ปล.1 ยัยนับคือแมวอ้วนที่เก็บนางมาเลี้ยงตั้งแต่นางแบเบาะ สำหรับการไปเที่ยวในแต่ละครั้ง เราจะพกยัยนับไปเที่ยวหาที่พักที่เที่ยวที่สัตว์เลี้ยงเข้าได้ คราวนี้ก็เช่นกัน 
ปล.2 ผิดพลาดตรงไหนขอออกตัวขอโทษไว้ก่อนเลยนะคะ 
ปล.3 เราไปกันที่นครนายก 2วัน1คืน

ขั้นเตรียม
(8-9 ก.ค 60) ก่อนวันหยุด1วัน หาที่พักจร้า โหลๆๆ ที่โน้นก็เต็มที่นี้ก็เต็ม จนคิดได้ว่ามีที่นึงอยู่ไม่ไกลเป็นที่พักสำหรับสัตว์เลี้ยง ตรงคอนเซ็ป 
เรา : สวัสดีค่ะมีที่พักว่างมั๊ยคะ จะพาแมวไปเที่ยวค่ะ .. 
เจ้าของที่พัก : ครับ ที่พักเต็มแล้วครับ จะพาแมวพักใช่มั๊ยครับ 
เรา : ใช่ค่ะ ว๊าา เสียดายจังค่ะ 
เจ้าของที่พัก : แต่มีห้องแมวที่ยังไม่ได้เปิดเป็นทางการกำหนดเปิดวันที่15นี้ครับ ถ้าสนใจจริงๆผมเปิดให้ใช้เลยก็ได้ครับ 
เรา : สนใจค่าาา จองค่าาาา ,, แล้วเราก็โอนค่าเสีหายไป 
*แล้วก็เตรียมสมบัติบ้าของยัยนับ เพราะการพาแมวไปเที่ยว มันก็จะของเยอะๆหน่อย เช่นห้องน้ำแมว ทราย ของกิน ขนม ของเล่น แต่รวมๆแล้วก็ไม่ยุ่งยากสักเท่าไหร่*

เช้าวันรุ่งขึ้น7.30 จับยัยนับใส่รถ ล้อหมุนออกเดินทางสู่ นครนายก ไปได้ ,, ที่แรกที่เราแวะคือ วัดจุฬาภรณ์วนาราม      ที่นี่มีป่าไผ่เหมือนญี่ปุ่นเลยจร้าาา. เงียบ สงบ ธรรมชาติ ไผ่โค้งเข้าหากันเป็นแนวยาว ดีอ่ะ เราอยู่ที่นี่ถ่ายรูปชิวๆๆ

เรามุ่งหน้าไปที่พักบ้านขนมปังขิง ,, บ้านพักสำหรับสัตว์เลี้ยง ว่าจะเข้าไปดูห้อง เก็บของ และกินข้าวเพราะท้องร้องแล้ว ขับไปแปบเดียวก็ถึงที่พัก หาง่ายมากกกกก เข้าไปเช็คอินก่อน11โมงด้วย คิดในใจ เขาจะว่ามั๊ยเนี้ยมาเร็วไป แต่!!! เขาไม่ว่าค่า ก็เช็คอิน ดูห้อง แบบ ว๊าวววววว ห้องน่ารักมาก หลงรักที่นี่หัวปักหัวปลำ มาดูกันเลย //ลงรูปติดๆๆไปเลยเนอะ
... มีเตียงใหญ่1เตียง เตียงเล็กอีก1เตียง ที่สำคัญที่นี้เขาใส่ใจทุกรายละเอียดของแมว ของเล่น ห้องน้ำแมว ชามน้ำชามอาหารมาเต็ม คือแค่พกแมวไปก็อยู่ได้แล้วแหละ มีที่ส่องนกด้วย จุดนี้ถือว่าพีคมาก เพราะยัยนับชอบ ส่องทั้งวัน ส่วนด้านหน้า จะมีสระว่ายน้ำสามารถให้น้องหมาน้องแมวว่ายได้ด้วย เป็นน้ำเกลือ เห็นน้องไซบิเรียน,,,, กระโดนน้ำกันตู้มๆ สนุกสนานกันใหญ่ มาถึงเรื่องกิน ที่นี้มีอาหารขายด้วยนะ เราก็สั่งสปาเกตตี้กะปิเค้าบอกว่าเป็นเมนูแนะนำ คือๆๆ ก็แบบข้าวคลุกกะปีป่ะ พอได้มาก็ชิมกัน อื้มมมมม อร่อย แปลก แหวกแนวมาก แล้วก็สั่งสปาเพิ่มอีก รวมๆแล้ว โอเคเบตงทุกอย่าง 

ที่เที่ยวแรกที่เราไป ก็เขาหลน ,, เขาหลนมีอะไร มีเขา มีหญ้า มีก้อนหิน เอาไว้ถ่ายรูปเก๋ๆ คล้ายๆเดินขึ้นเขานิดๆๆ ก็ลุยๆๆดี 

ที่เที่ยวต่อไป ภูกะเหรี่ยง ,, ชื่อนี่อย่างกับอยู่บนดอย ที่นี้มีทุ่งนาเขียวๆ มีสะพานไม้ไผ่ยาวๆๆ คือธรรมชาติลมพัดตีหน้าปล่อยใจไปกะต้นข้าวเขียวๆ คือดี๊ดี ส่วนยัยนับหนะหรอ นางดูมีความสุขเดินชมนาตามประสาแมวบ้านนอก นั่งส่องนกชมรวงข้าว นี่ถ้ามาตอนข้าวสีทองต้องสวยกว่านี้อีก18เท่าแน่ๆ 

ที่เที่ยวต่อไป น้ำตกวังตะไคร้ ที่นี่เขาให้สัตว์เลี้ยงเข้าได้ด้วยนะ แต่เราเข้าไปแปบเดียวฝนก็ตก เลยไม่ได้ถ่ายรูป

พอฝนหยุด เราก็ไปเที่ยวเขื่อนขุนด่านปราการชล คือมะกี้ฝนพึ่งหยุดไง น้องหมอกเลยมา หมอกลอยต่ำมาก ถ่ายรูปสวยสุดๆๆ บอกเลยว่าโชคดีที่สุดแล้ว 

จากนั้นเราก็หาไรใส่ท้องด้วยร้านนี้มีอะไร ?? ใช่. ชื่อร้านว่า ร้านนี้มีอะไร มีชาบู มีน้ำจิ้มที่เยอะสุดๆ แค่น้ำจิ้มก็เต็มโต๊ะแล้วแหละ. ถ่ายมาแค่นี้ เพราะจากนั้นมันถ่ายไม่ทันเลย อิ่มแล้ว เข้าที่พักนอนได้ ,, 

ยัยนับตื่นมาส่องนกแต่เช้า ตอนแรกกว่าว่าจะพานางออกไปเที่ยวข้างนอกสะหน่อย แต่!! น้องหมาใหญ่ๆเต็มเลย ออกไปมีหวังยัยนับโดนกินไม่เหลือแน่ๆ อาหารเช้าที่นี่เป็นข้าวต้ม และขนมปังที่เติมได้เท่าที่กินได้ อิ่มแล้วออกเดินเที่ยวให้ทั่วที่พักเขาหน่อย มีห้องพัก ,,, มีบ้านต้มไม้ เป็นกระจกรอบด้าน. เหมาะแก่การเอาแมวเข้ามาส่องนกจริงๆ รั้วรอบขอบชิดสุดๆ ถือว่าคิดได้ดี การตกแต่งของที่นี่ยึดแบบเรียบๆแบบอิงธรรมชาติทุกอย่างดูผสมผสานกันได้ดี มีเจ้ามาดแมนมาคอยต้อนรับ น่ารักเข้าไปอีก

เราก็เช็คเอ้า11 โมงกลับบ้านได้ขากลับเรากลับทางรังสิต-นครนายก จะมีตลาดผลไม้ ขายผลไม้ตามฤดูกาล ผ่านแล้วต้องแวะสะหน่อย ซื้อน้อยหน่ากับกระท้อนหิ้วกลับบ้านไปฝากคนที่บ้านสะหน่อยดีกว่า ,, จากนั้นเราก็มุ่งหน้ากลับบ้านอย่างเต็มกำลัง ถึงบ้านอย่างปลอดภัย จบนะเอ่ยยยย 
*ทริปนี้ไปทั้งป่าไผ่ เดินเขา ชมทุ่งนา ดูน้ำตก และสัมผัสหมอก ครบครันวันเดียว สุดยอด จริงๆแล้ววันเดียวก็เที่ยวได้นะ แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย*