เมืองเล็กๆ แต่แฝงด้วยเสน่ห์

จากภาคแรก หลงรักเมืองสัตหีบ

http://www.thetrippacker.com/th/review//th/review/อำเภอสัตหีบSattahipDistrict/9414 

เหมือนนักท่องเที่ยวหลงทางมาเจอเมืองที่มีเสน่ห์ชวนหลงใหล "สัตหีบ" เป็นเมืองเล็กๆ ในจังหวัดชลบุรี แต่มีเรื่องราวมากมายให้น่าค้นหา จากภาคแรกที่ได้ตะลุยกับเพื่อนคู่หูกับการท่องเที่ยวอย่างไม่มีการวางแผน รู้สึกประทับใจที่พัก #Sattahiptale (สัตตะฮิปเทล) ที่มีสไตล์เฉพาะตัวกับหนุ่มไฟแรงผู้ก่อร่างสร้างตามความฝันของตนเอง

ได้รู้ความเป็นมาเป็นไปในการตามหาความฝันของชายหนุ่ม 3 คนและความคิดในการทำธุรกิจ จากบันได 6 ขั้น ที่เป็นจุดเริ่มต้น (ยังไง???? ใครอยากรู้ต้องเข้าไปหาคำตอบ www.facebook.com/sattahiptale) สู่บันไดก้าวต่อไปของลูกค้าใจกล้าที่ขึ้นไปชื่นชมกับวิวพาโนรามาของอ่าวสัตหีบที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี้ และ Rooftop Bar บาร์เล็กๆ บนดาดฟ้า

ความรู้สึกประทับใจกับการดูแลลูกค้าเสมือนญาติพี่น้อง ใส่ใจรายละเอียดและความต้องการของลูกค้าโดยไม่ยัดเยียด หากใครอยากสัมผัสโทรไปจอง ลองสักครั้งแล้วคุณจะติดใจ สำรองห้องพัก 09-0994-5496

ประทับใจที่ 2 คือการได้เจอและรู้จักมวลมิตรคนชอบเที่ยว แม้จะเป็นนักท่องเที่ยวมือสมัครเล่น แต่ใจมุ่งมั่นที่จะพาทั้งสองเท้าก้าวไปย้ำสถานที่ต่างๆ สัมผัสวิถีและชื่นชมธรรมชาติ พร้อมปลดปล่อยความเหนื่อยล้าจากการเผชิญชีวิตในเมืองหลวง หลังจากกลับจาก เกาะหมู สาวๆ ตระเวนหาของกินจนมาสิ้นสุดกับโต้รุ่งหลังเกสต์เฮาส์ที่พัก ณ ที่นี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ในขั้นต่อไป

เช้าวันที่ 3 หลังจากได้เพิ่มพลังใจเพื่อที่จะไปต่อและต้องกลับสู่วิถีเดิมๆ ของคนเมือง ก็ต้องเพิ่มพลังกายก่อนออกเดินทางเพราะโปรแกรมการท่องเที่ยวยังไม่สิ้นสุด น้องแจ๊คแนะนำว่ามีตลาดเช้าซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักสามารถเดินเลาะซอยไปได้ตามถนนเลียบชายทะเล ในตลาดมีร้านขายอาหารหลายร้านแต่ขอแนะนำร้านขายต้มเลือดหมูที่อยู่ภายในเต้นท์มุมตลาด ได้ลองลิ้มชิมรสแล้วอาหร่อยสมคำแนะนำและราคาไม่แพง (ถูกใจตรงนี้ 555) 

หลังจากอิ่มหน่ำกะอาหารมื้อเช้าเรียบร้อย ถึงเวลาต้องออกเดินทางต่อ จึงแวะไหว้พระที่วัดหลวงพ่ออี๋ซึ่งอยู่ใกล้เพียงเดิน 1 นาทีจากที่พัก ผู้คนยังบางตาเพราะยังเช้าอยู่มาก ขอบอกข้างๆ มีหมอดูสาวสวย(หรือเปล่า) คอยบริการผู้ที่อยากรู้ดวงชะตาชีวิต มีการันตีว่าพิสูจน์ได้ ถ้าไม่แม่นก็คือไม่แม่น 5555 ใกล้ๆ กับตลาดสัตหีบยังมี หาดเตยงาม อ่าวนาวิกโยธิน เป็นหาดที่สวยงามเพราะได้รับการดูแลจากทหารเรือ ได้ยินมาว่าอาจจะได้เห็นทหารออกมาฝึกด้วย แต่แหมมมมม+++ เสียดายจังมารอบนี้ไม่ได้เจอจังๆ แต่เอาไว้รอบหน้าปักหมุดไว้แล้ว ไม่พลาดแน่ 5555

ในการเดินทางมาหาดเตยงามจะอยู่ในหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ซึ่งไม่ไกลจากตลาดสัตหีบ ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวมาชื่นชมหาด แต่ต้องแลกบัตรที่บริเวณทางเข้าก่อนเพื่อความเรียบร้อย....

ถัดไปของหาดจะมีอนุสาวรีย์ทหารนาวิกโยธิน และพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน ภายในมีเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงสรรพาวุธต่างๆ ในแต่ละยุคแต่ละสมัย

เมื่อมาถึงถิ่นก็ไม่ลืมไปไหว้เสด็จเตี่ย จากบริเวณหาดต้องขับรถถัดเข้าไปและขึ้นเขาจะมีป้ายบอกทางไปศาลกรมหลวงชุมพรฯ ความลาดชันของเขาพอที่จะทำให้รู้สึกเสียวได้ แต่พอขึ้นไปวิวสวยมาก...ขอบอก เสียดายไม่ได้เก็บภาพมาฝากเพราะรีบที่จะไปสู่จุดหมายถัดไป ขับรถออกมาจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ขอแวะ Check In ที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลซึ่งเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 น. - 17.00 น. ฟรีค่ะงานนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม มีวิวสวยๆ และอะควาเรียมที่แสดงถึงการอนุบาลลูกเต่าทะเลและอาคารแสดงเต่าทะเล เสียดายงานนี้ขอเก็บบรรยากาศเฉพาะภายนอกไม่ได้เข้าไปในอะควาเรียม เพราะเวลาที่จะไปปักหมุดที่อื่นอาจไม่พอ หลังจากตะล่อนตามปักหมุดแหล่งท่องเที่ยวใกล้ตัวเมือง ต้มเลือดหมูเมื่อเช้าถูกย่อยจนหมดเพราะใช้พลังงานไปเยอะ ก็มาสะดุดตากะร้านอาหารญี่ปุ่น ท้องร้องนำหน้าทำให้ต้องเบรคแวะชิม บรรยากาศร้านตกแต่งผสมผสานไทย ญี่ปุ่นเล็กๆ ติดใจการบริการและการยิ้มแย้มของเจ้าของ แวะมาลองลิ้มกันได้ที่ร้าน SAKANA (ซากานะ) อยู่แถว กม.5 ตรงข้ามสนามกีฬาราชนาวีนะค่ะ พออิ่มท้องสองเท้ากะสี่ล้อก็เริ่มต้นอีกครั้ง การเดินทางสถานีถัดไปของเราคือเขาชีจรรย์ แต่อย่างที่บอกงานนี้ต้องพึ่งกูเกิ้ล เรื่องหลงเป็นเรื่องธรรมดาของนักเดินทางที่ไม่มีการวางแผน 555 แต่ครั้งนี้ดันพามาเจอทางแยก ลำบากเลยกะผู้หลงทิศทาง บวกกับไม่มีข้อมูลในหัว มองหน้ากันสิค่ะ ก่อนคิดว่าเอาไงดี เราไม่ได้จะไปวัดแต่เราจะไปดูพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ มันมีป้ายยังงี้ งงเลย 5555 การตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตการหลงทางเริ่มต้นอีกครั้ง เราเลือกเลี้ยวไปทางเขาชีจรรย์พระใหญ่ แต่ก็ไม่ผิดหวังกับเส้นทาง ดูร่มเย็นสวยมาก วิวระหว่างทางสวยงามจนต้องแวะเก็บภาพเป็นระยะๆ  และแล้วเราก็มาถึงจุดหมาย พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาโดดเด่นเป็นสง่า ซึ่งที่มาของการก่อสร้างนี้ก็น่าสนใจเพราะเป็นความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และยังคงเป็นผลงานที่ล้ำค่า หากใครไปยามตะวันตกดินจะเห็นอีกบรรยากาศที่สวยงามแปลกตา แต่วันนี้อากาศร้อนมากมาย ขอตัวไปสถานีถัดไปดีกว่า ห่างจากเขาชีจรรย์ไม่ถึง 500 เมตร ก็ถึงไร่องุ่นซิลเวอร์เลค (Silverlake) สามารถเข้ามาชมไร่และสวนดอกไม้ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม นอกจากชมไร่แล้วยังสามารถซื้อองุ่นสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่นและอื่นๆ อีกหลากหลาย ในไร่มีกิจกรรมต่างๆ เช่นนั่งรถชมสวนมีค่าบริการ ผู้ใหญ่ 70 บาท เด็ก 30 บาท  แต่สองสาวไม่ถนัดนั่งรถชมสวน เลยขอชื่นชมอีกฟากของถนน ซึ่งเป็นร้านอาหารของไร่องุ่น มีวิวสวยงามไม่แพ้กันเลยจัดไปหลายแขะเมื่อถ่ายรูปกันพอสมควร แต่ยังไม่หน่ำใจ สองสาวต้องรีบไปสถานีถัดไป เพราะแดดที่ร้อน บวกกับนักท่องเที่ยวทยอยมากันหนาตา รู้สึกเพลียทั้งแดดและคน ต้องไปหาที่เย็นๆ สงบจิตสงบใจสักหน่อย สถานีปักหมุดต่อไปของเราคือ วัดญาณสังวราราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก จากไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ต้องย้อนกลับมาทางเดิมผ่านเขาชีจรรย์และเลี้ยวขวาทางแยกซึ่งมีป้ายบอก ทางไปวิหารเซียน ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวจีนนิยมมาสักการะบูชา และไม่ห่างจากวัดญาณฯ ด้วย   คงเป็นเพราะเราสวนเส้นทางการท่องเที่ยวของคนอื่นจึงทำให้ไปถึงวัดญาณฯ ลานจอดรถว่างและผู้คนไม่หนาแน่น ทำให้มีเวลาได้ชื่นชมความสวยงามของเจดีย์พุทธคยาจำลองและคำสอนของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ได้อย่างอิ่มใจ ตะวันใกล้ลับขอบฟ้า คงต้องเดินทางกลับเมืองกรุง แต่ยังประทับใจเมืองเล็กๆ แม้จะเพลียเพราะต้องตื่นเช้า ไปโน่นมานี่ เจอแดดเมาคน แต่ได้เจอมิตรภาพกับความน่ารักของผู้คนเมืองสัตหีบและผู้มาเยือน ยีงมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลายสถานีที่เราไปแวะไม่ทัน แล้วเราจะกลับมาอีกหลายครั้ง... สัญญา!!!