วันที่ 2 : ทัวร์เกาะห้อง
เราลงมาทานอาหารเช้ากันในเวลา 7.00 น.
โดยอาหารเช้าของทางโรงแรมเป็นแบบ American Breakfast ทั่วไปครับ
แล้วก็ถึงเวลาเที่ยวแล้วครับ รถมารอรับ เพื่อไปที่ท่าเรือ 8.00 น.
ใช้เวลาในการเดินทางไปที่ท่าเรือประมาณ 30 นาที และลงทะเบียน รอเรียกขึ้นเรือ
โดยในจุดนี้เป็นจุดรวมของนักท่องเที่ยว เพื่อกระจายไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ
และก็ถึงเวลาที่รอคอยครับ เจ้าหน้าที่ประกาศรายชื่อนักท่องเที่ยวขึ้นเรือ
มุ่งหน้าสู่เกาะห้องกันครับ
ในจุดแรก ที่เราจะแวะก็คือเกาะห้อง
เกาะห้องสามารถดำน้ำได้ เจ้าหน้าที่มีบริการให้ยืม หน้ากาก snorkel ฟรีครับ
ลงจากเรือก็เดินเพื่อไปที่หาดครับ ต้องทรงตัวดีๆหน่อยนะครับ ทางเดินเวลาเดินโคลงเคลงนิดหน่อย
ป้ายเตือนและคำแนะนำต่างๆ
บรรยากาศภายในเกาะห้อง
มุ่งหน้าสู่ Lagoon
อ่าวห้อง (ลากูน) ลักษณะเป็นโถงกว้างกลางทะเล ที่เรือสามารถแล่นเข้าไปได้เมื่อน้ำขึ้น
และสามารถใช้หลบพายุมรสุม มีทางเข้าออกทางเดียว ภายในมีป่าโกงกาง และห้อมล้อมด้วยขุนเขา
คล้ายปากปล่องภูเขาไฟ ภายในน้ำทะเลใสคริสตัลไม่ลึกมากสามารถว่ายเล่นได้
เกาะเหลาลาดิง หรือ เกาะพาราไดซ์
เป็นเกาะที่สวยอีกแห่งหนึ่ง ทรายละเอียด สามารถดำน้ำเล่นได้
เราจะพักทานอาหารกลางวันกันที่นี่ด้วยครับ
เจ้าหน้าที่จะแจกเป็นอาหารให้คนละ 1 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม (น้ำดื่มมีให้ฟรีตลอดการเดินทาง)
อาหารในกล่องจะเป็น ไก่กระเทียม/ไข่เจียว/และข้าวเปล่า
รสชาติถือว่าค่อนข้างอร่อยครับ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถทานได้ง่ายครับ
และมี ชา/กาแฟ/เค้ก ให้บริการครับ
ออกจากเกาะเหลาลาดิง ก็มุ่งสู่ เกาะผักเบี้ย ซึ่งจะเป็นจุดสุดท้ายของทัวร์เกาะห้องครับ
เกาะผักเบี้ย เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางด้านหลังของเกาะห้อง สามารถลงเล่นน้ำได้
และเมื่อน้ำลงสามารถเดินบนสันทรายไปสู่เกาะอีกฝั่งได้
ก่อนเดินทางกลับ ทางเจ้าหน้าที่มีแตงโมแจกให้ทานก่อนกลับด้วยครับ
นักท่องเที่ยวต่างชาติบางท่าน มีบางคนทาน 3-4 ชิ้นกันเลย น่าจะช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี
เมื่อถึงเวลาเรือก็นำนักท่องเที่ยวกลับสู่ท่าเรือที่เราขึ้นมาในตอนเช้า
โดยมีรถสองแถวรับส่งตามโรงแรงที่พักของนักท่องเที่ยว
ในภาพรวมของทัวร์เกาะห้องในครั้งนี้ ในส่วนตัวของเราแล้วถือว่ามีความพอใจเป็นอย่างมาก
ทั้งในเรื่องระยะเวลาในการทัวร์ เจ้าหน้าที่มีความเป็นกันเอง เสนอตัวช่วยเราถ่ายรูปให้ตลอดครับ
ในส่วนของข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวก็สามารถอธิบายข้อมูลต่างๆได้เป็นอย่างดี
เรากลับจากทัวร์เกาะมาถึงที่พักประมาณ 15.00 น. ใช้เวลาพักผ่อนสักครู่
ก็เดินออกไปหาร้านกาแฟในแถวๆนั้น จนเจอหนึ่งร้านอยู่ไม่ไกลจากที่พักเราเลยครับ
ชื่อร้าน EP's Cafe Patisserie ภายนอกร้านอาจจะดูธรรมดา
แต่บรรยากาศภายในร้านมีความหรูหรา รสชาติเครื่องดื่มและเค้กดี ราคาจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
หลังออกจากร้านกาแฟ ก่อนเข้าที่พัก เราก็ได้แวะ ตลาดนัดลานปูดำ
ที่นี่ก็เหมือนตลาดนัดทั่วไป แต่จะเน้นของกินเป็นหลัก หลังจากที่ได้ทดลองหลายๆร้าน
ถือว่ารสชาติโอเคเลย ราคามิตรภาพ จริงๆเราฝากท้องกับที่นี่หลายมื้อเหมือนกัน
แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเลย
และที่ขาดไม่ได้ที่เราตั้งใจจะมาลองก็คือ
โรตีหน้า Vogue
โรตีของที่นี่จะไม่เหมือนกับที่เรากินตามรถที่เข็นขายนะครับ
จะมีความนุ่มของแป้งมากกว่า ไม่กรอบจนเกินไป
ส่วนเครื่องดื่มเราสั่งเป็นชาเย็น มีความหอมและรสชาติไม่หวานจนเกินไป กำลังพอดี
วันที่ 3 : วันเดินทางกลับ
ในตอนเช้าเราตื่นแต่เช้าเพื่อเดินไปที่ลานปูดำ
ในตอนเช้าจะไม่ค่อยมีคนครับ สามารถถ่ายรูปได้สบายมาก
หลังจากนั้นก็ไปกันที่ วัดแก้วโกรวาราม เป็นวัดที่อยู่กลางเมืองกระบี่เลยครับ
ร้านของฝาก
สรุป
กระบี่นับเป็นจังหวัดหนึ่งที่เราประทับใจ ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง
ท้องทะเลสวย ค่าครองชีพถือว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับจังหวัดท่องเที่ยวอื่น
เป็นเมืองสงบ ผู้คนเป็นมิตร อาหารอร่อย
การมาท่องเที่ยวในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเติมพลังชีวิตได้อย่างมาก
และเป็นจังหวัดที่ถ้าเรามีโอกาส เราก็จะมาอีก