ไปคนเดียวเหมือนเดิมค่ะทริปนี้ ไม่มีอะไรมากเลย ไม่ได้หาข้อมูลเยอะ แค่เราเคยนั่งรถไฟไปเหนือบ่อย แล้วผ่านจังหวัดนี้ เห็นลิงน่ารักดี เลยอยากแวะมาเล่นบ้าง บางที การนั่งรถไฟเที่ยวเนี่ย มันก็เป็นตัวนำทางให้เราได้รู้จักเส้นทางใหม่ ที่เที่ยวใหม่ๆได้จากการนั่งรถไฟผ่านนี่แหละ ครั้งนี้เดินทางแบบไม่คิดอะไร นั่งไป 3-4 ชม.นี่ถือว่าซอฟต์มาก นั่งรถไฟเที่ยวไกลๆบ่อยแล้ว
ไปกันวันธรรมดาค่ะ ห้องไม่ต้องจองหรอก ความจริงกะจะออกแต่เช้าหน่อย ด้วยรถไฟไม่ฟรี เสียเงินไม่กี่บาท แต่วันนี้ตื่นสายเลยออกมาเจอรถฟรีรอบ 09.25 น. พอดี อ่ะ...ฟรีก็ฟรี
  ไม่มีเลขที่นั่งค่ะ อยากนั่งตรงไหนก็นั่งเลย ส่วนใหญ่เลือกได้ก็อยากนั่งกับผู้หญิงนั่นแหละ ก่อนคนขึ้นมาขอถ่ายรูปเล่นก่อน เดี๋ยวเช็ดเบาะให้       นั่งๆ หลับๆ แป๊บๆก็มาถึงละ ถึงประมาณเที่ยงนิดๆนะ นั่งเล่นหาที่พักก่อน เอาแบบใกล้สถานีรถไฟที่สุด เพราะเราคงเดินเที่ยวแถวนี้แหละ ไม่อยากไปไหนไกล     หวยออก เนตต์ โฮเทล โทรไปห้องว่างพอดี ราคาเริ่มต้น ห้องพัดลม 250 บาท ถูกไปอีก นอนลำบากกว่านี้ก็เคยนอน คือตั้งแต่แบคแพคเที่ยวเองบ่อย ก็เป็นชะนีที่นอนไหนได้หมด ไม่เรื่องมากเลย ดูห้องปุ๊บก็เข้าพักเลย อ่ะ...แปะไว้ให้นิดนึงนะ ที่อยู่ 5/5 ถนนราชดำเนิน ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัด ลพบุรี 15000 โทรศัพท์: 0-3641-1738     ช็อคกับโถที่หันไปทางนี้แป๊บ แต่ไม่ซีเรียส 250 บาท จะเอาอะไรอ่ะแกรรรรรร     วางกระเป๋าปุ๊บ ทำไรเสร็จก็ออกมาเดินเล่นหาอะไรกิน แต่สิ่งที่ต้องเจอกับเมืองนี้ที่จะขาดไม่ได้เลยคือ ลิง!! ใครกลัวนี่คือห้ามมาเด็ดขาด ในตัวเมืองนี่มีทุกมุม แต่เราดันชอบ และไม่เคยได้ใกล้ชิดขนาดนี้ นี่ก็กะมาเล่นลิงนั่นแหละ งือ...บางทีซนไปก็กลัวนะ แต่ก็ชอบมอง มันน่ารัก







มาถึงก็เที่ยงเกือบบ่ายก็หาลูกชิ้นปิ้งกินรองท้อง ขี้เกียจกินข้าว ดีนะรองท้องไม่เยอะ มาเจอร้านนี้พอดี ถือโอกาสรีวิวซะเลย ร้านเล็กไปหน่อย แต่น่ารัก อร่อย ไม่แพงด้วย









เพ-ลา เพลิน ร้านกาแฟเล็กๆกลางใจเมือง ลพบุรี ตั้งอยู่ที่ ถ.ราชดำเนิน เล็กจนต้องดูดีๆไม่งั้นเลยร้านเหมือนเรา ปกติไม่ถนัดรีวิวร้านพวกนี้เท่าไหร่ แต่เผื่อใครไปลพบุรี แล้วอยากหาร้านนั่งใกล้ๆแหล่งท่องเที่ยว และไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ร้านเล็ก มีไม่กี่โต๊ะ คนเข้าเรื่อยๆ ร้อนมากจนอยากหาของหวานทาน หาข้อมูลร้านนั่งชิลล์ หลายคนแนะนำนะ ส่วนตัวแล้วชอบด้วย















ร้านเล็กๆน่ารักดี ไม่วุ่นวาย เต็มก็รอกันไป เย็นๆคนจะเริ่มมาเยอะ ขนมกับน้ำก็อร่อยใช้ได้เลย แต่ที่ช็อคกว่านั้นคือถูกมาก เรียกว่ามากกว่ากรุงเทพเท่านึงมั้ง เห้ย! ขายราคานี้เลยเหรอ วัตถุดิบดีอยู่นะ อร่อยกินเกลี้ยงเลย ของเราสั่งฮันนี่โทสต์เม็ดมะม่วง 109 บาท กับน้ำแดงโซดามะนาว 35 บาท รวม 144 บาท โห....ปกติโทสต์จานนึง 144 บาทที่ กทม.ยังหายากเลย







พิกัด ถ.ราชดำเนิน ไม่มีใครรู้จักหรอก เอาเป็นว่าอยู่ตรงข้ามสำนักงานสหกรณ์ลพบุรี หันหน้าเข้าหาทางเข้าพระปรางค์สามยอด เดินมาทางซ้ายเลาะมาเรื่อยๆ 200 ม. เห็นสหกรณ์แล้วข้ามมาอีกฝั่งเลย เป็นตึกแถวติดๆกันหมด มาอีกทีต้องลองเปลี่ยนเมนูบ้างละ ตอนแรกขากลับจะเข้าไปกินอีกรอบ แต่เดินกินอย่างอื่นไปแล้ว อิ่มตัวแตกมาก ลพบุรีของกินถูกมาก และแถวสถานีรถไฟยิ่งตอนเย็น ของกินเยอะมากกกกกก
ทุ่งทานตะวันก็เป็นอีกเป้าหมายที่จะมานะ แต่ไม่ค่อยหวังเท่าไหร่ สอบถามจากคนพื้นที่ได้ข่าวว่าโรยหมดแล้ว ไม่ค่อยมีแล้ว มีเยอะๆก็เดือนธันวาที่ผ่านมา รถติดมากๆด้วยตอนนั้น แล้วทานตะวันมันต้องดูก่อน 11 โมงเช้าไง เรานั่งรถไฟมาเที่ยงกว่าแล้ว กว่าจะถึงอ่ะเนาะ ถ้ามารถตู้คงมาแต่เช้าเลย ถ้าตั้งใจมาดูทุ่งทานตะวันอ่ะนะ พรุ่งนี้เช้าค่อยแว๊บไปดูละกัน ตอนนี้มีแรงละ ไปเล่นลิงก่อนที่พระปรางค์สามยอด เยอะสุดก็ที่นี่แหละ นักท่องเที่ยวชอบมาดูลิงกัน




พี่แกถือถึงเลย์ถุงใหญ่มาอ่ะ นั่งไม่ถึง 2 นาที ลิงคว้าถุงขนมวิ่งหนีเลย ลิงใจร้ายมาก จากสัตว์ใสๆน่ารักนี่ไม่ใสแล้วนะ พอจะรู้กิตติศัพท์ลิงที่นี่มาบ้างแต่ก็ยังไม่เคยเจอ




ช่วงเย็นๆมาพระอาทิตย์ตกจะเริ่มย้อนแสงนะ แต่ทำไมเราชอบ







จุดนี้สัมผัสได้ถึงความน่ารักและใสซื่อบริสุทธิ์จนไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดได้เลยค่ะ จะเล่นอะไรเช็คหน้าเจ้ด้วย #มองบน #มองแรงและแรงมาก หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาทีก็ถูกขโมยยางรัดผม แต่ก็ไปไล่ตามจนเอาคืนมาได้ ขี้ใส่หัวกูเลยก็ได้นะ ดูทรงก็ไม่มีอะไรจะเสียละ ขึ้นมาขนาดนี้ล่ะก็ เอาที่สบายใจเลยจ้า 55555 #ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่



เดินออกมาถ่ายรูปเล่นกับกราฟฟิตี้แถวกำแพงที่อยู่ติดพระปรางค์สามยอด สวยดีนะ แต่ช็อคกับลิงนี่แหละ เยอะมาก





นั่งดูรถไฟผ่านไปมา เพลินดี


อย่าลืมมาไหว้ศาลพระกาฬ ด้วยนะ


ตอนเย็นของกินเยอะมาก มีหมื่นหมดหมื่นได้เลยทีเดียว ถูกด้วย




แค่เล่นกับลิงก็ฟินแล้วอ่ะ โดนกัดด้วย แหะๆ คนลพบุรีน่ารัก อับดุล ถามได้ ตอบได้หมด พูดจาคล่องแคล่ว คุยเก่ง เพราะนักท่องเที่ยวเยอะ

เดินเที่ยว เย็นพระอาทิตย์ตกก็เข้าบ้านพักผ่อน แทบไม่ดูนาฬิกาเลย เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ไม่รีบ กลับไปนอนเก็บแรง เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปดูทุ่งทานตะวันต่อ

วันรุ่งขึ้นตื่นมาเพราะเสียงกุกกะอยู่แถวหน้าต่าง คิดอยู่ตั้งนานว่าเสียงอะไร อ๋อ...เรามาลพบุรีนี่นา ลิงเต็มเมืองไปหมด แล้วที่พักก็เป็นแบบตึกแถว มันได้ยินอยู่แล้ว นี่เป็นนาฬิกาปลุกได้อย่างดีเลย แต่งตัวเสร็จ เก็บของออกมาเช็คเอ้าท์แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่ รร.ได้ กลัวกลับมาไม่ทันเช็คเอ้าท์ตอนเที่ยง ออกมาเรียกสองแถว(จากคำแนะนำคนแถวนี้) สีเขียวสะท้อนแสง สายลพบุรี-หนองถ้ำ รอฝั่งพระปรางค์สามยอดนะ ให้หันหลังให้ประตูทางเข้าพระปรางค์ แล้วไปกันเลยเขาจีนแล แต่รอนานไปหน่อย นั่งเข้าเมืองก่อนก็ได้ 7 บาท ลง บขส. แล้วต่อรถบัสเล็ก ลพบุรี-วังม่วง 15 บาทได้เลยจ้า บอกคนขับว่าลงเขาจีนแล ถึงปุ๊บเดินเข้าไปอีกนิด เดินเยอะหน่อย แต่ไม่เมื่อย

ใครไม่รู้จะลงตรงไหน บอกคนหรือกระเป๋ารถเมล์ได้ เค้าจะบอกให้เราลงตรงไหน หรือสังเกตซ้ายมือปากทางเข้าด้านซ้ายมือจะมีร้านกระเพรากาแฟอยู่



ขวามือสังเกตป้ายนี้ เจอแล้วลงเลย

เหมือนจะไม่ไกลนะ แต่ไกล 55555 แต่เดินได้สบายมาก ที่สำคัญมันโรยแล้วจ้า ช็อคมั้ยล่ะ





ตอนแรกเค้าบอกแล้วไม่เชื่อว่ามันโรยหมดแล้วนะลูก แต่เราเชื่อป้ายไงว่าหมด 25 มค.60 ไปถึงโรยจริงอะไรจริง55555 #ในเลขห้ามีน้ำตาซ่อนอยู่ ต้องค้นมุมดีๆ ก็พอมีอยู่บ้าง แต่บอกตรงนี้เลย ไม่ต้องไปละน้า ไม่สวยแล้ว รอปลายปีเลย ถ้าไม่เชื่อ ก็มีรูปเวอชั่นโรยให้ดูด้วยนี่แหละ

เกือบผิดหวังกับเขาจีนแล เพราะด้านหน้าที่เดินผ่านมาก่อนเข้าไปเราเห็นอยู่ไร่นึงที่พอจะมี กำลังเริ่มออกดอก นึกว่าจะแห้วซะแล้ว โชคยังช่วยบ้าง























เดินออกมาปากทาง เวลายังเหลือเยอะ เห็นแมวเลยแวะกินก๋วยเตี๋ยว เกี่ยวกันมั้ย? ขอลงรูปแมวเยอะหน่อย เจ้าของกระทู้เป็นทาสแมว แหะๆ

เป็นแค่แมวจำเป็นต้องมองแรงขนาดนี้มั้ย??




ถ่ายรูปพอใจแล้ว ออกมารอรถบัสอีกฝั่งถนนเพื่อเข้าเมือง อ้าวรถบัสไม่มา มีสองแถวสีเขียวสะท้อนแสง ลพบุรี-หนองถ้ำ เข้าเมือง 20 บาทนะ มาได้เหมือนกัน ส่งถึงในเมือง ลงไหนก็ลง

เวลาเหลือ ก่อนขึ้นรถไฟฟรีกลับ กทม. เดินเล่นถ่ายรูปโบราณสถานก่อนได้ กว้างมาก ถ่ายไม่ครบ ยิ่งเย็นยิ่งคนเยอะ ลมตี อากาศดีมากกกกกกก รถไฟฟรี มีตั้ง 2 รอบแน่ะ ดีใจจุง รอบ 17.31 ขบวน 210 กับ 18.06 ขบวน 102 รถไฟไป 3 ชม. กลับ 3 ชม. เผื่อเวลาไว้เนาะ ตีไป 4 เลยก็ได้ คิวรถตู้มี อยู่แถวสถานีรถไฟเลย ไม่รู้ว่าค่ารถเท่าไหร่ วิ่ง 2 ชม.ก็ถึงมั้ง กลัวรถตู้อ่ะ แหะๆ

ก็ไม่คิดว่าจะมีของเก่าที่สวยขนาดนี้ แล้วปกติชอบไปอยุธยาไง แต่ที่นี่ศิลปะคนละฟีลกัน นี่เมืองละโว้ เห้ยชอบมาก แวะถ่ายรูปชิคๆกันก่อนกลับรถไฟฟรีตอนเย็น




โอ้ย...พิพิธภัณฑ์ปิดพอดี วันนี้วันจันทร์ ลืมไป แต่ถ่ายรูปมุมอื่นได้






เสียดายอ่ะ มีเวลาน้อย ไม่คิดว่าจะมีมุมถ่ายรูปสวยๆเต็มไปหมด เดินไม่ทั่วเลย เดี๋ยววันหลังกลับมาใหม่ นั่งอยู่ได้ทั้งวันเลยกับวัดเก่าๆ อิฐๆเนี่ย ชอบบบบบบบบบ มีมุม มีอิฐตั้งกล้องถ่ายรูปเองได้เยอะดีนะ สงบเงียบด้วย













เห็นแมวไม่ได้เลย











เสียดายอ่ะ เสียดาย อยู่ได้แป๊บเดียว แถมในวัดตอนเย็นอากาศดีมาก มีเด็กๆมานั่งเล่นรับลมกัน ก็มีเด็กชอบปีนตามโบราณสถานบ้าง โดนผู้ใหญ่ที่นี่ดุกันไปหลายคน อันนี้เตือนเลย อย่าทำนะคะเด็กๆ

ค่าห้อง 250 หักลบเป็นค่ารถตู้ละกัน เพราะครั้งนี้เดินทางไปกลับฟรีอยู่แล้ว มาแบบไม่รีบ ใครจะมาแบบ one day trip ดูทานตะวันก็ได้นะ แต่คงต้องนั่งรถตู้แต่เช้า ให้ถึงก่อน 11 โมง (แต่เหมือนมีรถไฟรอบเช้าสุดตีสี่ตีห้าด้วย เช็ค 1690 อีกทีนะจ๊ะ) ไม่งั้นมาถึงเที่ยงเหมือนรถไฟ ไม่ทันดู เพราะทานตะวันจะคอตกแล้ว ขากลับ ก็มีรถตู้ถึง 2 ทุ่ม หรือรถไฟฟรีมาก็ได้ ของกินตามทางรถไฟเยอะมาก อร่อยมาก ถูกมาก เด็กวัยรุ่นเยอะมว๊ากกกกกกก ตกใจกับค่าใช้จ่าย นี่ขนาดไปนั่งคาเฟ่ ปกติกินแต่อาหารข้างทาง ค่าเดินทาง : รถไฟฟรี ไป-กลับ ค่าห้องพัก : 250 บาท ค่าฮันนี่โทสต์เม็ดมะม่วง : 109 บาท + น้ำแดงมะนาวโซดา 35 บาท รวม 144 บาท รวม 394 บาท รวมค่าข้าว 3 มื้อของกินจุกจิกตลอดทาง ตีไป 300 ละกัน กินอิ่มโคตรๆ หรือน้อยกว่านั้นอ่ะ 694 บาท กรี๊ด ถูกค่ะ ว่างๆจะกลับมาเล่นกับลิงอีก ถ่ายรูปวัดเพิ่มด้วย สวยมากกกกกกก ถ่ายมาน้อยไปหน่อย เมืองนี้น่ารักทั้งคนทั้งสถานที่ เดินทางไม่ไกล ค่าใช้จ่ายไม่แพง เป็นอีกที่ที่น่ารักและอยากแนะนำค่ะ

กลับรถไฟฟรีเหมือนเดิมตอนเย็น ทิ้งท้ายภาพน้องหมาที่สถานีรถไฟ ที่กำลังรอไก่ปิ้งจากในมือใจจดใจจ่อ



เจอกันใหม่รีวิวหน้านะคะ ใครชอบเที่ยวคนเดียว เข้าไปคุยกับเราในเพจ "จะเที่ยวคนเดียว" ได้นะคะ ดูรูปเพิ่มเติม แลกเปลี่ยนเรื่องเที่ยวกันได้