☁ เซย์ฮ๊ายยยยย ☁ เพื่อนๆ ชาว TheTripPacker 

ขอต้อนรับเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ

เอาจริงๆ ฝนก็ตกทุกฤดูนั่นแหละ 555555 ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรทั้งนั้น

รีวิวนี้เป็นฉบับที่แปดแล้วฝากตามรอย ไปเที่ยว ไปกิน ไปพัก

ไปหลงรักสถานที่ที่เราเดินทางไปสัมผัส

ทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆไปสัมผัสทะเลภาคใต้ ฝั่งอันดามัน

มีอยู่หนึ่งเกาะที่ได้ชื่อว่า "มัลดีฟส์เมืองไทย"

ไม่ต้องไปไกล อยู่ระนองนี่ไง "เ ก า ะ พ ย า ม"

เกาะที่ยังไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ยังคงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติและความสงบอยู่สูง

นอกจากนี้เราจะพามาเที่ยวภายในจังหวัดระนอง

เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง ฝนแปด แดดสี่ มันมีเสน่ห์ยังไงกันนะ ?

ลองตามมาหาคำตอบ...ไปพร้อมๆกับเราสิ

◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿◕✿

  • DAY 1 : 12 / 4 / 2017

ล้อหมุนเวลา 2 ทุ่ม ในคืนวันที่ 11 เม.ย. 2017 เนื่องจากเป็นช่วงสงกรานต์หยุดยาว รถติดแน่นอน ใครที่เดินทางลงใต้ก็จะผ่านถนนเส้น จังหวัดสมุทรสาคร-สมุทรสงคราม เส้นนี่มีรถหนาแน่นเป็นปกติอยู่แล้วแต่ปรากฏว่ารถโล่งมาก ขับกันไปแบบชิลล์ๆ เหงาๆ วังเวงเสียนี่กระไร อยู่กันยาวๆไปคืนนี้...กว่าจะถึงตัวเมืองระนองเกือบตีห้า มาช้าตรงช่วงขับขึ้นเขามาแถวๆ ถนนเส้นชุมพร-กระบุรี หมอกหนาตามาก แทบมองไม่เห็นทาง ขับไวมากก็ไม่ได้ เนื่องจากเป็นทางโค้งเยอะพอสมควร มีไฟจากถนนแค่บางช่วง ขับผ่านๆมานี่เจอไปหลายศพ ทั้งแมวทั้งหมา น่าสงสาร T^Tเช้านี้เราผ่านตัวเมืองระนองเข้ามาทางถนนเพชรเกษม แถวๆหัวมุมตรงแยกไฟแดง พิกัด : ร้านโจ๊กมหาชัย โต๊ะเราประเดิมเลย นอกจากโจ๊กก็จะมีพวกข้าวขาหมู ต้มเลือดหมู มีท้อปปิ้งของเมนูโจ๊กด้วย หลากหลาย แล้วแต่ชอบค่ะ รสชาติดีเลยทีเดียว เจอร้านอร่อยๆแต่เช้าหลังจัดอาหารเช้าเสร็จ เราก็มุ่งไปยังท่าเรือเพื่อจะข้ามฝั่งไปยังเกาะพยามเลยขับเข้ามาตาม Map เลย เราก็จะเจอ ท่าเทียบเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ

ถ้าจะข้ามฝั่งไปเกาะ เราต้องฝากรถไว้ค่ะ ร้านที่เราเลือกใช้บริการ คือ ร้านแนนค่ะ นอกจากฝากรถกับร้านนี้แล้ว การข้ามฝั่งไปอยู่บนเกาะเราก็ต้องเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยว ทางร้านเลยโทรจองคิวการเช่ากับคนที่อยู่บนเกาะพยาม ให้ขี่มอเตอร์ไซค์มารอรับเราที่ท่าเทียบเรือตอนถึงเมื่อมาถึง....จะมีเรือให้เราได้เลือก 2 แบบค่ะ คือ เรือเมล์ และ เรือสปีดโบ๊ท ราคาก็จะแตกต่างกันไป ใครไม่เร่งรีบ ก็นั่งชิลล์ไปกับเรือเมล์ในราคาคนละ 200 บาท กับเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงในส่วนของเรือสปีดโบ๊ท เราจองไว้กับเรือของนิธิพร เสียคนละ 540 บาท (ไป-กลับ) เรือออกตอน 8.30 น. ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ก็ถึงเกาะพยามแล้วค่ะ ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย 

เมื่อถึงเวลา...ได้ที่นั่งแล้วก็สวมชูชีพให้พร้อม !!!!!เรือเริ่มออกตัวอย่างช้าๆ เนื่องจากน้ำยังขึ้นมาไม่มากพอที่เรือจะสปีดได้ ตรงนี้เราจะผ่านพวกเรือประมงของชาวบ้านแถวนั้นด้วย

หลังจากผ่านเรือประมงมานั่นแหละ เตรียมเกาะไว้ให้แน่น เรือสปีดสมชื่อจริงๆธรรมชาติที่สวยงามมีให้เราได้มองได้อย่างเพลินๆตา

มองไปมองมา ลมก้พัดตีหน้า สายตาเริ่มล้า พรึ่บบบบ !!! หลับจ้าาาาาาาาาาตื่นมาอีกทีก็ถึงแล้ว 9 โมงหน่อยๆ รวดเร็วทันใจจริงๆมีคนของร้านแนน ที่เราจองเช่ามอเตอร์ไซค์เอาไว้ ขี่เอามอเตอร์ไซค์มารอเราที่ท่าเทียบเรือเลยให้เราขี่ตามเขาไปที่ร้านร้านจะอยู่ทางขวามือเลี้ยวเข้าไปหน่อยเดียวก็ถึงค่ะ เขาให้เรามาทำสัญญาการเช่าและจ่ายเงินมัดจำค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 2 วัน

และเติมน้ำมันอีกคันละ 100 บาทจ่ายอะไรเรียบร้อยแล้ว เราก็มุ่งตรงไปหาที่พักของเรากัน คืนแรกวันนี้เราพักกันแถวๆอ่าวใหญ่ที่ หิมพานต์รีสอร์ท ค่ะ

บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ แลดูธรรมชาติอยู่รอบตัวเรา ชอบไม่ชอบแล้วแต่สไตล์ค่ะโดยรอบนิยมปลูกต้นหิมพานต์อยู่รายล้อม อีกทั้งยังมีต้นไม้ชนิดอื่น ซึ่งสร้างความร่มรื่นให้แก่ผู้เข้าพักดีค่ะ

เจ้าของรีสอร์ทเป็นฝรั่ง นางเฟรนลี่กับลูกค้าดี เป็นกันเองมากค่ะ 

ที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำให้เล่นคลายร้อนกันด้วย และนอกจากนี้เราสามารถฝากกระเป๋า สัมภาระไว้กับเขาได้ฟรี ถึงเวลาเช็คอินค่อยนำกระเป๋าเก็บเข้าห้องพัก

 

เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราขี่ไปเที่ยวอ่าวใกล้ๆกันก่อนเลย อ่าวเขาควาย คืออ่าวแรกที่ขี่ไปดู แค่ได้เห็นตาก็ลุกวาวแล้วอะ มาได้จังหวะมากเลย

  น่ากระโดดลงเล่นน้ำมากจริงๆ แต่ทำได้แค่วิ่งลงทะเล เอาเท้าไปจุ่มน้ำก็แค่นั้น ชุดฉันมันไม่อำนวย  จุดเด่นของที่นี่คงจะหนีไม่พ้น หินทะลุ แต่เรามาตอนที่น้ำขึ้นเยอะมากแล้วเลยไม่ได้เดินลุยน้ำไป ตัวแสบไม่รอใครเลย พอเห็นทะเลปุ้ป นางวิ่งลงไม่สนใครเลยจ้า 5555555เดี๋ยวเราจะกลับมาใหม่ ขอกลับไปเปลี่ยนชุดก่อน แต่.....เหมือนมีอะไรมาสะกิดให้เปลี่ยนใจก็ไม่รู้ เพราะจากที่หาข้อมูลมา อ่าวกวางปีป เป็นอ่าวที่เหมาะจะขี่ไปเล่นน้ำตอนเที่ยงๆแบบนี้ เราเลยเปลี่ยนทิศกะทันหัน 555 ทิ้งอ่าวเขาควายให้รอเก้อสะงั้น ขี่ไปเรื่อยๆ...จนเจอทางเข้าร้าน Hippy Bar ร้านดังของเกาะพยาม ใครมาเที่ยวที่นี่ต้องมาร้านนี้กันทั้งนั้น เลี้ยวเข้าไปแวะเที่ยวเลยละกัน เนื่องจากเป็นถนนดินลูกรัง พอฝนตก ทางมันก็จะเละๆหน่อย 55555 ขี่เข้าไปนี่เกร็งเยี่ยวเหนียวเลย จะล้มดีไม่ล้มดี เอ๊ะ !!! กระโดดลงเดินเอาสบายใจกว่าจนแล้วจนรอดก็มาถึง หายใจไม่ทั่วท้องเลยโว้ยยHippy Bar เป็นร้านนั่งบาร์สุดชิลล์ สไตล์โจรสลัด ให้ความรู้สึกเหมือนติดเกาะอยู่กลางทะเลเลยก็ว่าได้ สภาพตอนกลางวัน ถ้าไม่นับเศษขยะต่างๆตามโต๊ะ ที่นี่ก็ถือว่าเป็นบาร์ที่น่ามานั่งอยู่เหมือนกันนะ   

 ตอนกลางวันจะเงียบมาก นึกว่าบาร์ร้าง 55555555 แต่เสน่ห์ของร้านก็ทำให้เราจดจำมันได้อยู่นะ   เราไปต่อกันที่ อ่าวกวางปีป การเดินทางมาค่อนข้างลำบากเล็กน้อย ถนนไม่ค่อยดี มีทางขึ้นลงเนินบางช่วง ชันสุดน่าจะอยู่ก่อนถึงอ่าว จำได้ว่าบิดขึ้นจนได้กลิ่นเหม็นไหม้ แล้วมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ที่มีให้เช่าเป็นระบบออโต้ ยิ่งบิดยิ่งอืด จนแล้วจนรอดก็มาถึง...เราขี่มาจอดแถวๆ กวางปีปเบย์ รีสอร์ท เป็นอีกอ่าวที่แนะนำสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ต้องอ่าวนี่เลย กวางปีป  

 

จะว่าไปก็คล้ายหาดส่วนตัวอยู่เหมือนกัน อาจเพราะทางมาลำบาก คนเลยไม่ค่อยนิยมขี่ขึ้นมาเที่ยวสักเท่าไหร่

 ถึงเวลาตัวดำแล้วซิ 555555 อันที่จริง สีผิวก็ดำพอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เราจะทำให้มันเกรียมเข้าไปอีกค่ะ อย่าไปกลัว มาทะเลถ้ากลัวดำก็ไม่ต้องมาเลยดีกว่า 

  เราว่าอ่าวนี้มีความเป็นส่วนตัว เล่นน้ำกันได้แบบสบาย น้ำใสสวยมาก แดดก็แรงมากเช่นกัน 

เล่นน้ำมาเหนื่อยๆ ก็เริ่มหิว....ทานมื้อเที่ยงกันที่นี่เลย กวางปีปเบย์รีสอร์ท สั่งมาคนละอย่าง ราคาอาหารตามสั่ง 80-120 บาท/จาน ถ้าเป็นกับข้าวอย่างเดียวก็แพงขึ้นไปอีก....ข้าวตามสั่ง โดยรวมรสชาติดีค่ะ ไม่แปลกและแตกต่างเหมือนที่เคยกิน มีสั่งน้ำผลไม้ปั่น น้ำอัดลม กันมาคนละแก้ว ร้อนๆแบบนี้สดชื่นมากค่ะจานนี้ของเรา สั่งผัดไทยไป ผัดได้แปลกมากจริงๆ เหมือนผัดมาม่าอะ รสชาติไม่โอเค หักคะแนน !!!!! แง้ T ^ T ท้องตึงแล้ว...ก็กลับไปเช็คอินเข้าที่พักของเรากันเถอะ !!!! หิมพานต์ รีสอร์ท เป็นห้องสไตล์ loft หลังใหญ่สองชั้น เปิดประตูเข้ามาจะเจอโซฟา ตรงข้ามกันเป็นห้องน้ำ มีโต๊ะกระจกและที่วางของอยู่ใกล้ๆส่วนอีกด้านนึงเปิดประตูออกไปก็จะเจอเป็นเหมือนสวนหย่อมน้อย ให้ออกไปนั่งเล่นข้างนอกได้

ข้างบนชั้นสองจะเป็นที่นอน หมอน-มุ้ง ที่มีมุ้งให้เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องยุงและแมลงเยอะ เพราะฉะนั้นทันใดที่เราเข้าถึงที่พัก เราก็จัดการปิดหน้าต่างให้ไว เพราะเดี๋ยวจะต้องออกไปเถลไถลกันต่อ กว่าจะกลับเข้าห้องพักก็ค่ำมืด จัดแจงเอาข้าวของเข้าห้องให้เรียบร้อย

ใกล้เย็นแล้ว...ออกไปเที่ยวอ่าวเขาควายกันดีกว่า อ่าวแรกที่เราได้ไปสัมผัส แต่แล้วก็ต้อง ช็อก !!!! น้ำลดลงไปอย่างรวดเร็ว ไกลสุดลูกหูลูกตา มีแต่หินเต็มไปหมด อ้าวเฮ้ยย...ฉันอ่านรีวิวมาไม่หมดสินะ 555555 สตั้นอยู่ หมุนรถกลับแทบไม่ทัน มีความตั้งใจว่าจะมาเล่นช่วงเช้าๆของวันพรุ่งนี้แทน เปลี่ยนแผนกะทันหัน รีบวนรถกลับไปยังอ่าวใหญ่ เพื่อดูพระอาทิตย์ตก

ขึ้นชื่อว่าถ้าจะมาดูพระอาทิตย์ตกต้องมาดูที่ อ่าวใหญ่ เรามาถึงกันตอน 5 โมงเย็น แดดยังเปรี้ยงอยู่เลย พระอาทิตย์ยังคงลอยสูงอยู่ คาดว่าน่าจะตกช้า กว่าเวลาปกติแน่นอน 

ชายหาดที่นี่มีขนาดกว้าง ให้อารมณ์เหมือนมาชายหาดบางแสน

หาดทรายทอดยาวเป็นริ้วๆ ในความธรรมดาก็ยังมีความสวยงามซ่อนอยู่

     

 เดินเล่น ถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่ๆ จนพระอาทิตย์ใกล้จะตก

 

 ค่อยๆ ตก . . . แล้วก็ตก . . . ลงทะเลเป็นที่เรียบร้อย

   ขากลับจากดูพระอาทิตย์ตก เราเลยแวะกินข้าวเย็นกันที่ ร้านครัวคุณเก้า ตามสั่งกันมาคนละจานเหมือนเดิม แต่บอกเลย เด็ดทุกจาน ให้ไปเลย สิบ สิบ สิบสั่งส้มตำมากินด้วยกันอีกจาน แซ่บลืมมมม มม ม !!!!!!ปล.ขากลับจากกินข้าว...ขับขี่ตอนกลางคืนต้องระมัดระวังกันสักหน่อย สองข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ และไม่มีไฟทาง เพราะที่นี่เขาปั่นไฟใช้กัน

 

  • DAY 2 : 13 / 4 / 2017

สวัสดีปีใหม่ไทย วันนี้เป็นวันสงกรานต์ กับเช้าแรกที่เกาะพยาม...

 เราหิ้วท้องมาฝากไว้ที่ ร้านตุ๊กตา เป็นร้านอาหารตามสั่ง และเปิดเป็นร้านขายของชำ อยู่ใกล้ๆที่พักเราเลย

นับว่าเป็นอีกร้านที่ควรมาลิ้มลอง แม่ค้าอาจจะพูดจาหวนสักหน่อย แต่แกจริงใจ เป็นกันเองและตลกดีนะ

อิ่มท้องแล้วก็ไม่รอช้า...รีบแว๊นมาเที่ยวกันที่อ่าวเขาควายต่อเลย เช้านี้น้ำยังไม่ขึ้นเท่าไหร่

มีหินสีชมพู...เกลื่อนอยู่ตามพื้นทรายเต็มไปหมด  เดินมาสักหน่อยก็จะเจอ Signature ของอ่าวนี้ นั่นก็คือ หินทะลุ ในตำนาน   เขาเล่าว่า .... ถ้าใครที่มาขอพรในเรื่องของความรักแล้วจะศักดิ์สิทธิ์ ไม่รู้ว่ามีจริงไหม ไม่ได้ลองขอ 555555 

 เราอยู่ถ่ายรูปกันที่นี่สักพักใหญ่ๆเลย 

ส่วนเด็กคนนี้ก็เล่นน้ำไม่พักเลยจริงๆ นางรักทะเลเป็นชีวิตจิตใจ

   

 นางขอร่ำลาทะเลที่ อ่าวเขาควาย ก่อนแว๊นกลับเข้าที่พักเตรียมเช็คเอ้าท์ออกจาก หิมพานต์ รีสอร์ท

เปียกน้ำเค็มมาแล้ว...ขอมาเปียกน้ำจืดต่อละกัน มันก็จะสดชื่นๆหน่อยอะไปค่ะพี่สุชาติ...คืนนี้เราจะแว๊นไปพักกันที่อ่าวแม่หม้าย แถวๆท่าเรือเลย ระหว่างทางมีเล่นน้ำสงกรานต์กันด้วย ยังไม่ทันจะขี่ถึงที่พักก็เปียกซกไปอีก ชุ่มฉ่ำเย็นจับใจกันเลยทีเดียว

นิธิพร รีสอร์ท ที่นี่เป็นรีสอร์ทแรกๆ บนเกาะพยามเลยก็ว่าได้เราทำแผนเดิม...คือ เอาของไปฝากไว้ตรงบริเวณล๊อบบี้ของรีสอร์ท แล้วค่อยออกไปขี่เที่ยวต่อ

ตกลงกันว่าจะออกไปทานข้าวกลางวันก่อน แล้วค่อยหาที่เที่ยวจุดต่อไป ~

ไอหย๊าาา...เจอเป็ดยักษ์ตัวเบ้อเริ่มเลยยยยยย

อยากจะชื่นชมที่พักของเราในวันนี้จริงๆ อนุรักษ์ความเป็นไทยไว้ได้อย่างดี ในเรื่องประเพณีสงกรานต์ไทย มีการก่อพระเจดีย์ทราย สรงน้ำพระพุทธรูปบริเวณล๊อบบี้ มีผสมแป้งดินสอพองไว้ให้ปะเล่น และยังตกแต่งรีสอร์ทด้วยธงงานวัด ให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศงานวันสงกรานต์ จัดให้เรารู้สึกสนุก มีความสุขและเอ็นจอยไปด้วยกัน แว๊นผ่านรีสอร์ทข้างๆเรา Blue Sky Resort มัลดีฟเมืองไทย อยู่ใกล้แค่เอื้อม

ฮัลโหล๊...อ่าวใหญ่ กลางวันนี้เรามาทานกันที่ ร้านส้มตำแม่ไก่

ร้านดังอีกร้านบนเกาะพยาม เรามาถึงตอนเที่ยงพอดี คนนี่แน่นร้านเฟ่อร์ !!!!!

อาหารอยู่ในราคาปกติทั่วไปเลย จานละ 30-50 บาท ทั้งร้านมีกันแค่พ่อแม่ลูกช่วยกันทำ อาจรอนานไปสักหน่อย เกือบๆ ครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ เกือบจะหลับแล้ว ดีนะมาทัน...เห็นอาหารแล้ว ตื่นเลยยย 

มันจะอร่อยๆหน่อยอะ 55555 รสชาติส้มตำนัวกำลังดี เด็ดที่ไก่ย่าง ไม่สั่งคือพลาด ชื่อร้านก็บอกอยู่ ส่วนเมนูอื่นๆก็ไม่น้อยหน้า จัดว่าเด็ดมาก ถ้าพลาดนี่เสียใจตายเลย

 กินเสร็จก็บ่ายกว่าแล้ว ขากลับแว๊นผ่านทางเข้ารีสอร์ท Lazy hut เลยแว๊นเข้าไปเที่ยวสักหน่อยเป็นถนนคอนกรีต ผสมดินลูกรังหน่อย ต้นไม้เยอะ โดยรวมแล้วร่มรื่น ส่วนใหญ่จะนิยมปลูกสวนยางกันค่ะ

ขี่เข้ามาไกลพอสมควรกว่าจะเจอ Lazy hut อยู่อ่าวใหญ่เหมือนกันณ เวลานี้ ชายหาด เงียบสงบมากจริงๆ หาที่นั่งหลบแดดแทบไม่มี 5555555

 

ยืนอยู่ได้ไม่ถึงสิบนาที ก็ บั ย ส์ ... กลับไปเล่นน้ำที่ อ่าวแม่หม้าย หน้ารีสอร์ทเรากันดีกว่า

 ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พักพอดี ขนสัมภาระเข้าห้องกันดีกว่าภายในห้อง ตกแต่งผนังเป็นแบบปูนเปลือย แบ่งเตียงนอนเป็นสองฝั่ง ตั้งเยื้องกัน เป็นห้องแอร์ มีห้องน้ำ 1 ห้อง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิเช่น ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า ทีวี กาน้ำร้อน ฯลฯ

ที่รีสอร์ทมีเรือคายัคให้ได้พายเล่นด้วย สำหรับลูกค้า เล่นฟรีไม่เสียตังค์ พร้อมห่วงยางด้วย

แจ่ม แจ แด่ม แจ่ม ว้าว เลย พายเรือเล่นสักพักให้มันเหนื่อยไปงั้นอะ 55555555 เริ่มหอบแล้วก็ขอเล่นน้ำให้หายอยากหน่อยละกัน

  

อยู่เล่นน้ำจนเกือบเย็น ให้พอนิ้วมือนิ้วเท้าเปื่อยเย็นวันนี้เราขอออกไปทานอะไรหวานๆ ล้างเกลือในปากกันหน่อย 55555555

ขี่รถมาจอดยังหน้าร้านโรตี & เบอร์เกอร์ควีน คือ เราเจอน้าคนนี้มาขายน้ำอ้อยที่นิธิพร เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา เลยช่วยอุดหนุนแกไป ติดใจถามพิกัดร้านมา แกบอกให้มาลองนั่งกินที่ร้าน อย่างเรามีรึจะพลาด

มาเที่ยวทั้งที กินๆไปเถอะ อ้วนค่อยกลับไปลดเนอะ 555 สั่งมาลองหมด ทั้งเบอร์เกอร์ โรตี พร้อมน้ำอ้อย...โคตรจะฟินอะ เข้ากั๊น เข้ากัน

มีแต่ยุงนี่แหละ คอยขัดจังหวะจริงๆ เห็นแค่ภาพนี่ยังไม่หายขนลุกเลย ตัวมันใหญ่มากจริงๆ สมคำร่ำลือแล้วกลับเข้ารีสอร์ทไปฟังเพลง เคล้าเสียงคลื่นกันดีกว่า จะได้นอนหลับฝันดี

 ที่พักเราคืนนี้มีนักร้อง มาโซโล่บทเพลงให้ฟังกันสดๆริมทะเลเลย จัดหาเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับแกล้มแป๊ป

  

 

 

โอ้เบ่เบ้ . . . ฉันรักเธอเท่านั้น ใต้แสงจันทร์มีเพียงเราสองนั่งมองแสงดาวที่พร่างพราว บนฟ้าไกลไปด้วยกัน ~ ลากันไปด้วยภาพนี้ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่าาาาา

 

  • DAY 3 : 14 / 4 / 2017

เช้าวันที่สองบนเกาะพยาม ตื่นเร็วกันสักหน่อย ออกไปเดินเล่นหน้าหาดกัน  

แอ๊บเดินเนียนไปรีสอร์ทที่ติดกับเรา นั่นก็คือ Blue Sky Resort 

บรรยากาศดีงามมากจริงๆ มีสระว่ายน้ำติดหาดเลย ข้างๆกันนั่นเป็นล้อบบี้ และที่นั่งทานข้าว

 

 

น้ำยังขึ้นมาไม่มาก มองไปมองมานึกว่าป่าชายเลนจริงๆ

   

แว๊นไปต่อยัง...วัดเกาะพยาม อยู่เลยท่าเรือไปหน่อย หาไม่ยากเลยยยย

มาถึงนี่แล้วต้องแวะมากราบสักการะ เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเองหน่อย

สภาพเริ่มทรุดโทรมไปตามกาลเวลา น่าจะมีการบูรณะสักหน่อยจะดีเลย 

 

ขากลับแวะคืนรถมอไซค์ที่เช่ามา เพราะเกรงว่าจะเลยเวลาที่กำหนด เราเลยต้องลงเดินออกกำลังกายเรียกเหงื่อกันแต่เช้า กลับไปเก็บข้าวของเตรียมเช็คเอ้าท์

ทางนิธิพรรีสอร์ท มีบริการรับส่งฟรีถึงท่าเรือ ซึ่งเรือรอบแรกออก 11 โมงเช้า ระหว่างรถแล่นผ่าน Blue Sky Resort เป็นช่วงกลางวันพอดี น้ำไหลจากทะเลซัดเข้ามา ตู้มมมม...กลายเป็นมัลดีฟเฉย น้ำนี่เขียวใส น่ากระโดดลงเล่นมากอะ 

เ ว ล า แ ห่ ง ค ว า ม สุ ข มั ก จ ะผ่ า น ไ ป ไ ว เ ส ม อ . . .

เดินต่อไปยังจุดต่อเรือ รอขึ้นสปีดโบ๊ท ก่อนขึ้นเรือโปรดแสดงตั๋วด้วย เพราะเรือมีหลายเจ้า ซึ่งเราจองไว้กับทางนิธิพรทั้งไปและกลับเลย

บ๊ายบาย...เกาะพยาม กับ การปล่อยชีวิตช้าช้า ให้มันซู่ซ่าเหมือนเสียงคลื่น

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงท่าเรือ รีบไปรับรถที่ฝากไว้ แล้วขนสัมภาระขึ้นกระบะโล๊ดดเราตรงดิ่งมายัง ตลาดสดเทศบาลตำบลหงาว เพื่อมากินโรตีนิสราโดยเฉพาะมาถึงตอนเที่ยง เกลี้ยงจ้า หมดทุกอย่าง เขาเลยแนะนำร้านเครือเดียวกับโรตีนิสราเหมือนกัน ซึ่งจอดขายข้างตลาดเลย หาง่ายมากเราสั่งโรตีพิซซ่า โรตีกล้วยหอม โรตีใส่ไข่ และแบบธรรมดา

 *ปล.โรตีรสชาติดี หอม อร่อย หวาน มันส์ กำลังดี ส่วนโรตีพิซซ่านี่คือดับเบิ้ลความอร่อย ไส้เน้นๆเต็มปากเต็มคำ แนะนำเลย*

ร้านข้างๆนั่น ขายไก่ทอดหาดใหญ่ ซื้อมาลองสักหน่อย

 หลังจากนั้นเรายิงยาวมาเที่ยว บ้านไร่...ไออรุณ อยู่ในอำเภอกะเปอร์ 

ฟาร์มสเตย์ บ้านไร่แห่งรัก มีแปลงผักน่ากัด น่ากินจริงๆภายในแบ่งเป็น 2 โซน - โซนนี้จะเป็นร้านขายสินค้าเกษตร+ครัวเเละสวนอาหารกลางเเปลงผัก

นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชม พักผ่อน สั่งอาหารและเครื่องดื่มกันได้

 

   อีกส่วนคือ โซนบ้านพัก ซึ่งทางที่พักจะสงวนสิทธิ์ให้เข้าไปได้เฉพาะแขกที่มาพักเท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัว ใครได้จองที่พักที่นี่ได้ ถือว่าทำบุญมาเยอะนะ โทรติดไม่ยาก แต่หาคนรับยากมาก 555555 แถมไม่รับจองทางเพจเฟสบุคด้วย เรียกได้ว่าเอ็กคลูซีฟมากๆสำหรับใครที่ได้เข้าพัก

  เราบึ่งรถกลับเข้าตัวเมืองอีกรอบ คืนนี้เราจะพามานอนที่พักสุดเก๋ในระนองสไตล์รถบ้านชิคๆที่ รัชชาฟาร์ม สถานที่ที่เป็นทั้งที่พักแบบรถบ้านและร้านอาหารเพื่อสุขภาพ   รถบ้านมีอยู่ 2 คันเท่านั้น รอบๆมีฟาร์มปลูกผักไฮโตรโปนิกส์   ได้เวลาเช็คอินแล้ว เข้าไปดูภายในรถบ้านของเราดีกว่า ...

ภายในเน้นเฟอร์นิเจอร์งานไม้จริง เตียงนอนกว้างขวางแทบจะล้มตัวลงนอน มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย อาทิเช่น แอร์ ทีวี ตู้เย็น ห้องน้ำ ฯลฯ แถมชุดเครื่องครัวพวกเตาอบ เตาแก๊สมาด้วย มีครบจบภายในรถคันนี้อีกทั้งเป็นรถเปิดประทุนด้วย เปิดหลังคา นอนดูดาวได้จริงๆ ถ้าไม่กลัวยุงหามนะ 5555555 ก๊อก ๆ ๆ ๆ พามาเยี่ยมชมดูรถบ้านอีกคันของพี่สาวดีกว่า

ภายใน...คันนี้จะกว้างกว่าคันเราหน่อย มีที่นั่งกินข้าวขนาดย่อมๆบนรถด้วย ในส่วนของห้องน้ำก็ถูกดีไซน์ออกมาไม่เหมือนกันด้วย 

เก็บของเข้ารถบ้านเรียบร้อย เราก็ออกไปเที่ยวสถานที่ใกล้ๆที่พักเราดีกว่าระนองแคนย่อน เข้าทางเดียวกับบ่อน้ำพุรักษะวาริน แล้วยังผ่านร้านอาหารคุ้นลิ้น ร้านดังของระนองอีกร้าน ขับเข้ามาลึกพอสมควร โค้งนี่เยอะจริงๆบรรยากาศโดยรอบ มีคนมาให้อาหารปลาเยอะถ้ามาช่วงกลางวัน แสงแดดกระทบผืนน้ำ น่าจะสวยกว่านี้มากๆ 

วิ่งย้อนกลับมาทางเดิม ไปต่อกันที่ อ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้น อยู่ห่างระนองแคนยอนแค่ 3 กม.เท่านั้น

เราขับขึ้นมาชมวิวด้านบนของอ่างเก็บน้ำ วิวสวยๆแบบนี้ ขอเก็บเป็นที่ระลึกสักหน่อย

ขับลงมานั่งชิลล์ๆ ลมเย็นๆ ยืนสูดหายใจเข้าลึกๆ

 ในช่วงเย็นมีนักท่องเที่ยว มาถ่ายรูปเล่นที่นี่เยอะ  อีกทั้งยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ พูดคุย สัพเพเหระกันไป จนใกล้พลบค่ำเรากลับเข้ามาทานร้านอาหารของที่พักเราค่ะ เรื่องอาหารที่นี่ขึ้นชื่อลือชายิ่งนัก ไม่จัดนี่สิแปลก จัดมาชุดใหญ่ไฟกระพริบ 6 เมนูด้วยกัน   

 

  1. ข้าวไข่ดาว สั่งให้เด็กน้อย เรียบง่ายแต่ดูดี
  2. ใบเหลียงผัดไข่ มาใต้ต้องมาทานอะไรเกี่ยวกับอาหารใต้สักหน่อย หร่อยจังฮู้ !!!!!
  3. หมูคลุกฝุ่น ชื่อเมนูแปลกดีเลยสั่งมาทานกับข้าวสวยร้อนๆ
  4. ยำส้มโอ ไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนี้อะ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบกินส้มโอเท่าไหร่ แต่จานนี้ผ่านเลย
  5. สลัดผักกุ้งทอด เลือกผักได้ 6 อย่าง เลือกน้ำสลัดและท้อปปิ้งอื่นๆได้อีก
  6. ขาหมูเยอรมันทอดกรอบ จานที่ให้สิบสิบสิบ เป็นเมนูแนะนำทางร้านด้วย ไม่ลองถือว่าโคตรพลาด เสิร์ฟคู่มากับน้ำจิ้มสองรสชาติพร้อมมันบด กลมกล่อมดีจัง

อาบน้ำ อาบท่า เตรียมมานั่งดริ้ง 

ชิลล์ๆ กันหน้ารถบ้าน มองดูดาว เล่าเรื่องสนุก ได้บรรยากาศสุดๆ​  

  • DAY 4 : 15 / 4 / 2017

มอนิ่งงงงงงง...เช้านี้ที่ระนอง เรายังอยู่รัชชาฟาร์มที่เดิมเพิ่มเติมคือตื่นไวไปไหม ยังไม่มีใครตื่นมาเล่นด้วยสักคน มาเต็มอยู่คนเดียว  9 โมงแล้ว ได้เวลาอาหารเช้าาาาาาาาาเสิร์ฟมาร้อนๆ Breakfast เช้านี้ที่รัชชาฟาร์มเราสั่งสลัดเพิ่มอีกชุด อร่อยฝุดฝุดเลยขอบอกหนังท้องตึงแล้ว ลมพัดตึ๋ง งงงงงง งง ง ~ ขอนอนสักงีบก่อนเช็คเอ้าท์

         บ๊าย บาย...รัชชาฟาร์ม ฟาร์มผักไฮดรอลิก กับรถบ้านชิคๆ พร้อมร้านอาหารรสชาติดีไปอีก อรรถรส !!!! เก็บผักสดๆจากฟาร์ม มาประกอบอาหาร สูตรขาหมูเยอรมัน...เด็ดจริง และอีกหลายๆเมนู เจ้าของน่ารัก เฟรนลี่ ขี้เล่น เป็นกันเอง ดูแลเอาใจใส่ ให้บริการลูกค้าเต็มที่ มีโอกาสไปเที่ยวระนองต้องกลับไปอีกแน่นอนค่ะ 

ก่อนกลับแวะเที่ยว ภูเขาหญ้า อันซีนไทยแลนด์อีกแห่งของไทย แดดเปรี้ยงกำลังดีเลยจ้าาาา

  เป็นภูเขาที่มีเพียงหญ้าโล้นๆสีเขียว ขึ้นปกคลุมแนวเขา บางช่วงเวลาก็จะเห็นเป็นสีเหลืองทองมีแนวปูนกั้นเรียงยาว ลักษณะคล้ายคอกม้า และยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเย็นอีกด้วย  

  ปล.ใครที่นำอาหารมาทาน ควรทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทางด้วยน๊า ตอนไปเห็นขยะเยอะมากเลย ป้ายห้ามทิ้งก็มีช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อสถานที่สวยๆจะได้คงอยู่กับเราไปนานๆเนอะ

ขากลับเราผ่านอำเภอกระบุรี ไม่แวะซื้อชิมก็กระไรอยู่ ซาลาเปาทับหลี มีให้เลือกซื้ออยู่หลายร้าน ขายตามไหล่ทางเรียงเป็นแนวเลย​ 

 ขับต่อไปเรื่อยๆจนเข้า จ.ประจวบคีรีขันธ์ แวะพักรถ พักคน  พาตัวแสบเที่ยวทะเลก่อนกลับ ณ หาดวนกร มีทิวสนทะเล และสนประดิพัทธ์ บรรยากาศรอบๆ ร่มรื่น นักท่องเที่ยวนิยมมานอนกางเต๊นท์ นั่งปิคนิค เหมาะแก่การมาพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง ​ตัวชายหาดทอดตัว เรียงเป็นแนวยาว หาดทรายขาวสะอาด บรรยากาศดีสุดๆ  ปล่อยให้ตัวแสบเล่นน้ำให้หนำใจ    ก่ อ น ยิ ง ย า ว ก ลั บ บ้ า น เ ร า จ ริ ง ๆ ถึงบ้านปลอดภัย... ในเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ รวมระยะทางไป-กลับ 4 วัน 3 คืน รวม 1,583.2 โล

 

สรุปค่าใช้จ่าย

  • ค่าที่พัก หิมพานต์ รีสอร์ท = 2,188 บ.
  • ค่าที่พัก นิธิพร รีสอร์ท = 2,813 บ.
  • ค่าที่พัก รัชชาฟาร์ม = 3,205 บ.
  • ค่าน้ำมัน ไป-กลับ = 3,280 บ.
  • ค่าทางด่วน ไป-กลับ = 195 บ.
  • ค่าเรือสปีดโบ๊ท ไป-กลับ = 2,160 บ.
  • ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ 2 วัน/คัน = 800 บ.
  • ค่าน้ำมันมอเตอร์ไซค์ = 200 บ.
  • ค่าฝากรถยนต์ = 200 บ.
  • ค่าอาหารร้านโจ๊กมหาชัย = 220 บ.
  • ค่าอาหารกวางปีปรีสอร์ท = 650 บ.
  • ค่าอาหารร้านครัวคุณเก้า = 470 บ.
  • ค่าอาหารร้านตุ๊กตา = 450 บ.
  • ค่าอาหารร้านส้มตำแม่ไก่ = 560 บ.
  • ค่าอาหารร้านเบอร์เกอร์-โรตี = 280 บ.
  • ค่าเหล้าปั่น-บาบีคิวนิธิพร = 279 บ.
  • ค่าโรตีนิสรา-ไก่ทอดหาดใหญ่ = 135 บ.
  • ค่าอาหารรัชชาฟาร์ม = 1,009 บ.
  • ค่าของกินอื่นๆ = 1,206 บ.
  • ค่าเข้าอุทยานหาดวนกร = 100 บ.

** รวมเป็นเงิน 20,400 บ./ 4 คน = ตกคนละ 5,100 บ.**    

4 วัน 3 คืน ชื่นมื่น เที่ยวทะเลในวันสงกรานต์ ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เงินในกระเป๋าก็เช่นกัน 555

ร้อนนี้ที่เกาะพยาม พยามตามหา พยามมาเจอกัน เราค้นพบคำตอบแล้วว่า

" เราตกหลุมรักที่นี่เข้าอย่างจัง "

หลงเสน่ห์ความเงียบสงบ ความเป็นธรรมชาติ ความสมบูรณ์ของที่นี่

หากความเจริญมาเยือนเมื่อไหร่ ความสวยงามก็น่าหดหายไปเมื่อนั้น

ส่วนตัวเมืองระนอง...การใช้ชีวิตบนท้องถนนแลดูไม่วุ่นวาย

สถานที่ท่องเที่ยวนั้นมีให้ได้ไปเยือนอยู่หลายที่ ถ้ามีเวลามากกว่านี้.

ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทางและบันทึกความทรงจำร่วมกันในทริปนี้ : )

Journey Travel With Us ขอจบการรีวิว