ร่อยหรอแล้วด้วย (ฮา...) ได้แค่พวงกุญแจมาติดกระเป๋ากล้องเท่านั้นเอง

    ครู่ใหญ่ดูนาฬิกาชักจะเย็นย่ำ คุยกับคุณนายว่างั้นกินข้าวเย็นเลยแล้วกัน (คือยังไม่อิ่มกันอีกหรือ!) หันซ้ายแลขวาสักพักเห็นร้านขนมจีนมีที่นั่งสบายๆ เลยจิ้มเอาร้านนี้แหละเป็นเมนูปิดท้าย ของผมขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ ของคุณนายขนมจีนน้ำยาปลาทู พอกินหมดเล่นเอาอิ่มพุงปลิ้นกันเลยแหละ แต่รสชาติคุณนายฟันธงแล้วบอกว่าไม่ผ่านครับ

    สารภาพตามตรง วันนั้นเป็นหนึ่งในวันที่กินเยอะที่สุดในชีวิต

    นี่แหละครับง่ายๆ หนึ่งวัน ไม่ต้องจากเช้าถึงค่ำ แค่จากเที่ยงถึงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดินด้วยซ้ำก็สามารถเที่ยวสนุก กินอร่อย (แล้วแต่เลือกร้านล่ะนะ!) ช้อปเพลินๆ ตามอัธยาศัย อย่างที่บอกครับว่าถึงแม้ปัจจุบันตลาดน้ำจะแปรเปลี่ยนวิถีของมันไปตามกระแส แต่ก็ยังมีเสน่ห์อยู่ในตัวเองเสมอ และถึงตอนนี้รู้กันแล้วนะครับว่าสมุทรสงครามไม่ได้มีเพียงแค่อัมพวา...

    อยากคุยเรื่อยเปื่อยเรื่องท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล (ถ้าผมมีให้นะ) หรือชวนเที่ยว ยินดียิ่งนะครับ

    www.facebook.com/alifeatraveller

    หรือ

    alifeatraveller.wordpress.com

     

    • Posts-2
    Love Indy •  May 12, 2015