นครพนม...สุขนิยมร่วมสมัย

 วันที่ 1

          ทริปนี้โบว์เดินทางมาจังหวัดนครพนมค่ะ โบว์นั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มาลงที่นครพนม แล้วเช่ารถขับเที่ยวในจังหวัด เดินทางไปไหนต่อไหนง่ายมากเลยค่ะ

          ยามเช้าของทุกจังหวัดมีเสน่ห์เสมอ โบว์ชอบตื่นแต่เช้าไปดูตลาด ดูเมืองแล้วก็ซื้อของไปใส่บาตร นครพนมก็เหมือนกัน โบว์ตื่นตั้งแต่ตีห้า แวะไปซื้อของที่ตลาดแล้วก็ขับรถไปใส่บาตรที่หน้าวัด           พระธาตุ ริมแม่น้ำโขง ไปถึงแล้วก็เห็นภาพที่ชื่นใจค่ะ เพราะได้เห็นภาพบรรยากาศยามเช้าที่พระอาทิตย์ขึ้นริมแม่น้ำโขง สายลมเย็นพัดสัมผัสตัวเราหนาวดีทีเดียว ที่หน้าวัดมีชาวบ้านและคณะทัวร์ทำบุญมายืนรอใส่บาตรข้าวเหนียวกันเยอะเลย ประมาณหกโมงเช้าพระสงฆ์จะเดินมารับบาตรกันเป็นแถว ใส่บาตรเสร็จแล้วก็กรวดน้ำริมโขงเลยค่ะ           เสร็จแล้วขับรถกลับมาในเมือง กินอาหารเช้าที่ร้านพรเทพ ตั้งใจมากินอาหารเวียดนามที่ร้านนี้เพราะเป็นร้านยอดนิยมของชาวจังหวัดนครพนมอร่อยมากค่ะ เปิดมานานหลายสิบปี เช้าๆ อย่างนี้ โบว์เลยจัดข้าวจี่ ไข่กระทะ แล้วตบท้ายเมนูยามเช้าด้วยต้มเส้น ครบสูตร พุงกางเลยค่ะ

          ไปลุยกันต่อเลยยยย  จุดหมายต่อไปของโบว์คือ ขับรถออกจากตัวเมืองนครพนมไปกราบนมัสการพระธาตุพนมฯ ที่วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 60 กิโลเมตร ขับไปเพลินๆ ดูทิวทัศน์ทุ่งนา บ้านเรือน วิถีชีวิตตลอดสองฝั่งถนนไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้วค่ะ

          พระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีวอก และเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันอาทิตย์ด้วย มาถึงก็แวะทำบุญใส่ตู้พร้อมรับดอกไม้ ธูป เทียน ไปกราบนมัสการพระธาตุหลังจากกราบสัการะพระธาตุฯ เสร็จ เดินดูบริเวณรอบๆ ที่นี่จัดผังบริเวณอย่างดีร่มรื่นน่าประทับใจ องค์พระธาตุสูงสง่าตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงินสดใส สวยงามประทับใจมากค่ะ 

          ขับรถกลับมาถึงตัวเมืองก็เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ แดดร่มลมตก อากาศไม่ร้อนเหมาะกับการปั่นจักรยานเที่ยวริมโขงอย่างยิ่งค่ะ โบว์เช่าจักรยานปั่นมาตามถนนสุนทรวิจิตร ลัดเลาะไปตามเส้นทางจักรยานที่สร้างเลียบไปตามริมแม่น้ำโขง เส้นทางจักรยานมาตรฐาน เรียบ สวยงาม ปั่นสบาย โบว์ว่าที่นี่นอกจะเป็นเส้นทางปั่นเพื่อสุขภาพแล้ว ยังอบอวลไปด้วยกลิ่นไอของความโรแมนติกของบรรยากาศริมโขงอีกด้วยค่ะ           ตลอดเส้นทางจักรยานโบว์ขี่ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งทีเดียว เช่น หมู่อาคารบ้านเรือนตลาดเก่า หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ โบสถ์นักบุญอันนา และจวนผู้ว่าราชการนครพนมหลังเก่า ที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ บอกเล่าอดีตของเมืองนครพนมที่ทำให้เราได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองได้เป็นอย่างดี          จวนผู้ว่าราชการแห่งนี้เป็นบ้านพักผู้ว่าราชการคนแรกของจังหวัดนครพนมค่ะ มีนามว่า นายอุ้ย นาครทรรพ อาคารออกแบบเป็นสไตล์โคโลเนียล มีลักษณะเฉพาะคือ เป็นอาคารที่ไม่มีเสาค้ำยันโครงสร้างตึก แต่จะออกแบบผนังให้หนาเป็นพิเศษเพื่อรองรับน้ำหนักของอาคาร

          ชมจวนผู้ว่าฯ กันแล้ว ปั่นต่อมาที่ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม  ตึกนี้สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 อาคารสวยงามมาก มีคนมาถ่ายรูปเวดดิ้งกันเพียบเลย โบว์ก็ถ่ายรูปมาเยอะเหมือนกันค่า...เหมือนเมืองนอกเลย

          เอาสาระนิดนึง ห้องสมุดแห่งนี้เป็นแหล่งเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของจังหวัดนครพนมไว้ เช่น ประวัติความเป็นมาของจังหวัดนครพนม ประเพณี คัมภีร์ใบลานโบราณ เป็นต้น

          เวลาประมาณห้าโมงเย็น โบว์มาที่ท่าเรือบริเวณป้ายสุดเขตแดนสยาม เพื่อลงเรือล่องชมทัศนียภาพกลางลำน้ำโขง ตรงนี้คึกคักมากค่ะ เพราะเป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์ของพี่น้องชาวนครพนมทุกวัย ทั้งครอบครัว พากันมาเดินเล่นออกกำลังกายและหาของอร่อยๆ กินกัน สวนสาธารณะให้ผู้คนมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ชมทิวทัศน์ริมโขง ซื้ออาหารทั้งของหวานของคาว ส่วนเสบียงของโบว์ที่จะไปกินในเรือคือ ตำปูปลาร้า อู๊ย แซบอีหลีค่ะ

          เรือล่องแม่น้ำโขงเริ่มจากลัดเลาะริมฝั่งนครพนม เราได้รับรู้เรื่องราวจากไกด์ท้องถิ่นที่บรรยายอย่างสนุกสนาน พี่เค้าก็จะแซวชาวบ้านที่มาออกกำลังกาย ตกปลา นั่งจีบกันไปตลอดทาง ท่าทางแกคงจะรู้จักคนทั้งเมือง เห็นทักทายไปทั่ว ฮาดีค่ะ เรือล่องไปเรื่อยๆ ลัดเลาะฝั่งไทยเสร็จ ก็ข้ามไปลัดเลาะริมฝั่งลาวต่อ อยากบอกว่าบรรยากาศดีมาก ลมเย็น โบว์ชอบตอนเรือล่องอยู่กลางแม่น้ำโขงมากค่ะ เพราะจะได้สัมผัสสายลมเย็น อากาศบริสุทธิ์สดชื่น พร้อมเห็นภาพของพระอาทิตย์กำลังตกกลางแม่น้ำโขง สวยงาม ประทับใจสุดๆ จริงๆ

          เรือมีบริการล่องแม่น้ำโขง ทุกวัน วันละ 1 รอบเท่านั้น คือ ช่วง 17.00 น. แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ก็เช่าแบบเหมาลำได้ ราคาลำละ 1,000 บาท  

          ขึ้นจากเรือ เดินมาอีกไม่ไกล กิจกรรมสุดท้ายของวันนี้ ก่อนกลับไปโรงแรม คือการไปเดินเที่ยวที่ถนนคนเดินสุนทรวิจิตรค่ะ มีของขายตั้งแต่ท่าเทียบเรือการท่องเที่ยว ยาวไปจนถึงโรงแรมเก่า ยาวประมาณสักหนึ่งกิโลเมตรได้ค่ะ เดินดูทั้งของ ทั้งคนซื้อคนขาย แวะกินนั่นกินนี่ อิ่มท้องแถมสนุกดี  อ้อ ถนนคนเดิน จ.นครพนม เปิดเฉพาะวันศุกร์และวันเสาร์ เวลา 18.00 – 21.00 น.ค่ะ

วันที่ 2

         ​วันนี้โบว์ได้ลองขึ้นสกายแล็ปทัวร์ไปตามจุดต่างๆ ในเมือง คุณลุงคนขับรถก็ขับไปเล่าเรื่องโน้นนี้ให้ฟังไป ขำๆ จะว่ากันเป็นเที่ยวเหมือนแท๊กซี่ หรือจะเหมาเที่ยวไปตามจุดต่างๆ ทั้งวันก็ได้ ราคาเป็นกันเองสุดๆ แวะถ่ายรูป คุยกับชาวบ้าน  กินก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ แวะกินกาแฟกับเค้กแสนอร่อย ที่เมืองนี้ก็มีร้านนั่งกาแฟ ร้านอาหารชิลๆ แนวๆ หลายร้านให้เลือกนั่งนะคะ  

         การได้มาเที่ยวจังหวัดนครพนมสองวันที่ผ่านมาโบว์ว่า นครพนมเป็นเมืองเล็กๆ ที่น่ารักและมีอีกหลายๆ แง่มุมให้เรามาค้นหา มีไลฟ์สไตล์ พูดง่ายๆ ก็คือเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก เพราะตลอดการเดินทางโบว์เข้าไปทักทายชาวบ้าน เขายิ้มแย้มแจ่มใสน่ารักมาก อาหารก็อร่อย และโบว์เชื่อว่าถ้ามีการเปิด AEC นครพนมจะยิ่งครึกครื้นมากกว่านี้อีกเยอะค่ะ

          และที่สำคัญใครที่ชอบขี่จักรยานไม่อยากให้พลาดเลย เส้นทางจักรยานริมโขงเป็นเส้นทางที่โรแมนติกมากๆ ว่างๆ ลองมาเที่ยวนครพนมดูนะคะ แล้วคุณจะหลงรักนครพนมแบบโบว์ค่ะ

ชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค ตอน นครพนม สุขนิยมร่วมสมัย จ.นครพนม

ได้ที่นี่ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=7PIKugbwJCY

 

ติดตามชมรายการเที่ยวไทยไม่ตกยุค 

ทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 – 09.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส