ลองจินตนาการถึงช่วงเวลายามเช้าอันหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นกาแฟ รสกาแฟอันคุ้นเคยที่ยังคงอบอวลอยู่ในปาก และสัมผัสอุ่นๆ จากถ้วยกาแฟในมือ คงทำให้ใครหลายๆ คนอยากยืดช่วงเวลานี้ออกไปให้นานขึ้นเท่าที่ใจนึก แต่สำหรับบางคน ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้อาจเกิดในช่วงบ่ายที่ต้องการเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้กลับมาอีกครั้ง และในขณะเดียวกันบางคนก็เลือกที่จะให้ช่วงเวลารื่นรมย์นี้เกิดขึ้นวันละหลายๆ ครั้ง คงเป็นเพราะเค้าได้ตกหลุมรักเครื่องดื่มสีเข้มชนิดนี้เข้าให้แล้ว

แล้วเรื่องของคนรักกาแฟก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ความรักความชอบเฉพาะตัวอีกต่อไป เมื่อคนรักกาแฟสองคนจับมือกันเปิดร้านกาแฟเล็กๆ สุดแนวในชื่อ “Gallery กาแฟดริป” ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งเดียวในกรุงเทพที่ว่ากันด้วยเรื่อง “กาแฟดริป” เต็มรูปแบบ ด้วยเสน่ห์ของการหยดน้ำร้อนลงบนเมล็ดกาแฟบด แล้วค่อยๆ ใจจดใจจ่อรอให้น้ำนำพากลิ่นและรสชาติของกาแฟไหลผ่านตัวกรองออกมาอย่างช้าๆ ทำให้ได้รสชาติกาแฟต่างจากการชงผ่านเครื่องอัดแรงดันน้ำแบบร้านกาแฟที่เราคุ้นเคย ดังนั้นใครที่ยังไม่เคยดื่มกาแฟดริปมาก่อน เราขอแนะนำให้ได้มาลองเปิดประสบการณ์ใหม่กับเครื่องดื่มยอดฮิตชนิดนี้ดู รับรองต้องประหลาดใจกับศาสตร์แห่งการชง และการดื่มกาแฟซึ่งน่าทึ่งมากๆ เพราะถึงแม้จะเป็นเมล็ดกาแฟชนิดเดียวกันแต่ด้วยวิธีการชงที่ต่างกัน ก็จะทำให้ได้รสชาติกาแฟแตกต่างกันไปด้วย ซึ่งสิ่งละอันพันละน้อยเกี่ยวกับกาแฟดริปนี้ทุกคนในร้าน Gallery กาแฟดริป ยินดีไขทุกข้อสงสัยให้คุณได้กระจ่างแจ้งอย่างแน่นอน

ก่อนอื่นเราต้องขอลองชิมกาแฟดริปกันดู เริ่มด้วย กาแฟดริปแบบร้อน ซึ่งเราได้รับคำแนะนำว่าถ้าจะให้ได้รสชาติที่แท้จริงเราควรจะดื่มแบบเดิมๆ ไม่ผ่านการปรุงแต่งใดๆ การดื่มกาแฟแบบนี้เราจะได้สัมผัสทั้งรสและกลิ่นที่แท้จริงของเมล็ดกาแฟแต่ละชนิด ที่สำคัญเสน่ห์ของร้าน Gallery กาแฟดริปนี้คือ การมาเยี่ยมเยือนแต่ละครั้งเราอาจจะได้ชิมรสกาแฟจากเมล็ดกาแฟใหม่ๆ ไม่ซ้ำแก้วเดิม เนื่องจากทางร้านจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนการสั่งเมล็ดกาแฟมาใหม่เรื่อยๆ ดังนั้นแต่ละครั้งเราอาจจะได้ชิมกาแฟรสชาติที่เปลี่ยนไป และได้เปิดประสบการณ์การชิมกาแฟเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนเรื่องรสชาติของกาแฟดริปร้อนนั้นเราคงต้องบอกให้ไปลองชิมกันด้วยตัวเองดู เพราะถ้าจะให้บรรยายผ่านตัวหนังสือก็ดูจะจำกัดจินตนาการจากรสสัมผัสมากไปหน่อย เพราะทั้งรสขม รสหวาน รสเปรี้ยว และกลิ่นต่างๆ ผสมกันมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ว่าสัมผัสของใครจะไวกว่ากัน แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่คอกาแฟดำทางร้านก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มอีกหลายแก้วให้เลือกดื่ม ทั้งกาแฟดริปนมร้อน/เย็น กาแฟนม ชานม ชาเขียวมัทฉะ

ส่วนที่ต้องแนะนำกันให้ได้ก็คือ “กาแฟวุ้น” น้ำกาแฟที่ถูกนำไปเปลี่ยนรูปจากของเหลวให้เป็นวุ้นนิ่มๆ ก่อนจะท๊อปด้วยฟองนมหวานหอม เสิร์ฟพร้อมไซรัปเพิ่มความหวานสำหรับผู้ที่รักชอบรสหวานเป็นพิเศษ เวลาดื่มก็สนุกสนานไม่น้อย เพราะเราจะเพลินไปกับการจิ้มหลอดไปมาให้เนื้อวุ้นกาแฟกับฟองนมผสมกัน ทั้งอร่อยทั้งสนุกในคราวเดียว ส่วนใครที่ไม่ดื่มกาแฟก็อยากให้ลองสั่ง “ชาเขียวมัทฉะ” มาแกล้มกับขนมเค้กโฮมเมดแสนอร่อย อย่าง “เค้กถั่วแระญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะมีขายที่นี่ที่เดียว ตัวเนื้อเค้กมีเนื้อถั่วแระบดหยาบๆ ผสมอยู่แต่รสสัมผัสก็ละมุนลิ้นไม่น้อย จึงต้องแอบมากระซิบบอกต่อว่าเบเกอรี่ที่นี่อร่อยไม่ซ้ำใคร

นอกจากการแวะเวียนมานั่งเล่นจิบกาแฟดริปอย่างใจเย็นแล้ว ทางร้านยังมีกิจกรรม “cupping” ชิมกาแฟอยู่เรื่อยๆ ถ้าอยากลองเปิดโลกกาแฟให้กว้างขึ้นก็แนะนำว่าลองมาร่วมกิจกรรมกันดู แถมยังได้รู้จักเพื่อนคอเดียวกันที่พิศมัยในรสกาแฟเหมือนกัน แล้วคุณคงอยากให้ช่วงเวลาแห่งการรื่นรมย์กับรสกาแฟยืดยาวออกไปแบบไม่มีที่สิ้นสุด

- เมล็ดกาแฟหลักที่ทางร้าน Gallery กาแฟดริปใช้คือ เมล็ดกาแฟพีเบอร์รี่ จากดอยช้าง

- เมนูกาแฟทั้งหมดของร้านใช้การชงแบบดริปทั้งหมด ซึ่งกาแฟแต่ละแก้วจะใช้เวลาในการชงอยู่ซักหน่อย

- การดริปกาแฟแต่ละครั้ง จะใช้เวลาในการรินน้ำร้อนให้กาแฟผ่านที่กรองประมาณ 3 นาทีครึ่ง – 4 นาที

- ทางร้านมีเมล็ดกาแฟ แก้วดริป และอุปกรณ์การดริปต่างๆ จำหน่ายแก่ผู้ที่สนใจด้วย

ที่อยู่ : ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพ 10330

GPS : 13.746227, 100.531111

เบอร์ติดต่อ : 08 1989 5244

Facebook : https://www.facebook.com/GalleryDripCoffee

อาหารแนะนำ :

- กาแฟดริปร้อน (85-115 บาท)

- กาแฟวุ้น (80 บาท)

- ชาเขียวไม่นม (55 บาท)

- เค้กถั่วแระ

จำนวนโต๊ะ : รองรับลูกค้าได้ 20-25 ที่นั่ง

เวลาทำการ : 10.00 – 21.00 น. หยุดวันจันทร์

วิธีชำระเงิน : เงินสด

ที่จอดรถ : ที่จอดรถอาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

ร้าน Gallery กาแฟดริป ตั้งอยู่บริเวณใกล้ประตูทางเข้าชั้น 1 ของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมวัน ตรงข้ามห้างมาบุญครอง และสยามดิสคัฟเวอรี่ สามารถเดินทางได้หลายวิธี

รถยนต์ส่วนตัว
เดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ
- เส้นทางถนนพญาไท (จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) ข้ามสะพานหัวช้าง ชิดขวาเข้าทางเข้า หอศิลปฯ (ก่อนข้ามสี่แยกปทุมวัน)
- เส้นทางถนนพระราม 1 (จากสนามกีฬาแห่งชาติ) เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพญาไท และเลี้ยวซ้าย เข้าทางเข้าหอศิลปฯ
มีทางเข้าทางด้านเดียว คือ ถนนพญาไท มีที่จอดรถให้บริการชั้นใต้ดิน

รถไฟฟ้า BTS
ลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติออกทางออกที่ 3 จะมีทางเดินเชื่อมต่อตัวอาคารกับสถานีรถไฟฟ้า